10 อันดับ “เทศกาล – ประเพณี”อันตรายจากทั่วโลก!! [[[อันดับ1 คือ??]]]

22 พ.ค. 55 00:12 น. / ดู 2,931 ครั้ง / 13 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
ประเพณี ในความหมายง่ายๆ ก็คือ เป็นกิจกรรมที่มีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมาอย่างนาวนาน จนเป็นเอกลักษณ์จนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทุกเชื้อชาติพวกเขามีประเพณี วัฒนธรรมเป็น ของตนเอง และบางประเทศก็มีเทศกาลประเพณีที่ไม่เหมือนใคร และที่น่าเหลือเชื่อ คือ บางประเพณีนั้นอันตรายแก่คนทำกิจกรรม ซึ่งอันตรายถึงขั้นตายได้ และรายการต่อไปนี้ คือประเพณีที่เป็นอันตรายที่ยังสืบทอดในยุคปัจจุบัน
10 New Years Dive – Siberia, Russia
ประเพณีดำน้ำปีใหม่ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ประเพณีนี้เริ่มขึ้นในปี 1982 โดยนักดำน้ำรัสเซียมักปฏิบัติกันในการดำน้ำทะเลสาบไบคาล ที่ไซบีเรียซึ่งมีความลึกถึง 5,390 ฟุต โดยพวกเขาจะตัดหลุมน้ำแข็งที่คลุมด้านบนออกและก็ดำน้ำลงไป เพื่อนำต้น ปีใหม่มาปลูก และนักดำน้ำจะเต้นรำรอบๆ ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายแต่ความจริงแล้วทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลกที่อยู่ ภายใต้น้ำแข็ง และเราคงไม่ต้องสาธยายความเย็นของมัน และนักดำน้ำต้องว่ายน้ำ โดยต้อง แบกอุปกรณ์ที่หนักร่วม 100 กก. ลงใต้น้ำ มันช่างเป็นนรกเยือกแข็งชัดๆ



9 Polar Bear Plunge

“หมีขั้วโลกกระโดด” เป็นงานที่จัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยผู้เข้าร่วมจะต้องลงกระโดดลง ในน้ำที่มีอุณหภูมิติดลบ ความจริงงานนี้จัดขึ้นทั่วโลก แต่จัดยิ่งใหญ่สุดอยู่ที่สวนสาธารณะ Sand Point รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกาประจำทุกปี เพื่อนำเงินสมทุบองค์กรการ กุศล โดยผู้ร่วมสมัครจะต้องเขียนสัญญา “หากตายจะไม่ฟ้อง” เนื่องจากการลงในน้ำที่เย็น จัดอาจทำให้คนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่นเป็นตะคริว หรือภาวะอัมพาต หรือตายได้ แต่ กระนั้นก็มีคนบางคนกล้าทำแบบนี้ ชมคลิปที่ http://www.youtube.com/watch?v=VXtZ........._embedded#at=62



8 Firework Battle – Chios, Greece

ถ้าคุณคิดว่าโบสถ์น่าเบื่อละก็ ขอบอกว่าคุณคิดผิด อย่างน้อยก็ไม่ใช้คนในเกาะชิออส ในประเทศกรีซแน่นอน เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีประเพณีที่สุดแสนเร้าใจ โดยทุกปีเมื่อถึงเทศกาล อีสเตอร์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ จะเตรียมการป้องกันบ้านเรือนของพวกเขาด้วยการ นำแผ่นโลหะมาปิดบังหลังคาและตัวบ้าน เพื่อป้องกันพลุไฟนับร้อยๆ ลูกที่อาจจะตกใส่บ้าน ของพวกเขา เพราะเมื่อถึงเวลาใกล้เที่ยงคืนของวันเสาร์ ก่อนถึงวันอีสเตอร์ของชาวออร์โธดอกซ์ ชาวบ้าน ที่โบสถ์ เซนต์มาร์กอส และโบสถ์ พานาเกีย เอริเธียนี่ จะระดมยิงพลุที่เตรียมไว้นับหมื่นลูก ใส่กันและกัน โดยระยะห่างระหว่างโบสถ์ประมาณหนึ่งกิโลเมตร เป้าหมายของพวกเขาคือ หอระฆังของโบสถ์ฝ่ายตรงข้าม แต่พลุที่พุ่งไปนั้นก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ แม้ว่าภาพที่เห็นจะดูน่าตื่นตาตื่นใจจากแสง พลุในยามค่ำคืน แต่ก็มีอันตรายมาก บ่อยครั้งที่พลุตกในพุ่มไม้หรือบ้านเรือน จนทำให้เกิด ไฟลุกลาม ด้วยเหตุนี้ หน่วยดับเพลิงต้องเตรียมพร้อมตลอดคืน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ฉุกเฉิน ประเพณีนี้มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ยุคที่กรีซอยู่ในอาณาจักรออตโตมันเมื่อศตวรรษที่ 19 ตำนาน หนึ่งเล่าขานกันว่า กลาสีเรือได้ยิงปืนใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ทำให้ทหาร ออตโตมันสั่งยึดปืนใหญ่ทั้งหมด เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะใช้ปืนใหญ่มาใช้ก่อการกบฏ ชาว บ้านจึงต้องหันไปใช้พลุยิงเฉลิมฉลองแทน ในอดีตเทศกาลนี้ทำให้เกิดไฟไหม้ได้สร้างความ เสียหายต่อบ้านเรือนและมีแม้กระทั้งคนเสียชีวิต แต่ประเพณียังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าโบสถ์ ทั้งสองแห่งจะถูกถล่มด้วยพลุจำนวนมาก แต่ภายในโบสถ์ก็ยังคงประกอบพิธีมิสซากันตาม ปกติ ส่วนตำรวจก็ต้องปิดเส้นทางถนนระหว่างโบสถ์ทั้งสองไว้ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมเทศกาลนี้ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ยังไม่มีผู้ใดได้รับ บาดเจ็บจากสงครามพลุบนเกาะไคออส เพราะทางการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ค่อนข้างรัดกุม รวมทั้งมีการเปิดสัญญาณไซเรนในพื้นที่ ก่อนที่การยิงพลุจะเริ่มขึ้น เพื่อเตือน ให้ทุกคนหลบอยู่แต่ในที่ปลอดภัย (แนะนำให้ดูคลิปเพราะอย่างกับสงครามโลกอย่างงั้นแหละ) ชมคลิปที่ http://www.youtube.com/watch?v=_Pij.........feature=channel ...



7 Baby Dropping Ritual – Solapur, India

“เทศกาลโยนทารก” เป็นเทศกาลของชาวอินเดียในเมืองโชลาปูร์ ประเทศอินเดีย โดยชาวฮินดูและชาวมุสลิมจัดพิธีกรรมโยนเด็กๆ อายุประมาณ 2 ขวบ รวบมือและเท้า เขย่า ตัวในอากาศก่อนโยนลง จากที่สูงจากชั้นบนของหลังคาสุเหร่าบาบา อูเมอร์ ดูร์กา ซึ่งมีความ สูงกว่า 15 เมตร ลงมายังผ้าที่มีเหล่าผู้ใหญ่ชายหนุ่ม 14 คน ขึงรับอยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นประเพณี ที่ปฏิบัติกันมานานเกือบ 700 ปี ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้เด็กสุขภาพดี และนำโชคดีมาสู่ ครอบครัว ทั้งยังเป็นการแก้เคล็ดเนื่องเด็กอินเดียมีอัตราเสียชีวิตสูง โดยเด็กแต่ละคนกรีดร้องเสียงหลงอย่างเสียขวัญ ด้านผู้จัดงานครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีเด็กคนใด ได้รับบาดเจ็บแต่นักสิทธิมนุษยชนเห็นว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงที่จะป้องกัน การกระทำนี้ที่เสี่ยง ต่อสุขภาพของเด็ก ปล่อยให้ชาวบ้านทำเรื่องที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล



6 Cooper’s Hill Cheese-Rolling – Gloucester, England

เทศกาลกลิ้งชีส (ดูแล้วเหมือนเทศกาลกลิ้งคนมากกว่า) เป็นเทศกาลที่จัดบนเนินเขาคูเปอร์ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองเชลเท่นแฮม และกลูเชสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ ในวันจันทร์สุดท้ายของ เดือนพฤษภาคม ตอนเที่ยง โดยเทศกาลนี้มีประวัติเก่าแก่ถึง 200 ปี โดยพวกเขาจะกลิ้งชีส ก้อนกลมโตที่เรียกว่า Double Gloucester Cheese ลงมาจากบนเนินเขา โดยคนที่วิ่งตามลง มาเก็บได้ก่อนจะได้รับชีสนั้นกลับบ้านไปเป็นรางวัล ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่ความจริงมันไม่ง่าย เลย เพราะว่าชีสที่กลิ้งลงเขานั้นเร็วมากประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ไม่มีทางเลย ที่คนจะวิ่งลงเขาจะเก็บชีสนี้ได้ทัน ดังนั้นวิธีที่เอาชนะได้ก็คือ วิ่งตามชีสจนถึงตีนเขา และเก็บมันเท่านั้นถึงจะเป็นผู้ชนะ อีกทั้ง การวิ่งลงเนินเขานั้นมันก็ไม่ง่ายเลย ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะกลิ้งลงมาจากเนินเขาอย่างทุลัก ทุเล บางคนถึงกับตีลังกาหลายสิบตลบก็มีกว่าจะมาถึงตีนเขา แม้มีคนกลิ้งลงเขาจะบาดเจ็บ แต่กระนั้นก็ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างมากก็ข้อเท้าเคล็ด และกระดูกหักนิดหน่อย ปัจจุบันเทศกาลนี้โด่งดังมากจนนักท่องเที่ยวหลายประเทศต่างเข้าร่วมหลายร้อยคนมา ท้าทาย ชมคลิป http://www.youtube.com/watch?v=KOyQ.........player_embedded



5 Onbashira – Japan

เทศกาลเสาเกียรติยศหรือเทศกาลแห่งความกล้าหาญ เป็นเทศกาลในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในรอบหกปี (ในปีขาลและปีวอกตามปฏิทินราศีของจีน) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมและครั้งที่สองในเดือนเมษายน โดยส่วนที่เป็นอันตรายของ เทศกาลคือชาวบ้านจะเข้าไปในป่าแล้วตัดต้นไม้ใหญ่มาจากภูเขาแล้วใช้เชือกมัดกับต้นไม้ จากนั้นพวกเขาก็ลากเชือกพร้อมต้นไม้ลงจากภูเขา เพื่อสร้างอนุสรณ์รอบๆ ทั้ง 4 มุมของ ศาลเจ้า Suwa Taisha Shrine โดยเทศกาลนี้มีเหล่าคนหนุ่มซึ่งมีความกล้าหาญจาก 6 หมู่บ้านในแถบเมืองซุวะ ร่วม 210,000 คน เข้าร่วมงานเทศกาลศักดิ์สิทธ์แห่งนี้ ส่วนที่มาของเทศกาลนี้ไม่มีใครทราบ แต่จากหลักฐานจากภาพวาดเขียนไดเมียวจินซุวาโกะในสมัยมุโรมาชิ พบว่าจักรพรรดิในสมัย เฮอัน (ปี 781-806) ได้มีรับสั่งให้สร้างศาลเจ้าในปีเสือและวอก จึงว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิด ของเทศกาลซึ่งหลายคนบอกว่านี้เป็นเทศกาลแห่งความกล้าหาญ แต่ก็มีรายงานผู้ได้รับ บาดเจ็บและเสียชีวิตในขณะเข้าร่วมเทศกาลมากมายหลายราย ชมคลิปที่ http://www.youtube.com/watch?v=LuvX.........player_embedded ...



4 Christmas Trees

หลายคนทั่วโลกที่นับถือคริสต์มักจัดเทศกาลคริสต์มาสในเดือนธันวาคมด้วยการซื้อต้นไม้ สดหรือต้นไม้เทียมเพื่อจัดตกแต่งงานคริสต์มาสในบ้านของพวกเขา จนกลายเป็นสัญลักษณ์ ที่ขาดไม่ได้ในวันสำคัญนี้ไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตามในช่วง 2003-2006 มีกรณีถึง 240 ราย ที่ไฟไหม้บ้านซึ่งเกิดขึ้นทุกปีโดยต้นเพลิงมาจากต้นคริสต์มาส โดยจากสถิตของสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติพบว่า โดยเฉลี่ยมีผู้เคราะห์ร้าย 16 ราย เสียชีวิตเพราะไฟไหม้ และ 25 รายได้รับบาดเจ็บในแต่ละปี แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดไฟลุก ต้นคริสต์มาสจะยาก แต่เมื่อเกิดขึ้นก็ก่อให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงที่ยากจะป้องกันได้ ชมคลิปที่ http://www.youtube.com/watch?v=o2dN.........player_embedded



3 Female circumcision

การขริบอวัยวะเพศหญิง หมายถึง การตัดส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด หรือทำอันตราย ต่ออวัยวะเพศภายนอกของสตรีไม่ว่าจะเป็นการกระทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพื่อการรักษาพยาบาล โดยประเทศที่มีประเพณีนี้ก็มีอียิปต์ ซีดาน มาลิ และเอธิโอเปีย โดยมีความเชื่อที่ว่าผู้หญิง ที่ไม่ได้ขริบอวัยวะเพศอาจมีอารมณ์ทางเพศเมื่อออกไปข้างนอก จนอาจไปขืนใจผู้ชายได้ จึงต้องตัดต้นตอจุด ที่ถือว่าไวต่อความรู้สึกทางเพศนั้นทิ้งเสีย ขั้นตอนเหล่านี้ กระทำโดย การเฉือนอวัยวะเพศด้านนอกบางส่วน หรือทั้งหมด และเย็บรวมไว้ด้วยกัน โดยเหลือช่องเล็กๆ ไว้สำหรับให้เลือดประจำเดือน และปัสสาวะไหลออกมาได้เท่านั้น วิธีการเหล่านี้ทำให้นำไปสู่ความตายจากความเจ็บปวดสุดแสนสาหัส หรือเลือดตกในมากไป เนื่องจากไม่มีการใช้ยาชา นอกจากนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ผ่านการขริบอวัยวะเพศมักจะมีปัญหา ด้านสุขภาพหลายประการ รวมถึงการการตกเลือดอย่างรุนแรงถึงขั้นตายได้ โดยจากการคาด การขององค์การอนามัยโลกพบว่าผู้หญิงที่ผ่านพิธีนี้ 1/3 จะตายเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ



2 Running of the Bulls – Pamplona, Spain

เทศกาลซานเฟอร์มิน เป็นเทศกาลที่เริ่มจัดขึ้นในปี 1910 ที่เมืองปามโปลน่า ประเทศสเปน เป็นที่รู้จักในชื่อเทศกาลวิ่งวัวกระทิง จัดขึ้นเป็นประจำตั้งแต่วันที่ 7-14 กรกฎาคมของทุกปี ใน 8 วันของเทศกาล 9 วัน จะมีผู้คนจำนวนมากทั้งใน และต่างประเทศเดินทางมาเข้าร่วม แออัด ในถนนของเมืองถูกสร้างสิ่งกีดขวางไว้ คนที่ร่วมแข่งขันแต่งชุดพื้นเมืองสีขาว ผูกผ้า คลุมเอวและผ้าพันคอสีแดง เพื่อรอสัญญาณเตรียมวิ่งหนีการไล่ขวิดของวัวกระทิงที่ถูกปล่อย ออกมาหกตัว ให้วิ่งอุตลุดไปตามถนนแคบๆ การแข่งขันกินเวลาเพียง 2-3 นาที แต่ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บเป็นร้อย และมีผู้เสียชีวิตเกิน โหลทุกวัน จะมีการปล่อยวัวกระทิงไปจนถึงวันสุดท้ายของเทศกาล และระยะทางการวิ่งจะอยู่ ที่ประมาณ 846 เมตร โดยมีเวลาวิ่งเฉลี่ยตั้งแต่จุดเริ่มไปจนถึงเส้นชัยประมาณสามนาที วัวจะ วิ่งจากคอกไปจนถึงสนามสู้วัวกระทิงที่พวกมันจะต้องสู้กับนักสู้วัวกระทิงในตอนบ่ายวันเดียว กัน และปัจจุบันมีกลุ่มคนที่ต่อต้านเทศกาลนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมองว่าเป็นการทารุณ กรรมสัตว์ http://www.youtube.com/watch?v=DHO1.........player_embedded



1 College Hazing

ประเทศไทยมักพูดบ่อยๆ ว่าประเพณีรับน้องโหดๆ นั้นประเทศเรามีเจ้าเดียวในโลกที่ทำแบบ นี้และโหดที่สุด ก็ขอบอกว่าผิดครับ ประเพณีรับน้องโหดนี้มีอยู่ทั่วโลก เราเรียกประเพณีเหล่านี้ ว่า College Hazing มีความหมายว่าพิธีกรรมหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ล่วงละเมิดหรือทำให้ผู้เข้า ร่วม อัปยศอดสู่ เช่น เปลือยกาย โดยพิธีกรรมเหล่านี้พบในรูปแบบแตกต่างกันในสังคมกลุ่ม เช่น คลับ, ทีมกีฬา, หน่วยทหาร, สถานที่ทำงาน, สถานศึกษา พบมากในอเมริกาและแคนาดา เชื่อว่าประเพณีการรับน้องมี รากเหง้ามาจากทวีปยุโรปในสมัยกลางประมาณ 700 ปีก่อน โดยเชื่อว่าน้องใหม่ที่เข้ามาเรียน ในมหาวิทยาลัยยังขาดการศึกษาไม่เป็นอารยะชนต้องผ่านการขัดเกลาด้วยความลำบากก่อน ที่จะได้รับชีวิตใหม่ที่ดีในมหาวิทยาลัย เพื่อให้รู้จักประพฤติตัวให้เหมาะสมก็จะถูกบังคับให้ใส่ ชุดแปลกๆ ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกเล่นตลกที่หยาบคายหรือรีดไถเงินหรืออาหารมื้อเย็น สองร้อยปีต่อมาระบบนี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วยุโรป แต่ว่าเป็นระบบที่อันตราย มีการบันทึกในเรื่องคนเจ็บ และคนตายจนผู้ปกครองนักศึกษา หวาดกลัวประเพณีนี้มาก ปัจจุบันพิธีกรรมเหล่านี้ผิดกฎหมาย เนื่องจากทำให้ผู้เข้าร่วม กิจกรรมเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ ส่วนภาพข้างบนคือภาพพิธีรับน้องใหม่ที่บังดุง ประเทศอินโดนีเซีย และสามารถชมคลิปรับน้องจากทั่วโลกได้คลิปข้างล่าง http://www.youtube.com/watch?v=wSKd.........embedded#at=384
แก้ไขล่าสุด 22 พ.ค. 55 00:13 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | มะเรียไค.EXO | 22 พ.ค. 55 01:46 น.

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | THECLOCK_} | 22 พ.ค. 55 03:07 น.

รับน้อง ที่1!!

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | ~แม่มดน้อย~la-la-la | 22 พ.ค. 55 10:17 น.

ผิดคาดมากๆในอันดับที่ 1 O_O
แต่เราเราประเพณีขริบของตรงนั้นของผู้หญิงนี่ แอบรับไม่ได้อย่างมากถึงมากที่สุด -*-
ไม่ไหวนะ **การโยนเด็กก็อีก ถ้าเรามีลูกแล้วเอาลูกเราไปโยนอย่างนั้น
คงหัวใจวายตายก่อนอ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | Airventure (ไม่เป็นสมาชิก) | 22 พ.ค. 55 11:00 น.

น่ากลัวไปมั๊ยเนี่ย!!

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | 'saiynsh. | 22 พ.ค. 55 12:01 น.

ผิดคาด

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | สาธารณะ | 22 พ.ค. 55 12:26 น.

8 ไฟไหม้ทำไง

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | ..JeANssiNca.. | 22 พ.ค. 55 13:03 น.

อันที่ 3 เพราะกลัวผู้หญิงไปขืนใจผู้ชาย

เอ่อ..อ่ะนะ

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | soblanc. | 22 พ.ค. 55 16:08 น.

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | SZiDนี้ไร้การศึกษา | 23 พ.ค. 55 22:47 น.

ไฟไหม้เร็วมาก แค่ 30 วิ 

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | _พี่หมู | 24 พ.ค. 55 08:36 น.

รับน้อง O.O

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | IXCVI | 24 พ.ค. 55 08:46 น.

รับน้องสยองขวัญ

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | 13windows | 24 พ.ค. 55 19:28 น.

ไม่ไหวนะ มันโหดเกินไป =_________=

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | `sb|oy.palm | 26 พ.ค. 55 22:40 น.

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google