วิจารณ์ The Wolf of Wall Street

23 ม.ค. 57 18:58 น. / ดู 3,827 ครั้ง / 3 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
The Wolf of wall Street
By Bigtum

: สูตรหาเงินเด็ดที่ผลาญเงินเสร็จชั่วพริบตา
  มาถึงคิวหนังรางวัลเนื้อเรื่องเด็ด
กว่าสร้างเสร็จพับโปรเจ็กต์ไปถึงไหน
หนังขายหุ้นมันขายยากต้องทำใจ
คนทั่วไปใครอยากดูหนังเครียดกัน

จอร์แดน เบลฟอร์ต คุณเป็นใครก็ไม่รู้
ไม่คุ้นหูเหมือนเฉกเช่นบุคคลสำคัญ
หากเอ่ยชื่อลีโอนี้ปรบมือให้ประจำ
เล่นหนังรางวัลแต่มักชวดเพิ่งสมใจ

ดูจบแล้วไม่แคล้วใจกับรางวัลที่ได้มา
เล่นซะฮาบ้าคลั่ง กว่าขั้นที่ผ่านมาไหนๆ
แผ่นดินไหว 9.5 ริกเตอร์ยังน้อยไป
เปรียบเปรยถึงทรวงในแบบนี้ควรต้องดู


หากเปรียบเป็นสนามเด็กเล่น คงต้องบอกว่าลีโอใช้สนามเด็กเล่นแห่งนี้ได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางเมตรสุดๆ ลืมไปเลยกับความเมารั่วของ พวกแก๊งวูล์ฟแพ็คใน The Hangover เจอลีโอคนเดียวเกรียนหนักกว่า เพียงแค่ฉากคลานไปขึ้นรถ Lamborghini Countach ของลีโอแค่ฉากเดียว ก็สะเด่าเกินคาดแล้ว ความหล่อ ปลิ้นปล้อน กะล่อน น่าสมเพช หรือกระทั่งความรั่วหลุดโลก ทุกอริยาบท ลีโอจัดเต็มสูบใส่ไม่ยั้ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้าถึงคว้าลูกโลกนำชายจากหนังเรื่องนี้ไปครอง เป็นบทที่สุดเหวี่ยง ได้ปลดปล่อยตัวเองถึงขีดสุด และไม่มีการห่วงหล่อให้เห็นอีกต่อไป

หนังสร้างขึ้นจากเรื่องจริงของผู้ชายที่ชื่อ 'จอร์เเดน เบลฟอร์ต' (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) อดีตโบรกเกอร์ที่สื่อตั้งฉายาให้ว่า 'หมาป่าแห่งวอลสตรีท เล่าตั้งแต่จุดกำเนิดจากอดีตเด็กชนชั้นใช้แรงงานผู้มีหนี้สิน ปากกัดเท้าถีบ ต้องขวนขวายหางานที่มีรายได้เยอะๆ จนได้ทำงานที่วอลสตรีท เจอเพื่อนร่วมงานที่สอนวิชาโบรกเกอร์ให้ (เเมทธิว เเม็คคอนนาเฮย์) ซึ่งทำให้เค้าตาเป็นประกาย ใจเต้นระส่ำเกิดความฮึกเหิมในการทำงาน แต่น่าเศร้าที่เหตุการณ์ 'แบล็ค มันเดย์' ทำให้เค้าต้องล้มทรุดลงไปกองไม่เป็นท่าเหมือนตลาดหุ้นที่ดิ่งลงเหว ด้วยความที่ไฟยังไม่ดับมอด ล้มแล้วต้องลุกขึ้นใหม่ ทำให้เกิดจุดเปลี่ยน ที่ต่อมาได้กลายเป็นจุดที่สูงสุดในชีวิตของเค้า

ก็เหมือนกับสตีฟ จ็อบส์ เบลฟอร์ตผู้หัวใสได้ก่อตั้งบริษัท สเเตรทตัน โอ๊คมอนต์ ในโรงจอดรถเล็กๆ ฝึกอบรมวิชาให้แก่เพื่อนๆที่เค้าชักชวนมาร่วมทีม แต่ละคนแววดีๆทั้งนั้น ทั้งพ่อค้าขายกัญชา ขายโคเคน มีแต่ตัวแสบๆ แต่ที่โดดเด่นและเสนอตัวมาร่วมเองคนแรกก็คือ ดอนนี่ เอซอฟฟ์ (โจน่าห์ ฮิลล์) เซลล์ขายของเงินเดือนน้อย ผู้หวังอยากขับรถหรูร่ำรวยแบบเบลฟอร์ตบ้าง จากโต๊ะทำงานไม่กี่โต๊ะ ขยับขยายเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว สคริปท์วิชาขายหุ้นเพนนีเล็กๆทางโทรศัพท์ของเบลฟอร์ต ได้ถูกถ่ายทอดแก่นักโบรกเกอร์รุ่นใหม่ และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จขั้นสูงสุด ที่เเม้แต่วอลสตรีทก็ยังต้องเหลียวมอง

เบลฟอร์ตผู้ใช้เงินเป็น หาเงิน 12 ล้านดอลลาร์ภายใน 3 นาที ผลาญเงินให้หายวับอย่างรวดเร็วด้วย ปาร์ตี้ เหล้า ยา และอีตัว แบบที่เคยได้รับคำสอนมาจากโบรกเกอร์รุ่นพี่คนนั้น สำราญสุขแบบทันใจที่เกิดขึ้นในบริษัทกลางวันแสกๆ ไม่แปลกใจเลยที่เอฟบีไอจะเฝ้าจับตามองเค้า โดยเฉพาะวิธีการหาเงินที่เกิดคำถามตามมาว่า มันสุจริตมั้ย? น่าชื่นชมคนทำหนังรุ่นเดอะอย่าง มาร์ติน สกอร์เซซี่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวัย 71 ของเขา ไม่มีผลต่ออะดรีนาลีนความเก๋า ที่เต็มไปด้วยลูกบ้ามากมายแบบไม่ยั้งมือจนมันติดเรต เพราะมีฉากที่ล่อเเหลมเพียบไปหมด ทั้งบทสนทนาแรงๆ ยาเสพติด Sex นมกับจิมิ เดินกันเกลื่อนจอจนได้เรต 18+

แม้หนังจะยาวถึง 3 ชั่วโมง แต่ปรากฎว่าดูเพลิน ลื่นไหล จนเผลอลืมมองนาฬิกาข้อมือไปเลย นั่นเพราะหนังนำเสนอเรื่องหนักๆให้ออกเป็นตลกร้าย เฮฮา ซ้ำยังเต็มไปด้วยนักแสดงสบทบมากมายที่เป็นสีสันเพิ่มความเด่นให้เท่าตัว โดยเฉพาะนักเเสดงสาวหน้าใหม่ 'มาร์ก็อต ร็อบบี้' รับบท นาโอมิ ลาพาเกลีย ภรรยาสาวหุ่นดี ที่ได้ทั้งปะทะคารม และหน้า นม บนเตียงกับลีโอ ได้อย่างไม่เคอะเขิน 'โจนาห์ ฮิลล์' เองก็เยี่ยม หลุดพ้นจากหนังตลกสัปดน มาสู่หนังตลกผู้ใหญ่ได้ดีกว่าที่คาด ขณะที่ 'ฌอง ดูจาร์เเด็ง' หลังแจ้งเกิดจากหนังออสการ์ The Artist ก็คือการไม่หยุดเดินหน้าเข้าหาหนังคุณภาพ ที่บอกเลยว่าเข้าใจเลือกรับงาน

ทางวอร์เนอร์ บราเดอร์ส คงจะเห็นว่าหนังขายหุ้นมันคงจะขายยาก เลยไม่อนุมัติโปรเจ็กต์นี้ ให้ลีโอกับมาร์ตินไปทำหนัง Shutter Island แทน ทั้งที่ลีโอซื้อลิขสิทธิ์หนังสือ The Wolf of Wall Street มาตั้งแต่ปี 2007 หวยก็เลยมาถูกที่เรด กราไนต์ และพาราเมาต์ พิกเจอร์สแทน เพราะไฟเขียวยินดีอนุมัติให้สร้าง เย้! มั่นใจเลยว่าต่อให้คนเล่นหุ้นไม่เป็นก็ดูได้ คนที่มีหัวใจแห่งการขายได้ดูก็จะยิ่งชอบ

เบลฟอร์ตอาจจะถูกแบนในอาชีพนี้ไปตลอดชีวิต กับสิ่งที่ตนกระทำลงไป แต่สิ่งที่ไม่อาจหยุดความรู้สึกนึกคิดของผู้ชายคนนี้ หลังจากที่ตักตวงผลประโยชน์มาเสพสุขจนเละเทะ ก็คือความไม่ยอมเเพ้ และไม่หยุดใช้ชีวิตต่อ ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่าอาชีพนักพูดกระตุ้นแรงบันดาลใจอีกเเล้ว การฟอกเงินที่ได้มาจากการต้มตุ๋นขายหุ้นจบลง แต่พรสวรรค์ในการพูดกล่อมผู้คนยังคงดำเนินต่อไป ในด้านที่บวกขึ้น สร้างสรรค์กว่าเดิม และแน่นอนว่ามันต้องถูกกฎหมายขึ้นด้วย

ระดับคะแนน "A-"

สามารถอ่านรีวิวหนังเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ได้ที่
https://www.facebook.com/pages/The-.........101573433344532
แก้ไขล่าสุด 25 ม.ค. 57 12:31 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | mr.op | 24 ม.ค. 57 07:22 น.

ปู่สกอเซซี่ จัดหนักได้เต็มไม้เต็มมือจริงๆ
ลีโอ โจน่า มาก็อต และนักแสดงแทบทุกคนขโมยซีนกัน จนตามดูแทบไม่ทัน
แม้กระทั่งแมกคอนนาเฮ ที่ออกมาเพียงห้านาที แต่ก็ทรงพลังเหลือเกิน
สงสัยตัวเองว่า จะต้องเป็นอีกหนึ่งเสียง ที่ร่วมชูป้ายส่งลีโอ สู่ออสการ์ซะแล้ว

หนังเพลิน และคลั่ง ตลอดสามชั่วโมง
ไม่มีคำใดจะให้ได้ดีเท่ากับการไปดูด้วยตัวเอง สำหรับหนังเรื่องนี้
หรือถ้าจะมีก็ต้องบอกว่า "แม่มสนุกระยัมเลย อ้ายเจ๊ทเข้"
I fuc-king love this movie.

แก้ไขล่าสุด 24 ม.ค. 57 07:23 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | `My-GraMINg.? | 26 ม.ค. 57 19:54 น.

หนังสนุกมากค่ะ ป๋าลีโอจัดเต็มทุกฉากทุกตอน
หนังเพลินมาก สามชั่วโมงผ่านไปแบบไม่รู้ตัวจริงๆ
ขอสารภาพว่าฟังละคิดตามไม่ทัน ไปเร็วเกิน
แต่หนังก็ยังสนุกมาก ไม่รู้ทำไม 555555555555

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Magellan | 30 ม.ค. 57 11:02 น.

ดูมาแล้ว เช่นกัน แซ่บเว่อ...มัน ฮา รั่ว จัดเต็มจริงๆ

" Sell me this pen! "

เอาไป 8 กระโหลก เต็ม 10

PS. หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับพวกศีลธรรมจ้านะครับ เด็กๆ งดได้ งดเลย

แก้ไขล่าสุด 30 ม.ค. 57 11:10 | ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google