The Lego Movie – นอน-สต๊อป-โมชั่น (วิจารณ์)

18 มี.ค. 57 18:12 น. / ดู 754 ครั้ง / 1 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์
The Lego Movie – นอน-สต๊อป-โมชั่น

หนึ่งในของเล่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก (และขึ้นชื่อในราคาที่แพงหูฉี่) Lego คือแบรนด์ของเล่นที่ผมรับรองว่าคนส่วนใหญ่ต้องได้เคยสัมผัสมาบ้าง ในการสร้างสิ่งของขึ้นมาจากบล๊อคพลาสติคหลายขนาดหลายสี คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มันคือของเล่นที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์โดยแท้ ประกอบกับในยุคที่ภาพยนตร์เริ่มถึงทางตัน การนำเรื่องจริงมาสร้าง, ทำภาคต่อ, ย้อนภาคก่อนและการ Adaptation คือการนำสื่ออื่นมาทำเป็นภาพยนตร์ กำลังเฟื่องฟู Lego จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกทำออกมาเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่น

และด้วยความที่ Lego เป็นแบรนด์ของเล่นที่มีประเด็นที่เล่นได้ไม่กี่อย่าง ผู้กำกับที่ต้องทำหน้าที่คุมทางและโทนของหนังให้เอาอยู่จึงสำคัญมาก Phil Lord & Christopher Miller จากผลงานอนิเมชั่นดังเงียบๆแต่ฮาสุดตรีนอย่าง Cloudy with the Chance of Meatballs และรีเมคซีรี่ย์ตลกสุดเกรียนอย่าง 21 Jump Street จึงได้รับทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่และสุดสร้างสรรค์ชิ้นนี้ ผมจึงเบาใจไปเปลาะนึงว่า คงไม่ออกมาไก่กาแน่นอน ...และก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

The Lego Movie เล่าเรื่องของหนุ่มก่อสร้างธรรมดาๆในเมืองนาม Emmet ที่กลายมาเป็นคนพิเศษจากคำทำนายที่จะมากู้สถานการณ์จากการล้างโลกของ Lord Business ด้วยอาวุธร้าย "Kragle" แต่ด้วยความที่เป็นหนุ่มก้อสร้างธรรมดาๆที่ทำตามขั้นตอนและเป็นเพียงคนส่วนหนึ่งของสังคมที่ไร้จุดเด่นใดๆ เขาจึงขาดทักษะในการเป็น Master Builder หรือนักสร้างสรรค์ในการทำสิ่งของต่างจากบริ๊คเลโก้ต่างๆรอบตัว Emmet จึงต้องผจญภัยร่วมไปกับ Master Builder อีกหลายคนเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนพิเศษดั่งคำทำนายจริงๆ

หนังใช้เทคนิคสต๊อปโมชั่นได้อย่างสวยงาม แม้ว่าช่วงแรกที่เริ่มหนัง เราจะยังไม่คุ้นชินกับการใช้ตัวต่อเลโก้เป็นสิ่งในการดำเนินเนื้อเรื่องแต่เมื่อหนังดำเนินไปเราก็เริ่มชินกับตัวหนังเข้าเรื่อยๆ เพราะระหว่างนั้นหนังก็ประเคนมุกสุดฮาพร้อมกับจังหวะจะโคนการดำเนินเรื่องแบบสุดเกรียน ชนิดที่ว่าฮาได้ทุกๆนาที กระนั้นหนังยังมีประเด็นให้คบคิดสุดคมคาย เพื่อทำหน้าที่บันเทิงไม่เพียงแต่เด็กเล็กที่ได้สนุกกับภาพอนิเมชั่นสวยๆ แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกไปกับเนื้อหาที่มีข้อคิดด้วย

ส่วนที่ดีที่สุดของหนังก็คือ "ความฉลาด" ที่หนังเรื่องนี้มี นับตั้งแต่ประเด็นที่หนังพยายามสื่อ การดำเนินเนื้อเรื่อง มุกในหนังที่ไม่ได้ไก่กา อีกทั้งเนื้อเรื่อง แม้ว่าจะมีสูตรสำเร็จแต่ก็มีความเซอร์ไพร์ซซ่อนอยู่ อีกทั้งยังแทรก "โลกของความเป็นจริง" ในโลกแห่งจินตนาการของเลโก้ลงไปด้วย รองลงมาคือ คนพากย์แต่ละคนที่ทำหน้าที่ในการพากย์เสียงได้อย่างไหลลื่น ถัดมาคือ ความสวยงามของเทคนิคสต๊อปโมชั่นที่ผสมกับคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเข้าด้วยกัน ที่ทำออกมาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ (โดยเฉพาะฉากมหาสมุทรนั้นไง)

Lego คือของเล่นที่ทำมาตั้งแต่ปี 1949 เพื่อให้เด็กได้มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่สูง จึงไม่แปลกที่ของเล่นที่จะมีตัวต่อหลายขนาด หลายแบบ หลายสี ได้ออกมาให้สร้างสรรค์ผลงานกัน หนังเรื่องนี้เล่นประเด็น ความคิดสร้างสรรค์ ได้อย่างแยบยล ในการสื่อถึงความเป็น Master Builder ที่สามารถสร้างของขึ้นมาใหม่โดยไม่สนถึงความแปลกประหลาดในสายตาคนอื่น แต่นั้นมันก็คือความคิดสร้างสรรค์ประเภทนึง อีกทั้งหนังยังสื่อด้วยว่า อย่าปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ ในการสร้างสิ่งของต่างๆ เพราะจินตนาการเป็นสิ่งที่ทรงพลังและทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ผ่านทางเนื้อเรื่องและเรื่องราวในหนัง ที่เราหลงเอาใจช่วยและสนุกได้อย่างถอดตัวไม่ขึ้น จนที่เราไม่รู้ว่า มันอาจจะเป็นเรื่องๆนึงที่เด็กคิดขึ้นมาก็ได้ อีกทั้งทุกคนนั้นก็เป็นเพียงคนธรรมดาไม่ได้พิเศษแต่อย่างใด เพียงแต่ความพิเศษมันหลบซ่อนอยู่ในตัวเรา และทุกคนนั้นมี มันเป็นพลังที่ทรงพลังและไม่สิ้นสุด ความพิเศษอันนั้นก็คือ "ความคิดสร้างสรรค์" นั้นเอง

สรุปแล้ว The Lego Movie คืออนิเมชั่นภาพสวยด้วยเทคนิคสต๊อปโมชั่นสุดไหลลื่น มาพร้อมกับเนื้อเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์สุดฮาเกรียน แต่มีประเด็นและข้อคิดที่คมคายมากๆเรื่องนึง ซึ่งสามารถสร้างจินตนาการให้เด็กเล็กๆและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใหญ่ไปได้อย่างพร้อมๆกัน เป็นอนิเมชั่นที่ทุกคนไม่น่าพลาดอย่างยิ่ง เพราะ Everything is Awesome!

4.75/5
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | XABI.A | 19 มี.ค. 57 19:52 น.

หนังน่ารักมากๆค่ะ
ฉากมหาสมุทรสวยมากๆ
ชอบตอนดัมเบิลดอร์กับแกนดาล์ฟ อันนั้นฮาจริง 
แนวคิดเจ๋งมากๆค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google