Jackass present Bad Grandpa หลานปู่คู่ป่วน (วิจารณ์)
24 ม.ค. 57 21:57 น. /
ดู 1,408 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
Jackass present Bad Grandpa หลานปู่คู่ป่วน
นี่คือหนึ่งในทีมสตั๊นท์ที่ดังที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ในการทำอะไรห่ามๆ สกปรกๆ ลามกและอันตรายจนไม่อยากจะลอกเลียนแบบ แต่ด้วยความที่มนุษย์นั้นเสพย์ติดความรุนแรง แก๊ง Jackass แก๊งนี้จึงมีแฟรนไชส์เป็นหนังของพวกเขาตามมาถึง 3 ภาค (ยังไม่นับภาคเสริม) ที่ไม่เล่าเรื่อง ไม่มีพล๊อต ไม่มีการแสดง มีแค่การเล่นจริง เจ็บจริง **จริง และอันตรายจริงๆ
หากใครเป็นแฟนของ Jackass ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแก๊งเฟ็ดเฟ่อย่างกะบอยแบนด์แล้วล่ะก็ พวกคุณคงจำสมาชิกทั้งหมดของแก๊งได้ ที่นำทีมโดย Johnny Knoxville หัวหน้าแก๊ง, Bam Margera ห่ามสิงห์สเก๊ต ชอบแกล้งพ่อแม่ตัวเอง, Steve-O หนุ่มหน้าเมาแต่กล้าเสี่ยงทำอะไรบ้าๆ, Chris Pontius **แปลกชอบแก้ผ้า, Ehren McGhehey ปอดสุดของกลุ่ม, Dave England จอมขี้, Preston Lacy อ้วนฮา, Wee-Man ซ่าแต่เตี้ยและ Ryan Dunn เครางาม ทั้ง 9 คนเปรียบเสมือนหน้าตาของกลุ่ม ด้วยเอกลักษณ์และคาแรคเตอร์ชัดเจน แท้จริงมันมีที่มาจากรายการใน MTV ฉายเพียงแค่ 25 ตอนเท่านั้น แต่ด้วยเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ พวกเขาจึงเข็นหนังภาคแรกออกมาใต้ชื่อ Jackass : The Movie ที่มีทุนเพียง 5 ล้านแต่กวาดเรียบทั่วโลกกว่า 70 กว่าล้านมากกว่าทุนถึง 12 เท่า! แม้ว่ากระแสวิจารณ์จะออกมากลางๆ ว่า เหมือนนำรายการมายืดและมาฉายบนจอใหญ่เท่านั้น แต่หนังก็สามารถทำหน้าที่สร้างความบันเทิงและเสียงฮา ได้อย่างเข้าเป้า และพวกเขาก็ขนหนังมาให้เราดูที่ละภาค นานๆครั้งจนหลังจากภาค 3 ฉายและสูญเสีย Ryan Dunn ไป ผมไม่คิดถึงการมีภาคที่ 4 ของเหล่า Jackass อีก จนกระทั่งการมาของ Bad Grandpa
โดยเล่าเรื่องของ Irving Zisman หนึ่งในตัวละคร Jackass ที่แสดงโดย Johnny Knoxville เล่าเรื่องของคุณปู่สุดหื่นที่เพิ่งเสียภรรยาไป แต่ไม่ได้เสียดายเมียเท่าไหร่ ต้องมารับหลานมาจากลูกสาวที่กำลังติดคุกเพราะเรื่องยา ปู่ Irving จึงต้องพาหลาน Billy ไปหาพ่อที่ติดยาเช่นเดียวกัน ในตอนแรกทั้งคู่ไม่ได้ชอบกันเท่าไหร่ในตอนแรก Billy เป็นเด็กที่ซื่อตรงมาก ส่วน Irving ก็เป็นปู่ที่ชั่วเหลือเกิน ภารกิจของ Irving ก็คือการพาหลานไปส่งพ่อ เพื่อที่ตัวเองจะได้ใช้ชีวิตโสดครั้งแรกในรอบหลายสิบปีได้
แม้จะเล่าเรื่องได้ก็ตาม แต่เอาเข้าจริง หนังมันคือเรียลลิตี้แบบสาระแนเวอร์ชั่นหนังโรงชัดๆ เพียงแต่อันนี้ห่ามกว่า ซกมกกว่า ลามกกว่าและฮากว่าหลายเท่า หนังใช้มุมกล้องแบบถ่ายแอบ โดยให้นักแสดงคือหลาน Billy, ปู่ Irving และตัวละครในเนื้อเรื่องแสดงบทบาทที่มี และหนังก็จะจับรีแอ็คชั่นคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่อยู่แถวนั้นว่าจะมีปฏิกริยาเป็นเช่นไร โดยตัวหนังมีความเป็นกึ่งโรดทริปเล็กน้อยในการเดินทางข้ามเมืองและไปพบเจอกับเหตุการณ์ฮาๆห่ามๆ ให้เราได้สนุกกับรีแอ็คชั่นของคนดูรอบๆ
ส่วนที่ดีของหนังเรื่องนี้คือ อารมณ์ขันของหนัง ในการแคนดิดคนดูโดยรอบในสถานการณ์ที่สุดแปลกประหลาด หรือจะเป็นการสตั๊นท์ให้คนดูในสถานการณ์แสดงออกทางอารมณ์ให้เราได้ฮา หรือจะเป็น การแกล้งคนแบบตรงๆ ให้เราได้ฮาอีกเช่นกัน ทั้งหมดคือส่วนดีของหนังจริงๆ เพราะหนังทำหน้าที่นั้นได้ดีสุด แต่ด้วยความที่มีเส้นเรื่องให้จับต้องได้ แม้ไม่มาก หนังก็มีความเป็นรูปธรรมมากกว่า Jackass ภาคที่ผ่านๆมา ที่ไม่ได้เป็นแค่สารคดีบันทึกสตั๊นท์ของทั้ง 9 คนอย่างเดียว แต่หนังเรื่องนี้ก็เป็นการเล่าเรื่องปลอมๆผ่านคนจริงๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ซึ่งเป็นการดัดแปลงที่เก๋ไก๋ดี แต่ก็ทำให้มุกหรือการแคนดิดนั้นเป็นแค่ซีนแทรกระหว่างเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยมีผลอะไร แบบรีบมารีบเล่น แต่ซีนนั้นๆ ก็ยังทำหน้าที่สร้างอารมณ์ขันได้ดี นอกจากนี้เคมีระหว่างหลานปู่ก็ดูจะไปกันได้ ทั้ง Johhny Knoxville ซึ่งคนนี้ก็ไปไกลแล้วในการเล่นเป็นคนแก่ทั้งเรื่อง ส่วน Jackson Nicoll ซึ่งอายุแค่ 10 ขวบก็สามารถเล่นเป็น**เด็กแสบได้ดีใช้ได้ การรับส่งมุกของทั้ง 2 แม้ไม่มาก แต่ก็ทำได้ดี
จริงๆแล้วตรงนี้ผมมักจะเขียนข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ แต่ผมนึกไม่ออกสักเท่าไหร่ เพราะหนังเรื่องนี้เอาจริงๆแล้ว มันก็เป็นหนังที่ดูเอาบันเทิงมากกว่า แต่กระนั้นมันก็พอจะมีข้อคิดอยู่บ้างว่า บางครั้งคนเราก็แค่ต้องหาอะไรมาเติมเต็มชีวิตได้บ้างก็เท่านั้น เหมือนที่ปู่ขาดหลานหรือหลานขาดปู่ไม่ได้ก็ตาม และสิ่งที่มีค่ามากสุดก็คือ ความรักที่แท้จริง นั้นแหล่ะครับ
สรุป Jackass present Bad Grandpa เป็นหนังตลกเรียลลิตี้แบบสาระแนแต่ฮากว่า หยาบกว่า กร้านกว่า และ ซกมกกว่า หนังเต็มไปด้วยคำสบถ แอลกอฮอล์ สิ่งสกปรกหรือแม้แต่ของต่ำอย่าง ฮัม ไข่ และ ตรูด แม้ว่าหนังจะมีเส้นเรื่องเบาบางมาพร้อมกับมุขกวนเบื้องเท้าแบบนี้ แต่หากคุณเปิดใจรับ หนังก็จะทำหน้าที่บันเทิงคุณได้อย่างเต็มที่ครับ
3.5/5
ปล. การเข้าชิง Oscar สาขาเมคอัพและแต่งหน้ายอดเยี่ยมนั้น เป็นอะไรที่เซอร์ไพร์ซจ๊อดมาก เพราะการแต่งหน้า Johnny Knoxville ที่อายุแค่ 42 กลายเป็น**แก่อายุ 86 นั้น ทำได้ดีมาก เพราะนอกจากจะต้องเมคอัพให้แก่แล้ว เขาต้องเมคอัพให้คนที่ไม่รู้ว่ากำลังถูกถ่ายหนังจำไม่ได้ด้วยว่า นี่คือเวอร์ชั่นแก่ของ Knoxville แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่ได้เข้าชิงจะเป็นซีนฮัม หรือ ซีนไข่ กันแน่
สามารถอ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์อื่นๆ ได้ที่นี้ครับ
หากใครเป็นแฟนของ Jackass ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแก๊งเฟ็ดเฟ่อย่างกะบอยแบนด์แล้วล่ะก็ พวกคุณคงจำสมาชิกทั้งหมดของแก๊งได้ ที่นำทีมโดย Johnny Knoxville หัวหน้าแก๊ง, Bam Margera ห่ามสิงห์สเก๊ต ชอบแกล้งพ่อแม่ตัวเอง, Steve-O หนุ่มหน้าเมาแต่กล้าเสี่ยงทำอะไรบ้าๆ, Chris Pontius **แปลกชอบแก้ผ้า, Ehren McGhehey ปอดสุดของกลุ่ม, Dave England จอมขี้, Preston Lacy อ้วนฮา, Wee-Man ซ่าแต่เตี้ยและ Ryan Dunn เครางาม ทั้ง 9 คนเปรียบเสมือนหน้าตาของกลุ่ม ด้วยเอกลักษณ์และคาแรคเตอร์ชัดเจน แท้จริงมันมีที่มาจากรายการใน MTV ฉายเพียงแค่ 25 ตอนเท่านั้น แต่ด้วยเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ พวกเขาจึงเข็นหนังภาคแรกออกมาใต้ชื่อ Jackass : The Movie ที่มีทุนเพียง 5 ล้านแต่กวาดเรียบทั่วโลกกว่า 70 กว่าล้านมากกว่าทุนถึง 12 เท่า! แม้ว่ากระแสวิจารณ์จะออกมากลางๆ ว่า เหมือนนำรายการมายืดและมาฉายบนจอใหญ่เท่านั้น แต่หนังก็สามารถทำหน้าที่สร้างความบันเทิงและเสียงฮา ได้อย่างเข้าเป้า และพวกเขาก็ขนหนังมาให้เราดูที่ละภาค นานๆครั้งจนหลังจากภาค 3 ฉายและสูญเสีย Ryan Dunn ไป ผมไม่คิดถึงการมีภาคที่ 4 ของเหล่า Jackass อีก จนกระทั่งการมาของ Bad Grandpa
โดยเล่าเรื่องของ Irving Zisman หนึ่งในตัวละคร Jackass ที่แสดงโดย Johnny Knoxville เล่าเรื่องของคุณปู่สุดหื่นที่เพิ่งเสียภรรยาไป แต่ไม่ได้เสียดายเมียเท่าไหร่ ต้องมารับหลานมาจากลูกสาวที่กำลังติดคุกเพราะเรื่องยา ปู่ Irving จึงต้องพาหลาน Billy ไปหาพ่อที่ติดยาเช่นเดียวกัน ในตอนแรกทั้งคู่ไม่ได้ชอบกันเท่าไหร่ในตอนแรก Billy เป็นเด็กที่ซื่อตรงมาก ส่วน Irving ก็เป็นปู่ที่ชั่วเหลือเกิน ภารกิจของ Irving ก็คือการพาหลานไปส่งพ่อ เพื่อที่ตัวเองจะได้ใช้ชีวิตโสดครั้งแรกในรอบหลายสิบปีได้
แม้จะเล่าเรื่องได้ก็ตาม แต่เอาเข้าจริง หนังมันคือเรียลลิตี้แบบสาระแนเวอร์ชั่นหนังโรงชัดๆ เพียงแต่อันนี้ห่ามกว่า ซกมกกว่า ลามกกว่าและฮากว่าหลายเท่า หนังใช้มุมกล้องแบบถ่ายแอบ โดยให้นักแสดงคือหลาน Billy, ปู่ Irving และตัวละครในเนื้อเรื่องแสดงบทบาทที่มี และหนังก็จะจับรีแอ็คชั่นคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่อยู่แถวนั้นว่าจะมีปฏิกริยาเป็นเช่นไร โดยตัวหนังมีความเป็นกึ่งโรดทริปเล็กน้อยในการเดินทางข้ามเมืองและไปพบเจอกับเหตุการณ์ฮาๆห่ามๆ ให้เราได้สนุกกับรีแอ็คชั่นของคนดูรอบๆ
ส่วนที่ดีของหนังเรื่องนี้คือ อารมณ์ขันของหนัง ในการแคนดิดคนดูโดยรอบในสถานการณ์ที่สุดแปลกประหลาด หรือจะเป็นการสตั๊นท์ให้คนดูในสถานการณ์แสดงออกทางอารมณ์ให้เราได้ฮา หรือจะเป็น การแกล้งคนแบบตรงๆ ให้เราได้ฮาอีกเช่นกัน ทั้งหมดคือส่วนดีของหนังจริงๆ เพราะหนังทำหน้าที่นั้นได้ดีสุด แต่ด้วยความที่มีเส้นเรื่องให้จับต้องได้ แม้ไม่มาก หนังก็มีความเป็นรูปธรรมมากกว่า Jackass ภาคที่ผ่านๆมา ที่ไม่ได้เป็นแค่สารคดีบันทึกสตั๊นท์ของทั้ง 9 คนอย่างเดียว แต่หนังเรื่องนี้ก็เป็นการเล่าเรื่องปลอมๆผ่านคนจริงๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ซึ่งเป็นการดัดแปลงที่เก๋ไก๋ดี แต่ก็ทำให้มุกหรือการแคนดิดนั้นเป็นแค่ซีนแทรกระหว่างเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยมีผลอะไร แบบรีบมารีบเล่น แต่ซีนนั้นๆ ก็ยังทำหน้าที่สร้างอารมณ์ขันได้ดี นอกจากนี้เคมีระหว่างหลานปู่ก็ดูจะไปกันได้ ทั้ง Johhny Knoxville ซึ่งคนนี้ก็ไปไกลแล้วในการเล่นเป็นคนแก่ทั้งเรื่อง ส่วน Jackson Nicoll ซึ่งอายุแค่ 10 ขวบก็สามารถเล่นเป็น**เด็กแสบได้ดีใช้ได้ การรับส่งมุกของทั้ง 2 แม้ไม่มาก แต่ก็ทำได้ดี
จริงๆแล้วตรงนี้ผมมักจะเขียนข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ แต่ผมนึกไม่ออกสักเท่าไหร่ เพราะหนังเรื่องนี้เอาจริงๆแล้ว มันก็เป็นหนังที่ดูเอาบันเทิงมากกว่า แต่กระนั้นมันก็พอจะมีข้อคิดอยู่บ้างว่า บางครั้งคนเราก็แค่ต้องหาอะไรมาเติมเต็มชีวิตได้บ้างก็เท่านั้น เหมือนที่ปู่ขาดหลานหรือหลานขาดปู่ไม่ได้ก็ตาม และสิ่งที่มีค่ามากสุดก็คือ ความรักที่แท้จริง นั้นแหล่ะครับ
สรุป Jackass present Bad Grandpa เป็นหนังตลกเรียลลิตี้แบบสาระแนแต่ฮากว่า หยาบกว่า กร้านกว่า และ ซกมกกว่า หนังเต็มไปด้วยคำสบถ แอลกอฮอล์ สิ่งสกปรกหรือแม้แต่ของต่ำอย่าง ฮัม ไข่ และ ตรูด แม้ว่าหนังจะมีเส้นเรื่องเบาบางมาพร้อมกับมุขกวนเบื้องเท้าแบบนี้ แต่หากคุณเปิดใจรับ หนังก็จะทำหน้าที่บันเทิงคุณได้อย่างเต็มที่ครับ
3.5/5
ปล. การเข้าชิง Oscar สาขาเมคอัพและแต่งหน้ายอดเยี่ยมนั้น เป็นอะไรที่เซอร์ไพร์ซจ๊อดมาก เพราะการแต่งหน้า Johnny Knoxville ที่อายุแค่ 42 กลายเป็น**แก่อายุ 86 นั้น ทำได้ดีมาก เพราะนอกจากจะต้องเมคอัพให้แก่แล้ว เขาต้องเมคอัพให้คนที่ไม่รู้ว่ากำลังถูกถ่ายหนังจำไม่ได้ด้วยว่า นี่คือเวอร์ชั่นแก่ของ Knoxville แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่ได้เข้าชิงจะเป็นซีนฮัม หรือ ซีนไข่ กันแน่
สามารถอ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์อื่นๆ ได้ที่นี้ครับ
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google