ยังบาว เดอะมูฟวี่ เสียดายที่หนังไปไม่ถึงดวงดาว
หลังจากเปลี่ยนตัวโปรดิวเซอร์แล้ว ไม่นานนักก็มีเหตุว่า ตูน บอดี้สแลม นักร้องขาร็อกที่จะเข้ามารับบทบาท แอ๊ด คาราบาว ขอถอนตัวเช่นเดียวกัน จนมีข่าวว่าอาโจวจะไปฟ้องแกรมมี่ที่ไม่ให้คิวตูน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตูนมีคิวแสดงและตั้งใจเต็มที่กับงานแสดงครั้งนี้ แต่เพราะทีมงานและการทำงานที่ไม่เป็นระบบจึงทำให้ตูนขออนุญาตถอนตัวและแกรมมี่ก็จัดการคืนค่าตัวให้ในที่สุด จนได้ บอม ธนา เอี่ยมนิยม เด็กปั้นอีกหนึ่งคนของ เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ที่ค่าตัวอาจไม่ได้ถึงตูน แต่ก็ได้เสียบแทนและทำให้หนังได้เข้าโรงฉายได้สำเร็จ ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า หากเรื่องนี้ตูนไม่เล่น สปอนเซอร์รายใหญ่ อย่าง ยามาฮ่า ไทยมอเตอร์ ก็หวั่นใจว่าอาจจะถอนตัว แต่ในตอนนั้น ทางผู้กำกับอย่างอาโจวยืนยันว่า สัญญาต่างๆ ไม่มีปัญหาและทุกคนจะได้ชมหนังอย่างแน่นอน
ความพยายามดันทุรังและผลักดันโปรเจกต์นี้ก็สำเร็จ เมื่อหนังได้เข้าโรงฉายอย่างสมความตั้งใจ แม้ว่าจะผ่านปัญหาอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องเงินทุนที่ต้องบอกว่า ได้มาจากสปอนเซอร์รายใหญ่นั่นคือ ยามาฮ่า ที่ให้มาโดยตลอดหลายสิบล้าน และเป็นกองหนุนหลักที่หนังเรื่องนี้จะนำมาใช้จ่ายทั้งเรื่องค่าตัวนักแสดงการถ่ายทำ โปรโมตและคอนเสิร์ต ซึ่งรวมไปถึงการทัวร์คอนเสิร์ตของคาราบาววงใหญ่ วงเล็ก ที่จะมารวมตัวกันทั่วประเทศ ทั้งฉายหนังและมีคอนเสิร์ตประกอบ จนมาถึงวันนี้ คอนเสิร์ตยังคงหยุดชะงัก เพราะไม่มีเงินสำรองในส่วนนี้ เนื่องจากยามาฮ่าของถอนตัว
ร้อนจนอาโจว ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ต้องออกมาแถลงข่าวว่าต้องมีการฟ้องร้อง โดยนาย อุดม โปร่งฟ้า ทำหน้าที่เป็นทนาย ยื่นฟ้องยามาฮ่าไทยมอเตอร์ในครั้งนี้ เนื่องจากทางสปอนเซอร์ขอถอนตัวและมีผลกระทบคือ ไม่มีรายได้ไปจ่ายในส่วนต่างอื่นๆ หรือว่ากันง่าย ทางยามาฮ่า ไทยมอเตอร์ เล็งเห็นแล้วว่าในการสนับสนุนครั้งนี้ จะขอเป็นผู้สนับสนุนร่วมเพียงเท่านั้น และไม่ขอเป็นผู้สนับสนุนหลัก เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่าคอนเสิร์ตและภาพยนตร์ที่เข้าฉายอาจไม่เป็นไปตามที่ตกลง ซึ่งน่าจะมาจากการถอนตัวของ ตูน บอดี้สแลม ตั้งแต่แรก
ซึ่งแน่นอนว่า ร็อกสตาร์อย่างตูน จะสามารถเรียกความน่าสนใจของกลุ่มคนได้มากกว่าการแสดงของศิลปินเบอร์อื่น ดังนั้น ทางยามาฮ่าจึงอยากยกเลิกสัญญา และขอให้ยกเลิกการใช้โลโก้ของยามาฮ่าด้วย ซึ่งทางอาโจวและทีมงานแกรนด์บิ๊กแบง ซึ่งได้มีการจัดทำของพรีเมียม และป้ายต่างๆ ออกไปแล้ว ต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจงว่าขั้นตอนดังกล่าวได้กระทำไปแล้ว และมีการล็อกคิวศิลปินไว้ตั้งแต่ช่วง เดือนพฤษภา ถึง สิงหาคมแล้ว ซึ่งมีมูลค่านับร้อยล้าน แต่งานนี้ เมื่อสปอนเซอร์รายใหญ่ถอนตัว อาโจวยังไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน?
เรื่องราวของอาโจว์กับสปอนเซอร์ยังคงต้องฟ้องร้องกันอีกยาวไกล เพราะว่าการลงทุนทั้งหมดทั้งมวล แล้วว่ากันง่ายๆ ใครก็อยากได้กำไร แต่เมื่อมองไม่เห็นว่าเส้นทางจะเป็นอย่างไร ยามาฮ่าจึงต้องทบทวน และทำให้อาโจวต้องออกมาแถลงข่าวพร้อมทนาย และจบลงกันที่ชั้นศาล
ในเรื่องของการตลาดยังไม่จบ แต่ในเรื่ององค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องของหนัง ที่หลายคนดูแล้วนอกจากเรื่องรำคาญหนวด ความรุงรัง ก็เห็นว่าหนังพอใช้ได้ ไม่ถึงกับเลวร้าย และหากเรื่อง ความเป็นหนัง แฟนเพลงคาราบาวที่ยังหลงรักเขาควายทั้งหลาย แม้ว่าในวันเปิดตัวรอบสื่อ แกนนำวงคาราบาวจะมาไม่กี่คน แต่ก็ยังสยบข่าวได้ว่าเดินทางไปคอนเสิร์ตต่างจังหวัดและหลังจากเปิดตัวเข้า โรงไม่นาน รายได้ 4 วัน (30 พ.ค.-2 มิ.ย.) อยู่ที่ 2.35 ล้านบาท ซึ่งเรียกว่าหืดขึ้นคอกับเงินลงทุนไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท ที่พอไม่มี ตูน บอดี้สแลม ในคอนเสิร์ตที่อยากทัวร์ทั่วประเทศ 50 จังหวัด รายได้จากตรงไหนจะมาใช้จ่ายก็ต้องรอดูกันต่อไปค่าตัวนักแสดงที่ยังจ่ายไม่ ครบก็จะได้ทยอยจ่าย
เรื่องราวในโรงฉายก็ถูกบรรเลงไปด้วยหนังที่แฟนคลับคาราบาว ยังไม่ได้เข้าโรงดู แต่ที่แน่ๆ รายได้จากหนังอย่างเดียวคงไม่พอกับงบโปรโมตคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ว่ากันว่า คือจุดขายและจุดทำกำไรของบริษัทแกรนด์บิ๊กแบง ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อสปอนเซอร์ถอนตัว ความฝันล่มสลาย อาโจวจะแก้สถานการณ์เรื่องนี้อย่างไร คงให้ศาลชี้ขาด เพราะยามาฮ่าคงเล็งเห็นแล้วว่า ไม่น่ารอด โปรเจกต์เขาควาย ขายได้และมหาศาล ใครก็อยากได้ ผู้กำกับคนนี้ก็คือ 1 ในแฟนคลับตัวยงของ แอ๊ด คาราบาว ที่หวงโปรเจกต์นี้ราวกับไข่ในหิน นี่คงเป็นการรับน้องที่แสนสาหัส กับโปรเจกต์ยักษ์ที่ปัญหารุมเร้าตั้งแต่เปิดกล้องจนกระทั่งหนังฉาย และคงไม่จบง่ายแน่นอนสำหรับเรื่องเงินๆทองๆ ซึ่งกำลังรุงรังอย่างหาที่จบไม่ได้ในขณะนี้...
ส่วนอีกปัจจัยที่สำคัญ ก็คือการอ่อนประชาสัมพันธ์ ขยายจุดเด่นของหนัง นั้น สื่อโดยเฉพาะคอหนังและน่าจะเป็นสื่ออื่น ๆ ด้วย นั้น แทบไม่ได้ข้อมูลอะไรจากหนังเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
ข่าวจาก นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
นอกเหนือจากข่าว ส่วนตัว ผมคิดว่า ลิขสิทธิ์ของหนังไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ผิดมือผิดคน
อีกทั้งทรัพย์สินของคาราบาวมีมากมาย มากพอที่จะมาทำอะไรๆในรูปแบบของหนัง ให้คนได้ประทับใจ สำหรับคนไทย ผมมองว่า เรื่องราวของคาราบาวมีศักยภาพน้องๆเรื่องราวแม่นาก
แม้ไม่เทียบเท่าแต่ก็มาไลน์เดียวกัน ครับ
ต้องบอกว่าเสัียดายมากจริงๆ
หวังว่าอนาคตคงมีนักสร้างหนังไทยใจกล้า มีฝีมือ นำเอาเรื่องราววงดนตรีเพื่อชีวิตอันดับหนึ่งของวงการเพลงไทยมานำเสนออีกครั้ง (ในขณะที่พี่แอ๊ดยังมีชีวิตอยู่)
เรื่องเงินๆทองๆ มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นี่ละน่ามนุษย์
แต่เราว่าถึงได้ป๋าตูนมาเล่น หนังก็ไม่ประสบความสำเร็จหรอก
คนไทยชอบดูหนังอะไรที่มันสนุกๆ มากกว่า หนังแนวเล่าชีวประวัติแบบนี้
ยกตัวอย่าง ลินคอร์น หนังมาแบบเงียบๆ แล้วก็ไปเงียบๆ
สื่อต่างๆก็ไม่ค่อยเห็นมีโฆษณาสักเท่าไหร่เลย
ต่างจังหวัดจะมีกี่โรงกันที่ฉาย
ทั้งๆที่ได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง สปีลเบิร์ก มากำกับ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google