ข้อคิดจากการเป็นติ่ง /ยาวนะ 55

*ยาวนะ ไม่อ่านไม่ว่า 555555 แค่อยากพิมพ์เก็บไว้ค่ะ*

เราเป็นติ่งมาสิบกว่าปี แต่เพิ่งจะมาเข้มข้นที่สุดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เราเริ่มว่างและเริ่มเสพย์วงการนี้อย่างจริงจัง จากที่เมื่อก่อนแค่ติดตามแบบแฟนคลับธรรมดา เพราะตอนนั้นยังมีหน้าที่ๆ ต้องทำอยู่ แต่หลังจากที่ว่าง เราก็มีเวลาเกือบ 24 ชม.ที่จะตามอะไรแบบนี้
ที่เราตัดสินใจเขียนมันออกมา เพราะเรารู้ตัวว่าอีกไม่นานเราคงจะกลับไปเป็นติ่งธรรมดา เพราะต้องทำงานจริงจังแล้ว และเรื่องพวกนี้ก็จะหายไป แต่เราแค่อยากแชร์อะไรบางอย่างที่เราได้มา ไม่รู้ว่าจะอ่านกันมั้ย แต่อยากฝากไว้แค่นั้น
เวลาเราถูกชะตากับใครบางคนเข้า แน่ล่ะ เราย่อมต้องอยากรู้ทุกๆ เรื่องของเขาจริงมั้ย ?
อย่างที่แรกที่เราคิด ในช่วงแรกๆ ที่เริ่มมาติดตามพวกเขา คือ เราเชื่ออะไรอย่างที่เห็นไม่ได้หรอก ทุกคนมีอีกด้านซ่อนไว้อยู่แล้ว ด้านที่ให้แฟนคลับเห็นมันก็แค่ ‘หน้ากาก’ เท่านั้น
แต่ยิ่งเสพย์เข้าไป เรายิ่งรู้สึกเหมือนเส้นกั้นระหว่างเค้าเป็นเค้าจริงๆ กับหน้ากากพวกนั้นเริ่มหายไป เราคิดว่าพวกเค้าคงไม่มีหน้ากากหรอก หมายถึง ใครมันจะเสแสร้งเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองได้แทบตลอดเวลาขนาดนั้น
แต่เราคงประมาทคนเหล่านี้ไป
แน่นอน คนที่ผ่านเรื่องอะไรมาเยอะ ได้รับความนิยมมากมาย และขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคล ‘สาธารณะ’ ย่อมอยู่ในโลกอีกใบที่เราเองก็อาจไม่เข้าใจ
แต่เราบอกไว้ก่อน ว่าเราไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าจะแย่หรือเฟคไปหมดอะไรขนาดนั้น เพราะทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดีอยู่แล้ว เค้าก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเราเลย เราเองก็มีด้านที่ดี และไม่ดีจริงมั้ย สุดท้ายแล้วทุกคนก็ตั้งอยู่ในพื้นฐานของความเป็นมนุษย์กันทั้งนั้น พวกเค้าเองก็เช่นกัน แม้เราจะบอกว่า ‘ส่วนมาก’ พวกเค้าจะมีหน้ากากเสมอ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าอะไรที่อยู่เบื้องหน้าหน้ากากนั้นจะเลวร้ายนะ เพียงแต่จะสื่อว่า อย่าเชื่อทุกอย่างที่เห็นจนมากเกินไป เพราะถ้าเราไปรู้จะไรเข้า มันเจ็บมากนะ สู้เรามองเค้าแบบมนุษย์คนนึงยังจะดีกว่า รักเค้าในแบบของมนุษย์คนนึง ไม่ใช่ไอดอลที่ต้องเพอร์เฟคตลอดเวลา
แต่สำหรับแฟนคลับบางกลุ่มที่รู้เรื่องพวกนี้แล้วตัดสินใจตีจาก
เราบอกเลยว่า พวกเค้าเหล่านั้นไม่ผิด
พวกเค้าก็เป็นมนุษย์คนนึงนะ ที่มีสิทธิที่จะรัก หรือจะเลิกรัก
พวกเค้าไม่ผิดที่จะผิดหวัง ในเมื่อคนเหล่านั้นสร้างภาพให้พวกเค้า ‘หวัง’
และคุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปด่าเค้าด้วย ถ้าเค้าจะทิ้งคนที่พวกคุณรักไป เพราะอย่าลืมว่ามนุษย์ทุกคนมีพื้นฐานจิตใจที่ไม่เหมือนกัน ในเมื่อพวกคุณมีสิทธิ์ที่จะอยู่ พวกคุณเลือกได้ แล้วทำไมพวกเค้าเหล่านั้นที่รับไม่ได้จะไม่มีสิทธิ์ไปล่ะ
แล้วก็อย่าเอาคำว่า ไหนบอกว่ารัก มาอ้างเลย เพราะเอาจริงๆ พวกเค้าก็ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง ไม่ใช่เพื่อน เราไม่ได้รู้จักเค้าดีพอจริงๆ นะ ที่จะมั่นใจได้ว่าจะอยู่กับเค้าไปตลอด สำหรับแฟนคลับบางคนอาจทำได้ แต่ก็อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะเป็นแบบเรา
เราเป็นคนนึงที่ติดตามวงการนี้มานาน และนานพอที่จะรู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริงๆ และมนุษย์ก็ไม่ได้ใสซื่อขนาดนั้นหรอกนะ แม้พวกเค้าจะอยู่ในฐานะของดารา ไอดอล หรือบุคคลสาธารณะก็เถอะ ทุกอย่างล้วนถูกกลั่นกรอกออกมาทั้งนั้น พวกเขาล้วนซ่อนตัวตนที่แท้จริงเพื่อให้เป็นที่นิยม แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ในเมื่อมันก็เป็นหน้าที่
มีหลายๆ เรื่องที่เรารู้และไม่รู้ และเราไม่ควรไปตัดสินอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่ฟังมาอีกที
เพราะมนุษย์ซับซ้อน และมีกระบวนการคิดเยอะแยะมากมาย ดังนั้นถ้าเทียบความจริงคือ 0 มันจะถูกเบี่ยงไป -1 หรือ 1 ก็ได้ ตามแต่ว่าจิตใจของคนที่ได้รับข้อมูลจะกลั่นกรองออกมาทางไหน แล้วยิ่งบอกแบบปากต่อปาก หรืออ่านต่อมาพิมพ์ก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ทีนี้ความจริงตรงนั้นก็เพี้ยนหนักเข้าไปอีก อาจจะมากกว่า 1 หรือ -1 แบบตอนแรก
แต่แน่นอน แม้จะถูกบิดเบือนแค่ไหน ก็ไม่ควรประมาท เพราะไม่ว่ามันจะถูกบิดเบือนยังไงก็ตาม มันย่อมมาจากความจริง ซึ่งอาจแฝงอยู่เพียงแค่ 1% ของเรื่องทั้งหมด
สิ่งที่เราอยากจะบอกคือ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ว่ามันจะมาจากการกระทำของศิลปินที่คุณรักเอง หรือมาจากคำพูดของแฟนคลับที่บอกกันมา
บางสิ่งที่เห็นกันอยู่โต้งๆ ก็อาจไม่ใช่ความจริงเลย แต่กลับกันมันก็อาจเป็นความจริงได้เช่นกัน
ดังนั้นเวลาข่าวออกมาซักข่าว กระแสที่เห็นได้ชัดมากๆ ก็เลยมี 2 กระแส คือเชื่อ กับไม่เชื่อ เบสิกๆ
แต่เราไม่เห็นด้วยกับการที่พวกคุณด่าคนที่คิดต่างกับตัวเอง ไม่ว่าจะคนที่เชื่อ ด่าคนที่ไม่เชื่อว่าหลอกตัวเอง หรือคนที่ไม่เชื่อ ด่าคนที่เชื่อว่าเชื่ออะไรง่ายๆ หรือโ ง่
แล้วคุณถามตัวเองรึยัง ว่าคุณรู้ทั้งหมดแล้วจริงเหรอ ?
อย่าลืมว่าคนที่รู้ดีที่สุดก็คือเจ้าตัวที่พวกคุณพาดพิงกันนะคะ
เปิดประเด็นได้ แต่อย่าปักใจสุดเลยค่ะ อย่าตัดสินคนที่คุณยังไม่เคยแม้แต่ใช้เวลาด้วยจริงๆ เลยค่ะ
สิ่งที่เราอยากจะบอกคือ ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่จริง คุณก็ไม่ควรปักหลักตัดสินคนๆ นึงว่าเค้าเป็นแบบนั้นแบบนี้ และคุณก็ไม่ควรจะด่าคนที่คิดเห็นไม่เหมือนคุณค่ะ คุณคงไม่ชอบใช่มั้ย ถ้าใครซักคนจะดูถูกความคิดคุณ หรือตัดสินว่าคุณเป็นนู่นเป็นนี่ทั้งๆ ที่พวกเค้าไม่เคยรู้ในความเป็นคุณเลย ดังนั้นคุณเองก็ไม่ควรทำเหมือนกัน
คนเราโตมาไม่เหมือนกัน ได้รับข้อมูล ถูกสอนมาก็ไม่เหมือนกัน ไม่แปลกที่จะมีการประมวลผลเรื่องความคิดคนละแบบค่ะ อยู่ที่พื้นฐานของแต่ละคน ว่ามีข้อมูลแบบไหน
อย่าลืมว่ามนุษย์แตกต่างกัน จะให้เค้ามาคิดแบบเดียวกับเราคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่พอใจก็เงียบไว้ เคารพความเห็นของคนอื่นให้มาก และอย่าเชื่อทุกอย่างที่เสพย์ ขอจบที่สรุปว่าเราได้อะไรจากการเป็นติ่งบ้าง
1.ปลี่ยนจากคนที่เชื่ออะไรง่ายๆ เป็นคนที่เชื่อทุกอย่าง 50/50 และมันทำให้เราเจ็บกับการผิดหวังน้อยลง
2.รู้จักคำว่าปลง และปล่อยวางมากขึ้น พอได้ผ่านอะไรที่ไม่แน่นอนในการติดตามวงการนี้
3.เคารพในสิทธิของคนอื่นมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่ใครเห็นต่างก็ด่ากราด ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เพราะเรารู้ว่าการคิดอะไรแล้วโดนดูถูกมันเจ็บแค่ไหน
4.เราจะไม่ใช้คำว่าจะขอรักพวกเค้าตลอดไป เพราะใจคนเรามันเปลี่ยนได้เสมอแหละ อย่างน้อยก็สำหรับแค่เราคนเดียวก็ได้ แต่เราจะไม่มีวันลืมพวกเค้าเลย
5.อย่าตัดสินคนๆ นึงจากสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียว ตราบใดที่คุณไม่เคยใกล้ชิดกับเค้า
6.เราได้เพื่อนมากมายจากการติ่ง ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่เราก็ได้เพื่อนแท้หลายคนจากการติ่งเหมือนกัน
7.อย่าเชื่อใจ ให้เข้าใจดีกว่า เพราะเชื่อใจ เจ็บได้ แต่เข้าใจ ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง เราก็เข้าใจในตัวเค้าไงคะ

สรุปจากสรุปอีกทีว่า เราเองก็เคยมีช่วงเวลาเป็นติ่งน้อยที่บ้าคลั่งเหมือนกัน แต่เวลาก็ช่วยให้เราผ่านมาได้ค่ะ แล้ววานฟค.ที่เป็นผู้ใหญ่ก็อย่าไปด่าฟค.เด็กๆ ที่ยังเปราะบางมากเลยค่ะ เราๆ เองก็เคยอยู่ในจุดนั้นมานะ 

จบที่ขอขอบคุณทุกอย่างในสยามโซนค่ะ เราสิงมานานมาก แค่ไม่เคยออกความเห็นอะไรเท่าไหร่เมื่อก่อน ที่นี่เป็นที่ๆ สำคัญมากในการติ่งของเรา ขาดไปเราคงไม่รู้จะไปทำอะไรวันๆ 5555 ขอบคุณอีกครั้งค่ะ 

ปล.ยาวเนอะ 555