❀เรื่องน่ารู้ `สารกลูต้าไธโอน !
16 พ.ค. 54 19:53 น. /
ดู 2,901 ครั้ง /
19 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
น่ารู้! สารกลูต้าไธโอน "สารเพิ่มผิวขาว"
มีหลากหลายคำถามที่ได้ถามกันเข้ามาถึงสารกลูต้าไธโอนว่าช่วยเพิ่มความขาวได้จริงรึเปล่า วันนี้เรา จึงไปทำการค้นหาข้อมูลและค้นหาคำตอบถึงเจ้า สารกลูต้าไธโอน ว่าจะช่วยให้คุณได้คำตอบที่ชัดเจนและกระจ่างขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ นั้นอย่างรอช้าค่ะเรามาทำความรู้จักอย่างท่องแท้กับ น่ารู้! สารกลูต้าไธโอน "สารเพิ่มผิวขาว" กันเลยค่ะ
.
.
สารกลูต้าไธโอน
สารกลูตาไธโอน เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองมีคุณสมบัติเป็นโปร(ตี)นชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วน โดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำเมื่อรวมตัวกับสารกลูตาไธโอนจะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ในที่สุด สารพิษจำพวกโลหะหนักหรือสารกำจัดแมลงสามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้โดยการทำงานของกลูตาไธโอนร่วมกับตับ
สารกลูตาไธโอนยังมีหน้าที่สำคัญอีกมากมายในร่างกาย เช่น สังเคราะห์โปร(ตี)นช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์ช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง
โดยสรุปสารกลูตาไธโอนจึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซีหรือวิตามินอี เมื่ออายุคนเรามากขึ้นปริมาณกลูตาไธโอนในร่างกายจะลดน้อยลงมีผลทำให้เซลล์และอวัยวะทุกส่วนเสื่อมโทรมลง ในทางตรงกันข้ามนักวิจัยพบว่าผู้ที่มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรงมักจะตรวจพบสารกลูตาไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด
การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
สารกลูตาไธโอนมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่อง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยามามากกว่า 30 ปี การรักษามักจะให้โดยการฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้ออาการข้างเคียงของยาดังกล่าวตอนนี้ยังไม่พบ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า สารกลูตาไธโอนมีผลข้างเคียงในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ผลข้างเคียงนี้จึงทำให้มีการแตกตื่นและนำกลูตาไธโอนมาเตรียมเป็นยาเม็ดเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อชะลอวัยและหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู
ยาเม็ดกลูตาไธโอน ได้ผลจริงหรือ ?
ในวงการของอาหารเสริมมีการนำสารกลูตาไธโอนมาทำเป็นยาเม็ดในขนาดความแรงต่าง ๆ กัน เพื่อใช้ในการรับประทานเป็นอาหารเสริมโดยหวังผลว่า จะสามารถเสริมและทดแทนปริมาณกลูตาไธโอนที่ร่างกายมีไม่พอหรือบกพร่องไปอันเนื่องมาจากสาเหตุของโรคต่าง ๆ
จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า สารกลูตาไธโอนจะไม่สามารถถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหารได้เพราะจะถูกย่อยสลายและขับออกทางลำไส้ ดังนั้นการรับประทานยาเม็ดกลูตาไธโอนจึงไม่ได้รับประโยชน์เลยไม่ว่าจะกินครั้งละหลาย ๆ เม็ดหรือในขนาดที่สูงมาก ๆ ก็ตาม
สารกลูตาไธโอนช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือ?
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นอาการข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ของการใช้ยากลูตาไธโอนคือ การยับยั้งการสร้างเซลล์เม็ดสีให้ผิวหนัง รวมทั้งการเปลี่ยนเม็ดสีที่สร้างขึ้นจากสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว จึงมีการคิดนำเอาสารชนิดนี้มาใช้เป็นอาหารเสริมโดยหวังว่า จะสามารถเสริมและเพิ่มความเข้มข้นของกลูตาไธโอนในกระแสเลือดให้มาก ๆ เพื่อหวังผลให้ผิวหน้าขาวอมชมพู แต่ในความเป็นจริงยาเม็ดที่เป็นอาหารเสริมนั้น ทานมากเท่าไหร่ก็จะไม่ได้ผลเพราะสารชนิดนี้จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายไม่ถูกดูดซึม แพทย์หลายสำนักจึงได้มีการดัดแปลงโดยทำการฉีดเข้าเส้นหรือเข้ากล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับการรักษาโรคต่าง ๆ อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียงของผิวขาวเป็นอาการชั่วคราวเท่านั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้ในทางที่ผิด
ภาวะที่ร่างกายขาดสารกลูตาไธโอน
เนื่องจากสารดังกล่าวร่างกายสร้างได้เองแต่สภาวะที่ร่างกายอาจขาดหรือมีกลูตาไธโอนไม่เพียงพอ เช่น เมื่อร่างกายมีโรคแทรกซ้อนทำให้กลูตาไธโอนลดน้อยลงด้วยสาเหตุการถูกทำลายด้วยยารักษาหรือด้วยตัวโรคเอง หากร่างกายขาดหรือมีกลูตาไธโอนน้อยจะมีผลทำให้เกิดโรคตับอักเสบง่ายทำให้ตับทำงานได้ไม่เต็มที่มีโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจ โรคหืด ผู้ที่มีกรรมพันธุ์เกี่ยวกับความบกพร่องของกลูตาไธโอนมักจะมีปัญหาโรคแทรกซ้อนทางระบบประสาท ผู้ที่ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ปริมาณกลูตาไธโอนในระบบเลือดจะต่ำมาก ๆ ผู้ที่สูบบุหรี่จัดก็เช่นกัน ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จะเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย
กลูตาไธโอนในธรรมชาติ
พบมากในผลไม้ ได้แก่ แตงโม สตรอเบอรี่ องุ่น ผลอโวกาโด ส่วนในผักพบมากใน หน่อไม้ฝรั่ง สำหรับเนื้อสัตว์จะพบได้ในปลา และเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ดังนั้นควรเลือกรับประทานจากธรรมชาติดีกว่าที่จะหลงไปใช้สารนี้อย่างผิด ๆ และขาดความเข้าใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
จริงๆแล้วมันเชื่อมกับอีกกระทู้นึงอะคะ <<<
มีหลากหลายคำถามที่ได้ถามกันเข้ามาถึงสารกลูต้าไธโอนว่าช่วยเพิ่มความขาวได้จริงรึเปล่า วันนี้เรา จึงไปทำการค้นหาข้อมูลและค้นหาคำตอบถึงเจ้า สารกลูต้าไธโอน ว่าจะช่วยให้คุณได้คำตอบที่ชัดเจนและกระจ่างขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ นั้นอย่างรอช้าค่ะเรามาทำความรู้จักอย่างท่องแท้กับ น่ารู้! สารกลูต้าไธโอน "สารเพิ่มผิวขาว" กันเลยค่ะ
.
.
สารกลูต้าไธโอน
สารกลูตาไธโอน เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองมีคุณสมบัติเป็นโปร(ตี)นชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วน โดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำเมื่อรวมตัวกับสารกลูตาไธโอนจะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ในที่สุด สารพิษจำพวกโลหะหนักหรือสารกำจัดแมลงสามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้โดยการทำงานของกลูตาไธโอนร่วมกับตับ
สารกลูตาไธโอนยังมีหน้าที่สำคัญอีกมากมายในร่างกาย เช่น สังเคราะห์โปร(ตี)นช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์ช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง
โดยสรุปสารกลูตาไธโอนจึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซีหรือวิตามินอี เมื่ออายุคนเรามากขึ้นปริมาณกลูตาไธโอนในร่างกายจะลดน้อยลงมีผลทำให้เซลล์และอวัยวะทุกส่วนเสื่อมโทรมลง ในทางตรงกันข้ามนักวิจัยพบว่าผู้ที่มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรงมักจะตรวจพบสารกลูตาไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด
การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
สารกลูตาไธโอนมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่อง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยามามากกว่า 30 ปี การรักษามักจะให้โดยการฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้ออาการข้างเคียงของยาดังกล่าวตอนนี้ยังไม่พบ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า สารกลูตาไธโอนมีผลข้างเคียงในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ผลข้างเคียงนี้จึงทำให้มีการแตกตื่นและนำกลูตาไธโอนมาเตรียมเป็นยาเม็ดเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อชะลอวัยและหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู
ยาเม็ดกลูตาไธโอน ได้ผลจริงหรือ ?
ในวงการของอาหารเสริมมีการนำสารกลูตาไธโอนมาทำเป็นยาเม็ดในขนาดความแรงต่าง ๆ กัน เพื่อใช้ในการรับประทานเป็นอาหารเสริมโดยหวังผลว่า จะสามารถเสริมและทดแทนปริมาณกลูตาไธโอนที่ร่างกายมีไม่พอหรือบกพร่องไปอันเนื่องมาจากสาเหตุของโรคต่าง ๆ
จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า สารกลูตาไธโอนจะไม่สามารถถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหารได้เพราะจะถูกย่อยสลายและขับออกทางลำไส้ ดังนั้นการรับประทานยาเม็ดกลูตาไธโอนจึงไม่ได้รับประโยชน์เลยไม่ว่าจะกินครั้งละหลาย ๆ เม็ดหรือในขนาดที่สูงมาก ๆ ก็ตาม
สารกลูตาไธโอนช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือ?
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นอาการข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ของการใช้ยากลูตาไธโอนคือ การยับยั้งการสร้างเซลล์เม็ดสีให้ผิวหนัง รวมทั้งการเปลี่ยนเม็ดสีที่สร้างขึ้นจากสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว จึงมีการคิดนำเอาสารชนิดนี้มาใช้เป็นอาหารเสริมโดยหวังว่า จะสามารถเสริมและเพิ่มความเข้มข้นของกลูตาไธโอนในกระแสเลือดให้มาก ๆ เพื่อหวังผลให้ผิวหน้าขาวอมชมพู แต่ในความเป็นจริงยาเม็ดที่เป็นอาหารเสริมนั้น ทานมากเท่าไหร่ก็จะไม่ได้ผลเพราะสารชนิดนี้จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายไม่ถูกดูดซึม แพทย์หลายสำนักจึงได้มีการดัดแปลงโดยทำการฉีดเข้าเส้นหรือเข้ากล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับการรักษาโรคต่าง ๆ อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียงของผิวขาวเป็นอาการชั่วคราวเท่านั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้ในทางที่ผิด
ภาวะที่ร่างกายขาดสารกลูตาไธโอน
เนื่องจากสารดังกล่าวร่างกายสร้างได้เองแต่สภาวะที่ร่างกายอาจขาดหรือมีกลูตาไธโอนไม่เพียงพอ เช่น เมื่อร่างกายมีโรคแทรกซ้อนทำให้กลูตาไธโอนลดน้อยลงด้วยสาเหตุการถูกทำลายด้วยยารักษาหรือด้วยตัวโรคเอง หากร่างกายขาดหรือมีกลูตาไธโอนน้อยจะมีผลทำให้เกิดโรคตับอักเสบง่ายทำให้ตับทำงานได้ไม่เต็มที่มีโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจ โรคหืด ผู้ที่มีกรรมพันธุ์เกี่ยวกับความบกพร่องของกลูตาไธโอนมักจะมีปัญหาโรคแทรกซ้อนทางระบบประสาท ผู้ที่ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ปริมาณกลูตาไธโอนในระบบเลือดจะต่ำมาก ๆ ผู้ที่สูบบุหรี่จัดก็เช่นกัน ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จะเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย
กลูตาไธโอนในธรรมชาติ
พบมากในผลไม้ ได้แก่ แตงโม สตรอเบอรี่ องุ่น ผลอโวกาโด ส่วนในผักพบมากใน หน่อไม้ฝรั่ง สำหรับเนื้อสัตว์จะพบได้ในปลา และเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ดังนั้นควรเลือกรับประทานจากธรรมชาติดีกว่าที่จะหลงไปใช้สารนี้อย่างผิด ๆ และขาดความเข้าใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
จริงๆแล้วมันเชื่อมกับอีกกระทู้นึงอะคะ <<<
แก้ไขล่าสุด 29 ส.ค. 54 19:03 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
#4 |
`rococoblake (ไม่เป็นสมาชิก)
|
16 พ.ค. 54 22:14 น.
กินแตงโมกับสตรอเบอร์รี่ ทุกวัน แล้วจะขาวมั้ยอ่ะ
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google