แนะนำหนัง Rurouni Kenshin the movie
13 ต.ค. 56 18:27 น. /
ดู 874 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
Rurouni Kenshin(ซามูไรพเนจร หรืออาจรู้จักกันในชื่อ Samurai X)
เป็นมังงะและอนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา ในช่วงการก้าวเข้าสู่ปีสหัสวรรษ
Kenshinเป็นเรื่องแนวกึ่งแอคชัน กึ่งโรแมนติก
ที่เกิดขึ้นในช่วงปีหลังสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่นและเป็นช่วงการล่มสลายของวรรณะซามูไร
เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับฮิมูระ เคนชิน หนึ่งในนักรบที่เก่งกล้าที่สุด
ผู้ซึ่งเลิกเข่นฆ่าและออกแสวงหาความสงบในชีวิต
แต่ต้องพบว่าตัวเองยังคงต้องเผชิญกับสิ่งที่ตามหลอกหลอนเขาจากอดีตที่ผ่านมา
สิบกว่าปี กับความนิยมอันแพร่หลาย
ตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ ซามูไรพเนจร จะออกมาโลดแล่นเป็น Live Action Film
และสำหรับผู้ที่กังวลว่า
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นแค่ภาพยนตร์ไร้ราคาที่แค่ต้องการขายชื่อเสียงของมังงะแล้ว
บอกได้เลยว่า Rurouni Kenshin เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก
และอาจจะถือเป็นก้าวแรกที่จะฟื้นความนิยมของซามูไรพเนจร ขึ้นมาอีกครั้ง
การดัดแปลง--- ทำได้ดี
ภาพยนตร์ครอบคลุมการผสมผสานทั้งมังงะและอนิเมะ
เกี่ยวกับ การต่อสู้ของเคนชินกับคนค้าฝิ่น
ที่ต้องการแยกการปกครองเป็นอาณาจักรเล็กๆของตนเองในใจกลางโตเกียว
และการต่อสู้กับนักฆ่า ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวเคนชินเอง
ภาพยนตร์ยังได้กล่าวย้อนหลังถึงอดีตของเคนชินในช่วงสงครามกลางเมือง
และเรื่องราวเกี่ยวกับรอยแผลขีดแรก ในแผลเป็นรูปกากบาทของเขา
ในขณะที่ เคนชินซึ่งดูเป็นคนธรรมดาๆ(รวมถึงในฉากที่เค้าพูดว่า "Oro" โอ๊ะ)
เมื่อเทียบกับเวอร์ชันที่ผ่านมาของซามูไรพเนจรแล้ว
อารมณ์ขันถูกลดทอนไปในเวอร์ชันภาพยนตร์ค่อนข้างมาก
ทำให้เรื่องออกไปในแนวจริงจังมากขึ้น ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีช่วงตลกๆเลย
แต่แค่เรื่องราวนั้นเน้นไปทาง "มีชีวิต หรือ ตาย" มากกว่า
และก็เหมือนภาพยนตร์อื่นๆ ที่จะต้องมีการดัดแปลงเล็กน้อย--
มีประมาณหนึ่งหรือสองเรื่อง(ไม่มาก)ที่ถูกดัดแปลง--
แต่ทั้งนี้ส่วนที่ถูกดัดแปลงแก้ไข ก็เพื่อให้แต่ละตัวละครมีเรื่องราวที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น
ในขณะที่ในเวอร์ชันมังงะหรืออนิเมะอาจจะทำหรือไม่ได้ทำก็ตาม
ฉากต่อสู้--ทำได้ดี
ตั้งแต่เริ่มต้น Rurouni Kenshin แสดงให้เห็นถึงทิศทางและการออกแบบฉากต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม การต่อสู้นั้นรวดเร็วและน่าตื่นเต้นมาก
ทั้งการออกแบบฉากต่อสู้และเทคนิคมุมกล้องทำให้การต่อสู้นั้นลื่นไหล
ดูสดใหม่ และน่าสนใจมาก
นอกเหนือกว่านั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการฝึกฝน--หมายความว่าไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกตลอดทั้งเรื่อง(ยกเว้นสเปรย์เลือด)
จะมีการใช้ลวดสลิงบ้าง
แต่ไม่เหมือนการใช้ในเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon นะ
สลิงถูกนำมาใช้เพื่อให้ตัวละครสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ
หรือทำให้ตัวละครไถลไปบนพื้นแทนที่จะใช้เพื่อทำให้พวกเขาบินได้
การเพิ่มสิ่งนี้เพียงเล็กน้อยไม่ทำให้หนังดูเกินจริง
นี่ทำให้ทุกอย่างในหนังยิ่งดูสมจริงมากขึ้น ในท่ามกลางหนังที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกมากมายในปัจจุบัน
ดนตรี/เพลง--ทำได้ดี
อีกเรื่องที่น่าแปลกใจมากใน Rurouni Kenshin ก็คือเรื่องของดนตรี
ในขณะที่พวกเขาสามารถจะนำเพลงประกอบอนิเมะกลับมาใช้
หรือทำเพลงในแนวญี่ปุ่น แบบที่ใช้ขลุ่ยหรือชามิเซ็น
แต่พวกเขากลับใช้เพลงที่ให้กลิ่นอายคล้ายกับในเรื่อง Berserk แทน
ซึ่งมันเข้ากันได้ดีมากและยิ่งทำให้เรื่องดูเร้าใจและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น
นักแสดง--ถือว่าดีผสมผสานแตกต่างกันไป
นักแสดงในเรื่องเคนชินนั้นน่าทึ่งและแต่ละคนสามารถแสดงในบทของตนเองได้อย่างเชี่ยวชาญ
เริ่มตั้งแต่เคนชินกับใบหน้า "โอ๊ะ" ของเขา ไปถึง ซาโนสุเกะที่หยาบคายแต่น่าดึงดูด
ยาฮิโกะนั้นทำได้ดีในฐานะนักแสดงเด็ก รวมถึงเหล่าผู้ร้ายทั้งหลาย
โดยเฉพาะ คันริว ทาเคดะ ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมที่สุด
บทบาทเดียวที่ดูเป็นปัญหาคือ บทคาโอรุของ เอมิ ทาเคอิ
มันไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถในการแสดง หรือการเข้าถึงตัวละครของเธอ
เธอเข้าถึงตัวละครคาโอรุได้ดี เพียงแต่มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเธอเอง
เอมิ ทาเคอิ เธอดูสวยเกินไปสำหรับบทนี้ คาโอรุ ตามบทแล้ว ไม่ได้เป็นผู้หญิงขี้เหร่
แต่เธอควรจะดูธรรมดาและเรียบง่าย และดูแข็งแกร่งจากภายในตามแบบฉบับผู้หญิงญี่ปุ่น
เมื่อเปรียบเทียบกับเมกุมิซึ่งต้องดูงามแบบน่าดึงดูดแล้ว
นักแสดงในบทเมกุมิก็ดูสวยงามตรงตามบทของเธอ
แต่เอมิ ทาเคอิก็ยังดูสวยกว่า
ในขณะที่คาโอรุถูกคาดหวังจะต้องเป็นหญิงที่ไม่สวยมากแต่เฉลียวฉลาด
เธอจึงเป็นไม่ได้ตามนั้น
มันไม่ได้แย่ แต่ก็ดูโดดเด่นขึ้นมาในแง่บทที่ไม่เหมาะสม
ตอนแรกผมคาดหวังว่าน่าจะกลางๆ ไม่ดีมาก
เกี่ยวกับเรื่องราวของเคนชิน ซึ่งน่าจะแค่เหมาะกับแฟนแบบdie hardของมังงะ/อนิเมะเรื่องนี้
แต่ Rurouni Kenshin ได้พัดเป่าความดูแคลนหนังเรื่องนี้ของผมไปหมดสิ้น
มันไม่เพียงดัดแปลงออกมาได้ดี แต่มันยังเป็นภาพยนตร์ที่ดีในตัวของมันเอง
การต่อสู้ด้วยดาบที่น่าทึ่ง การกำกับอันเฉียบขาด บทบาทของตัวละครที่แทบจะสมบูรณ์แบบ และเรื่องราวที่กล่าวอย่างถูกต้องเหมาะเจาะตลอดเวลาสองชั่วโมง
นอกจากเรื่อง Gyakuten Saiban แล้ว Rurouni Kenshin ถือว่าเป็นภาพยนตร์ดัดแปลง Live Action ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีโอกาสได้ชมมาก็ว่าได้
เป็นมังงะและอนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา ในช่วงการก้าวเข้าสู่ปีสหัสวรรษ
Kenshinเป็นเรื่องแนวกึ่งแอคชัน กึ่งโรแมนติก
ที่เกิดขึ้นในช่วงปีหลังสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่นและเป็นช่วงการล่มสลายของวรรณะซามูไร
เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับฮิมูระ เคนชิน หนึ่งในนักรบที่เก่งกล้าที่สุด
ผู้ซึ่งเลิกเข่นฆ่าและออกแสวงหาความสงบในชีวิต
แต่ต้องพบว่าตัวเองยังคงต้องเผชิญกับสิ่งที่ตามหลอกหลอนเขาจากอดีตที่ผ่านมา
ตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ ซามูไรพเนจร จะออกมาโลดแล่นเป็น Live Action Film
และสำหรับผู้ที่กังวลว่า
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นแค่ภาพยนตร์ไร้ราคาที่แค่ต้องการขายชื่อเสียงของมังงะแล้ว
บอกได้เลยว่า Rurouni Kenshin เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก
และอาจจะถือเป็นก้าวแรกที่จะฟื้นความนิยมของซามูไรพเนจร ขึ้นมาอีกครั้ง
การดัดแปลง--- ทำได้ดี
ภาพยนตร์ครอบคลุมการผสมผสานทั้งมังงะและอนิเมะ
เกี่ยวกับ การต่อสู้ของเคนชินกับคนค้าฝิ่น
ที่ต้องการแยกการปกครองเป็นอาณาจักรเล็กๆของตนเองในใจกลางโตเกียว
และการต่อสู้กับนักฆ่า ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวเคนชินเอง
ภาพยนตร์ยังได้กล่าวย้อนหลังถึงอดีตของเคนชินในช่วงสงครามกลางเมือง
และเรื่องราวเกี่ยวกับรอยแผลขีดแรก ในแผลเป็นรูปกากบาทของเขา
ในขณะที่ เคนชินซึ่งดูเป็นคนธรรมดาๆ(รวมถึงในฉากที่เค้าพูดว่า "Oro" โอ๊ะ)
เมื่อเทียบกับเวอร์ชันที่ผ่านมาของซามูไรพเนจรแล้ว
อารมณ์ขันถูกลดทอนไปในเวอร์ชันภาพยนตร์ค่อนข้างมาก
ทำให้เรื่องออกไปในแนวจริงจังมากขึ้น ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีช่วงตลกๆเลย
แต่แค่เรื่องราวนั้นเน้นไปทาง "มีชีวิต หรือ ตาย" มากกว่า
และก็เหมือนภาพยนตร์อื่นๆ ที่จะต้องมีการดัดแปลงเล็กน้อย--
มีประมาณหนึ่งหรือสองเรื่อง(ไม่มาก)ที่ถูกดัดแปลง--
แต่ทั้งนี้ส่วนที่ถูกดัดแปลงแก้ไข ก็เพื่อให้แต่ละตัวละครมีเรื่องราวที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น
ในขณะที่ในเวอร์ชันมังงะหรืออนิเมะอาจจะทำหรือไม่ได้ทำก็ตาม
ฉากต่อสู้--ทำได้ดี
ตั้งแต่เริ่มต้น Rurouni Kenshin แสดงให้เห็นถึงทิศทางและการออกแบบฉากต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม การต่อสู้นั้นรวดเร็วและน่าตื่นเต้นมาก
ทั้งการออกแบบฉากต่อสู้และเทคนิคมุมกล้องทำให้การต่อสู้นั้นลื่นไหล
ดูสดใหม่ และน่าสนใจมาก
นอกเหนือกว่านั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการฝึกฝน--หมายความว่าไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกตลอดทั้งเรื่อง(ยกเว้นสเปรย์เลือด)
จะมีการใช้ลวดสลิงบ้าง
แต่ไม่เหมือนการใช้ในเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon นะ
สลิงถูกนำมาใช้เพื่อให้ตัวละครสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ
หรือทำให้ตัวละครไถลไปบนพื้นแทนที่จะใช้เพื่อทำให้พวกเขาบินได้
การเพิ่มสิ่งนี้เพียงเล็กน้อยไม่ทำให้หนังดูเกินจริง
นี่ทำให้ทุกอย่างในหนังยิ่งดูสมจริงมากขึ้น ในท่ามกลางหนังที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกมากมายในปัจจุบัน
ดนตรี/เพลง--ทำได้ดี
อีกเรื่องที่น่าแปลกใจมากใน Rurouni Kenshin ก็คือเรื่องของดนตรี
ในขณะที่พวกเขาสามารถจะนำเพลงประกอบอนิเมะกลับมาใช้
หรือทำเพลงในแนวญี่ปุ่น แบบที่ใช้ขลุ่ยหรือชามิเซ็น
แต่พวกเขากลับใช้เพลงที่ให้กลิ่นอายคล้ายกับในเรื่อง Berserk แทน
ซึ่งมันเข้ากันได้ดีมากและยิ่งทำให้เรื่องดูเร้าใจและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น
นักแสดง--ถือว่าดีผสมผสานแตกต่างกันไป
นักแสดงในเรื่องเคนชินนั้นน่าทึ่งและแต่ละคนสามารถแสดงในบทของตนเองได้อย่างเชี่ยวชาญ
เริ่มตั้งแต่เคนชินกับใบหน้า "โอ๊ะ" ของเขา ไปถึง ซาโนสุเกะที่หยาบคายแต่น่าดึงดูด
ยาฮิโกะนั้นทำได้ดีในฐานะนักแสดงเด็ก รวมถึงเหล่าผู้ร้ายทั้งหลาย
โดยเฉพาะ คันริว ทาเคดะ ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมที่สุด
บทบาทเดียวที่ดูเป็นปัญหาคือ บทคาโอรุของ เอมิ ทาเคอิ
มันไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถในการแสดง หรือการเข้าถึงตัวละครของเธอ
เธอเข้าถึงตัวละครคาโอรุได้ดี เพียงแต่มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเธอเอง
เอมิ ทาเคอิ เธอดูสวยเกินไปสำหรับบทนี้ คาโอรุ ตามบทแล้ว ไม่ได้เป็นผู้หญิงขี้เหร่
แต่เธอควรจะดูธรรมดาและเรียบง่าย และดูแข็งแกร่งจากภายในตามแบบฉบับผู้หญิงญี่ปุ่น
เมื่อเปรียบเทียบกับเมกุมิซึ่งต้องดูงามแบบน่าดึงดูดแล้ว
นักแสดงในบทเมกุมิก็ดูสวยงามตรงตามบทของเธอ
แต่เอมิ ทาเคอิก็ยังดูสวยกว่า
ในขณะที่คาโอรุถูกคาดหวังจะต้องเป็นหญิงที่ไม่สวยมากแต่เฉลียวฉลาด
เธอจึงเป็นไม่ได้ตามนั้น
มันไม่ได้แย่ แต่ก็ดูโดดเด่นขึ้นมาในแง่บทที่ไม่เหมาะสม
ตอนแรกผมคาดหวังว่าน่าจะกลางๆ ไม่ดีมาก
เกี่ยวกับเรื่องราวของเคนชิน ซึ่งน่าจะแค่เหมาะกับแฟนแบบdie hardของมังงะ/อนิเมะเรื่องนี้
แต่ Rurouni Kenshin ได้พัดเป่าความดูแคลนหนังเรื่องนี้ของผมไปหมดสิ้น
มันไม่เพียงดัดแปลงออกมาได้ดี แต่มันยังเป็นภาพยนตร์ที่ดีในตัวของมันเอง
การต่อสู้ด้วยดาบที่น่าทึ่ง การกำกับอันเฉียบขาด บทบาทของตัวละครที่แทบจะสมบูรณ์แบบ และเรื่องราวที่กล่าวอย่างถูกต้องเหมาะเจาะตลอดเวลาสองชั่วโมง
นอกจากเรื่อง Gyakuten Saiban แล้ว Rurouni Kenshin ถือว่าเป็นภาพยนตร์ดัดแปลง Live Action ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีโอกาสได้ชมมาก็ว่าได้
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google