Godzilla ( 2014 ) Movie Review by FallsDownz
อ่านบทวิจารณ์อันเก่าๆ และติดตามอันใหม่ๆได้ที่นี้ครับ http://fallsdownz.blogspot.com/
" ตัวอย่างของความล้มเหลว ในการพยายามจะเป็นมนุษย์ของสัตว์ประหลาด "
Godzilla หรือ โกจิร่าในภาษาญี่ปุ่น เป็นชื่อที่น้อยคนนัก ที่จะไม่รู้จักสำหรับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวยักษ์มหึมาตัวนี้ โดยที่ต้นฉบับนั้นมาจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งโด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างมากมายจนสร้างต่อมาหลายต่อหลายภาคเลยทีเดียว และเมื่อ Hollywood เห็นโอกาสทำเงินทำทองก็เลยนำมาทำเป็นภาพยนตร์ของตัวเองบ้างในปี 1998 ซึ่งผลที่ออกมา ก็ทำให้แฟนๆ โกจิร่า ถึงกับกุมขมับหัวกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในด้านของนักวิจารณ์ที่ให้คะแนนต่ำเตี้ยดินเพียง 32/100 จาก Metacritic แม้แต่ในด้านของผู้ชมทั่วไปเองก็ดูท่าจะไม่ค่อยปลื้มซักเท่าไรนักกับคะแนน 5.3 / 10 ใน IMDB
การกลับมาครั้งใหม่ของ Godzilla นั้น ในช่วงแรกๆมีข่าวลือ ออกมานักต่อนัก และใช้เวลายาวนานมากจนแฟนๆหลายคนเป็นห่วงว่ามันจะหายยาวไปเลย จนในที่สุดก็คลอดออกมาจนได้ในปี 2014 นี้เอง ซึ่งแฟนๆทั่วโลกก็ต่างตั้งความหวัง ว่ามันจะไม่ซ้ำรอยฉบับปี 1998 อีก ซึ่งในฉบับปี 2014 นี้ ในด้านของนักวิจารณ์และผู้ชม โดยรวมเฉลี่ยก็ถือว่าค่อนข้างที่จะชอบฉบับใหม่นี้อยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็จะมีเสียงแตกๆไปบ้างตามปกติ ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่า ตัวผู้เขียนเองก็ไม่ใช่แฟนของ โกจิร่า หรือ Godzilla แต่อย่างใด เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งที่ได้ทันเข้าไปชม Godzilla ฉบับ 1998 ในโรงและจำได้ว่ามันสนุกดีกับพี่ Godzilla เท่ห์มากก็เท่านั้น
สิ่งที่น่าสนใจและน่าดึงดูดมากที่สุดเลยใน Godzilla ฉบับใหม่นั้นดูเหมือนจะมีอยู่สองอย่างด้วยกัน อย่างน้อยก็สำหรับตัวผู้เขียนเอง อย่างแรกก็คือ ดีไซน์ตัวพี่ก๊อตจัก...เอ้ย พี่ Godzilla แบบใหม่ที่บางคนก็ชอบ บางคนก็เกลียด ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่าค่อนข้างถูกใจดีไซน์ใหม่เหลือเกิน มันช่างอ้วนน่ารัก น่ากอด และน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งเป็นกระแสในอินเทอร์เน็ตมาซักพักเลยทีเดียวกับมุขล้อเลียนต่างๆ เช่นพี่ Godzilla ไปกิน Fast Food มาเป็นต้น
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ทีมนักแสดงของภาพยนตร์ฉบับใหม่นี้ ที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว ด้วยการที่มีดารามากฝีมือหลายคนมารวมตัวกันไม่ว่าจะเป็น เดวิด สเตรทธาร์น แห่ง The Bourne Ultimatum , แซลลี่ ฮอว์กินส์ แห่ง Blue Jasmine , เคน วาตานาเบ้ แห่ง Inception กับ The Last Samurai และคนสุดท้ายที่น่าสนใจมากที่สุดอย่าง ไบรอัน แครนสตัน ซึ่งเขาโด่งดังมาจากผลงาน TV-Series อย่าง The Breaking Bad ที่ผู้ชมในอเมริกาหลายคนชื่นชอบเขามากถึงกับการที่เล่นอะไรคนก็แห่ตามกันไปดูหมด ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากทัศนคติและนิสัยส่วนตัวของเขาที่ค่อนข้างจะขี้เล่นเป็นกันเอง เป็นเหตุที่ทำไมในตัวอย่างของ Godzilla ฉบับนี้ ถึงมีแต่การโฆษณา ไบรอัน เต็มไปหมดนั้นเอง ถึงแม้ว่าตัวผู้เขียนจะเคยมีโอกาสได้ชมทีวีซีรียส์ The Breaking Bad เพียงตอนเดียวถึงสองตอนเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องขอยอมรับเลยว่าค่อนข้างจะชอบในตัวไบรอันอยู่พอสมควร จากการที่เคยเห็นเขาในสื่อต่างๆและภาพยนตร์บางเรื่อง จึงค่อนข้างที่จะถูกใจนิสัยตัวจริงๆของเขาอยู่พอสมควร
ในด้าน "บทภาพยนตร์" ของ Godzilla ฉบับปี 2014 นี้ ต้องพูดเลยว่าอยู่ในขั้นที่วิกฤติอยู่พอสมควร จากการที่มันไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเอาเสียเลยในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง หลายครั้งที่ผู้เขียนพบว่าตัวเองกำลังตั้งคำถามว่าทำไมมันเป็นเช่นนั้น ทำไมมันต้องมาเกิดตอนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ตัวบทภาพยนตร์ไม่สามารถที่จะทำให้เราเชื่อในสิ่งที่มันเล่าได้เลย รวมถึงตัวบทหลักโดยรวมก็ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจาก โลกที่โดนสัตว์ประหลาดบุก มนุษย์จึงต้องหาทางป้องกันตัวเอง ที่มีภาพยนตร์หลายเรื่องทำมาแล้วนักต่อนัก และมีตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมกว่าด้วย อย่างเช่น Pacific Rim ที่ทำเรื่องประเด็นนี้ได้ดีกว่าหลายเท่านัก
ถึงแม้ว่าในตอนท้ายเรื่องตัว Godzilla ฉบับใหม่จะมีการนำประเด็นใหม่ๆพยายามใส่มาบ้าง แต่มันก็ช่างไม่สมเหตุสมผลจนเอาจริงเอาจังอะไรกับบทส่วนนั้นๆไม่ได้เลย แถมตัวภาพยนตร์ยังถ่ายทอดจุดต่างๆเหล่านี้ได้ไม่ดี และโน้มน้าวให้เราเชื่อไม่ได้อีกก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ในส่วนที่สองก็คือ "ตัวละคร" ในภาพยนตร์ โดยเฉพาะตัวละครมนุษย์ที่ล้มเหลวสุดๆ ซึ่งส่วนใหญ่ๆก็มาจากการที่ตัวผู้กำกับ แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส พยายามที่จะสร้างความเป็น "มนุษย์" ให้กับตัวภาพยนตร์ โดยการเน้นไปที่ตัวละครมนุษย์ต่างๆในภาพยนตร์ หรืออาจจะพูดได้ว่าเป็นการให้ผู้ชมมองสัตว์ประหลาดเหล่านี้ผ่านสายตาของมนุษย์ รวมถึงให้ตัวละครเหล่านี้เป็นตัวพาผู้ชมเดินทางไปกับภาพยนตร์ ปัญหาก็คือนอกจากตัวละครมนุษย์ทั้งหลายเหล่านี้มันจะสุดแสน Cliche ซ้ำซาก/จำเจ ตัดแปะมาจากแม่แบบแล้ว ตัวแกเร็ธเองก็ปูตัวละครเหล่านี้ได้ไม่ดีเท่าทีควร
ผนวกกับการที่ตัวภาพยนตร์ก็ดันเดินเรื่องค่อนข้างจะเร็วมาก ยิ่งทำให้เราไม่มีเวลาในการที่จะผูกพันธ์ และเข้าใจตัวละครเหล่านี้เลย ผลก็คือ เราไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ ไม่แม้กระทั่งจะแคร์เลยว่าตัวละครเหล่านี้จะอยู่หรือตาย แล้วหนังมันก็ดันย้ำจุดๆนี้อยู่เรื่อยๆ ทั้งๆที่มันไม่ได้ผล มันก็เสมือนการถูกบังคับให้ดูอะไรที่คุณไม่ได้เต็มใจจะดูนั้นแหละ ซึ่งมันทำให้ 1 ชั่วโมงแรก หรือ อย่างน้อยก็ครึ่งแรกของเรื่อง ที่ผู้เขียนรู้สึกเบื่อหน่าย จะหลับอยู่ตลอดเวลา ในท้ายที่สุดตัวละครเหล่านี้ก็ไม่ได้มีความเป็นมนุษย์เพียงพอที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างสิ่งที่พวกเขามองกับตัวพวกเขาเองเลย
ส่วนต่อมาก็คือส่วนที่สาม อย่างเรื่องของ "นักแสดง" ที่ต้องพูดเลยว่าตัว แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส ใช้นักแสดงเหล่านี้ได้อย่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ทั้งๆที่หลายคนก็มีผลงานก่อนๆที่น่าประทับใจไม่ใช้น้อยอยู่พอสมควร แต่ทั้งเรื่องหลายๆคนกลับมีบทอยู่แค่มายืนทำหน้าทื่อๆหรือตกใจเฉยๆ แล้วก็พูดซักคำสองคำจบ หมดกันค่าตัว ซึ่งไม่แน่ใจว่า ตัวแกเร็ธเองไม่รู้จักการใช้นักแสดงที่ดีเหล่านี้ในการส่งเสริมตัวภาพยนตร์ หรือ ขี้เกียจที่จะทำกันแน่ แต่สิ่งที่ยิ่งทำให้ผู้เขียนรู้สึกน่าเสียดายเข้าไปอีก ก็คือนักแสดงอย่าง ไบรอัน แครนสตัน ที่ในสายตาของผู้เขียน เขาเป็นเพียงสิ่งเดียวในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่โดดเด่น และน่าทึ่งมากที่สุด ทั้งๆที่ตัวละครของเขามันช่างแบน ราบเรียบเหลือเกิน เขาก็ยังจะฝืน พยายามสร้างมิติให้กับตัวละครของเขา และการแสดงของเขามันช่างยอดเยี่ยมจนทำให้ผู้เขียนเริ่มที่จะรู้สึกเห็นใจตัวละครของเขาอย่างมาก
แต่สิ่งที่เขาได้รับเป็นการตอบแทนก็คือ บทในภาพยนตร์ที่น้อยอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นคนที่แสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้จะโทษนักแสดงคนอื่นๆหรือผู้กำกับก็คงไม่ถูกต้อง แต่เหมือนจะเป็นความโชคร้าย และน่าเสียดายเสียมากกว่า
ส่วนสุดท้าย ส่วนที่ 4 ก็คือเรื่องของ CG กับ ฉาก Action ทั้งหลายในภาพยนตร์ ที่โดยรวมต้องพูดเลยว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียว CG ที่ค่อนข้างจะสวยงาม อลังการ โดยเฉพาะพี่ Godzilla ของเรา ที่มหึมา น่าเกรงขามอย่างแท้จริง สำหรับผู้เขียนแล้ว การที่ได้ยินเสียงคำรามของพี่ Godzilla ในภาพยนตร์ซักครั้งก็ให้ความรู้สึกคุ้มค่าตั๋วและซะใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว สำหรับในฉาก Action ท้ายภาพยนตร์แล้ว ก็ถือว่าให้ความสนุก ตื่นเต้น ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับอ้าปากค้าง หรือ ไม่เคยเห็นมาก่อนซะทีเดียว แต่มีก็ยังดีกว่าไม่มี
สรุปแล้ว โดยรวมส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรเท่าไร เพราะไม่ได้หวังมาตั้งแต่แรกแล้ว ในด้านของการวิเคราะห์ภาพยนตร์ หลักๆนั้นตัว Godzilla ฉบับใหม่ มีปัญหากับบทภาพยนตร์ ตัวละคร และการกำกับนักแสดงอย่างมาก โดยเฉพาะบทกับตัวละครที่แย่จนถึงขนาดต้องแอบคิดในใจว่า "เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ คิดซะว่าไปดู Godzilla เดินไปเดินมาละกัน" เพราะมันช่างไร้รสชาติ และถ่ายทอดออกมาได้อย่างแย่เหลือเกิน ในด้านของนักแสดงเองก็ดันใช้ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ทั้งๆที่นักแสดงเหล่านี้ก็พิสูจน์กันมาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว ว่าพวกเขาพร้อมที่จะให้ผลงานที่ยอดเยี่ยมกับผู้ชม ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมี CG ที่ค่อนข้างดี กับฉาก Action ที่บันเทิงพอสมควร เพียงแค่สองอย่างนี้มันเทียบอะไรกับปัญหาในข้างต้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
สำหรับในตอนนี้นั้นภาพยนตร์ Godzilla ปี 2014 นี้ทำรายได้เปิดตัวในประเทศอเมริกาถึง 93 ล้านเหรียญสหรัฐ จนมีข่าวออกมาว่า กำลังจะเตรียมสร้างภาคต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้เขียนก็ได้แต่หวังว่า พวกเขาจะใช้เวลาในการเขียนบทมากกว่านี้ และในด้านของผู้กำกับถ้ายังคงเป็น แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส คนเดิมอยู่ หวังว่าเขาจะนำบทเรียนครั้งนี้ โดยเฉพาะในด้านการกำกับนักแสดง ไปปรับปรุงในภาคใหม่ มิเช่นนั้นผลที่ออกมาก็คงจะไม่แตกต่างไปจากภาคนี้เลย ซึ่งมันน่าเสียดายอยู่ไม่ใช่น้อย
Final Score : [ C ]
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
การดูหนัง อย่าเชื่อการวิจารณ์ทั้งด้านบวกด้านลบมากเกินไป��พยายามคิดกลางๆเข้าไว้ เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการดูหนังเพราะคนเรารสนิยมในการดูหนังของคนเรานั้นหลากหลายความคิดและชอบไม่เหมือนกัน�� เราไปดูแล้วอาจจะเห็นต่างก็เป็นเรื่องธรรมดาและอาจมีหลายเรื่องที่มีความคิดต่างกันสุดขั้วก็มี การที่เราจะมองว่าหนังเป็นยังไงก็ต้องไปดูด้วยตัวเองครับ
ไปดูมาแล้วครับ ดู IMAX ด้วย เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ บทคนเบาบางจริงๆ
เหมือนทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ได้ดูพี่ Godzilla ใน IMAX มันพอจะชดเฉยได้บ้างครับ พี่เค้าเท่ น่าเกรงขามจริงๆ
ตอนคำรามนี่สะเทือนไปถึงอวัยยวะภายใน 55
ปล. รอรีวิว Enemy อยู่นะครับ อิอิ
แหม่**ตอนพี่ Godzilla คำรามนี้ผมอยากจะให้โรงหนังเปิดดังๆจัง เอาแบบหูแทบแตกไปเลย มันไม่ซะใจเลยฮ่าๆ (ไว้ซื้อ Bluray มาเปิดเองละกัน ?)
ส่วน Enemy ว่าจะไปชมอยู่ครับ ได้ยินมาว่าดีเลยทีเดียว
นึกว่าผมผิดหวังอยู่คนเดียว อาจเพราะคาดหวังเกินไป เห็นคะแนนสูงแล้วคาดหวังไว้มาก
พอไปดู เนื้่อเรื่องไม่มีอะไรเลย ตามตัวอย่าง บทของคนก็อ่อนไปเลย ไม่มีประโยชน์เลย แต่แรกๆยังดูสนุก ส่วนฉากเปิดตัวสัตว์ประหลาด ฉากต่างๆ กับเสียง นี่สุดยอดครับ ตอนนั้นดูเสียงในโรงแบบกระหึ่มมากๆ แต่โดยรวมก็ไม่มีอะไรเท่าไร
ผกก. เป็นสายหนังอินดี้มาก่อนแล้วพึ่งมาจับโปรเจ็ค หนัง summer ทำให้เหมือนไม่สุดสักทาง จะตามแนวทางอินดี้เดิมคือ เน้นดราม่าระทึกขวัญกับตัวละครมนุษย์ก็ไม่สุด จะตามแนวหนังsummer สัตว์ประหลาดฟัดกันนัวเนีย ฉากแอ็คชั่น โชว์CG ก็ไม่สุด ผลออกมาเลยครึ่งๆกลางๆ สรุปหนังสนุกดูได้เรื่อยๆแต่ไม่เป็นที่จดจำมากนัก
ป.ล.ยกเว้นก๊อตจิกะมูโต้
ผมแอบงงเล็กน้อยว่า บางท่านนี้ยอมรับเลยนะว่าแทบจะทั้งเรื่องไม่ค่อยดีหรือห่วย
แต่บอกว่า เฉพาะฉากตอนท้ายเรื่อง พี่ก๊อตออกมา ให้ 9/10 ให้ 8 /10 เลยนี้ ทำผมงงอย่างมาก แค่พี่ก๊อตออกมานี้ทำให้หนังมันดีทันทีเลยหรอ ?
ผมรู้สึกว่า Godzilla ฉบับนี้ ได้รับกระแสบวก และ Hype มากเกินที่มันสมควรจะได้ไปมาก
รสนิยมการดูหนังของคนเรานั้นมันหลากหลายและไม่เหมือนกันหรอกคับ มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ เราคงจะไปบังคับและบอกให้คนอื่นชอบหรือไม่ชอบเหมือนเราไม่ได้หรอก
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google