★ нɛαℓтнʏ - โรคที่ควรระวังสำหรับคนเล่นคอมพิวเตอร์ประจำ!!
10 ก.พ. 56 10:23 น. /
ดู 4,615 ครั้ง /
12 ความเห็น /
12 ชอบจัง
/
แชร์
ไหนใครเล่นคอมบ่อยบ้าง?? ยกมือขึ้น!! *ยกมือสุดแขน* เราเป็นคนนึงแหละ ที่ชอบเล่นคอม ขาดอะไรก็ยอม แต่ถ้าขาดคอมเหมือนขาดใจตาย ถ้าเพื่อนๆชาวสยามโซนคนไหนชอบเล่นคอมพิวเตอร์เหมือนเรา วันนี้มีข้อมูลดีๆ มาให้อ่านกัน
[ชื่อ อิน,อินฟินิตี้,อินฟ์,อินดี้ (เรียกอะไรก็ได้ตามสบาย)
วัน/เดือน/ปีเกิด 26.10.1997
Facebook : Click
Instagram: @INFINOCENTZ
Twitter: @Infinocentz
Carpal Tunnel Syndrome (CTS)โรคที่ควรระวังสำหรับคนเล่นคอมพิวเตอร์ประจำ!!
คนที่เล่นคอมพิวเตอร์เป็นประจำมักจะเกิดโรค CTS หรือ โรค Carpal Tunnel Syndrome ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเกิดจากการที่เพิ่มหนาขึ้นของพังผืดบริเวณช่องเส้นเอ็นตรงข้อมือ (ปกติตรงข้อมือของคนเราจะมีเส้นเอ็นข้อต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมถึงเส้นประสาทที่วิ่งผ่าน) เนื่องจากการใช้เมาส์โดยใช้ข้อมือเป็นจุดหมุน หรือการกดคีย์บอร์ด
โรค CTS หรือ โรค Carpal Tunnel Syndrome เกิดจากการที่เส้นประสาทที่วิ่งผ่านท่อนแขนจากข้อศอกไปยังข้อมือได้รับแรงกดซ้ำ ๆ หรือ เกิดจากการเพิ่มหนาขึ้นของพังผืดที่บริเวณอุโมงค์ข้อมือกดทับเส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณแขนและมือ และเป็นเส้นประสาทที่รับความรู้สึกบริเวณฝ่ามือ นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งหนึ่งของนิ้วนาง เส้นประสาทนี้จะเดินทางตั้งแต่บริเวณต้นคอจนถึงปลายนิ้วมือ
ลักษณะผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค
1.ผู้ที่ใช้ข้อมือทำงานในท่าเดิมๆ
2.ผู้ที่ต้องใช้มือหรือข้อมือมากๆในชีวิตประจำวัน
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีผลต่อปลายประสาท เช่น โรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบ
4.หญิงตั้งครรภ์ระยะใกล้คลอด
5.ผู้ที่ใช้มือและข้อมือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ แม้จะเป็นงานเบาๆ
6.ผู้ที่ใช้ข้อมือกระดกขึ้นลงบ่อยๆ หรือทำงานที่มีการสั่นสะเทือนของมือและแขนอยู่เป็นเวลานาน
อาการของโรค CTS
1.ชาหรือปวดบริเวณมือ ในบางรายอาจมีอาการได้ทั้งฝ่ามือ มักมีอาการชัดในมือข้างที่ถนัด บางรายอาจเป็นทั้ง 2 ข้าง ส่วนมากมักเป็นเวลากลางคืน หลังจากนอนหลับบางครั้งอาจตื่นขึ้นมาจากอาการปวด แต่เมื่อสะบัดมือแล้วอาการจะดีขึ้นชั่วคราว
2.ถ้าเส้นประสาทถูกกดทับมากขึ้น จะทำให้อาการอ่อนแรงของมือ หยิบจับของลำบาก หรือถือของหล่นบ่อยๆ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณฝ่ามือลีบลง
3.จะพบได้บ่อยสำหรับเพศหญิง มากว่าเพศชาย
4.อายุที่พบบ่อย ประมาณ 35-40 ปี
5.มักพบในผู้ที่มีข้อมือค่อนข้างกลม
การรักษา
1.หลีกเลี่ยงการกระดกข้อมือขึ้นลงในกิจวัตรประจำวัน โดยการเปลี่ยนมาใช้ข้อศอกหรือข้อไหล่ในการทำกิจกรรม เพื่อลดอาการอักเสบบริเวณข้อมือ
2.การทำกายภาพบำบัด การบริหารมือ ซึ่งจะได้ผลดีในผู้ที่เริ่มต้นมีอาการไม่มาก
3.การใส่เครื่องช่วยพยุงมือในเวลากลางคืน จะช่วยจัดท่าของข้อมือให้อยู่ในท่าที่ดีที่สุดเวลานอน เพื่อช่วยลดอาการปวดและเป็นการเตือนผู้ป่วยไม่ให้กระดกข้อมือมากเกินไป
4.แบบให้ยา ถ้าเพิ่งเริ่มเป็นอาจจะกินยาแก้ปวดแล้วก็พักข้อมือหยุดการเคลื่อนไหวอาการก็อาจทุเลาและหายไปได้เองโดยตรง
5.การผ่าตัด พิจารณาในผู้ที่มีอาการค่อนข้างมากได้ผลดี หลังผ่าตัดแล้วผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลยและหลังจากที่แผลหายดีแล้ว ควรจะมีการฝึกการบริหารมือและข้อมือ เพื่อให้เส้นเอ็น และเส้นประสาทของมือเคลื่อนไหวได้สะดวก ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้วิธีการทำกายภาพบำบัด เช่น การนวดหรือลูบเบาๆ บริเวณแผล การใช้ความร้อน ความเย็น
".....อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่กำลังประสบปัญหาแบบนี้ หรือ มีความจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ควรระวังไว้ก่อนค่ะ อย่างเราก็อาศัยแผ่นรองเมาส์ช่วย บางทีก็ใช้วิธีพันผ้ารอบข้อมือ ในกรณีที่ต้องทำงานนานๆ ฝากเตือนใจผู้อ่านทุกท่านดูแลสุขภาพด้วยค่ะ..."
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก
โรงพยาบาลลาดพร้าว แพทย์เฉพาะทางเวศศาสตร์ฟื้นฟู
จับฉ่ายดอทคอม
www.tistr.or.th/
กระทู้อื่นๆ
★ нɛαℓтнʏ - 5 อาหารอันตราย ที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวของคุณ
★ нɛαℓтнʏ - 10 สัญญาณที่บอกว่าคุณกินอาหารไม่เหมาะสม
★ нɛαℓтнʏ - วิธีแก้หน้าไหม้จากแดด
★ нɛαℓтнʏ - โรคที่ควรระวังสำหรับคนเล่นคอมพิวเตอร์ประจำ!!
★ нɛαℓтнʏ - สาระน่ารู้ 13 ความน่าพิศวงของร่างกาย
★ Ɖ.Ɩ.Ƴ - สร้อยคอ กำไล เก๋ๆ จากหลอดดูดน้ำธรรมด๊า...ธรรมดา
★ Ɖ.Ɩ.Ƴ - กระเป๋าถือทำเอง..แค่..ตัด..เจาะ..ผูก..ก็เสร็จ
[ชื่อ อิน,อินฟินิตี้,อินฟ์,อินดี้ (เรียกอะไรก็ได้ตามสบาย)
วัน/เดือน/ปีเกิด 26.10.1997
Facebook : Click
Instagram: @INFINOCENTZ
Twitter: @Infinocentz
Carpal Tunnel Syndrome (CTS)โรคที่ควรระวังสำหรับคนเล่นคอมพิวเตอร์ประจำ!!
คนที่เล่นคอมพิวเตอร์เป็นประจำมักจะเกิดโรค CTS หรือ โรค Carpal Tunnel Syndrome ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเกิดจากการที่เพิ่มหนาขึ้นของพังผืดบริเวณช่องเส้นเอ็นตรงข้อมือ (ปกติตรงข้อมือของคนเราจะมีเส้นเอ็นข้อต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมถึงเส้นประสาทที่วิ่งผ่าน) เนื่องจากการใช้เมาส์โดยใช้ข้อมือเป็นจุดหมุน หรือการกดคีย์บอร์ด
โรค CTS หรือ โรค Carpal Tunnel Syndrome เกิดจากการที่เส้นประสาทที่วิ่งผ่านท่อนแขนจากข้อศอกไปยังข้อมือได้รับแรงกดซ้ำ ๆ หรือ เกิดจากการเพิ่มหนาขึ้นของพังผืดที่บริเวณอุโมงค์ข้อมือกดทับเส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณแขนและมือ และเป็นเส้นประสาทที่รับความรู้สึกบริเวณฝ่ามือ นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งหนึ่งของนิ้วนาง เส้นประสาทนี้จะเดินทางตั้งแต่บริเวณต้นคอจนถึงปลายนิ้วมือ
ลักษณะผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค
1.ผู้ที่ใช้ข้อมือทำงานในท่าเดิมๆ
2.ผู้ที่ต้องใช้มือหรือข้อมือมากๆในชีวิตประจำวัน
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีผลต่อปลายประสาท เช่น โรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบ
4.หญิงตั้งครรภ์ระยะใกล้คลอด
5.ผู้ที่ใช้มือและข้อมือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ แม้จะเป็นงานเบาๆ
6.ผู้ที่ใช้ข้อมือกระดกขึ้นลงบ่อยๆ หรือทำงานที่มีการสั่นสะเทือนของมือและแขนอยู่เป็นเวลานาน
อาการของโรค CTS
1.ชาหรือปวดบริเวณมือ ในบางรายอาจมีอาการได้ทั้งฝ่ามือ มักมีอาการชัดในมือข้างที่ถนัด บางรายอาจเป็นทั้ง 2 ข้าง ส่วนมากมักเป็นเวลากลางคืน หลังจากนอนหลับบางครั้งอาจตื่นขึ้นมาจากอาการปวด แต่เมื่อสะบัดมือแล้วอาการจะดีขึ้นชั่วคราว
2.ถ้าเส้นประสาทถูกกดทับมากขึ้น จะทำให้อาการอ่อนแรงของมือ หยิบจับของลำบาก หรือถือของหล่นบ่อยๆ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณฝ่ามือลีบลง
3.จะพบได้บ่อยสำหรับเพศหญิง มากว่าเพศชาย
4.อายุที่พบบ่อย ประมาณ 35-40 ปี
5.มักพบในผู้ที่มีข้อมือค่อนข้างกลม
การรักษา
1.หลีกเลี่ยงการกระดกข้อมือขึ้นลงในกิจวัตรประจำวัน โดยการเปลี่ยนมาใช้ข้อศอกหรือข้อไหล่ในการทำกิจกรรม เพื่อลดอาการอักเสบบริเวณข้อมือ
2.การทำกายภาพบำบัด การบริหารมือ ซึ่งจะได้ผลดีในผู้ที่เริ่มต้นมีอาการไม่มาก
3.การใส่เครื่องช่วยพยุงมือในเวลากลางคืน จะช่วยจัดท่าของข้อมือให้อยู่ในท่าที่ดีที่สุดเวลานอน เพื่อช่วยลดอาการปวดและเป็นการเตือนผู้ป่วยไม่ให้กระดกข้อมือมากเกินไป
4.แบบให้ยา ถ้าเพิ่งเริ่มเป็นอาจจะกินยาแก้ปวดแล้วก็พักข้อมือหยุดการเคลื่อนไหวอาการก็อาจทุเลาและหายไปได้เองโดยตรง
5.การผ่าตัด พิจารณาในผู้ที่มีอาการค่อนข้างมากได้ผลดี หลังผ่าตัดแล้วผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลยและหลังจากที่แผลหายดีแล้ว ควรจะมีการฝึกการบริหารมือและข้อมือ เพื่อให้เส้นเอ็น และเส้นประสาทของมือเคลื่อนไหวได้สะดวก ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้วิธีการทำกายภาพบำบัด เช่น การนวดหรือลูบเบาๆ บริเวณแผล การใช้ความร้อน ความเย็น
".....อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่กำลังประสบปัญหาแบบนี้ หรือ มีความจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ควรระวังไว้ก่อนค่ะ อย่างเราก็อาศัยแผ่นรองเมาส์ช่วย บางทีก็ใช้วิธีพันผ้ารอบข้อมือ ในกรณีที่ต้องทำงานนานๆ ฝากเตือนใจผู้อ่านทุกท่านดูแลสุขภาพด้วยค่ะ..."
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก
โรงพยาบาลลาดพร้าว แพทย์เฉพาะทางเวศศาสตร์ฟื้นฟู
จับฉ่ายดอทคอม
www.tistr.or.th/
กระทู้อื่นๆ
★ нɛαℓтнʏ - 5 อาหารอันตราย ที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวของคุณ
★ нɛαℓтнʏ - 10 สัญญาณที่บอกว่าคุณกินอาหารไม่เหมาะสม
★ нɛαℓтнʏ - วิธีแก้หน้าไหม้จากแดด
★ нɛαℓтнʏ - โรคที่ควรระวังสำหรับคนเล่นคอมพิวเตอร์ประจำ!!
★ нɛαℓтнʏ - สาระน่ารู้ 13 ความน่าพิศวงของร่างกาย
★ Ɖ.Ɩ.Ƴ - สร้อยคอ กำไล เก๋ๆ จากหลอดดูดน้ำธรรมด๊า...ธรรมดา
★ Ɖ.Ɩ.Ƴ - กระเป๋าถือทำเอง..แค่..ตัด..เจาะ..ผูก..ก็เสร็จ
แก้ไขล่าสุด 18 ส.ค. 57 18:37 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google