MOVIE SECRET กับภาพและเรื่องราวที่ไม่เคยนำเสมอมาก่อน

จขกท. บอกไว้ก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ใช่ภาพลับจากหนังแต่อย่างใด จขกท. ขอนำเสนอลิงค์ภาพและเรื่องราวที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้สัมผัส และนึกไม่ถึงว่าจะมีแบบนี้ด้วย http://upload.sodazaa.com/share-3951_52D75D94.html

ภาพนี้เป็นกองฟิล์มภาพยนตร์ต่างประเทศจากค่ายหนังค่ายหนึ่งในบ้านเรา เมื่อส่งกลับคืนหลังจากเข้าฉาย และตรวจเช็คเป็นที่เรียบร้อย ก็จะดำเนินการทำลาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขมาจากบริษัทแม่ ในต่างประเทศ

http://upload.sodazaa.com/share-BC7E_52D75D94.html

ภาพนี้มาจากหน้าจอแสดงผลของเครื่องดิจิทัล ซีนีมา เซิร์ฟเวอร์ (ทำหน้าที่เข้ารหัส เล่นไฟล์ DCP และควบคุมระบบการฉายภาพ) จากโรงภาพยนตร์ซีนีเพล็กซ์ของบ้านเรานี่แหละ แม้จะมีความสะดวกในการใช้งาน แต่บางครั้งมันก็เดี้ยงขึ้นมาซะงั้น

http://upload.sodazaa.com/share-3E0B_52D75D94.html

http://upload.sodazaa.com/share-3D7A_52D75DFA.html

ขอขยายความต่อด้วยภาพชุดนี้ ไปที่โรงหนังระดับรากหญ้า นั่นคือ “หนังกลางแปลง” ซึ่งจะว่าไปแล้ว อีกไม่นานก็คงจะเหลือให้เห็นน้อยลง ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด อาจจะล้มหายตายจากไปเลย หรือต่อยอดไปที่ธุรกิจอย่างอื่นที่เกี่ยวข้อง อันสืบเนื่องจากการเข้ามาของ “ดิจิทัล” ในโรงซีนีเพล็กซ์ สิ่งที่เห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา ก็มีทั้ง “เห็นด้วย” และ “ไม่เห็นด้วย” ของคนทำหนังกลางแปลงซึ่งยังฉายด้วยฟิล์ม ต่างจากกลุ่มผู้ประกอบการให้เช่า projector สำหรับงานนำเสนอ ซึ่งบางรายก็แอบฉายหนัง หากเจ้าของงานร้องขอ กลับไม่รู้สึกเป็นปัญหาแต่อย่างใด ในเมื่อยังไม่มีความชัดเจนในหลายๆ อย่าง ก็เลยมีพ่อค้าหัวใส ทำขึ้นมาซะเลย โดยเอา projector ที่เป็นงาน presentation ซึ่งมีความสว่างสูง ในราคาหลักหมื่น ซึ่งในบ้านเรายังพอหาซื้อได้ กับรุ่นท๊อป ซึ่งเป็นยี่ห้อโนเนม และใช้ไม่ทน มาใส่ใน case เพื่อป้องกันความเสียหาย และปิดบังอำพราง

จากการตรวจสอบและการใช้งานจริงของผู้สังเกตการณ์ซึ่งติดตามไปทุกหนทุกแห่งจากการแจ้งข่าวของคนในพื้นที่ ที่มีหนังกลางแปลงแบบดิจิทัล รวมทั้งต้นตำรับ พบว่า…

การใช้งานจริง >>> ไม่ผ่าน

ลักษณะของหนัง >>> มีตั้งแต่ความคมชัดระดับดีวีดี จนถึงความคมชัดสูง ไม่ใช่มาตรฐานแบบในโรงดิจิทัลทั่วไป

http://upload.sodazaa.com/share-1BA6_52D75DFA.html

http://upload.sodazaa.com/share-F67E_52D75DFA.html

ในส่วนของลิขสิทธิ์ มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า “ยังไม่มี”

แบบนี้ก็...ชัดเจน

มีข้อมูลจากผู้ให้บริการเช่า projector (รุ่นเดียวกันกับที่พ่อค้าหัวใส) สำหรับฉายงาน presentation รายหนึ่ง ได้กล่าวยอมรับตามตรงว่าตนก็ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการฉายหนังเช่นกัน ที่สำคัญยังบอกด้วยว่า เฉพาะราคา projector กับเครื่องเล่น รวมกันแล้วไม่ถึงหลักแสน ส่วนเครื่องเสียงกลางแจ้งก็มีอยู่ก่อนแล้ว ส่วนหนังก็หาซื้อหาโหลดได้ทั่วไป

คนที่ไม่รู้เรื่อง ก็โดน “หลอกต้ม” .....

http://upload.sodazaa.com/share-2D6D_52D75DFA.html

ภาพนี้มาจากกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเสาะแสวงหาหนังไทยเก่า โดยหนึ่งในนั้นก็อยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่แล้วด้วย

เนื่องจากเครดิตเขาเคยมีอยู่ก่อนแล้ว ก็เลยใช้วิธีเสาะแสวงหาด้วยการถามไปยังกลุ่มคนที่รักและสะสมฟิล์มหนังเก่าๆ ทุกช่องทาง ซึ่งก็รวมถึงใน facebook ด้วย บางครั้งก็ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ไปพร้อมกับอุปกรณ์ที่ว่านี้ (search ใน youtube แล้วพิมพ์คำว่า DIY telecine มีเลือกให้ชมมากมาย และคุณภาพที่ได้ก็แตกต่างกันไปด้วย)

หลังจากได้หนังกลับมาแล้ว ก็เอามาตัดต่อแล้วก็โพสต์ขึ้น youtube และนี่คือตัวอย่าง

http://upload.sodazaa.com/share-2171_52D76D2C.html

แม้ว่าจะ upgrade เป็นความคมชัดสูงแล้วก็ตาม

ผู้สันทัดเรื่องภาพยนตร์และวิดีโอหลังจากที่ได้ชมคลิปใน youtube ที่คนกลุ่มนี้ดำเนินการ และให้คำตอบว่า คุณภาพแบบนี้ถือว่า “ไม่ผ่าน”

วิดีโอที่เทเลซีนจากฟิล์มภาพยนตร์ จะต้องไม่มีการกะพริบ หรือริ้วรอยอันเกิดจากระบบสัญญาณโทรทัศน์ ต่อให้ภาพจะออกมาคมชัด ทั้งระดับ SD หรือ HD ก็ตาม

“กลุ่มนี้เค้ารู้หลักการ รู้วิธีการ แต่ขาดเรื่องการจัดการ ภาพที่ออกมาเลยดูดีกว่าหนังซูมนิดนึง รู้สึกว่าจะไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว ยังมีอีก 2 - 3 ราย แต่วิธีการลอกแบบมาจากพิมพ์เดียวกัน” ผู้สันทัดคนดังกล่าวเน้นอย่างชัดเจน

แม้หลายคนจะชื่นชมกับการดำเนินการดังกล่าว แต่ผู้สันทัดคนเดิมกลับมีความเห็นตรงข้าม

“รู้สึกเห็นใจเจ้าของฟิล์มที่ให้คนกลุ่มนี้มาทำนะ ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก เป็นการสร้างชื่อให้ตนเองเพราะเขามีเครดิตอยู่แล้วไง แต่ในใจเขาน่ะ คิดไม่ซื่ออยู่แล้ว เพราะมีข้อมูลที่เคยได้รับมาอยู่ก่อน และมี case ซึ่งแจ้งว่า เคยส่งฟิล์มกลับคืนโดยให้มาไม่ครบ หรือยักยอกโดยที่เจ้าของฟิล์มไม่รู้ นี่ยังไม่รู้ว่าจะมีหนังหลุดออกไปตามร้านขายแผ่นหรือเปล่า เห็นแบบนี้ก็ไม่น่าไว้วางใจแล้ว โดยส่วนตัวก็มีฟิล์มหนังเก่าอยู่จำนวนหนึ่ง เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวเพราะเคยทำหนังกลางแปลงมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีหน่วยงานที่ว่านี้ได้โทรเข้ามา แล้วใช้คำพูดมุกเดิม นั่นคือ ขอบริจาคฟรีๆ ซึ่งเวลานั้นตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และญาติก็บอกปฏิเสธไป หลังจากที่ทราบเรื่อง ก็ย้ำอยู่เสมอว่า ถ้ามีบุคคล หรือมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะไม่อนุญาตทุกกรณี”

ก็จบ MOVIE SECRET แบบดื้อๆ ไว้เพียงเท่านี้