ถาม Oculus ครับ มีสปอย

#1 | miss.nobody | 10 พ.ค. 57 21:58 น.

คือหนังมันไม่ได้บอกแบบชัดเจนว่าตกลงผีมีจริงๆหรือเป็นแค่ภาพหลอน เพราะฉะนั้นขอเดา(ตามความเห็นส่วนตัว)ว่า

1. อาจจะเป็นปัญหาทางจิตก็ได้ค่ะ สังเกตได้จากน้องชายที่อยู่กับจิตแพทย์มาเป็น 10 ปี ตอนแรกๆจะไม่มีอาการที่แสดงถึงการโดนสะกดจิตได้ ต่างจากพี่สาวที่ตลอด 10 ปีนั้น หมกมุ่นกับเรื่องของผีในกระจกมาโดยตลอดจะดูจิตนิดๆ พอมากลับมาที่บ้านเก่า อาจด้วยเรื่องในอดีต+เรื่องที่พี่สาวสาธยายมา น้องเลยเริ่มโดนสะกดจิตไปโดยไม่รู้ตัว

2. ถ้าดูเป็นไสยศาสตร์ก็น่าจะใช่ ถ้ามองแบบวิทยาศาสตร์อาจจะไม่ ที่จริงต้นไม้ที่ตายอาจเป็นแค่ภาพหลอน (ความคิดส่วนตัวล้วนๆ)

3. ข้อนี้ค่อนข้างมั่นใจมาก คือ ถ้าเป็นคนไปทุบกระจกเนี้ย ทำเองไม่ได้ เลยตั้งสมอไว้ทำให้กระจกแตกนั่นแหละค่ะ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตั้งเวลานานขนาดนั้นด้วย ถ้าเป็นเรานี้เซ็ทอะไรเสร็จแล้ว ทิ้งสมอเลย 5555555

ปล. คือเราดูไปในทางจิตวิทยาอ่ะค่ะ ไม่ได้ดูไปในทางหนังผีเท่าไหร่ คิดว่าครอบครัวนี้อาจเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร แต่เป็นอาการที่ได้ยินเสียงต่างๆนาๆ เรามั่นใจมากตอนฉากที่คนพ่อพูดตามเสียงหลอนๆที่ซ้อนมานั่นแหละค่ะ และอาจเป็นโรคที่เห็นภาพหลอนด้วยก็ได้

#2 | Nameslesz | 11 พ.ค. 57 01:46 น.

อาจจะเป็นเหมือนที่ คห.1บอก แต่ผมไม่ได้คิดอย่างงั้นอ่าครับ
ผมคิดว่า หนังจะสื่อว่า ผีมีจริงๆนะ ตอนแรกๆจะบอกว่าอาจจะคิดกันไปเอง แต่ตอนหลังเหมือนจะบอกให้คนดูได้รู้แล้วว่า พวกเขาไม่ได้คิดเอง ดูได้จาก คนที่มีกระจกก่อนหน้า โดนหมดอ่าครับ ต้นไม้เอย อุณหภูมิห้องเอย

1. ก็คงโดนผีละครับ แต่จุดประสงค์คงต้องการเล่าสลับไป มา ให้หนังน่าดู จุดขายเลยครับ ชอบ

2. ตามหนังก็บอกอย่างนั้นครับ ดูจากตอนที่นางเอกไปถามกระจก คงจะหิวมากนะ แล้วเดินออกมามีต้นไม้ตายด้วย แสดงว่าเป็นไปได้มากที่กระจกนี่จะมีชีวิตครับ

3.ตั้งเวลาไว้กันพลาดครับ เหมือนคนก่อนๆ ที่อาจจะโดนภาพหลอน หลอกจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ไม่สามารถออกมาจากโลกจริงหรือหลอกได้ เครื่องนี้จะถูกตั้งเวลาแล้วลงมาทำลายกระจกครับ ก็คือถ้านางเอกกับพระเอกไม่มาทำอะไร 30 นาที เครื่องจะตกลงมาทำลายกระจกครับ แต่ที่ไม่ทำลายตอนแรกเลยเพราะคนพี่ต้องการพิสูจน์และสองพี่น้อง ต่างก็คิดว่า กระจกนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ ที่ตอนแรกน้องชายถือเก้าอี้จะฟาดกระจก แล้วอยู่ดีๆก็วาง แล้วคนพี่บอก เราต่างก็รู้ว่าทำลายมันไม่ได้ ซึ่งหนังก็ไปเฉลยตอนหลังอ่าครับว่า ก่อนหน้านี้ที่ทั้ง 2 ตอนเป็นเด็กทุบกระจกไม่แตกจริงๆแล้ว ทุบไม่โดนครับ ไปทุบกำแพง เหมือนโดนหลอกไม่ให้เห็น แต่พอยิงปืนแล้วพอล้มไปโดนกระจกก็ร้าวครับ แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันตอนจบพระเอกเลือกที่จะทำลายกระจก แล้วจบทุกสิ่งแล้ว แต่ก็ ...... ตามนั้นครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ คิดว่าหนังต้องการสื่อแบบนี้ 

ปล. ตอนที่โทรหาตำรวจครั้งแรก นั้นโทรติดจริงครับ แต่ครั้ง 2 ไม่จริงแล้ว เพราะกระจกจะขยายอาณาเขตเรื่อยๆแล้วถามว่าทำไมทั้งคู่ไม่วิ่งหนีออกไปแล้วให้ลูกตุ้มเหวี่ยงตามเวลาเอง ทั้งคู่ไม่เชื่อใจว่าตัวเองอยู่นอกบ้านจริงครับ เพราะมองหน้าต่างไปยังเห็นตัวเอง 2 คนไปยืนหน้ากระจกอยู่ คือถ้าพวกเขาไม่ทำไรมันอาจจะเหวี่ยงดดนพวกเขาแทน

#3 | `นายสว่าง | 11 พ.ค. 57 07:08 น.

1. เป็นวิธีการเล่าเรื่องของหนังสู่ผู้ชมส่วนหนึ่งครับแต่ถ้าบางฉากที่ตัวละครตกใจในภาพอดีตของตนที่โผล่มานี่น่าจะมาจากการลวงจากกระจก
2. ใช่ครับกระจกจะดูดกินพลังวิญญาณของทุกสรรพสิ่งซึ่งตอนแรกๆกระจกจะยังไม่ค่อยมีพลังสร้างฉากหลอกหลอนได้เพียงน้อยนิดหลังจากได้พลังชีวิตจากต้นไม้หรือหลอกให้นางเอกฆ่าแฟนนาง(และดูดกินชีวิตแฟนนาง/และนำมาอยู่ในครอบครอง)พลังที่แท้จริงของมันจะเริ่มขึ้น ภาพหลอนจะทวีคูณขึ้นและผู้ที่ถูกหลอกจะแยกอะไรไม่ออกอีกต่อไป(รวมทั้งคนดู  )
3. เพราะการที่โต้งๆไปทำลายเลยมันจะทำไม่ได้อย่างที่รู้ๆ นางเอกเลยสร้างกลขึ้นเมื่อใดที่กระจกเผลอหรือชะล่าใจนั่นคือโอกาสเหมือนที่เคยทำตอนเด็กๆกระจกเกิดชะล่าใจไม่ทันป้องกันตัวเองเลยโดนกระแทกร้าว ยามใดที่กระจกเผลออาจจะเป็นเวลาเดียวกับที่สมอถูกปล่อยลงมาก็เป็นได้มันเป็นกลของนางเอกครับแต่เฮ้อ ..!!!