เคล็ดลับการเรียนจากที่โหล่สู่ที่หนึ่ง :)
'(snow.fairy?!
ไม่เป็นสมาชิก
ไม่เป็นสมาชิก
12 พ.ย. 54 14:52 น. /
ดู 616 ครั้ง /
9 ความเห็น /
2 ชอบจัง
/
แชร์
เด็กเรียนเด็กเรียนเด็กเรียนเคล็ดลับการเรียนจากที่โหล่สู่ที่หนึ่ง
ให้ความสำคัญกับหนังสือเรียน การเรียนควรเริ่มต้นจากการสำรวจว่า ตนเองชอบเรียนอะไร เก่งวิชาไหน อ่อนวิชาไหน เมื่อรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไข การเรียนโดยไม่อ่านหนังสือเรียนก็เปรียบเสมือนการว่า ยน้ำโดยไม่อบอุ่นร่างก่ายก่อน การอบอุ่นร่างกายก่อนลงน้ำจะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้า กับอุณหภูมิของน้ำได้ เช่นเดียวกับการอ่านหนังสือเรียนก่อนเข้าเรียน จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาและส่วนสำคัญของบทเรียนได้เร ็วขึ้น การเรียนควรเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเรียนให้ลึกซึ้ง เราต้องอ่านหนังสือเรียนก่อนจึงจะรู้ว่าควรทบทวนเรื่ องอะไร และทำให้รู้แนวข้อสอบ แต่มีนักเรียนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการตอบคำถาม ถูกเพียงข้อเดียว โดยไม่สนใว่าคำถามนั้น ๆ มีที่มาที่ไปอย่างไร ดังนั้นหากวิเคาะห์เนื้อหาในหนังสือเรียน ลองตั้งคำถามหรือ เก็งข้อสอบแล้วตอบคำถามด้วยตนเอง จะช่วยให้การเตรียมตัวสอบได้ผลดี สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียน สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียนคือ อ่านบทเรียนที่จะเรียนต่อไปล่วงหน้าตั้งใจเรียนเวลา ครูสอนทบทวนและฝึกทำแบบฝึกหัด การอ่านบทเรียนมาก่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะทำให้ เข้า ใจยิ่งขึ้นเวลาครูสอน รวมทั้งรู้ว่าตนเองไม่เข้าใจสวนไหน และต้องฟังคำอธิบายเพิ่มเติมตรงส่วนไหน สิ่งที่จะชี้วัดระดับของเด็กเก่งและไม่เก่งคือการตั้ งใจเรียน แล้วเราควรจะเตรียมบทเรียนอย่างไรดีละ การเตรียมบทเรียนมี 3ขึ้นตอน ยกตัวอย่างวิชาภาษาไทย
ขั้นตอนที่ 1 รวบรวมคำศัพท์ที่ไม่แน่ ใจหรือไม่รู้ในเนื้อหา แล้วหาความหมายในพจนานุกรม เราจะอ่านเข้าใจและวิเคาะห์ใจความได้ก็ต่อเมื่อรู้คำ ศัพท์มากๆ
ขั้นตอนที่ 2 อ่านทวนซ้ำๆ แล้ววิเคาะห์เนื้อหา หากอ่านไม่เข้าใจก็ให้ขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายไว้
การเรียนควรเริ่มต้นจากการสำรวจว่า ตนเองชอบเรียนอะไร เก่งวิชาไหน อ่อนวิชาไหน เมื่อรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไข การเรียนโดยไม่อ่านหนังสือเรียนก็เปรียบเสมือนการว่ายน้ำโดยไม่อบอุ่นร่างก่ายก่อน การอบอุ่นร่างกายก่อนลงน้ำจะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้า กับอุณหภูมิของน้ำได้ เช่นเดียวกับการอ่านหนังสือเรียนก่อนเข้าเรียน จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาและส่วนสำคัญของบทเรียนได้เร็วขึ้น
การเรียนควรเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเรียนให้ลึกซึ้ง เราต้องอ่านหนังสือเรียนก่อนจึงจะรู้ว่าควรทบทวนเรื่องอะไร และทำให้รู้แนวข้อสอบ แต่มีนักเรียนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการตอบคำถาม ถูกเพียงข้อเดียว โดยไม่สนใว่าคำถามนั้น ๆ มีที่มาที่ไปอย่างไร ดังนั้นหากวิเคาะห์เนื้อหาในหนังสือเรียน ลองตั้งคำถามหรือ เก็งข้อสอบแล้วตอบคำถามด้วยตนเอง จะช่วยให้การเตรียมตัวสอบได้ผลดี
สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียน
สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียนคือ อ่านบทเรียนที่จะเรียนต่อไปล่วงหน้าตั้งใจเรียนเวลา ครูสอนทบทวนและฝึกทำแบบฝึกหัด
การอ่านบทเรียนมาก่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะทำให้ เข้า ใจยิ่งขึ้นเวลาครูสอน รวมทั้งรู้ว่าตนเองไม่เข้าใจสวนไหน และต้องฟังคำอธิบายเพิ่มเติมตรงส่วนไหน สิ่งที่จะชี้วัดระดับของเด็กเก่งและไม่เก่งคือการตั้ งใจเรียน แล้วเราควรจะเตรียมบทเรียนอย่างไรดีละ การเตรียมบทเรียนมี 3ขึ้นตอน ยกตัวอย่างวิชาภาษาไทย
ขั้นตอนที่ 1 รวบรวมคำศัพท์ที่ไม่แน่ใจหรือไม่รู้ในเนื้อหา แล้วหาความหมายในพจนานุกรม เราจะอ่านเข้าใจและวิเคาะห์ใจความได้ก็ต่อเมื่อรู้คำ ศัพท์มากๆ
ขั้นตอนที่ 2 อ่านทวนซ้ำๆ แล้ววิเคาะห์เนื้อหา หากอ่านไม่เข้าใจก็ให้ขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายไว ้ แล้วมาถามครูในเวลาเรียน
ขั้นตอนที่ 3 ดูโทรทัศน์เพื่อการศึกษา หรือเว็บไซต์ความรู้จากอินเทอร์เน็ต แล้วจดสาระสำคัญ ของเนื้อหาที่อาจจะออกข้อสอบไว้ จากนั้นก็อ่านเนื้อหาที่จดกับเนื้อหาฟังครูอธิบายในค าบเรียน จะช่วยให้เรียนเจ้าใจยิ่งขึ้น หากเราเตรียมพร้อมอยู่เสมอการเรียนก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ที่มา : จากเว็บ jokergameth
ให้ความสำคัญกับหนังสือเรียน การเรียนควรเริ่มต้นจากการสำรวจว่า ตนเองชอบเรียนอะไร เก่งวิชาไหน อ่อนวิชาไหน เมื่อรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไข การเรียนโดยไม่อ่านหนังสือเรียนก็เปรียบเสมือนการว่า ยน้ำโดยไม่อบอุ่นร่างก่ายก่อน การอบอุ่นร่างกายก่อนลงน้ำจะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้า กับอุณหภูมิของน้ำได้ เช่นเดียวกับการอ่านหนังสือเรียนก่อนเข้าเรียน จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาและส่วนสำคัญของบทเรียนได้เร ็วขึ้น การเรียนควรเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเรียนให้ลึกซึ้ง เราต้องอ่านหนังสือเรียนก่อนจึงจะรู้ว่าควรทบทวนเรื่ องอะไร และทำให้รู้แนวข้อสอบ แต่มีนักเรียนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการตอบคำถาม ถูกเพียงข้อเดียว โดยไม่สนใว่าคำถามนั้น ๆ มีที่มาที่ไปอย่างไร ดังนั้นหากวิเคาะห์เนื้อหาในหนังสือเรียน ลองตั้งคำถามหรือ เก็งข้อสอบแล้วตอบคำถามด้วยตนเอง จะช่วยให้การเตรียมตัวสอบได้ผลดี สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียน สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียนคือ อ่านบทเรียนที่จะเรียนต่อไปล่วงหน้าตั้งใจเรียนเวลา ครูสอนทบทวนและฝึกทำแบบฝึกหัด การอ่านบทเรียนมาก่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะทำให้ เข้า ใจยิ่งขึ้นเวลาครูสอน รวมทั้งรู้ว่าตนเองไม่เข้าใจสวนไหน และต้องฟังคำอธิบายเพิ่มเติมตรงส่วนไหน สิ่งที่จะชี้วัดระดับของเด็กเก่งและไม่เก่งคือการตั้ งใจเรียน แล้วเราควรจะเตรียมบทเรียนอย่างไรดีละ การเตรียมบทเรียนมี 3ขึ้นตอน ยกตัวอย่างวิชาภาษาไทย
ขั้นตอนที่ 1 รวบรวมคำศัพท์ที่ไม่แน่ ใจหรือไม่รู้ในเนื้อหา แล้วหาความหมายในพจนานุกรม เราจะอ่านเข้าใจและวิเคาะห์ใจความได้ก็ต่อเมื่อรู้คำ ศัพท์มากๆ
ขั้นตอนที่ 2 อ่านทวนซ้ำๆ แล้ววิเคาะห์เนื้อหา หากอ่านไม่เข้าใจก็ให้ขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายไว้
การเรียนควรเริ่มต้นจากการสำรวจว่า ตนเองชอบเรียนอะไร เก่งวิชาไหน อ่อนวิชาไหน เมื่อรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไข การเรียนโดยไม่อ่านหนังสือเรียนก็เปรียบเสมือนการว่ายน้ำโดยไม่อบอุ่นร่างก่ายก่อน การอบอุ่นร่างกายก่อนลงน้ำจะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้า กับอุณหภูมิของน้ำได้ เช่นเดียวกับการอ่านหนังสือเรียนก่อนเข้าเรียน จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาและส่วนสำคัญของบทเรียนได้เร็วขึ้น
การเรียนควรเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเรียนให้ลึกซึ้ง เราต้องอ่านหนังสือเรียนก่อนจึงจะรู้ว่าควรทบทวนเรื่องอะไร และทำให้รู้แนวข้อสอบ แต่มีนักเรียนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการตอบคำถาม ถูกเพียงข้อเดียว โดยไม่สนใว่าคำถามนั้น ๆ มีที่มาที่ไปอย่างไร ดังนั้นหากวิเคาะห์เนื้อหาในหนังสือเรียน ลองตั้งคำถามหรือ เก็งข้อสอบแล้วตอบคำถามด้วยตนเอง จะช่วยให้การเตรียมตัวสอบได้ผลดี
สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียน
สุดยอดเคล็ดลับการสร้างพลังแห่งการเรียนคือ อ่านบทเรียนที่จะเรียนต่อไปล่วงหน้าตั้งใจเรียนเวลา ครูสอนทบทวนและฝึกทำแบบฝึกหัด
การอ่านบทเรียนมาก่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะทำให้ เข้า ใจยิ่งขึ้นเวลาครูสอน รวมทั้งรู้ว่าตนเองไม่เข้าใจสวนไหน และต้องฟังคำอธิบายเพิ่มเติมตรงส่วนไหน สิ่งที่จะชี้วัดระดับของเด็กเก่งและไม่เก่งคือการตั้ งใจเรียน แล้วเราควรจะเตรียมบทเรียนอย่างไรดีละ การเตรียมบทเรียนมี 3ขึ้นตอน ยกตัวอย่างวิชาภาษาไทย
ขั้นตอนที่ 1 รวบรวมคำศัพท์ที่ไม่แน่ใจหรือไม่รู้ในเนื้อหา แล้วหาความหมายในพจนานุกรม เราจะอ่านเข้าใจและวิเคาะห์ใจความได้ก็ต่อเมื่อรู้คำ ศัพท์มากๆ
ขั้นตอนที่ 2 อ่านทวนซ้ำๆ แล้ววิเคาะห์เนื้อหา หากอ่านไม่เข้าใจก็ให้ขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายไว ้ แล้วมาถามครูในเวลาเรียน
ขั้นตอนที่ 3 ดูโทรทัศน์เพื่อการศึกษา หรือเว็บไซต์ความรู้จากอินเทอร์เน็ต แล้วจดสาระสำคัญ ของเนื้อหาที่อาจจะออกข้อสอบไว้ จากนั้นก็อ่านเนื้อหาที่จดกับเนื้อหาฟังครูอธิบายในค าบเรียน จะช่วยให้เรียนเจ้าใจยิ่งขึ้น หากเราเตรียมพร้อมอยู่เสมอการเรียนก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ที่มา : จากเว็บ jokergameth
แก้ไขล่าสุด 12 พ.ย. 54 14:52 |
เลขไอพี : 113.53.101.183
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google