สมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ ฉบับฟื้นคืนชีพ วันนี้ขอเสนอ Foo Fighters

13 ก.ค. 55 19:32 น. / ดู 2,345 ครั้ง / 10 ความเห็น / 4 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีครับ ห่างหายกันไปเกือบปีสำหรับการเขียนกระทู้แนะนำศิลปินร็อคของสมาคมคนพันธุ์ร็อค SZ โดยฝีมือของผม หายไปไหนกันบ้างนั้น เอาไว้ค่อยคุยกันในช่วงท้ายของกระทู้นี้ครับ ตอนนี้ไปพบกับวง Foo Fighters กันก่อน


Foo Fighters

Introduction
Foo Fighters วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคจากซีแอ็ตเติล ก่อตั้งวงขึ้นมาในปี 1994โดย Dave Grohl มือกลองของวง Nirvana ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่เคิร์ท โคเบน มือกีต้าร์+นักร้องนำวง Nirvana เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตัวเดฟ โกรห์ลเองก็มีปัญหากับเคิร์ท ถึงขั้นที่เดฟต้องลาออกจาก Nirvana เลยทีเดียว โดยชื่อวง Foo Fighters นี้ มีที่มาจากจานบินยูเอฟโอ หรือปรากฏการณ์แปลกประหลาดต่างๆบนท้องฟ้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ถูกรายงานโดยกองทัพอากาศฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งจานบินและปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เค้าเรียกกันว่า Foo Fighter
ช่วงแรกเริ่ม
เดฟ โกรห์ลเริ่มเขียนและแต่งเพลงเองตั้งแต่ที่เค้ายังเป็นมือกลองให้กับวง Nirvana ในช่วงที่เคิร์ท โคเบนยังมีชีวิตอยู่ เดฟมักจะถูกกดดันจากเคิร์ทเป็นประจำ ทำให้เดฟอึดอัดและต้องคอยแอบแต่งเพลงเองโดยไม่ให้คนอื่นรู้ เค้าบอกว่า เค้าตัดสินใจถูกที่ไม่ยอมบอกเรื่องเพลงที่เค้าแต่งเองให้ใครในวง Nirvana ทราบ เดฟมักจะชอบแอบไปซ้อมเพลงของเค้าเองในสตูดิโอและบันทึกเสียงลงเทปคาสเซ็ตต์เพื่อออกจำหน่าย โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า Pocketwatch และใช้นามแฝงของศิลปินว่า Late! ซึ่งออกวางแผงในปี 1992 หลังจากที่เคิร์ท เสียชีวิตในวันที่ 5 เมษายน 1994 วง Nirvana ก็ถูกยุบ ตัวเดฟเองก็ถูกวงดนตรีอื่นๆเข้ามาทาบทามให้ไปเป็นนักดนตรีให้กับวงอื่นๆ ซึ่งเค้าเองก็เกือบที่จะตกลงเป็นมือกลองถาวรให้กับวง Tom Petty And The Heartbreakers แต่สุดท้ายแล้ว เดฟตัดสินใจที่จะเดินหน้าบันทึกเสียงเพลงที่เค้าแต่งเอง เค้าได้ทำการบันทึกเสียงเพลงของเขาเองจำนวน 15 เพลงจากทั้งหมด 40 เพลงที่มีอยู่ในคลังเพลงของเขา ซึ่งการบันทึกเสียงทั้งหมดนั้น เค้าเล่นเองทุกชิ้น รวมทั้งยังร้องเองทุกเพลงด้วย โดยมี Greg Dulli มือกีต้าร์ของวง The Afghan Whigs มาช่วยเล่นกีต้าร์ในเพลง X-Static เดฟใช้เวลาบันทึกเสียง 5 วัน หลังจากนั้นเค้าจึงได้ส่งไปให้เพื่อนๆของเค้าฟัง เดฟไม่ได้หวังอะไรจากการทำเพลงของเขา เขาเผยว่า “ผมไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเพลงที่ผมแต่งเองหรอก ผมหวังเพียงแค่ว่า ผมอยากเป็นมือกลองไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของผม ผมไม่อยากให้ใครมาคาดหวังในตัวผมว่าต้องประสบความสำเร็จ ผมรู้สึกมีความสุขดีกับการแต่งเพลงเอง เขียนเพลงเอง บันทึกเสียงเองของผม และไม่มีใครจะมาขัดขวางความสุขของผมเหล่านี้ได้”  เดฟชอบที่จะแต่งเพลงเองและใช้ชื่อนามแฝงมากกว่าจะใช้ชื่อจริงๆของเขา แต่สุดท้ายแล้ว ผลงานของเขาก็ไปเข้าหูค่ายเพลงหลายค่ายและเป็นที่ถูกใจของบรรดาค่ายเพลงต่างๆพอสมควร เดฟจึงได้ก่อตั้งวง Foo Fighters ขึ้นมา ซึ่งในช่วงแรก เดฟได้ชักชวน Krist Novoselic เพื่อนร่วมวง Nirvana ที่เป็นมือเบส ให้เข้ามาช่วยงานนี้ แต่สุดท้ายแล้ว พวกเขาทั้งคู่ต่างคิดว่า “มันเจ๋งมากถ้าพวกเราได้ร่วมงานกันอีก แต่มันคงจะแปลกประหลาดสำหรับคนอื่นๆและมันยังทำให้เดฟเองคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่”  จากนั้นเดฟได้ทำการคัดเลือกมือกีต้าร์ มือเบส และมือกลองด้วยตัวเขาเอง จากนั้นจึงเริ่มเข้าสตูดิโอเพื่อทำการบันทึกเสียงสตูดิโออัลบั้มของพวกเขา


สตูดิโออัลบั้มชุดแรก “Foo Fighters”
วง Foo Fighters เริ่มออกทัวร์ครั้งแรกในที่สาธารณะเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1993 ในผับแห่งหนึ่งชื่อ The Jambalaya Club ในแคลิฟอร์เนีย จากนั้นพวกเขาก็เริ่มออกทัวร์ไปตามงานคอนเสิร์ตเล็กๆไปเรื่อย ซึ่งในช่วงแรกๆนี้ เดฟปฏิเสธที่จะขึ้นเวทีใหญ่หรือให้สัมภาษณ์สื่อใดใด แต่แล้วพวกเขาก็ต้องออกทัวร์ในงานใหญ่จนได้ตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1995 พวกเขาเล่นเป็นวงเปิดเวทีให้กับ Mike Watt
เพลงแรกของวง Foo Fighters ที่ถูกปล่อยออกมาในเดือนมิถุนายน 1995 คือเพลง “This is a call” จากนั้นในเดือนกรกฎาคม สตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาที่ใช้ชื่อเดียวกันกับวงจึงถูกวางแผงเป็นครั้งแรก ซิงเกิ้ลดังๆจากอัลบั้มชุดนี้เช่น This is a call , I’ll stick around , For all the cows และ Big me วง Foo Fighters ได้เริ่มออกทัวร์ตามงานคอนเสิร์ตต่างๆ รวมทั้งงานใหญ่ในเกาะอังกฤษอย่าง The Reading Festival ด้วย


The Colour and the Shape (1996-1997)
หลังจากเสร็จสิ้นการออกทัวร์ของสตูดิโออัลบั้มชุดแรกไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1996 พวกเขาเริ่มเข้าห้องอัดเพื่อบันทึกเสียงสตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของพวกเขาภายใต้ชื่อชุดว่า The Colour and the Shape ผลงานชุดนี้ เดฟ โกรห์ลเป็นผู้เขียนเนื้อร้องเองทุกเพลง และสมาชิกคนอื่นๆในวงต่างช่วยกันเรียบเรียง ช่วงแรกๆนั้นดูเหมือนว่าการทำงานจะราบรื่นดี จนกระทั่งพวกเขาเกือบจะบันทึกเสียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงอัดไลน์กีต้าร์และบันทึกเสียงร้องแล้วมิกซ์ก็จะเสร็จเรียบร้อย แต่สุดท้ายพอมิกซ์ออกมาเรียบร้อยแล้ว ทางวงรู้สึกไม่พอใจการบันทึกเสียงครั้งนี้เท่าไหร่ พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะบันทึกเสียงใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้น เดฟรู้สึกว่า ไลน์กลองที่อัดโดย William Goldsmith ไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไหร่ เดฟจึงจัดการหอบผลงานทั้งหมดหนีไปบันทึกเสียงกลองเองที่ L.A. แต่แล้วความนี้ก็ไปเข้าหูวิลเลี่ยมจนได้ แต่เดฟก็ได้อธิบายว่า เขาแค่มาแก้ไขไลน์กลองบางเพลงเท่านั้นและในการทัวร์เดฟก็จะให้วิลเลี่ยมออกทัวร์ในฐานะมือกลองของวงด้วย แต่แล้ว Nate Mendel มือเบสของวงก็ได้บอกวิลเลี่ยมว่า เดฟโกหกวิลเลี่ยม เพราะจริงๆแล้ว เดฟเค้าแก้ไขและอัดไลน์กลองใหม่ทั้งหมด เรื่องนี้ทำให้วิลเลี่ยมรู้สึกตกใจและเหมือนโดนหักหลัง วิลเลี่ยมจึงได้ลาออกจากวง Foo Fighters ไป ตอนหลัง เดฟได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองทำในสิ่งที่**มาก มันเหมือนการกระทำของเด็กน้อยที่ไม่รู้ประสีประสาอะไรเลยจนทำให้ทางวงขาดมือกลองไป” ทุกวันนี้เดฟเองก็ยังรู้สึกผิดกับการกระทำครั้งนี้อยู่ตลอดเวลา ในที่สุดพวกเขาก็ได้ Taylor Hawkins เข้ามาเป็นมือกลองแทนวิลเลี่ยม
ในเดือนพฤษภาคม 1997 สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองที่มีชื่อว่า The Colour and the Shape ก็ได้ออกวางแผง โดยมีซิงเกิ้ลดังๆจากสตูดิโออัลบั้มชุดนี้เช่น Monkey Wrench, My Hero และ Everlong ในช่วงการออกทัวร์เพื่อโปรโมตสตูดิโออัลบั้มชุดนี้ มือกีต้าร์ของวงที่ชื่อ Pat Smear ได้ออกมาประกาศว่า เค้าจะลาออกจากวงเพื่อพักผ่อนเนื่องจากเค้ามีปัญหาสุขภาพ แต่เค้าจะร่วมออกทัวร์กับวงจนกว่าทางวงจะหามือกีต้าร์คนใหม่ได้ จนกระทั่งเดือนกันยายน 1997 ในงาน MTV Video Music Award วง Foo Fighters ก็ได้เปิดตัวมือกีต้าร์คนใหม่คือ Franz Stahl และทาง Pat Smear ก็ได้กล่าวคำอำลาวงการไปในงานครั้งนี้ด้วย
นอกจากผลงานเพลงในสตูดิโออัลบั้มแล้ว วง Foo Fighters ได้ออกซิงเกิ้ลที่เป็นเพลงประกอบภาพยนต์สองเรื่องคือ เพลง Walking After You ประกอบภาพยนต์เรื่อง The X-Files และเพลง A320 ประกอบภาพยนต์สยองขวัญอย่าง Godzilla

There is nothing left to lose (1998-2001)
สตูดิโออัลบั้มชุดที่สามของพวกเขาที่ชื่อ There is nothing left to lose ได้เริ่มงานกันที่บ้านของเดฟ โกรห์ล ที่รัฐเวอร์จิเนีย แต่เดฟก็มีปัญหากับมือกีต้าร์อย่าง Franz Stahl ในเรื่องของการแต่งเพลง โดยเดฟได้เผยว่า “Franz กำลังทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากพวกเรามาก มันเหมือนกับว่าเขาไปอีกทางหนึ่ง แต่พวกเราที่เหลืออีกสามคนกำลังเดินหน้าไปในทิศทางตรงข้ามกับเขา” เดฟหัวเสียเป็นอย่างมากหลังจากที่ไล่ Franz ออกจากวง เนื่องจากทั้ง Franz และเดฟต่างเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ต่อมาไม่นานเมนเดลมือเบสของวงได้แจ้งกับเดฟว่าจะออกจากวงเพื่อกลับไปเล่นดนตรีกับวงเก่าอย่าง Sunny Day Real Estate แต่วันต่อมา เมนเดลก็เปลี่ยนใจอยู่ต่อกับ Foo Fighters สมาชิกที่มีอยู่กันสามคน ณ ตอนนั้นคือ เดฟ , เมนเดล และ ฮอว์กิ้นส์ได้ร่วมกันบันทึกเสียงสตูดิโออัลบั้มชุดที่สามของพวกเขาในสตูดิโอของเดฟเอง ช่วงก่อนที่พวกเขาจะวางแผงอัลบั้มชุดนี้ ทาง Gary Gersh ซึ่งเป็นประธานของค่าย Capitol ถูกไล่ออกจากค่ายเพลง ทางวงที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับแกรี่จึงตัดสินใจที่จะไม่วางแผงอัลบั้มชุดนี้และย้ายค่ายไปอยู่กับ RCA ซึ่งค่าย RCA ได้จัดการซื้อลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดในอัลบั้มชุดที่สามของ Foo Fighters จากทางค่าย Capitol มาพร้อมกันด้วย
หลังจากที่พวกเขาบันทึกเสียงสตูดิโออัลบั้มชุดที่สามเสร็จเรียบร้อย ทางวงได้ทำการออดิชั่นเพื่อค้นหามือกีต้าร์คนใหม่และในที่สุดก็ได้ตัว Chris Shiflett อดีตมือกีต้าร์ของวงร็อคชื่อดังอย่าง Me First and The Gimme Gimmes และวง No Use For A Name เข้ามาเป็นมือกีต้าร์คนใหม่ให้กับวง Foo Fighters
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มออกทัวร์จนได้ไปทำความรู้จักกับวงร็อคระดับตำนานที่เป็นขวัญใจของพวกเขาอย่างวง Queen ยังความปลาบปลื้มใจมายังสมาชิกในวง Foo Fighters เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนวง Queen ตัวจริงอย่างเดฟ โกรห์ลและเทย์เลอร์ ฮอว์กิ้น ทั้งสองวงได้ร่วมแสดงสดบนเวทีเดียวกันในงาน The Rock & Roll Hall Of Fame หลังจากนั้นมา ทั้งสองวงก็ได้ขึ้นเวทีร่วมแสดงคอนเสิร์ตพร้อมกันอีกหลายๆงานทั้ง VH1 Rock Honors และที่ Hyde Park
ผลงานเพลงจากสตูดิโออัลบั้มชุดนี้ที่โดดเด่นก็มีเพลง Learn To Fly ซึ่งเป็นเพลงแรกของวง Foo Fighters ที่สามารถเบียดเข้าไปอยู่ในชาร์ต The US Billboard Hot 100 ได้เป็นครั้งแรก


One By One (2001-2004)
หลังจากการทัวร์ของพวกเขาเสร็จสิ้นลงในช่วงสิ้นปี 2001 วง Foo Fighters ได้เดินหน้าทำสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของพวกเขา และใช้เวลาในห้องอัดทั้งหมดสี่เดือนจึงได้เพลงชุด “Just didn’t sound right” ซึ่งทางวงก็ไม่ได้คิดว่าจะประสบความสำเร็จมากนัก และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เนื่องด้วยจากการที่สมาชิกในวงไม่มีความมั่นใจกับอัลบั้มชุดนี้และมีการทะเลาะกันภายในวงมากพอสมควร ผลงานอัลบั้มชุดนี้จึงไม่ถือว่าเป็นสตูดิโออัลบั้มของพวกเขา ยังผลให้สมาชิกแต่ละคนต้องระเหเร่ร่อนไปทำงานร่วมกับวงอื่นไปพลางๆก่อน เดฟ โกรห์ลเองก็ไปทำงานให้กับวง Queen Of The Stone Age และร่วมออกทัวร์กับพวกเขาในสตูดิโออัลบั้มชุด Song For The Dead อย่างไรก็ตาม วง Foo Fighters ก็ได้ร่วมออกทัวร์ไปพร้อมๆกับวง Queen Of The Stone Age ในช่วงหลังๆ ซึ่งทำให้สมาชิกวง Foo Fighters กลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้งและมีการพูดถึงการทำเพลงชุดใหม่
Foo Fighters ได้ทำการอัดเพลงจากชุด “Just didn’t sound right” อีกครั้งเกือบทุกเพลง ยกเว้นเพลง Tired of you โดยใช้เวลาในสตูดิโอส่วนตัวของเดฟเพียงสิบวัน สตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของ Foo Fighters จึงเสร็จสิ้น ภายใต้ชื่อชุดว่า “One By One” ซึ่งทางวงได้ให้ความหมายว่า Million Dollar Demos สตูดิโออัลบั้มชุดนี้ได้วางแผงออกจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2002 โดยมี single ดังๆอย่าง All My Life , Times Like These , Low และ Have It All
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการดนตรี วง Foo Fighters ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย แต่แล้ว จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ที่กำลังลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรับในเวลานั้น ได้ตัดสินใจเลือกใช้เพลง Times Like These ของวง Foo Fighters มาใช้ในการหาเสียงด้วย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับวง Foo Fighters มากพอสมควร


In Your Honor, Foozer Tour, and Acoustic Tour (2005-2006)
หลังจากเสร็จสิ้นงานทัวร์จากสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ เดฟ โกรห์ลก็เริ่มเขียนเพลงแนวอคูสติคแล้วนำมาให้เพื่อนๆในวงช่วยกันเรียบเรียง สุดท้าย เดฟ โกรห์ลตัดสินใจว่า สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 ของพวกเค้านี้ จะแบ่งเป็นสองภาคคือ ภาคร็อคและภาคอคูสติค ภายใต้ชื่อชุดว่า In Your Honor วางแผงในเดือนมิถุนายน 2005 ซึ่งเพลงดังๆอย่าง Best Of You , DOA , Resolve และ No Way Back/Could Day In The Sun ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม วง Foo Fighters ได้ร่วมออกทัวร์กับวงร็อคชื่อดังอย่าง Weezer ภายใต้ชื่อการทัวร์ว่า  The Foozer Tour โดยออกตระเวนทัวร์ไปในสหรัฐอเมริกาและเกาะอังกฤษ และในการทัวร์ที่เกาะอังกฤษนี้เอง ทางวง Queen ได้กลับมาร่วมแจมกับวง Foo Fighters อีกครั้ง ในช่วงฤดูร้อนปี 2006 วง Foo Fighters ได้ออกทัวร์อีกครั้งซึ่งการทัวร์ครั้งนี้ พวกเขาแสดงสดโดยการเล่นแบบอคูสติค ในเดือนพฤศจิกายน 2006 พวกเขาได้ออกแผ่น DVD บันทึกการแสดงสดที่มีชื่อชุดว่า Skin And Bones ซึ่งเป็นการบันทึกการแสดงสดถึง 15 คอนเสิร์ตของพวกเขาที่ทำการแสดงใน L.A. และเป็น DVD บันทึกการแสดงสดชุดแรกของวง Foo Fighters


Echoes, Silence, Patience and Grace, and Greatest Hits (2007-2009)
สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 ที่มีชื่อว่า Echoes, Silence, Patience and Grace ออกวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2007 ทันทีที่เพลงแรกของสตูดิโออัลบั้มชุดนี้ที่มีชื่อว่า The Pretender ถูกเปิดตามสถานีวิทยุในสหรัฐอเมริกาเพียงสัปดาห์แรกเท่านั้น เพลง The Pretender ได้รับความนิยมถึงขั้นติดอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Modern Rock ต่อเนื่องกันถึง 19 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีเพลงดังอื่นๆอีก เช่น Long Road To Ruin ในเดือนตุลาคม 2006 พวกเขาเริ่มออกทัวร์อีกครั้ง ซึ่งการทัวร์ครั้งนี้เป็นการทัวร์รอบโลก โดยพวกเขาออกทัวร์ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ในปี 2007 Pat Smear อดีตมือกีต้าร์คนเก่าของวงได้กลับมาเล่นให้กับวง Foo Fighters อีกครั้ง สตูดิโออัลบั้มชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม พวกเขาได้รับรางวัล Best Rock Album และ Best Hard Rock Performance ในงานประกาศรางวัลของ Grammy Award ปี 2008 และวันที่ 3 พฤศจิกายน 2009 ทางวงได้ออกอัลบั้ม Greatest Hits ซึ่งเป็นการรวบรวมเพลงดังๆของวงไว้ในอัลบั้มนี้ โดยมีเพลงใหม่สองเพลงคือ Word Forward และ Wheels


Wasting Light (2010-present)
Wasting Light เป็นผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่เจ็ดของวง Foo Fighters โดยผลงานชุดนี้ได้โปรดิวเซอร์ Butch Vig ที่ทางเดฟ โกรห์ลเคยร่วมงานมาแล้วตั้งแต่สมัยยังเป็นมือกลองให้ Nirvana สตูดิโออัลบั้มชุดนี้ได้วางแผงออกจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2011 ซึ่งเดฟ โกรห์ลได้เผยว่า เป็นผลงานชุดที่หนักหน่วงที่สุดของวง Foo Fighters เลยทีเดียว เพลงดังๆจากอัลบั้มชุดนี้เช่น Rope และ Walk ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในปี 2012 วง Foo Fighters กวาดรางวัล Grammy Award 2012 ไปถึง 5 รางวัล คือ Best Rock Performance , Best Hard Rock/Metal Performance , Best Rock Song , Best Rock Album และ Best Long Form Music Video โดยรางวัลเดียวที่พวกเขาเข้าชิงแต่ไม่ได้ไปคือรางวัล Album Of The Year โดยพ่ายแพ้ให้กับความร้อนแรงของนักร้องสาว Adele ไปนั่นเอง


สมาชิกวง Foo Fighters ในปัจจุบัน
Dave Grohl - lead vocals, rhythm and lead guitar, drums (1994–present)
Nate Mendel - bass guitar (1995–present)
Taylor hawkins - drums, backing vocals (1997–present)
Chris Shiflett - lead and rhythm guitar, backing vocals (1999–present)
Pat Smear - rhythm guitar (1995–1997, 2010–present)

ติดตามผลงานและความเคลื่อนไหวของวง Foo Fighters ได้ที่ทาง www.foofighters.com

CREDIT: ขอขอบคุณเนื้อหาภาคภาษาอังกฤษจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Foo_fighters
เรียบเรียงเนื้อหากระทู้ทั้งหมดเป็นภาษาไทยโดย spit_it_out
ขอขอบคุณน้องหนูอ้นที่ทำให้พี่รู้จักเพลง The Pretender ครับ

นับแต่นี้ต่อไป ผมจะกลับมาช่วยหนูมายด์เขียนกระทู้แนะนำวงร็อคนะครับ ดังนั้นจะมีผู้เขียนสองคนคือผมกับหนูมายด์สลับกันลงกระทู้ครับ

ช่วงที่ผมหายไปเกือบปี ผมก็ยังวนเวียนอยู่ในบอร์ดอยู่ครับ เพียงแต่ได้ยกกระทู้แนะนำวงร็อคให้หนูมายด์ได้สานต่อ ซึ่งผมเองก็พอใจมากพอสมควรกับกระทู้ของหนูมายด์ ต้องขอขอบคุณหนูมายด์ที่ช่วยสานต่อกระทู้ของสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ มาโดยตลอด
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เคยคอมเม็นต์และเข้ามาชมกระทู้ของทางสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ และยังคงถามถึงมาโดยตลอด ไม่คิดเลยว่าจะมีคนถามหากระทู้ของเราด้วย T_T ซึ้งมากครับ ขอขอบคุณ..จริงๆ...จากใจ

spit_it_out
สมาคมคนพันธุ์ร็อค SZ
แก้ไขล่าสุด 13 ก.ค. 55 19:33 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | spit_it_out | 13 ก.ค. 55 19:43 น.

ลิ้งค์ประวัติวงร็อคที่เคยนำเสนอไปแล้ว

ตำนานพันธุ์โหด Death Metal<<<

For The Fallen Dreams<<<

Doro<<<

Eyes Set To Kill<<<

The Agonist<<<

Cannibal Corpse<<<

Suicide Silence<<<

Red Hot Chilli Peppers<<<

Faber Drive<<<

Lacuna Coil<<<

Arctic Monkeys<<<

Lostprophets<<<

Breaking Benjamin<<<

Metallica<<<

OneRepublic<<<

Asking Alexandria<<<

Sum 41<<<

Simple Plan<<<

Blink-182<<<

Green Day<<<

Bring Me The Horizon<<<

Paramore<<<

Nirvana<<<

Scorpions<<<

Limp Bizkit<<<

Avenged Sevenfold<<<

My Chemical Romance<<<

Linkin Park<<<

Oasis<<<

Slipknot<<<

รายชื่อสมาชิกสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ

spit_it_out
FB.of.TURK
bourdonLP
J-Mc._Lewis*
Twitchington
OrphanBlink
ข้าวว์ย์ปรั้นนน์ย์ส์
khan03
เด็กกวอน
MADONNA.
`คนสวยและรวยมาก
`Asking-Sinner
Greydy's;143
`xxxxxx,xxx.
METEORA_LP*
JB_Lambert
DROPDEAD.
Bring_Me_The_Screamo
PeaceZa
Underr'Skull
Rock'
Disney~GoGo!!
('.')
[|_\=MinnerZzZ=/_|]
_*2PARK_']]*21_
LinkinPark~only!
A-THOUSAND-SUNS,,@*
`เฮอร์มี่รอนนี่+
มาดามเอด้าสวยสังหาร*
~X~Monster,Minaj
u'nEverAl๐ne|s๐
affmariah
`จจ.ร็อคคั่กๆ
IKKI
GM"Way
mumuboom
Simple*_Plan'
'SuperCesc'
Stephanie92
Paramore'Riot![?]
Parawhore
AdaMLnPaulMcCarTneY
G"Way
thecarpenters.
maxsimx
FreeFree
mewky48
ต่อศักดิ์|chelsea'๙๘
The_Julian
MeanSum41
Dasxeriez*
NinaIan13
ชัคแบส.
Liney-A.vigne
JUNEOH!-A,๙
`ปรมาจารย์เจได.|๖๖
PeeM
B!ank'Head+
`Adele|xoxo
2anyone.$
Maroon5Cafe์
AnAutopsy-Goblin
emmbritish`
`Punk_indy1284
Sam_M.
AmeriCAN*Minnie
NAN_*STONE*
`ฝรั่งกากแบนแดนสยาม-
BabyDoll_SP
Barista
Willful~*
JamesonUS
aoM.Shadows
Modify.gaga
Knann
[+I-แจงซ่าขาร็อค-I+]
`Avengedsevenx
[S]lip[K]not!~
`#4-ixq.zduckys'?
อดอล์ฟ.ฮิตเลอร์
ASSASXIN-9991
-Apocalypse-[BS]
\m/หนุ่ม_นิยมไพร\m/
`มักเกิ้ล|smlers?[]
INpp_Infinity
`๗'G[!]v3{ฮอตเทส}__*
อิ๋ว_กิมกี่
`/C!ยูสนี้กินเด็ก!\`
DIMITAR_BERBATOV_9_#
<_i||oo||i_>
`squaLi,ไ.อ่งี่เ.ง่า!~
``(-/ฮั่นล่ะ?;O
ฮัลโหลเลดี้กาก้า'?
PART''25
hatmut
Champen@Ozzy
-มะอึกคึกคัก||
iTunes
พี่หนวด
กระป๋องน้ำอัดลม.
`/\lexxxx---*
-?,\SyNGateS++-/() 
-(`Suvijak/.)

หากท่านใดต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ เพียงแค่ลงชื่อและบอกชื่อวงหรือศิลปินที่ท่านชื่นชอบมาได้เลยครับ จะกี่วงหรือศิลปินกี่คนก็ได้ตามใจท่าน ทางสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ ยินดีต้อนรับทุกๆคนครับ

เรียนท่านสมาชิกสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZทุกท่าน หากท่านใดได้ทำการเปลี่ยนแปลงชื่อยูสเซอร์ของท่าน โปรดแจ้งมาทางผมด้วยนะครับ ผมจะได้ทำการแก้ไขรายชื่อให้ท่าน

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่สนับสนุนกระทู้ของทางสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZครับ

Facebook ของกลุ่มสมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ
คลิกเลยครับ<<<


หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย



\m/

spit_it_out
สมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ

แก้ไขล่าสุด 13 ก.ค. 55 19:45 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | khan03 | 13 ก.ค. 55 19:47 น.

ก่อนอื่นก็ต้องขอกล่าวก่อนว่า "ยินดีต้อนรับกับการหวนคืนอีกครั้ง" นะครับ.....สำหรับกระทู้สมาคมคนพันธุ์ร็อค Rock แบบนี้ ผมละคนนึงที่อ่านและติดตามผลงานมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น "คุณเจ" หรือ "น้องหนูมายด์" ที่รังสรรค์ผลงานดีๆ แบบนี้ออกมา ยังไงก็ขอให้อยู่กันต่อไปยาวๆ นะคร๊าฟฟฟ

FF เป็นวงร็อคอีกวงที่ขาร็อคต้องรู้จักเพราะถือว่าเป็นอีกวงที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ละอัลบั้มของ FF มีกลิ่นอายที่ถือเป็นอัตลักษณ์ของวงอย่างแน่ชัด และอัลบั้มล่าสุดถือได้ว่า เป็นอัลบั้มทองคำเลยก็ว่าได้เพราะขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ของแต่ละประเทศมาแล้วอย่างมากมาย อีกทั้งยังมีพัฒนาการก้าวข้ามความเป็น FF แบบเดิมๆ ด้วย....ใครที่ฟังเพลงร็อคแต่ไม่เคยฟัง FF ก็ควรรีบไปหามาฟังกันได้แล้วนะครับ ไม่งั้นเด๋วจะเชยเอา อิอิ

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | dreamdfrd | 13 ก.ค. 55 20:08 น.

กระทู้ดีดี๊ดี 
ชอบเพลง Learn to fly <3

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | `Punk_indy1284 | 13 ก.ค. 55 20:58 น.

โอ้ววว เข้าสยามในรอบปี 
เจอเลย คิดถึงจริง ๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | Ecinashi | 13 ก.ค. 55 21:32 น.

คิดถึงกระทู้สมาคมคนพันธุ์ร็อคSZ มากๆ ไม่เห็นกระทู้นานมาก

ยังนำเสนอเรื่องราวดีๆ อีกตามเคย ขอบคุณมากนะค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | EmilyG.Lavigne*BS | 13 ก.ค. 55 22:00 น.

เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ ค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | METEORA_LP* | 14 ก.ค. 55 21:15 น.

ละเอียดมากค่ะ ขอบคุณค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | Veruca | 15 ก.ค. 55 12:35 น.

ชอบตอนเดฟเป็นมือกลองกับ nirvana นะ เค้าตีกลองมันส์ดี 

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | `โพรีโอติกซ์. | 30 ส.ค. 56 22:22 น.

มาชูป้ายไฟให้ฮอว์กินส์ผู้ชายรั่ว

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | ํ:mxtcl; | 30 ส.ค. 56 22:35 น.

คห.9

ชอบ Hawkins เหมือนกันเลยอ่ะ -/-

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google