โฆษณาทีวีเผยโฉมก็อตจิแล้ว น่าดูมาก! +ข้อมูลและภาพประกอบ

4 เม.ย. 57 13:01 น. / ดู 3,082 ครั้ง / 5 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์

ไม่รู้เวอร์ชั่น 2014 ลักษณะจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
ในตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสัตว์ประหลาดที่ขึ้นชื่อที่สุดอีกตัวละครนึงนั่นก็คือ Godzilla ที่โด่งดังจนกลายเป็นหนังที่ทุกคนต้องรู้จัก งั้นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่ามันมีที่มาอย่างไร



Godzilla 1954
ต้นฉบับ ก็อตซิลล่า  เค้าว่ากันว่าเป็นต้นฉบับที่ดีที่สุดของหนังแนวสัตว์ประหลาดและเป็นบ่อเกิดของหนังซีรี่ย์ชุดนี้มาเป็นกระบุง ทำรายได้ไปถึง $2 ล้าน ซึ่งถือว่าเยอะพอควร




Godzilla Raids Again 1955
หลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จไปไม่น้อย ภาคต่อจึงตามมาในบัดดล แม้ว่าจะเทียบเคียงกับภาคแรกในแง่เนื้อหา แต่ในแง่รายได้ต้องบอกเลยว่าตรงข้ามจากทุนสร้างเพียง $800,000 แต่สามารถขายตั๋วราวๆ 8 ล้านใบในสมัยนั้น กลายเป็นหนังก็อตซิลล่าที่ทำรายได้สูงสุดเป็นลำดับที่ 3 ของตระกูลซีรี่ย์นี้เลยทีเดียวและมีคู่ปรับอย่าง Anguirus ที่กลายมาเป็นคู่ต่อสู้ตัวแรกให้กับภาพยนตร์




King Kong vs. Godzilla 1962
ห่างหายไปถึง 7 ปี ก็กลับมาสร้างความคึกคักอีกครั้งและทำรายได้ตระกูลก็อตจิสูงสุดตลอดกาลของหนังซีรี่ย์นี้  โดยสามารถขายตั๋วได้ถึง 12 ล้านใบเลยทีเดียว ถือเป็นตอนที่มีผู้ชมเข้าไปเยอะที่สุดตลอดกาลและกระแสนั้นค่อนข้างไปทางบวกอีกด้วย 




Mothra vs. Godzilla  1964
หลังจากภาคที่แล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง มาคราวนี้หลังจากห่างหายไปถึง 2 ปี กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งในแง่คำวิจารณ์และด้วยเสียงเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้หนังฮิตในระดับนึงรวมทั้งยังมีตัวละครที่อยู่ในความทรงจำอย่างผีเสื้อ Mothra อีกด้วย




Ghidorah, the Three-Headed Monster 1964
ในปีเดียวกันนั้นเองก็ยังขนหนังตระกูลนี้อีกเรื่องด้วยและทำให้มันกลายเป็นคู่ปรับตลอดกาลของก็อตซิลล่าไปโดยปริยายและขึ้นชื่อว่าเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดของตระกูลนี้ ตัวหนังขายตั๋วไปได้ถึง 4.3 ล้านใบเลยทีเดียว




Invasion of Astro-Monster 1965
ถัดมาเพียง 1 ปี หนังก็ได้ฤกษ์ฉายอีกครั้ง ตัวหนังเองเริ่มออกทะเลไปบ้าง แต่ก็ยังขายตั๋วได้ไปถึง 3.8 ล้านใบเลยทีเดียว และกลายเป็นหนังเรื่องแรกที่มีเอเลี่ยนเข้ามาด้วย




Godzilla vs. the Sea Monster 1966
เป็นหนึ่งในตอนที่มีกระแสลบพอควร โดยคราวนี้เป็นหนังเรื่องแรกอีกตอนที่ก็อตซิลล่าต้องปะทะกับศัตรูถึง 2 ตัวละครอย่าง Mothra และ Sea monster ขายตั๋วไปได้ 3.5 ล้านใบและมีการนำเอาออกมาฉายอีกครั้งในปี 1972 โดยขายตั๋วได้ประมาณ 760,000 ใบ




Son of Godzilla 1967
เป็นตอนอีกตอนที่เรียกเสียงลบและบวกในพอๆกันโดยคราวนี้พ่วงลูกน้อยมาด้วย ดูไปคล้ายๆเต่าไงไม่รู้ 555+ แต่ตั๋วหนังก็ยังขายได้เพียง 2.5 ล้านใบเท่านั้น



Destroy All Monsters 1968
เพียงในปีนั้นสตูดิโอคงคิดว่าจะทำอย่างไรดีให้หนังกลับมีกระแสอีกครั้ง ทางสตูดิโอจึงจัดเต็มตัวละครตัวร้ายทั้งหลายมาปะทะกันแบบไม่หยุดหย่อน ตัวหนังนั้นได้กระแสไปแง่บวกและได้รับความนิยมพอควร โดยขายได้ไปเพียง 2 ล้านใบเท่านั้น




All Monsters Attack 1969
กลับมาอีกครั้งและทำให้กระแสหนังร่วงหล่นถึงขีดสด แม้จะจับเอาตัวร้ายหลายตัวมาปะทะกัน แต่ตัวหนังเข้าขั้นแย่ในความคิดหลายๆคนที่ได้ชม ตัวหนังนั้นเป็นเรืองแรกที่ขายตั๋วได้ไม่เกิน 2 ล้านใบ โดยขายได้เพียง 1.5 ล้านใบเท่านั้น




Godzilla vs. Hedorah 1971
หายไปหลายปี กลับมาคราวนี้ หนังกระแสมาในระดับพอใช้ โดยตัวหนังมีโปรดักชั่นที่ลดลงเยอะเมื่อเทียบกับหนังเรื่องก่อนๆ แต่ตัวหนังเองก็ขายตั๋วได้เพอ่มขึ้นจากหนังเรื่องก่อน โดยขายตั๋วได้ 1.8 ล้านใบ




Godzilla vs. Gigan 1972
ตัวหนังนั้นได้เพิ่มความทันสมัยมากขึ้นโดยอิงเกี่ยวกับเอเลี่ยนผสมกับวัฒนธรรมเดิม เหมือนหนังเรื่องก่อน แต่มาคราวนี้ก็ขายตั๋วไปได้ 1.8 ล้านใบเช่นเดิม
ส่วนตัวหนังเองอยู่ในระดับกลางๆ แม้จะมีตัวละครเข้ามาเสริมทัพมากขึ้นก็ตาม




Godzilla vs. Megalon 1973
ตัวหนังนั้นเข้าค่ายร่วงหล่นอีกตามเคยและออกทะเลไปเอาอุลตร้าแมนมาต่อสู้อีกไม่รู้ กระแสนั้นเข้าข่ายลบและกลายเป็นหนังก็อตซิลล่าที่ขายตั๋วไปได้ไม่ถึง 1 ล้านใบ ได้ไปเพียง 9.8 แสนใบเท่านั้น




Godzilla vs. Mechagodzilla 1974 original Version
กลับมาสร้างกระแสได้อีกครั้งแม้อาจจะไม่เยี่ยมยอดกระเทียมเจียวอย่างผลงานช่วงแรกๆ โดยคราวนี้ทางค่ายได้สร้างตัวละครอีก 1 ตัวละครเอาไว้ให้หลายๆคนจดจำอย่าง Mechagodzilla หุ่นเหล็กคล้ายๆก็อตจิ โดยคราวนี้สามารถขายตั๋วหนังได้ 1.3 ล้านใบ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากเรื่องก่อนหน้าถึง 35% เลยทีเดียว




Terror of Mechagodzilla 1975
ดีไม่ทันไรก็ลงเหวอีกตามเคย รายได้ลดลงมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับหนังก่อนหน้า
หนังขายตั๋วได้ไปเพียง 9.7 แสนใบเท่านั้นและกลายเป็นหนังก็อตจิที่ต้องต่อสู้กับตัวร้ายถึง 2 ตัวละครที่ทำรายได้น้อยที่สุดเป็นเรื่องแรก นอกจากนั้นตัวหนังได้คำวิจารณ์ในทางลบไม่น้อยหน้ารายได้เลย



The Return of Godzilla 1984
ห่างหายไปถึง 9 ปี กลับมาคราวนี้ต้องบอกเลยว่าดังเป็นพลุแตก มีการสรรสร้างเนรมิตฉากให้สมจริงขึ้น ปรับเปลี่ยนแนวก็อตจิแบบใหม่ให้ดูแข็งแรงและโอ่อ่า ตัวหนังได้คำวิจารณ์ครึ่งๆกลางแต่รายได้กลับทะลุสูงเลยทีเดียว โดยคราวนี้รายได้ทั่วโลกทำไปถึง $11 ล้าน โดยในญี่ปุ่นก็ทำรายได้ไปถึง 3.2 ล้านใบเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่ถึงประสบความสำเร็จเท่าที่สตูดิโอคิดไว้




Godzilla vs. Biollante 1989
ห่างหายไป 5 ปี สตูดิโอก็สรรสร้างผลงานในระดับคลาสสิคอีกครั้ง ด้วยการเอาก็อตจิมาต่อสู้พิชยักษ์ โดยขายตั๋วไปได้เพียง 2 ล้านใบ  รายได้ทั่วโลก $7 ล้าน  เป็นอีกตอนที่หลายคนดูแล้วประทับใจไม่น้อยแม้รายได้จะน้อยกว่าตอนที่แล้วก็ตาม




Godzilla vs. King Ghidorah 1991
กลับมาอีกครั้งเป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุดและสมจริงที่สุดในสมัยนั้น การจับเอาคู่ปรับตลอดกาลมาสู้กันได้ผลเป็นอย่างดี ด้วยการทำรายได้ทั่วโลกถึง $11 ล้าน ในญี่ปุ่นขายได้ถึง 2.7 ล้านใบ นอกจากนี้ยังได้รางวัล Special Effects จากงาน Japan Academy award อีกด้วย




Godzilla vs. Mothra 1992
กลับมาเจอกันอีกครั้งและกลายเป็นตอนที่ทำรายได้สูงสุดในปี 1992 
โดยขายตั๋วไปได้ถึง 4.2 ล้านใบ แต่เมื่อทำรายได้ทั่วโลกตีเป็นเงินได้ถึง $20 ล้าน กลายเป็นความสำเร็จสูงสุดของค่ายในปีนั้น แม้ว่ากระแสจะไม่ถึงกับเยี่ยมยอดดั่งที่เคยเป็นมา.



Godzilla vs. Mechagodzilla II 1993
กลับมาอีกครั้งหลังจากเจอกันไปเมื่อ 10 กว่าปี มาคราวนี้กระแสก็ไม่ต่างกับเรื่องที่แล้วมากและยังเป็นหนึ่งในตัวละครร้ายที่โปรดปรานของคนญี่ปุ่น ด้วยการขายตั๋วไปได้ประมาณ 3.8 ล้านใบเลยทีเดียว




Godzilla vs. SpaceGodzilla 1994
เพียงปีเดียวก็สร้างตัวละครอันน่าจดจำขึ้นมาอีกแล้ว แม้กระแสจะดรอปลงนิดหน่อยก็ตาม มาคราวนี้หนังขายตั๋วได้ราวๆ 3.2 ล้านใบ แต่ถ้ารายได้รวมทั่วโลกทำไปได้ถึง $32 ล้านเลยทีเดียว ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เพราะด้วยกระแสเงินที่ผันผวนในช่วงนั้น




Godzilla vs. Destoroyah 1996
เพียง 2 ปี ก็กลับมาฮิตอีกครั้ง ไม่ใช่แค่นั้นยังทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นประจำปี 1996 อีกด้วย ถือเป็นตอนทีผมชอบมากที่สุดอีกตอนนึงเลยก็ว่าได้
ด้วยความที่ค่าย TOHO ประกาศว่าจะเป็นตอนสุดท้ายของซีรี่ย์นี้ (ปรากฏว่าไม่จริง)
และจะฆ่าก็อตจิ โดยในญี่ปุ่นขายตั๋วได้ถึง 4 ล้านใบเลยทีเดียวและกระแสนั้นดังไปทั่วญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ อีกทั้งตัวหนังยังได้รับรางวัลหนังที่มีรายได้สูงสุดประจำปี 1996 อีกด้วย



Godzilla (Hollywood Remake)
สร้างกระแสไปทั่วโลกกลับการมาครั้งนี้กับคำนิยามว่า"ใครว่ามันสูญพันธ์" เฮ้ย! คนละเรื่อง "ใครว่าขนาดไม่สำคัญ" (อย่าคิดลึก 55+)  แต่เมื่อตัวหนังฉายกลับโดนวิจารณ์เละไม่เป็นชิ้นดี รวมทั้งรายได้ก็ไม่เข้าเป้าตามที่คาดหมายกันเอาไว้ แต่ยังไงก็ตามมันก็ดูสนุกไปอีกแบบ




Godzilla 2000 1999
กลับมาฮิตอีกครั้งกลับมาก็อตจิโฉมใหม่ที่ทำรายได้ถล่มทลาย แม้กระแสจะก้ำกึ่งก็ตามและทำรายได้ในญี่ปุ่นไปราวๆ $15 ล้าน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จไปไม่น้อย
แม้จะเทียบตอนก่อนหน้าไม่ได้แต่อย่างไรก็ตามหนังก็ยังติดชาร์ตทำรายได้สูงสุดประจำปี 1999 ในช่วงสุดสัปดาห์วันหยุด




Godzilla vs. Megaguirus 2000
กลับมาอีกครั้งแต่ไม่สวยเท่าไหร่ ตัวหนังนั้นได้คำวิจารณ์ก้ำกึ่ง รวมทั้งรายได้ลดลงโดยทำได้ไปเพียง $10 ล้านเท่านั้น ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งที่ไม่สวยเท่าไหร่
แต่ก็ไม่ขี้เหร่ และเป็นหนังตระกูล Millenium เรื่องที่ 2 ต่อจากเรื่องที่แล้วของหนังตระกูลก็อตจิ




Godzilla, Mothra and King Ghidorah: Giant Monsters All-Out Attack 2001
เป็นหนังตระกูล Millenium ที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องโดยทำรายได้ไปถึง $20 ล้านเลยทีเดียว รวมทั้งตัวหนังยังได้คำวิจารณ์ไปในทางที่ดีอีกด้วย ไม่แปลกใจที่หนังจะกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง




Godzilla Against Mechagodzilla 2002
กลับมาอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 และก็ยังขายได้ด้วยตัวของมันเอง มาคราวนี้ตัวหนังก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยทำรายได้ไป $16 ล้าน อาจจะเป็นเพราะตัวหนังพัฒนาอะไรต่างๆมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้ ส่วนตัวแล้วเฉยๆครับตอนนี้



Godzilla: Tokyo S.O.S. 2003
มาคราวนี้เหมือนจะออกถี่ไป รายได้จึงสวนกระแสยิ่งนัก แม้จะมี Mothra และ Mechagodzilla ก็ตามแต่รายได้ก็ร่วงหล่นไปไม่น้อย โดยทำรายได้ไปเพียง $12 ล้านเท่านั้น




Godzilla: Final Wars 2004
เป็นตอนสุดท้ายและตอนแรกที่หนังสร้างไม่คุ้มทุนและกลายเป็นหนัง TOHO ที่สร้างประวัติศาสตร์เนรมิตตัวละครทั้งหมดที่เคยเห็นมา อีกทั้งด้วยตัวหนังเข้าขั่นแย่กว่าที่คาด ด้วยทุนสร้างถึง $19 ล้าน แต่ทำรายได้เพียง $12 ล้าน ถือว่าผิดคาดอย่างแรง เป็นการจบแบบไม่สวยเลยทีเดียว




Godzilla 2014 (Remake version)
เป็นการกลับมารอบที่ 2 และท่าทางจะไปได้สวยไม่น้อยทั้งคำวิจารณ์และรายได้ มาคราวนี้ทางค่ายมั่นใจว่าตัวหนังจะทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ เลยออกทุนสร้างให้ถึง $160 ล้าน อีกทั้งยังถ่ายทำในระบบ 3D อีกด้วย ยังไงต้องรอติดตมว่าหนังจะทำได้ดีอย่างที่คิดไว้ไหม

แต่นอกจากนั้นแล้วทางค่ายยังส่งโฆษณาทีวีมาเป็นชุด มาคราวนี้เห็นก็อตจิเป็นตัวเป็นตนแบบใกล้ๆแล้ว ต้องบอกว่าคราวนี้ญี่ปุ่นมีหนาวแน่นอน


โฆษณาทางทีวีตัวอื่น

http://www.youtube.com/watch?v=5KBkB8Rj-Ac

http://www.youtube.com/watch?v=mlCxhytuXuw

http://www.youtube.com/watch?v=X9EvWwtA2-g
แก้ไขล่าสุด 4 เม.ย. 57 13:58 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | Mars'andMe | 4 เม.ย. 57 17:47 น.

เยอะเหมือนบ้านผีปอบบ้านเราเลย 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | [REC.O] | 4 เม.ย. 57 18:02 น.

ตอบ คห.1 555+ ผมว่าเยอะกว่าด้วยซ้ำ รวมๆก็ 20 กว่าตอนเข้าไปแล้ว จาก 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ตอนนี้อยากดูเวิอร์ชั่นล่าสุดใจจะขาด 

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Mars'andMe | 4 เม.ย. 57 21:14 น.

ผมอยากดูมากเหมือนกันครับ ตั้งความหวังไว้สูงมาก

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | [REC.O] | 5 เม.ย. 57 11:37 น.

ครับผม แต่ผมคงไม่อยากตั้งความสูงไว้ กลัวหนังจะทำให้ผิดหวัง แต่ยังไงเวอร์ชั่นนี้ก็ดูมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง ทำให้มันน่าดูเป็นพิเศษ อีกอย่างตัวร้ายแว่วๆว่าจะมีถึง 2 ตัว เลย ยังไงต้องรอชม แต่เห็นในโฆษณาหลักจะมีตัวเดียว บางทีอาจจะเป็นเซอร์ไพรซ์ก็เป็นได้ 55+

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | ตัวส้ม'' | 5 เม.ย. 57 17:08 น.

แอบตกใจ นึกว่าก็อตจิเทยเที่ยวไทยเล่นหนัง 5555

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google