การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น

5 มิ.ย. 55 21:53 น. / ดู 1,220 ครั้ง / 2 ความเห็น / 3 ชอบจัง / แชร์
  มุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่น
  Japanese Muslim praises his religion
โดย Yasunori Kawakami, Asahi
แปลโดย วาริษาฮ์ อัมรีล
http://www.newmuslimthailand.com/main/index.php

  สำหรับชายญี่ปุ่นวัยกลาง 30 ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
มาก่อนเลยอย่าง อิบราฮิม (เคน) โอกุโบ (Ibrahim Ken Okubo) แล้ว
การเริ่มงานอาชีพใหม่เป็นวิศวกรระบบนี้ช่างยากเย็นแสนเข็ญเสียจริง

โอกุโบผ่านการสัมภาษณ์ถึง 35 แห่งในช่วง 6 เดือนกว่าจะได้งานทำ

ระหว่างนั้น มุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้รับการสนับสนุนจากมุสลิมต่างชาติ
ที่เขาเจอที่มัสยิด มุสลิมต่างชาติเหล่านี้ช่วยโอกุโบเท่าที่จะทำได้
บางคนก็แนะนำงานใหม่ให้

"ในอิสลาม เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้มุสลิมช่วยเหลือคนที่ประสบทุกข์ยาก
ชาวมุสลิมเหล่านี้ไม่ได้ต้องการอะไรจากผมเป็นการแลกเปลี่ยน
ผิดกับประเพณีปฏิบัติของชาวญี่ปุ่น" โอกุโบกล่าว

"ความคิดของชาวมุสลิมก็คือ เมื่อเราช่วยคนอื่น พระเจ้าก็จะประทานรางวัล
ให้เราเอง ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นมักคิดว่าตัวเองไม่มีใคร
เมื่อเจอความทุกข์ไม่รู้จะหันไปหาใคร"

ช่วงอายุ 20 ปีโอกุโบให้ความสนใจกับวัฒนธรรมต่างชาติ
เขาเริ่มเข้าเรียนวิชาภาษาอารบิกที่อิสลามมิกเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นที่ย่านเซตากายา
กรุงโตเกียว

ในที่สุดเขาได้พบกับกลุ่มจามาอาตับลีก มิชชันนารีเผยแพร่อิสลามจากปากีสถาน

"ผมรู้สึกประทับใจกับความตั้งอกตั้งใจของพวกเขาในขณะที่ละหมาด
กราบไหว้พระเจ้า และความมีไมตรีจิตของพวกเขา" โอกุโบกล่าว



"ความคิดของชาวมุสลิมก็คือ เมื่อเราช่วยคนอื่น พระเจ้าก็จะประทานรางวัล
ให้เราเอง ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นมักคิดว่าตัวเองไม่มีใคร
เมื่อเจอความทุกข์ไม่รู้จะหันไปหาใคร"

ช่วงอายุ 20 ปีโอกุโบให้ความสนใจกับวัฒนธรรมต่างชาติ
เขาเริ่มเข้าเรียนวิชาภาษาอารบิกที่อิสลามมิกเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นที่ย่านเซตากายา
กรุงโตเกียว

ในที่สุดเขาได้พบกับกลุ่มจามาอาตับลีก มิชชันนารีเผยแพร่อิสลามจากปากีสถาน

"ผมรู้สึกประทับใจกับความตั้งอกตั้งใจของพวกเขาในขณะที่ละหมาด
กราบไหว้พระเจ้า และความมีไมตรีจิตของพวกเขา" โอกุโบกล่าว

จากนั้นเขารับอิสลามและใช้ชีวิตในปากีสถาน 4 เดือนเต็ม
เพื่อเดินทางเผยแพร่ศาสนา


ในปัจจุบัน มีมัสยิด 7 แห่งในญี่ปุ่นที่เป็นของพวกจามาอาตับลีก
โอกุโบเป็นหนึ่งในชาวญี่ปุ่นไม่กี่คนที่อยู่ในกลุ่มนี้

ตอนนี้โอกุโบอายุ 41 แล้ว ทำงานเป็นวิศวกรระบบในโตเกียว
เขาเป็นที่รู้จักดีของชาวปากีสถาน บังกลาเทศ และมุสลิมต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น

ตอนโอกุโบเข้าทำงานวันแรก เขาบอกหัวหน้างานว่าเนื่องจากเขาเป็นมุสลิม
ดังนั้นจึงจะไม่ออกไปดื่มเหล้าหลังเลิกงาน และต้องละหมาดในช่วงเวลางาน
หัวหน้าเขาโอเค โอกุโบเลยละหมาดสองหนในช่วงบ่ายที่ห้องกิจกรรมพนักงานบริษัท



ความสัมพันธ์ของชาวมุสลิมต่างชาติกับชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมีจำกัด
แต่ก็เริ่มมีมากขึ้นในที่ทำงาน ซึ่งเมื่อชาวญี่ปุ่นได้รู้จักชาวมุสลิมแล้ว
พวกเขามักรู้สึกว่าชาวมุสลิมเป็นพวกที่ใจคอมั่นคง ยอมรับในพระประสงค์ของพระเจ้า
ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากหันมารับอิสลาม

ฮิโรมาซา โอกาวารา, พนักงานบริษัทวัย 35 จากไซตามะ,
ได้รู้จักกับชาวมุสลิมตอนเรียนจบไฮสกูล เขาเข้าทำงานในบริษัทการพิมพ์
และได้เจอกับเพื่อนร่วมงานชาวปากีสถาน ต่อมาโอกาวาราก็รู้สึกทึ่ง
ในการใช้ชีวิตของเพื่อนคนนี้

"เขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก และมองโลกในแง่ดีเสมอ" โอกาวารากล่าว

โอกาวาราคบกับเขาเป็นเพื่อน ช่วยดูแลลูกให้หรือไม่ก็เป็นเพื่อนช้อปปิ้ง
จนท้ายที่สุดก็มากลายเป็นศิษย์

โอกาวาราหันมารับอิสลามเมื่อ 8 ปีก่อน

"ทุกวันนี้ ในญี่ปุ่นคนไม่ค่อยมีความอดทน เจอคนพูดไม่ถูกหูหน่อยก็โมโห
แต่ในโลกอิสลามแล้วชีวิตผ่อนคลายกว่าตั้งเยอะ" เขากล่าว

จำนวนชาวญี่ปุ่นมุสลิมไม่แน่ชัดนัก ทางสมาคมมุสลิมญี่ปุ่นคาดว่า
น่าจะมีราว 7,000-10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่แต่งงาน
กับชาวมุสลิมต่างชาติที่มาทำงานในญี่ปุ่น



นัสรุลลอฮ, ชาวอินเดียนมุสลิมวัย 49, เปิดร้านขายอาหารเอเชียที่ชินจูกุ โตเกียว
และแต่งงานกับสาวญี่ปุ่นเมื่อ 16 ปีก่อน

"ชาวญี่ปุ่นเป็นคนดี แต่แคร์ความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไป
อย่างภรรยาผมบางครั้งก็มัวสนใจเรื่องโรงเรียนหรือไม่ก็เก็บขยะ
ทำให้เลยเวลาละหมาดไป" นัสรุลลอฮกล่าวยิ้มๆ

จำนวนชาวมุสลิมในญี่ปุ่นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเป็นนักธุรกิจ
วิศวกรคอมพิวเตอร์ และผู้เชี่ยวชาญ
การที่ชาวญี่ปุ่นเข้าใจอิสลามจะเป็นกุญแจสำคัญ
ในความก้าวหน้าในด้านการเมืองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นด้วย



ที่มา: Japanese Muslim praises his religion. Asahi: Japan. 5 April 2007.



อัสลามุอลัยกุม

    เพิ่งกลับจากนากาซาคิ มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง อัลฮัมดุลลิ้ลลอฮ์

ก่อนไปก็สองจิตสองใจ เพื่อนที่ไม่ใช่มุสลิมชวนไปเที่ยวเมืองอื่น
ที่ผ่านมาก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนแผน ลองไปออกตับลีฆบ้าง
อัลฮัมดุลลิ้ลลอฮฺ สนุกมาก ได้แง่คิด มุมมองที่มีคุณค่าต่อศาสนาคงอธิบายไม่หมด

ได้รู้จักพี่น้องมุสลิมจากหลากหลายปรเทศ ได้รับรู้ปัญหาของเขา
และช่วยกันแนะนำแก้ไขเท่าที่เราทำได้ อย่างน้อยได้บอกให้รู้ว่า
เขาไม่ได้โดดเดี่ยว แล้วเราก็ไม่โดดเดี่ยว

ไปกัน 7 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยคิวชู ขับรถไปเอง
นากาซาคิอยู่ห่างจากฟูกูโอกะไปทางใต้ ประมาณ 170 กม.
เราเดินทางไปเยี่ยมนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนากาซาคิเป็นหลัก
ได้เจอพี่น้องจากหลากหลายชาติ ลิเบีย, อียิปต์, ซูดาน, บังคลาเทศ,
อัฟกานิสถาน เป็นต้น ทุกคนมาร่วมกับเรามาพูดคุยกันเกี่ยวกับความเป็นอยู่
วิถีชีวิต การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่น และการยืนหยัดบนแนวทางอัลอิสลาม
อัลฮัมดุลิ้ลลอฮฺ พี่น้องมุสลิมที่นี่มีอีหม่านเข้มแข็ง
พวกเขารวมตัวกันละหมาดวันศุกร์ในมหาวิทยาลัย ประมาณ 35 คน
พวกเขาดีใจที่ญามาอัตเราไปเยี่ยม ทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่
และความเป็นหนึ่งเดียว

อยากกินข้าวหมกไก่มาก ไปออกญามาอัตคราวนี้ เลยได้กินข้าวหมกทุกมื้อเลย!!! 
ไปพักที่นากาซาคิหนึ่งคืน ที่อพาร์เม็นต์ ของพีน้องมุสลิมเรา
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอพักนักศึกษา ทำให้ง่ายในการไปเยี่ยมพี่น้อง
เวลาเดินฆัสก็สนุกดีครับ ได้บรรยากาศแปลกๆ ปกติเราจะกล่าวสลามทักทายพี่น้อง
แต่ที่นี่เราทักด้วยคำว่า คอนนิจิวะ!!! เพราะรอบๆ ที่พักมีแต่ชาวญี่ปุ่น
ไม่มีบ้านมุสลิมเลย อัลฮัมดุลิ้ลลอฮฺ อามีรบอกว่า
แค่คำทักทาย จากการแต่งกาย อัคลาค ที่ชาวญี่ปุ่นเห็น
ให้เขาได้รู้ว่าอิสลามมาแล้วนะ ยังดีกว่าที่เขาไม่เคยเจอมุสลิมเลยทั้งชีวิต

เพราะส่วนใหญ่เขาจะรู้เกี่ยวกับอิสลามตามสื่อเท่านั้น
เขาไม่เคยเห็นมุสลิมตัวเป็นๆ เดินผ่านหน้าบ้าน ทักทาย ยิ้มกับเขา

อย่างไรก็ตามด้วยความอ่อนแอของเรา เราต้องพยายามเสียสละมากขึ้น
เพราะการเสียสละของเราจะดึงฮิดายัตจากอัลลอฮฺตาอาลา อามีน

วันนี้หลังละหมาดดุฮฺริได้แวะไป Peace park เป็นบริเวณจุดศูนย์กลาง
ที่ atomic bomb ถูกหย่อนลง ไปดูพิพิธภัณท์ที่เก็บเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
สิงหาคม วันที่ 9 เวลา 11.02 นาฬิกา ระเบิดถูกหย่อนที่นากาซากิ
ระเบิดไม่ได้ตกถึงพื้น แต่ระเบิดกลางอากาศ 500 เมตรเหนือพื้นดิน

ดังนั้นจึงเรียกจุดศูนย์กลางบนพื้นดินว่า hypocenter ประมาณ 74,000
คนเสียชีวิตทันทีในพริบตา และอีก 74,000 คน ต้องทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บ
ภายในรัศมีการทำลายล้างหนึ่งกิโลเมตร ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลาย 100 %

รัศมีการทำลายค่อยๆ ลดระดับลง ขยายขอบเขตไปถึง 4 กิโลเมตร ในทุกทิศทาง

อัลลอฮุอักบัร แต่วันนี้อิสลามได้ไปถึงที่ ณ ใจกลาง atomic bomb แล้ว

แต่เราเอาศาสนาของอัลลอฮ์ไปหย่อนแทนนิวเคลียร์ อินชาอัลลอฮ์
ฮิดายัตจากอัลลอฮ จะแผ่ขยายไปไกลกว่านิวเคลียร์ อามีน

วันนี้เราไปเดินฆัสที่ใจกลางที่ทิ้งนิวเคลียร์ ไปทักทายคอนนิจิวะ กับชาวญี่ปุ่น
เราได้มีโอกาสพูดคุย พูดถึงอัลลอฮฺ ให้เขารู้จัก

บางคนก็เข้ามาถาม มาพูดคุยกับเราเอง อามีรก็ไปแวะซื้อไอติม
แล้วสอนคุณป้าชาวญี่ปุ่น ให้เขากล่าวกาลีมะและแปลความหมายเป็นญี่ปุ่นให้เข้าใจ

เวลาเรากลับ เขาก็ดักรอโบกมือบายบายเรา อัลฮัมดุลิลลอฮฺ
วันนี้เราทำกันได้เท่านี้ ด้วยเวลาที่จำกัด เพราะต้องรีบเดินทางกลับมาทำงาน
ในเช้าวันจันทร์ เรายังอ่อนแอและห่างไกลจากการเสียสละของนาบี
และซอฮาบะมากมาย อินชาอัลลอฮฺเราจะพยายามมากขึ้น มากขึ้น

ไปครั้งนี้อีหม่ามฟูกูโอกะมัสยิดไปกับเราด้วย อีหม่ามเพิ่งรับอิสลามได้สองปี
แต่ด้วยความมุ่งมั่น และมั่นใจในศาสนาของอัลลอฮฺ เขาจึงยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง

ตอนนี้มีห้าญามาอัต กำลังทำงานในญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้
ได้แก่ ญามาอัตจากแอฟริกาใต้, ปากีสถาน, มาเลเซีย, ดูไบ และนิวซีแลนด์
ปลายสัปดาห์นี้ญามาอัตดูไบจะมาทำงานที่ฟูกูโอกะ อินชาอัลลอฮฺ
หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาเล่าสู่กันฟัง

โดยคุณ Ishak
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | AngelSlayer | 5 มิ.ย. 55 23:23 น.

แปลกดี เพราะเกิดมายังไม่เคยเหนรูปคนญี่ปุ่นแท้ๆ ห่มแบบมุสลิส เพิ่งเห็นวันนี้

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | ยูสนี้มีแต่คนยืม | 6 มิ.ย. 55 11:26 น.

โอ้ เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน(บ้านเราก็เป็นอิสลาม)

ใส่ชุดญี่ปุ่นแล้วคลุมผม เก๋ไปอีกแบบแหะ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google