[รีวิวตามคุณกุ้ง] Biore UV Aqua Rich Watery Essence
27 พ.ย. 56 16:50 น. /
ดู 1,215 ครั้ง /
5 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับเรา สาวกบิโอเร ที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นคุณแม่ยังสาว จนป่านนี้อายุก็ปาเข้าไปจะ 30 แล้ว - -
แต่วัยไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะบิโอเรเค้าไม่ได้จำกัดอายุคนใช้ซะหน่อย จริงมะๆ ^^
ด้วยความที่เป็นทั้งสาวกบิโอเร และสาวกคุณกุ้ง ก็เลยเจริญรอยตามคุณกุ้งที่นางรีวิวบิโอเรตัวใหม่นี่ไว้
ขอลองหน่อยสิ๊ ว่าจะได้ผลเหมือนกันไหม เอ้าเป็นเรามาทดสอบประสิทธิภาพของครีมกันแดดปริศนา 2 แบรนด์กัน
แบรนด์ B หลังบีบที่หลังมือทันที จะมีลักษณะใสกว่าแบรนด์ A ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้นกว่า มาลองทาครีมกัน แบรนด์ Bเกลี่ยง่าย และซึมไว รู้สึกบางเบา ในขณะที่แบรนด์ A ข้นหนืด และต้องทาวนๆหลายรอบมากกว่าจะซึม
ภาพต่อไป เป็นสภาพผิวหลังเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมสู่ผิวแล้ว
แบรนด์ A ผิวจะดูเงาๆ มันๆ เหมือนผิวมันขึ้น และสีผิวจะขาวขึ้นเล็กน้อย
แบรนด์ B ผิวไม่โกลว์ และไม่มัน ซึ่งหากทาก่อนแต่งหน้าและทาทับเมคอัพแล้วหน้าจะไม่วอกหรือลอยแน่นอน ในขณะที่เพื่อให้เห็นความมันชัดเจน เราจะทดสอบด้วยกระดาษซับมันค่ะ
แบรนด์ B จะพบว่า ไม่ทิ้งความมันไว้บนกระดาษซับมันเลย ในขณะที่แบรนด์ A ยังทิ้งความมันเอาไว้บนกระดาษซับมัน และบริเวณข้อมือ ยังหลงเหลือคราบความมันเงาๆไว้อยู่
ถ้ายังเห็นไม่ชัด ต้องลองวิธีพิสูจน์แบบคุณกุ้งค่ะ คือบีบผลิตภัณฑ์บนกระดาษซับมัน แล้วมาดูกันซิว่า มีคราบมันซึมติดกระดาษซับมันไว้มากน้อยแค่ไหน
สองภาพล่างเป็นภาพด้านหลังของกระดาศซับมันนะคะ แบรนด์ B มีคราบมันนิดหน่อย เมื่อเทียบกับแบรนด์ A ซึ่งความมันซึมผ่านกระดาษซับมันมาถึงด้านหลังเลยทีเดียว
คราวนี้ มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพกันดูบ้างดีกว่า
อย่าสงสัย ว่าทำไมทาท้องแขน เพราะเดี๋ยวเราจะตะแคงแขนออกแดดค่ะ 5555 ล้อเล่นน้า :p (จริงๆแล้วเพราะเนื้อผิวตรงนี้ มันบาง จะเห็นปฏิกิริยาที่แดดทำกับผิวได้ชัดดีต่างหากล่ะ)
ออกเดินทางไปสู้แดดกันเลยดีกว่า วันที่ถ่ายรีวิว แดดแรงหลังฝนตก กำลังอบอ้าวเลย
45 นาทีผ่านไป .กลับมาดูผลกัน
บริเวณที่ใช้แบรนด์ B ผิวยังปกติดีอยู่ แต่บริเวณที่ใช้แบรนด์ A มีจ้ำแดงที่ผิวเกิดขึ้นเล็กน้อย
สรุปข้อดีข้อเสียของแบรนด์ A
1. เนื้อข้น ค่อนข้างหนืด
2. เกลี่ยยาก และทำให้ผิวขาวลอย
3. ไม่สามารถทาทับแมคอัพได้ เพราะเนื้อแน่นหนืด
4. ทิ้งความมัน
5. ไม่เหมาะกับผู้มีผิวมัน
6. หลังออกแดด ผิวเป็นจ้ำแดงจากแดดเล็กน้อย
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
สรุปข้อดีและเสียของแบรนด์ B
1. บางเกลี่ยง่าย ซึมไว
2. ไม่มัน ไม่เหนอะ
3. ทาทับเมคอัพได้ เพราะเนื้อบางเบาและไม่ทำให้หน้าลอย
4. เหมาะกับทุกสภาพผิว
5. หลังออกแดด ผิวยังคงสภาพเดิม ไม่ไหม้ และไม่มันเยิ้ม
6. กันแดดได้ดีเพราะว่ามี SPF สูงถึง SPF50+/PA+++
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เรามาเฉลยกันดีกว่าว่า ครีมกันแดดที่ชนะเลิศนั้นคืออะไร แต่นแต้นนนน....
Biore UV Aqua Rich Watery Essence นี่เองจ้า ยกผลประโยชน์ให้บิโอเรเค้านะคะ กันแดดคุณภาพเยี่ยมจริงๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวคือใช้ทุกวันเลย ชอบมากๆมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย หลังจากใช้ติดต่อกันทุกวันมาระยะหนึ่งและโดนแดดแรงๆทุกวันผิวเราก็ไม่คล้ำขึ้นเลย อันนี้ประทับใจจริงบอกเลย!!
รีวิวของเราขอเป็นอันจบเพียงเท่านี้ เชิญติชมได้เลย โลด !!!
ด้วยความที่เป็นทั้งสาวกบิโอเร และสาวกคุณกุ้ง ก็เลยเจริญรอยตามคุณกุ้งที่นางรีวิวบิโอเรตัวใหม่นี่ไว้
ขอลองหน่อยสิ๊ ว่าจะได้ผลเหมือนกันไหม เอ้าเป็นเรามาทดสอบประสิทธิภาพของครีมกันแดดปริศนา 2 แบรนด์กัน
แบรนด์ B หลังบีบที่หลังมือทันที จะมีลักษณะใสกว่าแบรนด์ A ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้นกว่า มาลองทาครีมกัน แบรนด์ Bเกลี่ยง่าย และซึมไว รู้สึกบางเบา ในขณะที่แบรนด์ A ข้นหนืด และต้องทาวนๆหลายรอบมากกว่าจะซึม
ภาพต่อไป เป็นสภาพผิวหลังเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมสู่ผิวแล้ว
แบรนด์ A ผิวจะดูเงาๆ มันๆ เหมือนผิวมันขึ้น และสีผิวจะขาวขึ้นเล็กน้อย
แบรนด์ B ผิวไม่โกลว์ และไม่มัน ซึ่งหากทาก่อนแต่งหน้าและทาทับเมคอัพแล้วหน้าจะไม่วอกหรือลอยแน่นอน ในขณะที่เพื่อให้เห็นความมันชัดเจน เราจะทดสอบด้วยกระดาษซับมันค่ะ
แบรนด์ B จะพบว่า ไม่ทิ้งความมันไว้บนกระดาษซับมันเลย ในขณะที่แบรนด์ A ยังทิ้งความมันเอาไว้บนกระดาษซับมัน และบริเวณข้อมือ ยังหลงเหลือคราบความมันเงาๆไว้อยู่
ถ้ายังเห็นไม่ชัด ต้องลองวิธีพิสูจน์แบบคุณกุ้งค่ะ คือบีบผลิตภัณฑ์บนกระดาษซับมัน แล้วมาดูกันซิว่า มีคราบมันซึมติดกระดาษซับมันไว้มากน้อยแค่ไหน
สองภาพล่างเป็นภาพด้านหลังของกระดาศซับมันนะคะ แบรนด์ B มีคราบมันนิดหน่อย เมื่อเทียบกับแบรนด์ A ซึ่งความมันซึมผ่านกระดาษซับมันมาถึงด้านหลังเลยทีเดียว
คราวนี้ มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพกันดูบ้างดีกว่า
อย่าสงสัย ว่าทำไมทาท้องแขน เพราะเดี๋ยวเราจะตะแคงแขนออกแดดค่ะ 5555 ล้อเล่นน้า :p (จริงๆแล้วเพราะเนื้อผิวตรงนี้ มันบาง จะเห็นปฏิกิริยาที่แดดทำกับผิวได้ชัดดีต่างหากล่ะ)
ออกเดินทางไปสู้แดดกันเลยดีกว่า วันที่ถ่ายรีวิว แดดแรงหลังฝนตก กำลังอบอ้าวเลย
45 นาทีผ่านไป .กลับมาดูผลกัน
บริเวณที่ใช้แบรนด์ B ผิวยังปกติดีอยู่ แต่บริเวณที่ใช้แบรนด์ A มีจ้ำแดงที่ผิวเกิดขึ้นเล็กน้อย
สรุปข้อดีข้อเสียของแบรนด์ A
1. เนื้อข้น ค่อนข้างหนืด
2. เกลี่ยยาก และทำให้ผิวขาวลอย
3. ไม่สามารถทาทับแมคอัพได้ เพราะเนื้อแน่นหนืด
4. ทิ้งความมัน
5. ไม่เหมาะกับผู้มีผิวมัน
6. หลังออกแดด ผิวเป็นจ้ำแดงจากแดดเล็กน้อย
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
สรุปข้อดีและเสียของแบรนด์ B
1. บางเกลี่ยง่าย ซึมไว
2. ไม่มัน ไม่เหนอะ
3. ทาทับเมคอัพได้ เพราะเนื้อบางเบาและไม่ทำให้หน้าลอย
4. เหมาะกับทุกสภาพผิว
5. หลังออกแดด ผิวยังคงสภาพเดิม ไม่ไหม้ และไม่มันเยิ้ม
6. กันแดดได้ดีเพราะว่ามี SPF สูงถึง SPF50+/PA+++
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เรามาเฉลยกันดีกว่าว่า ครีมกันแดดที่ชนะเลิศนั้นคืออะไร แต่นแต้นนนน....
Biore UV Aqua Rich Watery Essence นี่เองจ้า ยกผลประโยชน์ให้บิโอเรเค้านะคะ กันแดดคุณภาพเยี่ยมจริงๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวคือใช้ทุกวันเลย ชอบมากๆมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย หลังจากใช้ติดต่อกันทุกวันมาระยะหนึ่งและโดนแดดแรงๆทุกวันผิวเราก็ไม่คล้ำขึ้นเลย อันนี้ประทับใจจริงบอกเลย!!
รีวิวของเราขอเป็นอันจบเพียงเท่านี้ เชิญติชมได้เลย โลด !!!
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google