กระทู้นี้เทย์เลอร์สวิฟต์ล้วนๆ [ Part : 1 ]
3 ก.ย. 55 18:05 น. /
ดู 1,907 ครั้ง /
27 ความเห็น /
3 ชอบจัง
/
แชร์
Album Red
- อัลบั้มวางจำหน่ายทั่วโลกวันที่ 22 ตุลาคม ปีนี้
- อัลบั้มเกี่ยวกับความสัมพันธ์/ความรักที่เธอเผชิญตลอดทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา
- อัลบั้มมีทั้งหมด 16 แทร็ค และยังไม่รวมโบนัสแทร็คที่จะประกาศในภายหลัง
- เธอเลือกเพลงในอัลบั้มจาก 30-35 เพลงที่บันทึกมา
- อัลบั้ม "RED" มีเพลงที่ร่วมงานกับนักแต่งเพลง/โปรดิวเซอร์หลายคน
- คอนเฟิร์มเพลงที่จะร้องคู่กับ Ed Sheeran จะอยู่ในอัลบั้ม พวกเขานั่งแต่งเพลงกันชิวๆบนแทรมโพลีน
- คอนเฟิร์มทัวร์คอนเสิร์ตสำหรับอัลบั้มหน้า เธอกับทีมงานวางแผนสำหรับทัวร์ครั้งไว้มาก
- เทย์เลอร์จะอยู่ใน New York เมื่ออัลบั้มใหม่ออก และยังวางแผนจะโปรโมทอัลบั้มใหม่ถึง 6 ประเทศด้วย
เทย์เลอร์กล่าวกับอัลบั้ม RED ไว้ว่า
ฉันได้ผ่านประสบการณ์ขึ้นๆลงๆของความรักมา", เทย์เลอร์กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเธอในช่วงสองปีที่ผ่านมา, "
ฉันพยายามบันทึกเหตุการณ์แต่ละสเต็ปในทางที่จะเผชิญหน้ากับมัน เพราะว่าในอัลบั้ม คุณอาจจะเจอเพลงที่ดูลึกลับๆหน่อยบวกกับเนื้อเพลง แต่ต่อมาในเพลงถัดไป คุณอาจเจอเพลงที่พูดถึงเกี่ยวกับความอัศจรรย์ใจที่ได้พบกับคน[รัก]ใหม่"
หลังจากที่เทย์เลอร์ได้แต่งเพลงเองคนเดียวทั้งหมดในอัลบั้ม Speak Now ในทางตรงกันข้าม อัลบั้มใหม่นี้เธอได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เพลงป็อปฮิตติดชาร์ท อย่าง Max Martin และนักแต่งเพลงซึ่งเคยร่วมงานกับ Adele มาแล้ว, Dan Wilson เธอแต่งเพลงเพื่ออัลบั้มนี้เกือบทั้งหมด 40 เพลงครับ ทั้งในระหว่างและหลังจากคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งที่แล้ว เทย์เลอร์ได้ร่วมทำผลงานกับคนในวงการเพลงทั้งที่ Nashville และ Los Angeles, "ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเด็กฝึกงาน", เทย์เลอร์กล่าว, "พวกเขาสอนฉันในเรื่องเกี่ยวกับการแต่งเมโลดี้ยังไงให้ไพเราะ สละสลวยขึ้น และพวกเขาให้ฉันทำในสิ่งที่รักนั่นก็คือ การแต่งเนื้อเพลง"
ผลลัพธ์จากสิ่งต่างๆที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทำให้อัลบั้มนี้กลายเป็นอัลบั้มของเธอที่สรรหาเยอะและมีความหลากหลายมากที่สุด เริ่มต้นจากเพลง "State of Grace", แทร็คที่ได้รับแรงบันดาลใจทางดนตรีจากวง U2 ยิ่งใหญ่และหนักแน่น พร้อมกับพลังเสียงโชยชุ่มไปด้วยกีตาร์ไฟฟ้า ต่อมาเป็นแทร็คที่ร้องคู่กับ Ed Sheeran ออกแนวอะคูสติกหวานๆ นอกจากนั้นยังมีอีกแทร็คนึงที่อาจเซอร์ไพร์สแฟนๆมากที่สุด โดยเป็นแทร็คที่ฟีเจอร์เบสไฟฟ้าและดนตรี "ดับสเต็ป" เข้ามาช่วย สำหรับเทย์เลอร์แล้ว การท่องเที่ยวและทดลองดนตรีใหม่ๆเป็นเรื่องที่ธรรมดาครับ นอกจากเพลงคันทรีแล้วเธอยังชอบฟังเพลงแนว R&B และฮิปฮอปด้วยครับ, "เพลย์ลิสต์ของฉันเต็มไปด้วย Rihanna, Nicki Minaj, Lil Wayne และ Chris Brown", เธอกล่าว, "แล้วฉันก็ยังรัก Wiz Khalifa อีกด้วย"
ในส่วนของเนื้อเพลงในอัลบั้ม "Red" นี้เต็มไปด้วยธ๊มทั่วไปของเธอ นั่นก็คือความรักอันแสนโรแมนติกและการเลิกความสัมพันธ์, "ฉันรู้เรื่องทั่วๆไปของความรัก", เธอกล่าว, "การปฏิบัติตัวอย่างไรที่ทำให้เขารู้สึกดี, สิ่งที่คุณควรได้รับ และเมื่อไรที่ถึงเวลาที่คุณจะเดินออกจากจุดๆนั้น นอกจากนั้นความรักยังเป็นสิ่งที่ลึกลับ สิ่งนั้นแสดงให้เห็นว่าทำไมฉันถึงชอบแต่งเพลงเกี่ยวกับมัน"
ทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มหน้าเป็นหนึ่งในสิ่งที่แฟนๆทั่วโลกให้ความหวังเอาไว้มากที่สุด เธอวางแผนเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือราวๆเดือนมีนาคมปีหน้าครับ, "ฉันอยากเริ่มออกตามถนนหนทางตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิ", เธอกล่าว
_________
รวมสถิติต่างๆ ของ ซิงเกิ้ลใหม่ " We Are Never Ever Getting Back Together "
"We Are Never Ever Getting Back Together" กระโดดจากอันดับที่ #72 มาอันดับที่ #1 ด้วยยอดแอร์เพลย์/ผู้ฟังสูงถึง 100 ล้านคน, ยอดดาวน์โหลดซิงเกิลถึง 623,000 ก็อปปี้ภายในสัปดาห์แรกกันเลยทีเดียว นอกจากนี้เพลงนี้ยังติดชาร์ทเพลงย่อยๆอีก ซึ่งชาร์ทเพลงป็อปอยู่อันดับที่ #18, เพลงคันทรี่อันดับที่ #13, เพลงป็อปผู้ใหญ่อันดับที่ #21 และชาร์ทเพลงคอนเทมโพรารี่อันดับที่ #16 มาลุ้นดูกันสัปดาห์ต่อๆไปครับว่าเพลงนี้จะยังคงแรงต่อเนื่องหรือไม่ และจะยังคงครองอันดับ #1 ถึงสัปดาห์หน้าได้รึเปล่า
-ขึ้นอันดับ #1 ใน iTunes ภายใน 50 นาที ถือว่าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์; ทำลายสถิติเพลง Born This Way ของ Lady Gaga ซึ่งทำไปราว 3 ชั่วโมง
- ติดอันดับ #1 ใน iTunes ได้หลายประเทศมากทีุ่สุด ล่าสุดขึ้นไปถึง 31 ประเทศทั่วโลกแล้วครับ และแน่นอน รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย!
- เป็นหนึ่งในเพลงที่เปิดตัวดีที่สุดในชาร์ทเพลงป็อปนับตั้งแต่ปี 1992
- เป็นเพลงจากศิลปินหญิงที่เปิดตัวดีที่สุดในชาร์ทเพลงคันทรี่
- เป็นศิลปินหญิงคันทรี่ในประวัติศาสตร์ที่มียอดแอร์เพลย์สูงที่สุดภายในสัปดาห์แรก
- เป็นเพลงแรกจากศิลปินหญิงที่มียอดดาวน์โหลดภายในสัปดาห์แรกสูงที่สุด; ทำลายสถิติเพลง Born This Way ของ Lady Gaga ซึ่งทำไป 448,000 ก็อปปี้
- เป็นเพลงจากศิลปินหญิงที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์; ทำลายสถิติเพลง TiK ToK ของ Kesha ซึ่งทำไป 610,000 ก็อปปี้ในปี 2010
- เป็นเพลงที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ Right Round ของ Florida ซึ่งทำไป 636,000 ก็อปปี้ในปี 2009
_________
ข่าวอื่นๆ
-ไปโปรโมทอัลบั้ม/ซิงเกิลที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลวันที่ 13 กันยายน, แสดงคอนเสิร์ต iHeart Music Festival วันที่ 22 กันยายน, ไปแสดงซิงเกิลใหม่ในงาน BBC Radio 1 Teen Awards ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ วั
นที่ 7 ตุลาคม, สัมภาษณ์และจัดคอนเสิร์ตโดยรายการ Good Morning America วันที่ 22-23 ตุลาคม และโปรโมทอัลบั้มกับทางรายการ VH1 Storytellers วันที่ 11 พฤศจิกายน
-เทย์เลอร์จะเข้าร่วมงานการกุศล Stand Up to Cancer เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวันที่ 7 กันยายน
-ได้ข่าวว่าเทย์เลอร์เซ็นสัญญากับทาง Target สำหรับอัลบั้มใหม่อีกครั้ง และตอนนี้กำลังทำโฆษณาโปรโมทอยู่ด้วย แน่นอนครับนั่นหมายความว่าพวกเราจะได้อัลบั้ม "RED ดีลุ๊ค อิดิชั่น" มาครอบครองและได้โบนัสแทร็คอีก 8-9 เพลงมาฟังให้กระหน่ำหูไปเลย
-เทย์เลอร์เตรียมขึ้นรับรางวัลพิเศษบนเวทีงานประกาศผลรางวัล CCMA Awards ที่ประเทศแคนาดา วันที่ 9 กันยายนครับ! รางวัลพิเศษนี้เป็นรางวัล Generation Award มอบให้สำหรับศิลปินที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลงคันทรี่มากที่สุด อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เพลงคันทรี่เป็นที่นิยมและรู้จักจากแฟนเพลงทั่วทุกมุมโลก
_________
ขอบคุณเครดิตใจดี อย่าง
Taylor Swift Thailand ที่แบ่งปันข่าวสารน่ะค่ะ
ใครชอบเทย์เลอร์อย่าลืมไปไลค์กันน่ะค่ะ
แถมรูปโบนัสให้สวยๆ
ฝากก
แปลเพลง We Are Never Ever Getting back Together - Taylor Swift
แก้ไขล่าสุด 10 ต.ค. 55 18:22 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google