วิจารณ์ The Lego Movie

The Lego Movie
By Bigtum

: จิตวิญญาณต่อของเล่นอันเห็นต่าง

การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้หมายความว่าสายตาที่มีต่อของเล่นจะลดน้อยด้อยค่าลงเสียเมื่อไหร่ ไม่งั้นจะสอนลูกได้เหรอว่าให้รู้จักคุณค่าในของเล่น แล้วอะไรคือสิ่งที่เป็นความแตกต่างต่อของเล่นระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ล่ะ? เมื่อลองพินิจพิเคราะห์แล้วจะพบว่ามันมีหลายข้ออยู่ อย่างเเรกเลยที่เห็นจากในหนังก็คือความเป็นระเบียบ เพราะคำกล่าวที่ว่าเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า จึงทำให้เห็นว่าผู้ใหญ่จะทำทุกอย่างเป็นระบบระเบียบมากกว่า ไม่เว้นเเม้แต่ของเล่น จะจัดอย่างเข้าที่เข้าทาง ยิ่งถ้ามองว่าเป็นของสะสม จะยิ่งถนอมเก็บรักษาอย่างดี มากกว่าที่จะนำมันออกมาเล่น ซึ่งแน่นอนว่าข้อนี้จะตรงข้ามกับเด็กอย่างสิ้นเชิง กับการเอามาหยิบมาเล่นอย่างหนุกหนาน อาจจะมีการขว้างปาบ้างนิดหน่อย แต่อย่าลืมว่านั่นคือจินตนาการน้อยๆของเด็ก

ผู้ใหญ่ที่ดีไม่ควรปิดกั้นจินตนาการของเด็ก ต้องบอกว่าในความคิดของเด็กนั้นช่างไร้กรอบไร้ขอบเขตดีจริงๆ สามารถที่จะนำเจ้าของเล่นตัวโปรดบินโลดเเล่นออกไปที่ไหนก็ได้ สุดขอบโลก ไกลสุดจักรวาลไม่ใช่ปัญหา แต่บางทีปัญญาในวันเวลาที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ต่างหาก เพราะอาจจะทำให้หลงลืมสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้ตระหนักอะไรกับโลกของเด็ก วางแผนมันเสียหมดทุกอย่างว่าอันนี้ดี อันโน้นไม่ดี ถ้าบางทีหากผู้ใหญ่ยอมผ่อนปรน เปิดใจและยอมรับตรงนี้บ้าง ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเด็กก็จะไม่ถูกทำลายลง

หนังเลโก้เรื่องนี้ฉลาดมาก ที่เข้าใจเอาหยิบจับของใกล้ตัวอย่าง 'กาว' มาเล่น คุณสมบัติของกาวคือมันสามารถยึดติดสิ่งของ ซึ่งถือเป็นข้อดี แต่หนังเอามาตีความใหม่กลายให้เป็นข้อเสียได้ ความภาคภูมิใจของผู้ใหญ่คือเมื่อปลูกสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว จะคอยยึดฐานติดเอาไว้ตรงนั้นให้มั่นคงแข็งแรง ไม่อยากที่จะเคลื่อนย้ายไปไหน นี่จึงเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวกระทบกระเทือนจิตใจ เมื่อมีคนพยายามจะมายุ่งกับฐานอันนั้น

สำหรับประเด็นเรื่องการวางตัวให้เอ็มเม็ตเป็นเพียงหนุ่มก่อสร้างผู้ใช้ชีวิตแสนธรรมดาตามตำราที่จับพลัดจับพลูกลายมาเป็นฮีโร่ อันนี้ก็เข้าสูตรตำราหากินสำหรับหนังเหมือนกัน ที่ดูแล้วเข้าใจง่าย ให้แง่คิดแง่มุมแก่คนดู ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองชอบอยู่แล้วในการพาเจ้าตัวเล็กไปดูการ์ตูนที่แฝงสาระแบบนี้

จากหน้าหนังที่เห็นว่าเป็นเพียงของเล่นตัวต่อเลโก้เเข็งๆ ไม่พริ้วไหว เลยทำให้หลายคนอาจไม่เชื่อว่ามันจะดูสนุกยังไง ขอบอกว่าหนังใช้จุดอ่อนตรงนี้แหละ ทำให้มันกลายเป็นประโยชน์ ด้วยการใส่มุกตลกจิกกัดแกมหยอกน่ารักให้ออกมาดูสนุกเพลิดเพลิน แต่บางคนก็อาจจะไม่ขำ เพราะมัวแต่คำนึงหาตรรกะ มองว่ามั่วซั่วสะเปะสะปะบ้างต่างๆนาๆ ขอให้เปิดใจ ดูไปแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะบางทีอาจจะค้นพบกับความคิดสร้างสรรค์อย่างสนุกลื่นไหล ที่มาเซอร์ไพรส์เล็กๆกันแบบไม่ให้รู้ตัวก็ได้

ระดับคะแนน "B"

ปล. ชอบการดีไซน์ในฉากแอ็คชั่นต่างๆของหนังดีจริงๆ ถึงจะเป็นแค่ตัวต่อเเท่งๆแข็งๆ แต่ลวดลายลีลาการเคลื่อนไหวของมุมกล้องนั้นมาพร้อมกับสปีดความเร็วหาได้แข็งทื่อไม่