Escape Plan ( 2013 ) Movie Review By FallsDownz
19 ต.ค. 56 17:13 น. /
ดู 955 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
Movie Review
พักสงคราม CG แล้วมาสนุกกับ Action Old Style กันดีกว่า !
Movie Name : Escape Plan ( 2013 ) Action / Thriller / Mystery
Director : Mikael Hafstrom ( 1408 )
Stars : Sylvester Stallone ( Rambo , The Expendable ) , Arnold Schwarzenegger ( The Terminator , Predator )
Rating : R ( ความรุนแรงในระดับหนึ่ง , ภาษาที่รุนแรง )
REVIEW
ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมานี้นั้น สำหรับวงการภาพยนตร์นั้น ถือได้ว่ามีการพัฒนามากมายในด้านเทคโนโลยีและการถ่ายทำ ซึ่งภาพยนตร์แนว Action หรือ Sci-fi ก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์สองชนิดที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ซึ่งสังเกตุได้จากช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ภาพยนตร์แนวนี้ส่วนใหญ่สมัยนี้จะแข่งกันที่ความอลังการทางด้าน Computer Graphics หรือ CG กันพอตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Avatar , Tron : Legacy , Pacific Rim หรือแม้กระทั่ง Gravity ที่ผู้กำกับต้องนั่งรอโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยมาถึง 4 ปีเพื่อที่จะรอให้เทคโนโลยีมันพร้อมกับสิ่งที่เขาต้องการจะนำเสนอ นอกจากนั้นภาพยนตร์บางเรื่องเหล่านี้ก็ยังมาพร้อมกับบทที่อลังการมากขึ้น ยิ่งใหญ่มากขึ้นอีกด้วย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Escape Plan นั้น เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Action ที่ค่อนข้างจะกลับมาสู่สามัญหรือยุคเก่าแต่เก๋าพอสมควร ที่ไม่ได้เน้นทางด้าน CG เลย แต่เน้นกันที่การต่อย เตะ อาละวาดกันแบบแสดงจริงไม่ได้พึ่ง Computer ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับภาพยนตร์ Action ในช่วงนี้ที่น่าสนใจอยู่พอสมควร เพราะนอกจากจะถือว่าเป็นการได้พักสำหรับคนดู สำหรับภาพยนตร์ช่วงท้ายปีที่จะถาโถมใส่มากมายแล้วล่ะก็ การที่เราได้กลับมาสู่อะไรที่ธรรมดาๆบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยทีเดียว
Escape Plan ว่าด้วยเรื่องราวของ เบรสลิน (Stallone) เขาเป็นนักตรวจสอบโครงสร้างการรักษาความปลอดภัย หรือพูดง่ายๆว่า เขานั้นทำอาชีพที่ยอมโดนจับเข้าคุกไปเพื่อที่จะแหกออกมาและพิสูจน์ว่าคุกนั้นๆ ไม่ปลอดภัยพอ จนวันหนึ่งเขาพบว่าตัวเองนั้น อยู่ในคุกที่เรียกได้ว่าปลอดภัยทีสุด ลับที่สุด จนไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะแหกออกมาได้ เขาจะทำอย่างไรที่จะแหกคุกนี้ออกมาให้ได้ หรือเขาจะต้องติดอยู่ในคุกนี้ตลอดไป ?
Escape Plan ต้องขอบอกเลยว่า เป็นภาพยนตร์ที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว นั้นก็คือ"การสร้างความบันเทิง"ให้กับคนดู เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่ได้สร้างกะมาชิงรางวัลออสก้า(หรือคงไม่มีใครเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะเหตุผลนี้)อย่างแน่นอน สำหรับใครที่จะเข้าไปเพื่อที่จะผ่อนคลาย หรือ ชมภาพยนตร์ที่สนุก ดูไม่ยาก ก็น่าจะพอใจและคุ้มค่าตั๋วกับภาพยนตร์เรื่องนี้พอสมควร อีกสิ่งเลยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากกว่าปกติขึ้นไปอีก นั้นก็คือ นักแสดงอย่าง Stallone หรือ Arnold ที่เอาเข้าจริงถ้าหากคุณเป็นแฟนๆสองคนนี้หรือคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว คุณก็คงจะไม่เสียดายเงินซักเท่าไรนัก ทั้งสองคนนั้นมีฉากบางฉากที่ค่อนข้างน่าจะถูกใจแฟนๆอยู่ทีเดียว (โดยเฉพาะ Arnold ที่เท่จริงๆ) และ มี San Neill !! มาแสดงด้วยอีกต่างหาก (สำหรับผู้เขียนเข้าไปดู Sam Neill พอละฟิน) นอกจากนั้นตัวภาพยนตร์นั้นเรียกได้ว่าหลายๆจุดก็ทำได้ไม่แย่เลยทีเดียว เช่น บทที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ และ Unique อยู่บ้างหรือจะเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Action ที่มี"บท"อยู่บ้าง รวมไปถึงการที่ภาพยนตร์ผสมความเป็น Mystery การแหกคุก ต่างๆนาๆที่น่าสนใจลงไปบ้างเรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ตัวละครร้ายในภาพยนตร์ที่ถือว่าทำได้ในระดับพอรับได้ซึ่งก็พอจะเห็นความพยายามอยู่บ้างแล้ว(แต่มันไม่เพียงพอที่จะยกระดับไปมากกว่านี้)
ทีนี้มาพูดถึงตัวเนื้อผ้า ลายผ้าที่แท้จริงกันบ้างว่าเป็นอย่างไรสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างแรกที่ทำได้ค่อนข้างจะไม่ดีนักก็คือ Characters ในภาพยนตร์ อย่าเข้าใจผิดไป Characters เหล่านี้นั้นน่าสนใจพอตัวเลยทีเดียว แต่ปัญหาคือ ภาพยนตร์นั้นให้เวลากับการเล่าตัวละครเหล่านี้น้อยมาก จนคุณแทบจะไม่รู้ถึง Back Story ของตัวละครเหล่านี้เลย ไม่มี Flashback ใดๆทั้งนั้น อย่างมากก็มีแค่คำพูดไม่กี่คำ ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ลากมาถึงสาเหตุที่จะทำให้คุณจะไม่รู้สึกผูกพันธ์หรือสนใจอะไรในตัวละครเหล่านี้ซักเท่าไรเลย เช่น ถ้าหากตัวละครบางตัวตายไปหรือเป็นอะไรไป คุณก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะ คุณไม่รู้สึกผูกพันธ์ใดๆกับตัวละครเหล่านี้เลย ซึ่งมันเป็นส่วนสำคัญในภาพยนตร์ๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าตัวละครนั้นจะดีเลิศเลอแค่ใดก็ตาม หรือ นักแสดงดีเท่าไรก็ตาม แต่ถ้าหากคนดูไม่รู้สึกร่วมใดๆเลยกับตัวละครนั้น เกือบทุกๆ Element ในภาพยนตร์ก็จะ Drop หรือ น้อยลงตามไปด้วย ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมีการถ่ายทำในช่วงแรกที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ ด้วยการเล่าตัวละครด้วยภาพ แต่นั้นก็เป็นบางส่วนเท่านั้นของตัวละคร และ นั้นมันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าเพียงพอที่จะเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้เรารู้สึกร่วมได้เลย
ในช่วงกลาง-ท้ายเรื่องของภาพยนตร์ที่เร่งมากเกินไป จนทำให้ตัวละครบางตัวแทบจะแบน ไม่น่าสนใจ และคุณไม่สนใจใดๆเลย จนเรียกได้ว่าไม่มีเลยยังได้ ทั้งๆที่จากที่ดูแล้ว ถ้าหากภาพยนตร์ใช้เวลาในการเล่าเรื่อง ปูตัวละคร Back Story ที่ดีกว่านี้ มันจะทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับตัวละครเหล่านี้ได้ดีกว่านี้มาก เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ มันไม่ใช่แบบนั้น.... สุดท้ายเลยก็คือ บางส่วนของตัวภาพยนตร์นั้นใช้เหตุผลในบางจุดที่นำตัวละครออกจากสถานการณ์ที่ลำบาก ได้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าใดนักหรือน้ำหนักของเหตุผลมันยังไม่เพียงพอ เหมือนประมาณว่า "โอ้ เราจะทำอย่างไรดีที่จะทำให้ตัวละครนี้รอดได้ เอาเป็นว่าอ้างแบบนี้ละกันจบ" ซึ่งมันทำให้รู้สึกถึงความขี้เกียจเสียมากกว่า
สุดท้ายนี้แล้ว Escape Plan ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ดี-ไม่แย่ ซะทีเดียว หลายๆสิ่งหลายๆอย่างเช่น บท หรือ ตัวละครร้าย ที่อยู่ในระดับพอรับได้ Characters หรือ ตัวละครที่ค่อนข้างจะแย่แต่ก็ไม่แย่ถึงขนาดที่จะทนดูไม่ได้ สาเหตุจริงๆที่คนหรือผู้ชมจะเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงจะมาจาก นักแสดงนำระดับแม่เหล็กใหญ่ทั้งสองคนเสียมากกว่า หรือ อย่างน้อยก็เพื่อที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์เพื่อผ่อนคลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น่าจะถือได้ว่าสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่าคงไม่ใช่ Top Class หรือ ใกล้เคียงกับ Top Class อย่างแน่นอน
Final Score : [ C+ ]
อ่านรีวิวเก่าๆและติดตามรีวิวใหม่ๆได้ที่นี้ครับผม http://fallsdownz.blogspot.com/
พักสงคราม CG แล้วมาสนุกกับ Action Old Style กันดีกว่า !
Movie Name : Escape Plan ( 2013 ) Action / Thriller / Mystery
Director : Mikael Hafstrom ( 1408 )
Stars : Sylvester Stallone ( Rambo , The Expendable ) , Arnold Schwarzenegger ( The Terminator , Predator )
Rating : R ( ความรุนแรงในระดับหนึ่ง , ภาษาที่รุนแรง )
REVIEW
ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมานี้นั้น สำหรับวงการภาพยนตร์นั้น ถือได้ว่ามีการพัฒนามากมายในด้านเทคโนโลยีและการถ่ายทำ ซึ่งภาพยนตร์แนว Action หรือ Sci-fi ก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์สองชนิดที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ซึ่งสังเกตุได้จากช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ภาพยนตร์แนวนี้ส่วนใหญ่สมัยนี้จะแข่งกันที่ความอลังการทางด้าน Computer Graphics หรือ CG กันพอตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Avatar , Tron : Legacy , Pacific Rim หรือแม้กระทั่ง Gravity ที่ผู้กำกับต้องนั่งรอโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยมาถึง 4 ปีเพื่อที่จะรอให้เทคโนโลยีมันพร้อมกับสิ่งที่เขาต้องการจะนำเสนอ นอกจากนั้นภาพยนตร์บางเรื่องเหล่านี้ก็ยังมาพร้อมกับบทที่อลังการมากขึ้น ยิ่งใหญ่มากขึ้นอีกด้วย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Escape Plan นั้น เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Action ที่ค่อนข้างจะกลับมาสู่สามัญหรือยุคเก่าแต่เก๋าพอสมควร ที่ไม่ได้เน้นทางด้าน CG เลย แต่เน้นกันที่การต่อย เตะ อาละวาดกันแบบแสดงจริงไม่ได้พึ่ง Computer ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับภาพยนตร์ Action ในช่วงนี้ที่น่าสนใจอยู่พอสมควร เพราะนอกจากจะถือว่าเป็นการได้พักสำหรับคนดู สำหรับภาพยนตร์ช่วงท้ายปีที่จะถาโถมใส่มากมายแล้วล่ะก็ การที่เราได้กลับมาสู่อะไรที่ธรรมดาๆบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยทีเดียว
Escape Plan ว่าด้วยเรื่องราวของ เบรสลิน (Stallone) เขาเป็นนักตรวจสอบโครงสร้างการรักษาความปลอดภัย หรือพูดง่ายๆว่า เขานั้นทำอาชีพที่ยอมโดนจับเข้าคุกไปเพื่อที่จะแหกออกมาและพิสูจน์ว่าคุกนั้นๆ ไม่ปลอดภัยพอ จนวันหนึ่งเขาพบว่าตัวเองนั้น อยู่ในคุกที่เรียกได้ว่าปลอดภัยทีสุด ลับที่สุด จนไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะแหกออกมาได้ เขาจะทำอย่างไรที่จะแหกคุกนี้ออกมาให้ได้ หรือเขาจะต้องติดอยู่ในคุกนี้ตลอดไป ?
Escape Plan ต้องขอบอกเลยว่า เป็นภาพยนตร์ที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว นั้นก็คือ"การสร้างความบันเทิง"ให้กับคนดู เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่ได้สร้างกะมาชิงรางวัลออสก้า(หรือคงไม่มีใครเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะเหตุผลนี้)อย่างแน่นอน สำหรับใครที่จะเข้าไปเพื่อที่จะผ่อนคลาย หรือ ชมภาพยนตร์ที่สนุก ดูไม่ยาก ก็น่าจะพอใจและคุ้มค่าตั๋วกับภาพยนตร์เรื่องนี้พอสมควร อีกสิ่งเลยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากกว่าปกติขึ้นไปอีก นั้นก็คือ นักแสดงอย่าง Stallone หรือ Arnold ที่เอาเข้าจริงถ้าหากคุณเป็นแฟนๆสองคนนี้หรือคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว คุณก็คงจะไม่เสียดายเงินซักเท่าไรนัก ทั้งสองคนนั้นมีฉากบางฉากที่ค่อนข้างน่าจะถูกใจแฟนๆอยู่ทีเดียว (โดยเฉพาะ Arnold ที่เท่จริงๆ) และ มี San Neill !! มาแสดงด้วยอีกต่างหาก (สำหรับผู้เขียนเข้าไปดู Sam Neill พอละฟิน) นอกจากนั้นตัวภาพยนตร์นั้นเรียกได้ว่าหลายๆจุดก็ทำได้ไม่แย่เลยทีเดียว เช่น บทที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ และ Unique อยู่บ้างหรือจะเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Action ที่มี"บท"อยู่บ้าง รวมไปถึงการที่ภาพยนตร์ผสมความเป็น Mystery การแหกคุก ต่างๆนาๆที่น่าสนใจลงไปบ้างเรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ตัวละครร้ายในภาพยนตร์ที่ถือว่าทำได้ในระดับพอรับได้ซึ่งก็พอจะเห็นความพยายามอยู่บ้างแล้ว(แต่มันไม่เพียงพอที่จะยกระดับไปมากกว่านี้)
ทีนี้มาพูดถึงตัวเนื้อผ้า ลายผ้าที่แท้จริงกันบ้างว่าเป็นอย่างไรสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างแรกที่ทำได้ค่อนข้างจะไม่ดีนักก็คือ Characters ในภาพยนตร์ อย่าเข้าใจผิดไป Characters เหล่านี้นั้นน่าสนใจพอตัวเลยทีเดียว แต่ปัญหาคือ ภาพยนตร์นั้นให้เวลากับการเล่าตัวละครเหล่านี้น้อยมาก จนคุณแทบจะไม่รู้ถึง Back Story ของตัวละครเหล่านี้เลย ไม่มี Flashback ใดๆทั้งนั้น อย่างมากก็มีแค่คำพูดไม่กี่คำ ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ลากมาถึงสาเหตุที่จะทำให้คุณจะไม่รู้สึกผูกพันธ์หรือสนใจอะไรในตัวละครเหล่านี้ซักเท่าไรเลย เช่น ถ้าหากตัวละครบางตัวตายไปหรือเป็นอะไรไป คุณก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะ คุณไม่รู้สึกผูกพันธ์ใดๆกับตัวละครเหล่านี้เลย ซึ่งมันเป็นส่วนสำคัญในภาพยนตร์ๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าตัวละครนั้นจะดีเลิศเลอแค่ใดก็ตาม หรือ นักแสดงดีเท่าไรก็ตาม แต่ถ้าหากคนดูไม่รู้สึกร่วมใดๆเลยกับตัวละครนั้น เกือบทุกๆ Element ในภาพยนตร์ก็จะ Drop หรือ น้อยลงตามไปด้วย ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมีการถ่ายทำในช่วงแรกที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ ด้วยการเล่าตัวละครด้วยภาพ แต่นั้นก็เป็นบางส่วนเท่านั้นของตัวละคร และ นั้นมันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าเพียงพอที่จะเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้เรารู้สึกร่วมได้เลย
ในช่วงกลาง-ท้ายเรื่องของภาพยนตร์ที่เร่งมากเกินไป จนทำให้ตัวละครบางตัวแทบจะแบน ไม่น่าสนใจ และคุณไม่สนใจใดๆเลย จนเรียกได้ว่าไม่มีเลยยังได้ ทั้งๆที่จากที่ดูแล้ว ถ้าหากภาพยนตร์ใช้เวลาในการเล่าเรื่อง ปูตัวละคร Back Story ที่ดีกว่านี้ มันจะทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับตัวละครเหล่านี้ได้ดีกว่านี้มาก เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ มันไม่ใช่แบบนั้น.... สุดท้ายเลยก็คือ บางส่วนของตัวภาพยนตร์นั้นใช้เหตุผลในบางจุดที่นำตัวละครออกจากสถานการณ์ที่ลำบาก ได้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าใดนักหรือน้ำหนักของเหตุผลมันยังไม่เพียงพอ เหมือนประมาณว่า "โอ้ เราจะทำอย่างไรดีที่จะทำให้ตัวละครนี้รอดได้ เอาเป็นว่าอ้างแบบนี้ละกันจบ" ซึ่งมันทำให้รู้สึกถึงความขี้เกียจเสียมากกว่า
สุดท้ายนี้แล้ว Escape Plan ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ดี-ไม่แย่ ซะทีเดียว หลายๆสิ่งหลายๆอย่างเช่น บท หรือ ตัวละครร้าย ที่อยู่ในระดับพอรับได้ Characters หรือ ตัวละครที่ค่อนข้างจะแย่แต่ก็ไม่แย่ถึงขนาดที่จะทนดูไม่ได้ สาเหตุจริงๆที่คนหรือผู้ชมจะเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงจะมาจาก นักแสดงนำระดับแม่เหล็กใหญ่ทั้งสองคนเสียมากกว่า หรือ อย่างน้อยก็เพื่อที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์เพื่อผ่อนคลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น่าจะถือได้ว่าสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่าคงไม่ใช่ Top Class หรือ ใกล้เคียงกับ Top Class อย่างแน่นอน
Final Score : [ C+ ]
อ่านรีวิวเก่าๆและติดตามรีวิวใหม่ๆได้ที่นี้ครับผม http://fallsdownz.blogspot.com/
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google