วรรณะของสี ? โทนร้อน-เย็น

15 ก.ค. 54 20:08 น. / ดู 23,061 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
วรรณะของสี  


วงจรสีโทนร้อน-เย็น .
      จากการที่ได้ศึกษาเรื่อง แม่สี ในกลุ่มต่างๆ และเรื่องวงจรสีมาแล้ว รวมทั้งได้ทำกิจกรรมต่างๆ คงพอทำให้มีพื้นฐานทางการใช้สีในงานศิลปะแต่ทราบหรือไม่ว่าสีที่นักเรียนผสมออกมาทั้ง 12 สีนั้น สามารถแยกออกเป็นสองกลุ่มตามค่าความเข้มของสี หรือที่เรียกว่าวรรณะของสี (Tone of color)  วรรณะของสีก็คือ ค่าความแตกต่างของสีแต่ละด้านของวงจรสีที่แสดงถึงความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีก็คือเสียงสูง เสียงต่ำ ที่แสดงออกทางอารมณ์ ที่มีการเคลื่อนไหว มีชีวิตชีวา หรือเศร้าโศกหรือรันทดใจ


สีที่อยู่ในวรรณะร้อน(warm tone color) 
ได้แก่ สีเหลืองส้ม สีส้ม สีแดง และสีม่วงแดง       


สีที่อยู่ในวรรณะเย็น(cool tone color)
ได้แก่ สีเขียว สีฟ้า สีคราม

        สีทั้งสองวรรณะอาจจะไม่ใช่สีที่สดดั่งเช่นในวงจรสี เพราะความจริงแล้วในธรรมชาติยังมีสีที่แตกต่างไปจากในวงจรสีอีกมากมาย ให้อนุมานว่าสีใดที่ค่อนไปทางสีแดง หรือสีส้มให้ถือว่าเป็นสีวรรณะร้อน ส่วนสีที่ค่อนไปทางน้ำเงิน เขียวให้อนุมาว่าเป็นวรรณะเย็น ในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่ต้องให้สีหลายสีในภาพอย่างอิสระ และผู้เขียนสามารถใช้สีให้เกิดความกลมกลืนเป็นอย่างดีจนชำนาญ จะเห็นว่าเรื่องของวรรณะของสีนั้นเข้ามามีบทบาทในภาพเขียนเสมอ กล่าวคือโทนสีของภาพจะแสดงงออกไปทางใดทางหนึ่งของวรรณะสีเสมอ นั่นคือองค์ประกอบหนึ่งที่จะนับได้ว่าเป็นภาพเขียนที่ดี คือเมื่อเขียนภาพโทนเย็นก็มักจะเอาสีในวรรณะเย็นมาใช้เป็นส่วนมาก ส่วนภาพที่เป็นโทนร้อน ก็จะนำสีในวรรณะร้อนมาใช้มากเช่นกัน ในวรรณะของสีแต่ละฝ่ายยังสามารถแยกออกเป็นอีก 2 ระยะคือ ร้อนอย่างรุนแรง หรือเข้มข้น คือแสดงออกถึงความรุนแรงของโทนสีในภาพที่มีผลต่ออารมณ์ของผู้ชมอย่างแรง และ ร้อนอย่างเบาบาง คือให้ความรู้สึกที่ไม่ร้อนแรงมากอย่างประเภทแรก ใช้โทนสีที่ร้อนแต่ไม่รุนแรง

        ภาพเขียนที่ใช้โทนสีหรือวรรณะของสีเข้ามาเกี่ยวข้องมักแสดงความรู้สึกและอารมณ์ในภาพ เช่นวรรณะเย็นให้ควารมรู้สึก เศร้า สงบ ราบเรียบ ส่วนวรรณะร้อนให้ความรู้สึกรื่รเริง เจิดจ้า และความขัดแย้งขึ้นอยู่กับอารมณ์ของศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน จิตรกรผู้สร้างมีอารมณ์ใดในขณะนั้นก็มักแสดงออกมาถึงโทนสีและความรู้สึกในภาพเขียนเช่น ปิคัสโซ่ (จิตรกรชาวเสปญ เกิดที่เมือง Malage  เมื่อปี ค.ศ.1881) ซึ่งเมื่อขณะที่เขาเป็นหนุมมีความรักมักสร้างผลงานในวรรณะร้อนค่อนไปทางชมพู ส่วนในช่วงที่เขาทุกระทม ภาพเขียนเขาจะใช้สีในวรรณะเย็นค่อนไปทางน้ำเงิน รวมทั้งศิลปินต่างๆในประเทศไทยเราก็สร้างสรรค์ผลงานออกมาโดยใช้ความรู้เรื่องวรรณะของสีไปใช้ในการสร้างสรรค์เช่นเดียวกัน

     
ตัวอย่างภาพจิตรกรรมที่ใช้สี วรรณะเย็น   .


ตัวอย่างภาพจิตกรรมที่ใช้สี วรรณะร้อน  .
       
        หลักในการใช้ความรู้เรื่องวรรณะของสีในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
        ในการส้รางสรรค์งานศิลปะโดยมากเรามักจะเน้นโทนสีของภาพออกไปในทางวรรณะใดวรรณะหนึ่งเป็นหลักอยู่แล้ว  แต่บางครั้งเราสามารถนำเอาสีทั้งสองวรรณะมาไว้ในภาพเดียวกันได้ เพียงแต่รู้หลักในการนำมาใช้ กล่าวคือหากจะนำสีทั้งสองวรรณะมาไว้ในภาพเดียวกัน ถ้าเราใช้สีวรรณะร้อนที่มเปอร์เซ็นต์มากกว่า ตั้งแต่ 70 ถึง 80 เปอร์เซ้นต์ของภาพแล้วใช้สีวรรณะเย็นเพียงเพียง 30 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ ผลของภาพนั้นก็ยังเป็นภาพวรรณะร้อน (warm tone)  ดังนั้นการจะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในวรรณะเย็นหรือร้อนไม่จำเป็นต้องใช้สีในวรรณะร้อนหรือเย็นเพียงอย่างเดียว  เราสามารถเอาสีต่างวรรณะมาผสมผสานกันได้แต่คุมปริมาณให้อยู่ในวรรณะใดวรรณะหนึ่งในปริมาณที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น

เครดิตเนื้อหา :; http://www.thaigoodview.com/library........._coolcolor.html

เครดิตรูปภาพ :; http://www.rmutphysics.com/charud/n.........lour/colour.htm
แก้ไขล่าสุด 15 ก.ค. 54 20:39 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google