เรื่องราวของบทเพลงที่ยังอยากเรียนรู้กับ อู๋ ธรรพ์ณธร

5 มี.ค. 57 12:45 น. / ดู 1,162 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หายหน้าหายตาไปไม่เห็นกันนานสำหรับนักร้องหัวใจกระดาษ "อู๋ - ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา" ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน ยังคงทำงานเบื้องหลังวงการเพลง และแวบๆ เข้ามาร้องเพลง "ยิ้มแค่รอยยิ้ม" ประกอบภาพยนตร์เรื่อง "Until Now กาลครั้งหนึ่งจนวันนี้"
"ไม่ได้หาย ก็อยู่ปกตินี่แหละ ล่าสุดปัจจุบันมีเพลงออกมาให้หายคิดถึงกันบ้าง ถ้าทุกคนไปดูหนังไทยเรื่อง กาลครั้งหนึ่งจนวันนี้ Until Now ก็ได้ไปร้องเพลงประกอบครับ ส่วนใหญ่ก็ไปทำเป็นเบื้องหลัง เป็นมิวสิกไดเร็กเตอร์กับพี่ฟอร์ด สบชัย (สบชัย ไกรยูรเสน) ให้ละครเวที สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัลครับ ของ เจ เอส แอล (เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย)" เหมือนกับว่าพอเราทำงานเรื่อยๆ สะสมประสบการณ์มามากก็เลยหันไปทำงานเบื้องหลังแทน "เป็นเรื่องของจังหวะกับโอกาสมากกว่ามั้งครับ ผมเป็นคนชอบเรียนชอบศึกษา ชอบทำอะไรใหม่ๆ ให้เหมือนตัวเองอะเลิร์ตด้วยครับ ก็เลยมีผลทำให้เรารู้สึกว่า เราอยากทำโน่นอยากทำนี่ที่มันจากรูทีนเดิมๆ เปลี่ยนไปมันก็รู้สึกสนุกขึ้น แนวเพลงด้วย"

แนวเพลงแบบไหนที่กำลังศึกษาอยู่ "จริงๆ แล้วผมชอบเพลงเพราะอ่ะครับ ชอบฟังเพราะ ไม่ว่าจะเป็นแนวไหนก็ได้แต่ว่าถ้ามันฟังแล้วมันเพราะ ผมว่าโอเคหมด ไม่ว่าจะเป็นริทึมแอนด์บูลส์ เป็นบูลส์ เป็นแจ๊ซหรือเป็นแดนซ์ เป็นอะไรก็ตาม ถ้ามันฟังแล้วเพราะอ่ะ ผมว่ามันน่าค้นหาดี ทำไมเธอถึงชอบเพลงนี้จัง เราอยากทำแบบนั้นบ้าง โดยที่ไม่ขึ้นอยู่กับแนวเพลงมาเป็นตัวกำหนดว่าจะต้องเป็นแนวนี้แนวนี้ จริงๆ แล้วตอนนี้ค่อนข้างจะเปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องของแนวดนตรีครับ เพราะว่าคุณไม่จำเป็นต้องฟังเพลงร็อกทั้งอัลบั้ม คุณไม่จำเป็นต้องฟังเพลงแจ๊ซทั้งอัลบั้ม มันมีให้ได้เลือกตั้งเยอะตั้งแยะ เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะมาก ซึ่งเมื่อก่อนสมมติถ้าคุณเป็นร็อก คุณก็ต้องเป็นร็อกตลอด ซึ่งปัจจุบันนี้จะบอกว่ามันเป็นการจับจด ไม่มีตัวเองที่ชัดหรือเปล่า ไม่ใช่ครับ ผมว่ามันเป็นการเอ็ดดูเขตด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าทำแล้วมันต้องทำให้ถึงที่สุด"

เรียกได้ว่าเป็นยุคของการผสมผสานแนวดนตรี "ใช่ครับ จริงๆ แล้วมันก็มีอยู่ไม่กี่แนว แต่ว่าด้วยชื่อของแนว คนก็จะเอาไปตั้งเอง ป๊อปพังก์ พังก์แจ๊ซก็มี เป็นเรื่องของความจริตของคนมากกว่าว่าจะชอบอะไร สมมติบางทีเราตื่นเช้ามาจะให้ฟังเพลงหนักดุดันตั้งแต่เช้าคงไม่ใช่ คงเป็นความชอบด้วย" จากประสบการณ์ในการเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จทำให้เข้าใจคนฟังเพลงมากขึ้น "เราเคยออกอัลบั้มแล้ว เรารู้สึกว่าเรารู้แล้วเพลงนี้เราชอบแล้วมันโดนกับคนอื่น อันนั้นเรียกว่าแมสถูกไหมครับ ซึ่งแมสส่วนมากก็คือเพลงเพราะๆ บางคนฟังก็ไม่รู้เรื่องแต่ว่าคุณต้องเปิดใจเป็นกลางเพื่อที่จะยอมรับว่ามันมีแนวดนตรีอื่นๆ อีกหลายๆ อย่าง ผมพยายามทำตัวเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้วที่จะเปิดรับเสมอ เวลาเราทำงานเราคิดว่าเราได้ยินอะไรมากกว่า แล้วเราจะนำเสนอสิ่งที่เราได้ยินให้กับคนอื่น อันนั้นก็เป็นเรื่องอีกศาสตร์หนึ่ง ไม่เกี่ยวกับเพลง บางทีเพลงเราคิดว่าเพราะแน่ๆ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ มันต้องเป็นเรื่องของจิตวิทยา"

แก้ไขล่าสุด 5 มี.ค. 57 13:35 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google