[UCL] วิเคราะห์ก่อนเกมส์แชมป์เปียนลีครอบชิง !!
หลังจากที่เชลซีเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์มากที่สุดในปี 2008 กลับพลาดท่าให้กับทีมร่วมประเทศอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต๊ด เจ็บไม่พอ ช๊อตที่ทั่วโลกจำได้ดีคือช๊อตที่ จอห์น เทอร์รี ปราการหลังตัวเก่งของเชลซี ลื่นล้มแบบไม่เป็นท่าในช่วงของการเตะจุดโทษ หลังเสมอกันมา 1-1 มาวันนี้ เชลซี กลับมาอีกครั้งในฐานะตัวแทนประเทศอังกฤษ พูดมากจะหาว่าเข้าข้างทีมเกินไป จะเริ่มเข้าสู่เนื้อหากันแล้วนะครับผม !!
BAYERN MUNICE
รอบแบ่งกลุ่ม
เส้นทางในแชมป์เปี้ยนลีกของ มิวนิค นั้นผมถือว่าทรหดนะ แต่อย่างที่ผมบอกไปว่าเยอรมัน หรือ ทีมจากเยอรมัน เล่นด้วยใจที่แกร่ง ต่อให้ยากขนาดไหนเค้าก็ไม่หวั่น เริ่มต้นด้วยการเพลย์ออฟกับ ซูริค ทีมแกร่งจากสวิส ก็ผ่านมาได้สบายๆ แต่ถึงรอบแบ่งกลุ่มแฟนบาเยิร์นถึงกับตะโกนร้องว่า Oh Shit !!! เป็นกานจับเจอกันแต่ทีมโหดทั้งนั้นครับ บาเยิร์นได้อยู่กรุ๊ป Aร่วมสายกับทีมอย่าง นาโปลี, ซิตี้, และ บียารีล โดยผลทั้งหมดดังนี้
บียาร์เรอัล 0-2 บาเยิร์น มิวนิค
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 นาโปลี
นาโปลี 2-0 บียาร์เรอัล
บาเยิร์น มิวนิค 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 บียาร์เรอัล
นาโปลี 1-1 บาเยิร์น มิวนิค
บียาร์เรอัล 0-3 แมนเชสเตอร์
บาเยิร์น มิวนิค 3-2 นาโปลี
นาโปลี 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
บาเยิร์น มิวนิค 3-1 บียาร์เรอัล
บียาร์เรอัล 0-2 นาโปลี
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 บาเยิร์น มิวนิค
จากการแข่ง 6 นัดของ บาเยิร์นสามารถเก็บได้ถึง 13 แต้มจาก 18 แต้ม เข้ารอบด้วยคะแนนอันดับ 1 โดยอันดับที่ 2 เป็น นาโปลี ทีมดังจากอิตาลี โดยทีมเสือใต้ทำผลงานได้มาตรฐานไม่น่าห่วงแม้จะเจอกับทีมใหญ่ๆ
รอบน็อคเอาท์
ถึงกระนั้นงานของเสือใต้ก็ยังไม่หมดแค่นั้นรอบ 16 ทีมสุดท้ายเจอทีมม้ามืดอย่าง บาเซิล ก็เข้ารอบมาอย่างง่ายได้ แต่ก็เกือบเหวอหลังออกไปพ่ายมาก่อน 1-0 แต่ก็กลับมาขโยกอย่างมันส์เท้า 7-0 !! โหดมาก นัดนั้นได้ โกเมซ เหมาไป 4 ประตู เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยสกอร์รวม 7-1 รอบควอเตอร์ ไฟนอล ลูกทีมของ จุ๊ปป์ ไฮเกส มาพบกับทีมแกร่งจากฝรั่งเศสอย่าง มาร์กเซย เข้ารอบสบายด้วยสกอร์รวม 4-0 (0-2),(2-0)
มาถึงรอบซิมิ ไฟนอล ถือว่าเป็นอีก 1 แมตซ์หยุดโลกด้วยการเจอกับยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด แมตซ์นี้ค่อนข้างดราม่านะอย่างเลกแรก บาเยิร์นก็ได้ประตูสุดท้ายในช่วงทดเวลา เลกสอง มาดริดทำได้ดีกว่าในช่วงเวลาแรกหลังจากได้ประตูติดต่อกันจาก โรนัลโด้ และ ร๊อบเบน ก็สามารถทวงประตูคืนได้จากจุดโทษ ด้วยสกอร์ในเวลาจบที่ 2-1 แต่สกอร์รวมเสมอ 3-3 ทำให้ต้องแข่งต่อเวลาไปอีกจนยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ ซึ่งเป็นบาเยิร์ที่เฉียบขาดกว่าหลังผู้เล่น เรอลั มาดริด ยิงนก ตกปลา ได้ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก
CHELSEA
รอบแบ่งกลุ่ม
ในรอบแบ่งกลุ่มนั้นถือว่าเป็นการประเดิมของกุนซือป้ายแเดงอย่าง AVB (อังเดรส บิลยาส โบอาส) ซึ่งเป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงที่เสี่ยหมีดึงมาจาก ปอร์โต้ ที่ถือว่าทำผลงานเก่ากับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2010/11
งานแรกของเค้าในเวทีระดับยุโรปอย่างแชมป์เปี้ยนลีคนั้นทีมของเขาอยู่กรุ๊ป E ซึ่งประกอบไปด้วยทีมห้างยา บาเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, ทีมแกร่งจากสเปนค้างคาว บาเลนเซีย, และ เก๊งค์ ทีมแกร่งจากเบลเยี่ยม โดยเชลซีเข้ารอบด้วยคะแนนอันดับ 1 ทำไปได้ทั้งหมด 11 แต้ม ก็ต้องลุ้นจนนัดสุดท้ายอ่ะครับ เพราะเกือบจะไม่ผ่านเข้ารอบอยู่แล้ว ถือว่านัดสุดท้ายนั้นเป็นจุดเปลี่ยนเลย
เชลซี 2-0 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
KRC Genk 0-0 บาเลนเซีย
บาเลนเซีย 1-1 เชลซี
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 2-0 KRC Genk
เชลซี 5-0 KRC Genk
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 2-1 บาเลนเซีย
KRC Genk 1-1 เชลซี
บาเลนเซีย 3-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
บาเลนเซีย 7-0 KRC
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 2-1 เชลซี
KRC Genk 1-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
เชลซี 3-0 บาเลนเซีย
สถานการณ์ตอนแรกไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ โบอาสเริ่มต้นใน UCL อย่างสบายด้วยการเอาชนะ เลเวอร์คูเซ่นส์ไปได้ 2-0 แต่ทีมก็เป๋ไปนิดหน่อยเพราะแพ้ติดต่อกันในลีก แล้วก็มาถึงนัดที่ถล่มเก๊งค์ไป 5-0 ซึ่ง ตอเรส ระเบิดฟอร์มนัดแรกในซีซั่นนีเลยก็ว่าได้ จากนั้นทีมก็เริมดิ่งอย่างแท้จริงหลัง เสมอ แพ้ ติดต่อกัน จนมาถึงนัดสุดท้ายก็สามารถกู้ศรัทธาแฟนบอลมาได้
รอบน็อคเอาท์
ซึ่งถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากผ่านเข้ามาเหมือนกันนะ เพราะฟอร์มดำดิ่งเรียกว่าที่สุดแล้วจากการที่ไม่ชนะใครมา 6 นัดติดต่อกัน เชลซี ถูกจับมาเจอกับทีมโหดอย่าง นาโปลี ซึ่งถือว่าฟอร์มสวนทางกันเลยทีเดียว ก็เป็นไปตามคาดครับ บุกไปพ่าย 3-1 แต่ถึงกระนั้นฟอร์มก็ยังไม่ดีขึ้น ทำให้เจ้าของทีมอย่างเสี่ยหมีก็ไม่ทนอีกต่อไป สั่งปลด AVB ออกจากตำแหน่งแล้วให้ โรเบโต้ ดิมันเตโอ มือขวาของ AVB มาคุมขัดตาทัพชั่วคราว เนื่องจากปัญหากันภายในทีมระหว่างโค้ชกับนักเตะ
โรบี้ ประเดิมคุมนัดแรกใน UCL ได้สวยงามหลังถล่ม นาโปลี คืนไป 4-1 เรียนกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมาได้ หลังจากนั้นอะไรๆมันก็ดูดีไปหมด รอบต่อมาเจอ เบนฟิก้า ถือว่าสูสี แต่ก็ไม่มีปัญหานักเก็บสกอร์รวมไป 3-1 รอบซิมิ ไฟนอล ถือว่าเป็นแมตซ์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจเหมือนกัน เพราะเป็นการพบกับทีมอันดับ 1 ของโลกอย่าง บาร์เซโลน่า เจ้าของแชมป์ UCL 2011 ฤดูกาลที่แล้วนี้เอง
แมตซ์นี้ไม่ง่าย แต่ เชลซี ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดบ้านชนะไปก่อน 1-0 ในเลกแรก ด้วยแนวรับสุดแกร่งที่เรียกว่าแถบจะเอารถบัสมาขวางประตู เลกสอง บาซ่า สร้างความประหลาดใจเล็กน้อยด้วยการออกนำก่อน 2-0 พร้อมกับ เชลซีเหลือผู้เล่น 10 คนในสนาม มาถึงตรงนี้เป็นบาซ่า และไม่น่าจะพลาดอะไร แต่ก็เกิดเรื่องดราม่าขึ้นมาจนได้ ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก แลมพาร์ดส่งบอลไปให้ รามิเรส กระชากบอลไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูก่อนกระดกบอลข้ามหัวไปอย่างคลาสสิค สวยงาม แต่ดราม่านั้นมีภาคต่อหลัง บาร์ซ่า ได้จุดโทษแต่ เมสซี ยิงไม่เข้า!! (ทำให้ยังคงรักษาสถิติไม่เคยยิง เชลซี ต่อไป) ใกล้จะหมดเวลา บาร์ซ่า ยิ่งเร่ง ยิงโหมกระหน่ำอยู่ทีมเดียว เพื่อที่จะทวงประตูคืนให้ได้ไม่งั้นตกรอบ ทำเกมรุกอยู่ดีๆ เชลซี กันลูกเปิดของ บาร์ซ่า ได้บอลดูเหมือนจะเป็นใจ โบซิงวาโยนบอลตูมเดียวไปยังที่ว่างในสนาม เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ตอเรส อยู่ตรงนั้นพอดี ไม่มีใครหยุดเค้าได้หลังโซโล่ลากเดี่ยวครึ่งสนาม แตะบอลหลบ บัลเดส แล้วยิงไปอย่างสวยงาม เป็นประตูฝังที่หน้าจดจำของ ตอเรส มากๆ
วิเคราะห์สภาพทีม + เช็คความพร้อม
ผลการแข่งขัน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
รายชื่อนักเตะที่โดนแบนของทั้ง 2 ทีม (โดนเหลืองสะสมครบกำหนด)
บาเยิร์น : กุสตาโว, บาดส์ตูเบอร์, อลาบา
เชลซี : เทอร์รี่, อิวาโนวิช, รามิเรส, เมเรเลส
ถ้าไม่นับตัวเจ็บอีก ถือว่าเป๋ทั้งคู่ครับ ตัวหลักโดนแบนเกือบหมด อย่าง อลาบา, กุสตาโว ที่โชว์ผลงานได้โดดเด่นในนัดที่เจอมาดริด เชลซีตัวหลักอย่าง เทอร์รี, อิวาโนวิช ก็ไม่ได้ลง เคฮิล, ลุยซ์ ก็รอเช็คความฟิต โดยรวมถือว่าเสียหาย เรื่องตัวผู้เล่นผมให้สูสี แต่สปีดบอลของ บาเยิร์น จะดีกว่านิดนึง บาเยิร์น เป็นต่อกว่าเพราะ 10 ปีหลัง บาเยิร์น เข้าชิงบ่อยกว่า เชลซี ทำให้เหลื่อมกว่า เชลซี นิดนึง
สกอร์ที่ผมคาด เสือใต้ ชนะ 2-1
ยิงไม่น่าจะเยอะมาก 1-2 ลูก น่าจะตัดสินแชมป์ได้ โอกาสยื้อไปถึงช่วงต่อเวลามีเยอะเหมือนกัน
แถมคลิปบรรยากาศในสนามสดๆครับ เสียงกองเชียร์มันส์มากๆ อยากไปซักครั้งหนึ่งในชีวิตนะกับ
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เขียนเสร็จแล้วเย่ๆ *0*
นัดนี้หนูไม่ค่อยมั่นใจว่าบาเยิร์นจะชนะ หลังจากแพ้เสือเหลืองมาทำเอาใจเสียมากๆ
(นักเตะที่ถูกแบนนัดนั้นพร้อมใจกันหลุดฟอร์ม 5555)
บาเยิร์นชอบเล่นบอลชายเดี่ยว ถ้าปิดร๊อบเบรี่ได้นี่ท่าทางจะจบเลย
โกเมซจะผีสากเข้าสิงอีกไหมนัดนั้นเพราะใช้โอกาสเปลืองมาก
เชลซีที่กลัวก็ดร๊อกบานี่แหละ ดันมาท๊อปฟอร์มช่วงนี้
ตอร์เรสอีกคน เหมือนเจอตอร์เรสทีไรแพ้ตลอดอะเยอรมัน 555
มีลางสังหรณ์ว่าเชลซีจะชนะแม้บาเยิร์นจะเป็นต่ออยู่นิดๆ
ฟุตบอลลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้ กลัวเสือใต้แพ้คาบ้านมาก 
กลัวตำนานทริปเปิ้ลรองแชมป์แบบเลเวอร์+ยาวไปถึงได้รองแชมป์ทีมชาติ ไม่ไหวน๊า 55
อย่างที่บอกไปครับ ต่อให้บาเยิร์นฟอร์มบู่มาจากไหน นัดชิงบาเยิร์นก็จะเล่นแบบเดิมครับ หมายถึงเล่นด้วยฟอร์มที่คงเส้นคงวาเหมือนเดิม แมตซ์นี้น่าจะดวลกันที่กองกลางครับ และวัดเกมสวนกลับ ที่ถนัดทั้งคู่แต่ เชลซี คงแผ่วไปถ้าไม่มี รามิเรส อยู่ในสนาม พวกลูกตั้งเตะสองทีมนี้เน้นแน่นอน
พูดไม่ออกบอกไม่ถูกนะ สังเห่าว่า ตอเรส จะได้ลงก่อน แล้ว ดร็อกบา จะลงมาทีหลังเพื่อปิดฉากความยิ่งใหญ่ของตัวเอง ก่อนจะย้ายออกไปสิ้นฤดูกาลนี้
บทวิเคราะห์ส่วนตัว
รูปแบบการเล่น บาเยิร์นยังต้องแก้ไขในเรื่องของเกมส์รับอยู่ต่อไป เวลาโดนสวนกลับมาทีไร กองหลังหลังบาเยิร์นฯมักเอากองหน้าเร็วๆไม่ค่อยอยู่ การยืนตำแหน่งต่างๆยังไม่ดีพอ ส่วนมานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูฟอร์มยังไม่นิ่ง วันไหนเล่นดีก็เซฟกระจาย บางวันก็เล่นซะใจหายเพราะเซฟอะไรไม่ได้เลย
จุดเด่นของบาเยิร์นฯอยู่ที่กองกลางตัวรุกทั้งสามตัว ร็อบเบน,ริเบรี่ และ โทนี่ โครส เป็นหัวใจหลักของทีมอย่างแท้จริง เวลาเป็นฝ่ายทำเกมบุก แบ็กสองข้างจะคอยเติมขึ้นมาช่วย ทำให้เกมส์รุกดูน่ากลัวมาก ปัญหาอย่างเดียวในเกมส์บุกของพวกเขาคือกองหน้าตัวเป้าที่ไม่ค่อยคมเท่าไหร่ มาริโอ โกเมซยังไม่นิ่งมากพอ ตัวทีเด็ดสำรองยังมีโธมัส มุลเลอร์ คอยสแตนด์บายอยู่ข้างสนามและพร้อมลงมาสร้างความปั่นป่วนได้ตลอดเวลา
เชลซี
รูปแบบการเล่น เน้นเกมส์รับที่เหนียวแน่น อาศัยจังหวะโต้กลับเล่นได้น่ากลัว แต่สิ่งที่เชลซีต้องแก้ไขคือการเล่นเกมส์รุกที่ยังไม่แน่นอน เพราะถ้าส่งตอร์เรสลงมา ยังต้องเสี่ยงว่าตอร์เรสจะเข้าฟอร์มหรือไม่ แถมกองกลางตัวหลักต่างก็มาโดนแบนทั้งรามิเรสและราอูล เมยราเลส ต้องดูว่าใครจะลงมาแทน ถ้าเป็นเอสเซียงกับมิเกล น่าจะโอเคที่สุด แต่ต้องเดาใจดิ มัตเตโอว่าจะจัดทัพลงมาสู้อย่างไร และคนที่ลงมาแทนจะเล่นได้ดีแค่ไหน เพราะฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าเราไม่ค่อยได้เห็นเอสเซียงลงเล่นเ่ท่าไหร่
ความน่าจะเป็นของเกมส์นัดนี้
บาเยิร์นเหมือนจะได้เปรียบในเรื่องการเป็นเจ้าบ้าน แต่ถ้าในด้านความพร้อมและกำลังใจ ผมให้เชลซี รูปเกมส์น่าจะเป็นในแบบที่บาเยิร์นเปิดเกมส์บุกเข้าใส่เชลซีตั้งแต่วินาทีแรก แต่ด้วยเกมรับที่เหนียวแน่นของเชลซีบวกกับความสากของโกเมซ เชลซีน่าจะยันไว้ได้ จากนั้นบาเยิร์นจะเริ่มอึดอัด โดนเชลซีโต้กลับมาหนักๆ บาเยิร์นอาจถึงแพ้ได้ ผมมองว่าเชลซีมีเกมส์รับที่เหนียวแน่นกว่าบาเยิร์นฯ เกมโต้กลับของเชลซีดูมีประสิทธิภาพมากกว่า ส่วนบาเยิร์นฯกองหลังและประตูยังเล่นกันผีเข้าผีออก กองหน้าตัวเป้าก็ยังไม่คมพอ แถมกำลังใจตอนนี้ก็ตกเป็นรองเชลซี เพราะเพิ่งโดนดอร์ตมุนด์อัดมาเละเทะ 5-2 ในนัดชิงเดเอฟเบ โพคาล สิ่งเดียวที่บาเยิร์นได้เปรียบเชลซีคือการเล่นในบ้านของตัวเอง แต่ผมมองว่าเชลซีไม่ได้กลัวบาเยิร์นฯ เพราะการล้มบาร์ซ่าคาคัมป์นูในรอบรองชนะเลิศของเชลซีคงทำให้เชลซีคิดได้ว่า ไม่ว่าสนามไหนในโลกใบนี้ พวกเขาไม่แพ้กลับไปอีกแน่นอน
สรุป เชลซีอาศัยความคมของกองหน้าและความเหนียวแน่นของกองหลัง บดเอาชนะบาเยิร์นไปได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google