[2PM] ผมพบ แจบอม ที่การแข่งขันบีบอย (รูปเยอะมาก)
ไม่เป็นสมาชิก
โอ้ยยยยยยยยย ร้องไห้ ตั้งแต่เช้าเลย
*********
เรื่องเล่าจากบุรุษเกาหลีท่านหนึ่งที่ทัศนคติต่อเจบอมเปลี่ยนเมื่อได้ไปดู การแข่งบีบอยที่เจเต้นค่ะ ยาวมากกก ใครมาอ่านลองหาชากาแฟมานั่งจิบเพลินๆไปอ่านไปก็ได้นะคะ หรือหมอนผ้าห่มมานอนอ่านก็ได้ อาจต้องหาที่คั่นหนังสือมาคั่นอ่านด้วย แต่อ่านจบแล้วรับรองว่ารู้สึกดีๆกลับไปแน่นอนค่ะ
พบพักเจบอมที่การแข่งขันบีบอย
Credit: Kor-Eng : Lisa@2pm-online.com | Eng-Thai by Offogato@2pm-online.com | Coordinator : Cassina@2pm-online.com
(คนทางซ้ายสุด สวมหมวกไหมพรมสีดำ)
SOURCE: gall.dcinside.com
เรื่อง ที่ผมจะเขียนเล่านี้อาจจะไม่เหมาะกับที่นี่เมื่อมองดูบรรยากาศบอร์ดตอนนี้ แต่ก็อยากให้เข้าใจและลองอ่านดู ผมมาเขียนที่นี่เพราะไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกเพื่อโพสต์ข้อความผมเลยอยากมา เขียนเรื่องราวที่นี่ บางทีเรื่องที่ผมจะเล่าอาจจะเหมาะกว่าที่จะไปเขียนเชิงไดอารี่ส่วนตัวแต่ เพราะผมว่าเนื้อหามันมีคุณค่าเกินกว่าจะเก็บไว้ ผมจึงรวบรวมและอยากนำมาแบ่งปันให้ได้อ่านกัน
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ เคยสนใจวง 2PM เลย เอาจริงๆแล้วถึงขั้นเกลียดวงนี้ด้วยซ้ำ เพราะว่าผมไม่เคยชอบสไตล์ของ JYP มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยชอบเลยสักครั้ง ยิ่งกว่านั้นผมไม่สนใจคนที่แต่งตัวสไตล์พังค์ๆที่ออกมาเปลือยกายท่อนบนทุกๆ วัน ถ้าผมดาวโหลดรายการเพลงมาดูผมจะข้ามตอนที่ 2PM ออกมาแสดง เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มสไตล์พังค์ ผมชอบบ่นอยู่ตลอดด้วยว่าทำไมพวกนี้ต้องมาออกรายการทีวีต่างๆด้วยและมักจะ หงุดหงิดที่ต้องทนเห็นพวกเขาปรากฎตัวในรายการอยู่เสมอ
เพราะว่าผม อยู่อเมริกาจึงหาดูรายการต่างๆทางโทรทัศน์ไม่ได้ผมต้องดาวโหลดทางอินเตอร์ เนตแทน เลยยิ่งง่ายที่จะเลือกกดข้ามดูพวก 2PM ไปถ้าผมต้องการ แม้แต่เมื่อครั้งหนึ่งที่ผมกลับไปเกาหลีช่วงพักซัมเมอร์ ผมมีโอกาสดู 2PM ที่งานแห่งหนึ่งผมยังเลือกเดินออกมาพร้อมกับบ่นกับตัวเองว่า "เฮ้อทำไมต้องเป็นงานที่มี 2PM ด้วยเนี่ย"
พวกคุณอาจประหลาดใจทำไมผม ต้องออกอาการเกลียดเว่อร์อะไรขนาดนี้ คุณจะพอเข้าใจไหมถ้าผมจะบอกว่าผมเกลียดขนาดที่ไม่อยากไปอยู่ที่ไหนที่ๆมีพวก เขาอยู่ ผมเกลียดมากๆกับบรรยากาศโดยรอบที่ผู้คนไม่ได้มองพวกเขาในฐานะนักร้องกลับไป ดูพวกนี้โชว์การแสดงกึ่งเปลือยเพื่ออวดกล้ามหรือความดุดันอะไรๆต่างๆที่ เรียกกันแทน
แม้ว่าเพลงพวกเขาจะฮิตมากมายแค่ไหนผมก็ไม่เคยได้ยิน มัน ไม่เคยดู ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีและไม่รับรู้ด้วยว่าพวกเขาจะโด่งดังมากเพียงใด จนกระทั่งย่างเข้าเดือนกันยายน
จนถึงเดือนนั้น 2PM ก็เป็นแค่เพียงวงที่ผมเลือกจะมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา แต่พอเรื่องราวที่ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นกับวงนี้ผมกลับรู้สึกเสียใจขึ้นมา ด้วยคงเพราะว่าผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ยิ่งมาเห็นภาพของคนหนึ่งที่ต้องเดินทางจากไปเพียงลำพังอย่างนั้น ในฐานะมนุษย์ด้วยกันความรู้สึกเห็นอกเห็นใจหรือบางสิ่งในตัวเรามันก็เกิด ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเรื่องราวร้ายๆเกิดขึ้นกับใคร แม้ว่าผมจะไม่ได้เกี่ยวดองอะไรด้วยหรือแม้แต่ผมรู้สึกเกลียดคนๆนั้น ผมก็กลับมีอารมณ์ร่วมเสียใจไปด้วย ยิ่งคนที่อาศัยอยู่ในโลกที่ข่าวลือต่างๆแพร่ขยายไปอย่างไม่ระมัดระวังหวัง เพียงเพื่อจะสร้างกระแสถ้าเกิดข่าวนั้นลงล็อคขึ้นมา บางครั้งผมก็พลันคิดว่าสิ่งที่คนๆหนึ่งต้องแลกเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศนั้น บางทีมันก็อาจจะมากเกินไป
และบทเกริ่นนำของผมก็คงจบเพียงเท่านี้ ต้องขอโทษด้วยถ้าผมเกริ่นมาเยิ่นเย้อเกินไป ใครที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆก็กดข้ามบทความนี้ไปเลยก็ได้เพราะดูเหมือนว่าผมคง จะเขียนอะไรอีกยาวทีเดียว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อนมาชวนให้ผมไปดูการแข่งขันการเต้นบีบอยเป็นเพื่อน ผมเลยไป และที่นั่น...ผมได้พบกับพักเจบอม
พอได้เจอผมกลับรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นคนที่ตกเป็นข่าวดังในสื่อเกาหลีแทบจะทุกวันอย่างเขา
ที่ นี่ไม่ใช่ย่านที่ผมอยู่ด้วยซ้ำ และที่จริงผมก็ไม่ได้มีอารมณ์อยากมาดูการแข่งขันนี้เพราะผมไม่เคยสนใจ...ผม เลยแอบสงสัยว่านี่เป็นโชคของผมหรือเปล่าที่ได้มาเจอพักเจบอมบุคคลที่ตกเป็น ข่าวดังของใครๆตอนนี้
ความรู้สึกแรกเห็นของผมต่อเจบอมตอนที่เขา กำลังคุยกับเพื่อนเขา ผมจำได้ว่าเขามีผิวซีดกับใบหน้าที่ดูเย็นชาๆ เขาสูงสมส่วนมีแขนขาที่ดูยาวกว่าพวกนักว่ายน้ำและมีฝ่ามือน่าจะใหญ่กว่าใบ หน้าเสียอีก พอได้ไปเจอผมก็ไม่ได้พยายามไปมองเขาอีกเว้นแต่ว่าเขาเข้ามาอยู่ในระยะสายตา ผม บางทีคงเป็นเพราะผมตั้งใจที่จะไม่ไปจ้องมองเขาเพราะยังไงตอนนี้เขาอยู่ใน ฐานะของคนทั่วไปไม่ใช่ศิลปินนักร้อง เขากำลังดำเนินชีวิตอย่างเงียบสงบในเมืองของเขา คงดูเป็นเรื่องไม่ควรสำหรับตัวผมที่รู้จักเขาในฐานะนักร้องและมาคอยจ้องมอง เขา...ผมเลยไม่ไปมองเขาอีก
การแข่งขันเริ่มขึ้นหลังหกโมงเย็นและ เลิกประมาณเที่ยงคืนได้ เพราะว่าต้องอยู่ที่นั่นค่อนข้างนานเจบอมเลยเข้ามาอยู่ในระยะสายตาผมอยู่ บ่อยครั้งแม้ว่าผมจะพยายามเลี่ยงเขาแล้วก็เถอะ ผมก็ไม่ได้อยากจะไปตัดสินอะไรในตัวเขาจากเพียงแค่การมอง (ยิ่งคนที่ไม่รู้จักเป็นอย่างดี) เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้ แต่อย่างนั้นเขาดูเป็นคนที่เงียบๆและดูสุขุมมาก
เท่าที่ผมจำได้ คร่าวๆ การแข่งขันบีบอยนี้เริ่มด้วยรอบ 16 ทีมสุดท้าย (ร่วมแข่งกัน 32 ทีม) ดังนั้นถ้าทีมไหนยังไม่ถึงคิวแข่ง บรรดาผู้เข้าแข่งขันก็จะหาที่ว่างและฝึกซ้อมแต่ละคนแต่ละทีมกันไป และเจบอมก็ไม่ได้แตกต่างจากผู้เข้าแข่งคนอื่นๆเขาก็ซ้อมท่าเต้นบีบอยของเขา อยู่ที่มุมหนึ่งและเต้นด้วยสไตล์ที่เหมือนไม่ใช่บีบอยแบบคนอื่น พอถึงคิวทีมของเจบอม พวกเขาในทีมก็จะมายืนเรียงๆกันและเต้นแข่ง พอชนะก็กลับไปมุมของพวกเขาและก็ซ้อมอย่างเงียบๆต่อไป
การแข่งขันก็ ดำเนินไปประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดยังดูกระฉับกระเฉงแม้ว่าจะต้องอยู่ตรงนั้น กันเป็นระยะเวลานานจนแม้แต่คนดูยังดูจะเหนื่อยล้า แต่พวกนักเต้นบีบอยกลับยังเต็มไปด้วยไฟในการเต้นอย่างเหลือเชื่อ
อัน ที่จริงผมก็เห็นคนอื่นๆมากมายที่เหมือนกับเจบอมนะ ผมหมายถึงคนส่วนใหญ่ที่มาดูการแข่งขันหรือมาเข้าร่วมการแข่งขันนั้นส่วนใหญ่ เป็นชนกลุ่มน้อย มีคนเอเชียเยอะที่สุดรองลงมาก็เป็นคนเชื้อสายละติน แล้วก็อัฟริกัน-อเมริกัน บางคนก็มาจากตะวันออกกลาง มีฝรั่งผิวขาวไม่ถึง 10 คนจากทั้งหมด เด็กวัยรุ่นเชื้อสายเอเชียมากมายลงมาจากรถและมายืนรวมกัน แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะดูเด็กแต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำตัวหยิ่งหรือประพฤติตัวไม่ ดีอะไร พวกเขากลับวางตัวเหมือนผู้ใหญ่และดูเป็นคนโดดเดี่ยวกันมากๆ ที่จริงแล้วพวกเด็กวัยรุ่นต้องทำตัวโหวกเหวกหรือเล่นหัวอะไรกันเวลารวมกลุ่ม กันแบบนี้ แต่กลับไม่มีคนแบบนั้นอยู่ในที่นั่น พวกเขากลับยืนกันนิ่งๆซุกมือไว้ในกระเป๋าแล้วก็คุยกับเพื่อนๆกันอย่างสงบ เสงี่ยมกันมากกว่า
อ้อ ข้อมูลตัวผมเพิ่มเติมคือว่าผมเกิดที่เกาหลีและเลือกที่จะมาอยู่ที่อเมริกา ตอนโต ดังนั้นผมเลยคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึกไม่สะดวกสบายหรือความทุกข์ในการต้องมา อยู่ต่างแดนอยู่เสมอ อย่างเช่นผมคนที่ต้องทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนอย่างเกาหลีประเทศที่ทุกๆคนมีหน้า ตาเหมือนผมมา
แล้วผมก็มาคิดได้ว่าบางทีเด็กพวกนี้ไม่ได้มีโอกาสที่ จะเลือกนี่เพราะพวกเขาเกิดและโตที่อเมริกาต่างหาก พวกเขามีรูปลักษณ์ที่ต่างจากคนส่วนใหญ่ แน่ล่ะประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลายด้วยผู้คนหลาย เชื้อชาติอาศัยอยู่รวมกันได้โดยไม่มีข้อแตกแยกอะไรมากมาย บางทีอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผมเองที่เกิดและโตที่ประเทศเกาหลีที่จะเข้าใจ เด็กรุ่นที่สองที่เกิดจากพ่อแม่ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่อเมริกานี้ พวกเขาเกิดมาในประเทศที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้หน้าตาเหมือนพวกเขาเลย
การ ได้มาเห็นพวกเด็กๆวัยรุ่นที่มีสีหน้าอ้างว้างโดดเดี่ยวทั้งเด็กเชื้อสาย เอเชียหรือละตินผมกลับรู้สึกจุกแน่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว คงเพราะผมค้นพบถึงสาเหตุที่ทำไมเด็กๆพวกนี้ถึงมาใส่ใจการเต้นบีบอยและเผา ผลาญพลังความกระตือรือร้นวัยหนุ่มและมาลุ่มหลงในการเต้นบีบอย คงเพราะว่าพวกเขาถูกแยกตัวเองออกมาจากสังคมในฐานะ "คนรุ่นที่สอง" ที่เกิดจากผู้อพยพย้ายถิ่นและเพราะความอ้างว้างที่พวกเขาเป็นกัน ด้วยเหตุนี้ การถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการเต้นบีบอยที่การแข่งขันครั้งนี้นั้น ผมจึงสัมผัสได้ถึงความเศร้าเสียใจของคนที่ต้องอาศัยอยู่ในสังคมประหนึ่ง เหมือนเป็นคนนอก สังคมที่พวกเขาไม่มีวันได้เป็นคนส่วนใหญ่ พวกเขาเลยแสดงออกมาผ่านทางการเต้น และเพราะในการแข่งขันที่นี่ทุกคนปฏิบัติต่อคนอื่นๆกันอย่างเท่าเทียมไม่ คำนึงถึงเชื้อสายเผ่าพันธุ์ บรรดาเด็กผู้ชายที่ดูขี้อายและเงียบๆที่เห็นนอกอาคารกลับดูเป็นคนที่มีความ มั่นใจกว่าใครๆเมื่อถึงคราวที่พวกเขาประชันฝีมือด้วยการเต้นบีบอย
ส่วน ตัวแล้วผมรู้สึกอึดอัดตอนที่อ่านข่าวและความเห็นเกี่ยวกับการแข่งบีบอยที่ จัดขึ้นเพราะว่าความเห็นหลายๆอันเปรียบการแข่งขันนี้แค่การประลองความสามารถ เล็กๆและลดค่าความสำคัญของการแข่งขันด้วยการตัดสินเพียงแค่ว่าพวกเขาเต้นบี บอยออกมาดีหรือไม่ดีเท่านั้น เราจะคาดหวังอะไรจากพวกเขาได้ล่ะเพราะคนเหล่านี้ชอบคิดอยู่เสมอว่าตัวเอง เก่งที่สุดเป็นที่หนึ่งและมักจะไปเชยชมให้ความสำคัญกับการแข่งขันใหญ่ๆที่ จัดในสถานที่สวยหรู และมามองมองการแข่งขันที่จัดในสถานที่อัตคัดที่มีเด็กๆมากลิ้งไปมาบนพื้น ด้วยความสำคัญที่ด้อยค่าในสายตาของพวกเขาเท่านั้น
แต่จากมุมมองของ ผม การได้มาเห็นการแข่งบีบอยด้วยตาตัวเอง การแข่งขันนี้กลับดูสวยงามและมีค่ามากกว่าการแข่งขันใหญ่ๆในสถานที่ใหญ่โต เป็นไหนๆ เพราะว่าผมรับรู้ได้ว่าการตัดสินนั้นไม่ได้มองเพียงแค่ว่าใครมีเทคนิคการ เต้นบีบอยที่เก่งกว่ากันเท่านั้น แต่ได้สัมผัสถึงการแสดงออกของส่วนลึกในจิตใจของนักเต้นที่ถ่ายทอดความเศร้า ของการใช้ชีวิตในฐานะคนรุ่นสองของครอบครัวที่อพยพมา และไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มเท่านั้นที่มาแข่งเต้น มีชายสูงอายุชาวเวียดนามที่ดูน่าจะอายุราวๆ 40 และมีชายเชื้อสายละตินวัยประมาณสามสิบกว่าๆอีกด้วย ครอบครัวของเขาและลูกของเขาก็มาร่วมเชียร์ งานนี้ไม่มีพิธีกรเป็นจริงเป็นจัง มีคนประมาณ 100 - 150 คนที่เต้นไปตามเพลงที่ดีเจเปิด เต้นไปด้วยความสนุกสนานอย่างเต็มที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ใดๆ จึงทำให้ที่นี่ดูมีเสน่ห์น่าสนใจกว่าโชว์ไหนๆที่ผมได้ไปร่วมดูมา
ที่ จริงพอการแข่งขันเริ่มเข้มข้นมากขึ้นทั้งฮอลล์นั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นเหงื่อ ของนักเต้นต่างๆ แต่กลิ่นเหล่านี้ก็ไม่ได้รบกวนผมเลย วิถีที่พวกเขาเต้นนั้นกลับทำให้ผมนึกไปถึงการเต้นพื้นเมืองของเกาหลีที่เป็น การขับไล่วิญญานชั่วร้ายที่เรียกว่าการเต้น Salpuri ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าการเต้นของพวกเขาเหล่านี้ไม่ควรถูกตัดสินเพียงแค่ เทคนิคว่าดีหรือไม่ดีเท่านั้น
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ต่อ
*********
ในตอนแรกของการแข่งขัน ทีมของเจบอมนั้นผมไม่ได้มองว่าเป็นทีมที่เก่งเลิศจนเป็นทีมที่ "ดีที่สุด" เพราะส่วนตัวแล้วผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเต้นบีบอยเลยและแค่รู้สึกตื่นตา เมื่อเห็นเทคนิคการเต้นชั้นสูงก็เท่านั้น ดังนั้นตอนแรกๆของการแข่งขันผมเลยเข้าไม่ถึงการเต้นของทีมเจบอมเท่าไหร่นัก แต่พอสักพักเมื่อได้ดูไปเรื่อยๆ ผมกลับรู้ว่าทีมเขานั้นได้วางแผนทุกอย่างมาอย่างถี่ถ้วนเพื่อกรุยทางไปสู่ รอบชิงชนะเลิศ ในรอบแรกๆอย่างรอบ 16 ทีมหรือ 8 ทีมพวกเขาแค่เต้นกันเพียงให้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเท่านั้น แต่พอเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศสมาชิกแต่ละคนกลับระเบิดทักษะเฉพาะตัวที่แสนจะ สุดยอดกันออกมา จึงเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินสำหรับผมมากที่ได้เห็นเทคนิคที่ค่อยๆเปลีย่นไป จากตอนต้นของการแข่งขันจนถึงรอบสุดท้ายนี้ของทีมนี้
พวกผู้เข้าแข่ง ขันบีบอยในทัวร์นาเมนต์นี้ก็มายืนรวมตัวกันเป็นกลุ่มและโชว์ความสามารถเพื่อ ประชันกันออกมาแม้แต่ในยามหยุดพักระหว่างการแข่งขันก็ตาม ผู้เข้าแข่งขันทุกๆคนดูสุดยอดเมื่อถึงคราวของตนได้โชว์ความสามารถและแข่งกัน โดยไม่คำนึงถึงผลของการตัดสิน ส่วนตัวแล้วผมประทับใจเด็กอัฟริกันอเมริกันอายุ 14-15 คนหนึ่งมากที่สุด เด็กคนนี้ผมเห็นไปพูดคุยกับเจบอมอยู่ตลอดระหว่างการแข่งขันและรู้สึกดีเมื่อ ได้เห็นพวกเขาส่งเสียงเชียร์กันและกันเมื่ออีกฝ่ายออกมาเต้นโชว์
จาก เมื่อก่อนที่ผมไม่เคยคิดสนใจคนชื่อพักเจบอม แต่พอได้มาเจอเขาที่การแข่งขันครั้งนั้นผมกลับคิดว่าเขาดูน่าสนใจผมเลยไปลอง ดูคลิปวีดีโอเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้
การที่ผมได้เห็นเขาใน รายการโทรทัศน์บางรายการ ผมรู้สึกขมขื่นปนเศร้าใจและสงสาร เพราะว่าพักเจบอมนั้นดูมีความสุขอย่างมากจริงๆตอนที่เขาอยู่ที่ประเทศเกาหลี ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมเกาหลีและไม่เข้าใจสิ่งต่างๆทั้งหมด เพราะเกิดและเติบโตที่อเมริกา แต่เขาก็เป็นคนเกาหลีคนหนึ่งเหมือนกัน ดูราวกับว่าเขามีความสุขอย่างสุขล้นที่ได้อยู่กับผู้คนที่ดูเหมือนเขาเป็น ครั้งแรก ได้รับการปฏิบัติอย่างเทียมเท่า ได้ทำอะไรอย่างเท่าเทียม และได้แสดงออกถึงความสามารถต่างๆที่เขามี เจบอมนั้นดูสดใสอย่างมากและดูมีความสุข ไม่เหมือนกับตอนที่เขาอยู่ที่อเมริกาที่ๆเขาอาจจะมีช่วงเวลาที่สับสนกับราก เหง้าและตัวตนของตนเองอยู่บ้าง
ตอนที่ผมดูการแข่งขันบีบอย ผมไม่เห็นเด็กคนไหนสักคนที่ออกไปสูบบุหรี่ระหว่างช่วงพัก ซึ่งทำให้ผมประหลาดใจ เพราะดูจากภายนอกพวกเขาดูเป็นเด็กที่ดูไม่เชื่อฟังและดูทำหน้าไม่พอใจตลอด เวลา แต่จริงๆแล้วพวกเขาไม่ใช่คนประเภทนั้นเลย ยิ่งกว่านั้นพวกเขาอยู่ในวัยหนุ่มที่น่าจะมีแฟนกันทุกคนแต่กลับไม่เห็นเด็ก สาวมาดูหรือมาเชียร์พวกเขาที่การแข่งขันนี้ มีแค่สาวเอเชียสองสามคนและนักเต้นบีบอยผู้หญิงเชื่อสายละตินที่เข้าไปถึงรอบ สี่ทีมสุดท้าย และครอบครัวคนเข้าแข่งขันสองสามครอบครัวเท่านั้นเอง
เด็ก หนุ่มเหล่านี้เต้นบีบอยด้วยพลังความหลงใหลในการเต้นอย่างเปี่ยมล้นในสถานที่ เต็มไปด้วยผู้ชายที่มีวัยตั้งแต่เด็กจนผู้ใหญ่ ผมไม่เห็นการเต้น "โชว์ความสามารถ" อันไหนสักอันในที่นี้ที่เหมือนเป็นการเต้นเพื่อชนะใจดาราผู้หญิงที่เรามักจะ เห็นกันทั่วไปตามรายการทีวีเกาหลี พวกนักเต้นผู้ชายเหล่านี้ดูสุดยอดจริงๆ ไม่ใช่แค่นั้นสิพวกเขาดูสวยงามมากจริงๆ
ผมรู้ดีกว่าแค่มาเจอเขาแค่ หนึ่งวัน ที่จริงแค่เพียง 6 ชั่วโมงนั้น คงไม่สามารถยืนยันคำพูดต่างๆที่ผมพูดมาเกี่ยวกับเจบอมได้ แต่จริงๆนะผมคิดว่ามันยากที่จะหา "การกระทำไม่ถูกไม่ควร" จากเจบอมดังที่ JYP มักจะพูดถึงเกี่ยวกับเขาได้เลย จริงๆแล้วผมก็ไม่ใช่นักเต้นที่ดีเลิศอะไร ผมไม่สนใจเรื่องเต้นเลยและคิดว่าเต้นแบบไหนก็เหมือนกันหมดแหล่ะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมได้รับกลับมาจากการไปดูการเต้นบีบอยด้วยตัวเองครั้งนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าความหลงใหลและพลังของนักเต้นเด็กๆที่ถ่ายทอดออกมาตามที่ เราเห็นที่จัดขึ้นตามหอประชุมโรงเรียนที่แม้ไม่มีระบบแสงสีเสียงนั้นกลับดู เยี่ยมยอดมากกว่าท่าเต้นของพวกนักเที่ยวเมาๆตามคลับที่เต็มไปด้วยควันของ บุหรี่มากมายเสียอีก
นานมาแล้ว พักจินยองเคยให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์รายการหนึ่งว่าเขารักการเต้นอย่างมาก เคยแม้แต่ไปคลับต่างๆเพื่อเต้นโดยขออนุญาตพ่อแม่ไปเมื่อเขายังเรียนอยู่แค่ ชั้นมัธยมปลาย ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่หรือเป็นเรื่องอันควรเลยในการที่คนๆ หนึ่งที่เคยใส่เสื้อซีทรูขึ้นแสดงต่อหน้าท่านประธานาธิบดีจะมาตัดสินว่าใคร ประพฤติตัวถูกหรือผิด ผมชื่นชมความสามารถในการบริหารงานของพักจินยองอย่างมากนะแต่บุคลิกของศิลปิน ในสังกัดเขานั้นไม่ใช่รสนิยมที่ผมชอบเลย ขออภัยนะครับเพราะผมไม่ควรจะพูดออกมาตอนนี้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดจริงๆ
อย่าง ไรก็ตาม มันช่างน่าประหลาดใจอะไรเช่นนี้ที่การแข่งขันบีบอยหนึ่งที่จัดขึ้นที่หนึ่ง ในอเมริกานี้จะถูกมองเป็น "เรื่องราวใหญ่โต" และกลายเป็นหัวข้อข่าวมาได้
ระหว่าง การแข่งขัน ผมออกมาดื่มน้ำและบังเอิญเจอกับคนเกาหลีอีกคน เขาคนนั้นถามผมว่าผมเป็นคนเกาหลีหรือเปล่า รู้จักพักเจบอมแห่ง 2PM ไหม ได้เห็นเขาที่การแข่งขันนี้หรือยัง ผมไม่ได้ตอบอะไรคนนั้นไปเพราะเกรงว่าเขาจะพูดอะไรอีกมากมายต่อถ้าผมดันบอกไป ว่าผมรู้ว่าเจบอมคือใคร ดูเหมือนว่าเจบอมก็เป็นหัวข้อร้อนแรงในหมู่คนที่นี้เหมือนกัน
พอ ได้มาเห็นคลิปวีดีโอของเจบอมได้รับการเขียนเป็นหัวข้อข่าวมากมาย ผมกลับรู้สึกเสียใจกับเจบอมจริงๆกับการที่ชีวิตในอเมริกาของเขานั้นก็ยังคง ถูกควบคุมและไร้ซึ่งความเป็นอิสระ อย่างน้อยจากมุมมองของผม เจบอมไม่ใช่นักร้องเขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในย่านนี้เท่านั้น มันดูอึดอัดทีเดียวที่ต้องมาเห็นชีวิตปรกติของเขามาถูกตีพิมพ์เป็นข่าวใน หนังสือพิมพ์และกลายเป็นหัวข้อสนทนาของผู้คนอยู่ ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากจะสงสารเจบอม ผมเป็นใครกัน ผมทำอะไรเลิศเรออะไรมาจากไหนที่จะมีสิทธิ์มาสงสารคนอื่น... ไม่ว่าผมจะพูดอะไร เขาก็ยังต้องเผชิญและรับผลจากสิ่งต่างๆด้วยตัวของเขาเอง ยังต้องพยายามต่อไปอย่างหนักและอยู่ต่อให้ได้อย่างดี…
แม้ว่าผมจะไม่ ได้ใส่ใจมากมายแต่ผมก็มองดูด้วยสายตาอันวิเคราะห์ของผม เจบอมนั้นดูสุขุมมากและดูจริงจังระหว่างที่เขาอยู่ในการแข่งขัน เขาดูเป็นคนที่มีวินัยในตัวเองอย่างมาก เขาจะไปซ้อมที่มุมของฮอลล์ทุกๆครั้งที่มีโอกาส ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ผมก็อยากให้ทีมของเขาเป็นผู้ชนะและพวกเขาก็ชนะ ขึ้นมาจริงๆ ภายหลังผมได้ไปแสดงความยินดีกับสมาชิกคนหนึ่งของทีม "พวกนายเต้นได้สุดยอดจริง...” พร้อมกับยกนิ้วโป้งสองนิ้วให้ เขาคนนั้นก็กล่าวขอบคุณตอบกลับมาอย่างจริงใจ
เด็กหนุ่มละตินคนนึง จากทีมของเจบอมเดินไปมาด้วยเสื้อเชิ้ตที่มีคำสกรีนว่า "The World Noonas Live In” (แฟนไซต์ของ 2PM) ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกจุกเสียดด้วยความเศร้าขึ้นมาอีก ในขณะที่ที่มบีบอยทีมอื่นๆใส่เสื้อผ้าลำลองทั่วไป แต่ทีมนี้สมาชิกทุกคนใส่เสื้อแบบเดียวกับราวกับเป็นเครื่องแบบ และความมุ่งมั่นต่อการแข่งขันนี้ของพวกเขาก็ดูโดดเด่นอย่างมากเช่นกัน
อีกอ ย่าง การได้เห็นพักเจบอมที่การแข่งขันนี้ทำให้ผมคิดไปถึงว่าเขาก็เปรียบเหมือน "ฮวางจินยี่" (บทจารึกประวัติศาสตร์อันโด่งดังของเกอิชาเกาหลีนางหนึ่ง)
ผม รู้ว่าหลายๆคนอาจจะคิดว่านี่ดูเป็นการเปรียบแบบสุ่มๆ ลองคิดดูว่าเจบอมนั้นยังดึงดูดสายตาผู้คนและเรื่องของเขาเป็นที่น่าสนใจแม้ ว่าเขาจะออกจากวงการบันเทิงและพยายามจะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆแล้ว แต่เพราะเขาเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่เราไม่สามารถลืมหรือเพิกเฉยไปได้ ก็เหมือนอย่าง "ฮวางจินยี่” ที่นางต้องออกจากสังคมไปอยู่อาศัยอย่างคนทั่วไปแต่ยังคงร่ายรำด้วยอารมณ์ ความรู้สึก
เจบอมนั้นก็เปรียบเหมือนกับเป็นผีเสื้อที่โบยบินด้วยจิตวิญญานที่เสรี
โดย ส่วนตัวแล้วผมชอบคนที่มีจิตใจดีไม่เห็นแก่ตัวและยอมรับทุกสิ่งอย่างด้วยใจ บริสุทธิ์์โดยทึกทักตีความแบบผิดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างเขา คนที่มีความคิดที่ยอมละทิ้งสิ่งที่ทำมา 5 ปีด้วยเวลาเพียงแค่ 4 วันนั้น...
ผม เคารพในวิถีการคิดของเขาที่คำนึงถึงบุคคลอื่นๆก่อนที่จะคิดถึงตัวเอง ผมไม่รู้เลยว่าทำไมผมต้องเคยเกลียดคนๆนี้ด้วยนะในอดีต (เพียงเพราะเขาอยู่กับบริษัท JYP -.-;;) แต่ต่อจากนี้ผมจะคอยเฝ้าดูเขาให้มากขึ้น
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วใน รายการ ‘Golden Fishery’ ยุนเยจัง (นักแสดงเกาหลี) ได้ออกมาพูดว่าศิลปินมักจะถ่ายทอดผลงานชั้นยอดยิ่งกว่าออกมาเมื่อสภาวะจิตใจ เขาบอบช้ำและกำลังเผชิญความเจ็บปวด ผมก็พลันคิดถึงเจบอมขึ้นมาตอนที่ดูรายการนี้ แล้วผมก็ยังได้ไปเจอเขากับตัวอีก นัั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไม …-.-;;
ผม ก็ไม่รู้ว่าคนๆนี้จะได้กลับไปเป็นนักร้องต่อหรือไม่ แต่ถ้าเขาได้กลับไปผมรู้สึกว่าเขาจะกลับมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สุดยอด สุดๆไปเลย แต่ผมก็คิดว่ามันขึ้นอยู่กับความสามารถของ JYP ว่าจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานดนตรีที่จะเกื้อหนุนศิลปินอย่างเจบอมได้ดีพอหรือ ไม่ (เพลงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักร้อง ไอดอลก็เป็นนักร้องเหมือนกัน) อย่างไรก็ตามผมคิดว่าเสน่ห์ของพักเจบอม และความสามารถในการดึงดูดผู้คนของเขานั้นมันน่าประหลาดใจมากทีเดียว
โดย ปรกติแล้วผมไม่ใช่คนประเภทที่จะแคร์คนอื่นๆมากเท่าไหร่นัก แต่การแข่งขันบีบอยที่จัดขึ้นที่หนึ่งในอเมริกาที่สร้างหัวข้อข่าวในเกาหลี ได้ และการที่ผมรู้สึกเสียใจไปกับคนหนึ่งที่ไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวและไม่ สามารถดำเนินชีวิตในย่านที่เขาอยู่ได้อย่างสุขสบาย ด้วยเหตุนี้ผมเลยเขียนเรื่องราวเหล่านี้ออกมา
ถ้าให้เปลี่ยนกันได้ ถ้าผมถูกขอให้ใช้ชีวิตอย่างเจบอมโดยแลกกับเงินล้านดอลล่าห์ ผมคงไม่ยอมแลก นั่นเพราะว่าหากต้องมีปัญหาขึ้นมากับใครตอนที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ปัญหานั้นก็คงเกิดขึ้นกับคนไม่กี่คนแล้วผมก็ดำเนินชีวิตต่อได้โดยไม่ต้องเผย ชีวิตส่วนตัวทั้งหมดของผมให้กับทุกๆคนได้รับรู้
แต่เพราะคนๆนี้้ ต้องเผยทุกอย่างจากศรีษะจรดปลายเท้าให้คนอื่นๆได้รู้และต้องกลายมาเป็นเป้า นิ่งให้คนทั้งหมดโจมตี จากมุมมองที่ผมมีผมว่าการที่เขาแบกรับอดทนกับสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดี การที่ยังพยายามอย่างหนักและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่นั้นน่าชื่นชมทีเดียว ผมก็ยังคงไม่รู้จักเขามากแต่ผมรู้สึกว่าผมพอรู้จักเขาขึ้นมาหน่อยนึงแล้วตอน นี้ แค่เพียงหนึ่งอาทิตย์หลังจากการแข่งขันบีบอยนั้น
อย่างไรก็ตาม พักเจบอม
ผมขอให้คุณโชคดี
เป็นเด็กดีนะ!!!!
*the end*
Credit : http://www.2pm-online.com/index.php.........&ucat=&
Sexy หุ่นดี (มาก)
สมัยละอ่อน
อยากรู้อยากเห็น
ขาสั้น(เตี้ย)
รั่ว (มากถึงมากที่สุดใน 3 โลก)
ขี้อาย ??
น่ารัก
ให้ท่า (แทค)
มุขเยอะ
สวยและหมวย
Y (แย่งของคนอื่น)
แอ๊บแบ๊ว
แอ๊บแบ๊ว 2
น่ารักม๊ากมาก
นอนน้อย (แอบหลับ)
หล่อ
หน้าเด็กประถม
ขอคิดก่อน (ทำอะไรไม่ถูก)
โดนน้องแกล้งเสมอ
พี่ใหญ่ตกอยู่ภายใต้อำนาจน้องเล็กเสมอ (เพราะขนาดตัว)
ซ่าจังตัวแค่เนี่ย
ยอมทำทุกอย่างเพื่อวง
อยู่บนเวทีจะจริงจัง เป็นที่พึ่งและศูนย์กลางของน้องๆในวง
ลงจากเวทีจะกลายเป็นของเล่นของน้องๆทันทีทันที (ไม่เคารพแต่รัก)
เมื่อไหร่เฮียจะกลับมา ???????
แปะก่อน นะ
ออกไปข้างนอกแป๊บ > <
อ่า.....
เจบอมเก่งเนอะ
เข้มแข็ง.....โดดเดี่ยว....เด็ดเดี่ยว.......
และยังมีความฝัน.....
รู้สึกว่าเจย์เก่งมาก
ทั้งๆที่ถูกคนรอบข้างขับไล่ขนาดนั้น
ทั้งๆที่ยังเป็นศิลปินอยู่ในตอนนั้น.....
แต่เขาก็ยังรักในการเต้นมาจนถึงตอนนี้.......
ทำสิ่งที่อยากทำเถอะเจย์
ตอนนี้คุณเข้มแข็งมากจริงๆ
ชอบที่เปรียบเจน์เป็น ฮวางจิ่นยี่.....
ยอมรับเลยว่าเหมือน......
ยังไม่เคยดูเรื่องนี้นะ แต่ที่อ่านๆมา.....
คิดว่ามันก็คล้ายกับเจย์นั่นแหละ
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ
ข้าเจ้าเอง แต่ก่อนชื่นชมเจบอมนะถึงได้ชอบ 2PM ด้วย
ที่จริงสนใจวงนี้เพราะนิชคุณ แต่ชื่นชมเจย์มากกว่า
เต้นเก่งจริงๆ
รักและคิดถึงเจย์มากๆๆๆๆๆนะ
คิดถึงพี่มากๆเลย พี่กลับมาได้แล้ว พี่ไปนานเกินไปแล้วน่ะ T~T
รอพี่กลับมาเสมอ
นะพี่แจบอม
แปะ ๆ เดี๋ยวมาอ่าน
อยู่ รร.
รีบกลับมาน่ะ
ตาแก่เสื้อสีชมพู !
.....นั้นแหละนะ..
น้ำตาเรา แทบจะคลอ เบ้าตาเลย บทความนี้..
มันดีจริงๆนะ
พอเราอ่าน ก็มานึกถึง วันก่อนๆ ที่มี ครบ7คน...
มันดีกว่า 6 คนอยู่แล้วละ...
ยังไงเราเชื่อว่า HOTTEST
ยังรัก และ รอ เจย์อยู่เสมอแหละนะ...ใช่ไหม?
: ]
นายรีบกลับมาเถอะ.. พักแจบอม^^ สู้ๆ*
คิดถึงงงทิสุด
jay รักการเต้น และ ทุกๆๆอย่างที่เกิดขึ้น
มันทำให้เรายิ่งแน่ในความสมารถของเค้า
รู้สึกดีใจที่ได้เป็น Hottest
I am awaiting your return. That is what I expected at this time.
Please come back
ชอบภาพเพื่อเจบอม กรูจะสู้จนหมดตัว
คิดถึงตาแก่เว่อร์ๆ เลย
อ่า
คิดถึงตาแก่เสื้อสีชมพูคนนี้มากที่สุด
เมื่อไรเค้าจะกลับมาเป็นหาพวกเราสักที..
จากที่อ่านบทความนี้พี่เปลี่ยนไปนะ
เราจะรอคอยวันที่พี่กลับมาหาพวกเรา
แจบอม..
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google