ฟิล์ม ไม่สนถูกมองสร้างกระแส แค่ได้ร่วมทำบุญก็พอ
SZ News
28 ส.ค. 57 17:16 น. /
ดู 1,089 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
กลายเป็นกระแสที่ถูกส่งต่อกันชั่วข้ามคืน สำหรับ "เอแอลเอส ไอซ์ บักเก็ต ชาเลนจ์" (ALS Ice Bucket Challenge) กิจกรรมการกุศลเพื่อนำเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งเหล่าคนบันเทิงในประเทศไทย ก็ได้เข้าร่วมและส่งต่อกันอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือนักร้องหนุ่ม "ฟิล์ม - รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" ที่ได้ร่วมทำกิจกรรมดังกล่าวในประเทศเกาหลีใต้ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อ ฟิล์ม โดนตำรวจจับขณะทำกิจกรรม เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลองไปฟังจากปากหนุ่ม ฟิล์ม ดีกว่า
"ก็ถูกจับครับ ที่เกาหลีครับ คือผมไปตะโกนโหวกเหวกโวยวายครับ คือสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเขา แล้วคือเขาก็ฟังภาษาเราไม่รู้เรื่อง เขาก็นึกว่าเหมือนคนที่ก่อกวน คนที่ไม่เต็ม แต่ว่าในการที่ผมตัดต่อเนี่ย คือให้มันสนุกเพิ่มมากขึ้น จริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ได้สนุกอย่างนั้น" โดยเจ้าตัวก็ได้เสียค่าปรับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ห้าพันครับผม เป็นเงินไทยประมาณนั้นแหละครับ เป็นเงินเกาหลี ก็ประมาณแสนห้าวอนนะครับ"
ฟิล์ม ยังเสริมอีกว่า "พอเราทำไปเนี่ย ผมก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วแหละว่ามีรถตำรวจมาจอดอยู่ ผมก็คิดว่าเขาคงไม่ได้ว่าอะไร ตอนหลังเขาก็แค่มาด่า ไม่ได้จับ ไม่ได้โหดร้ายอะไร" ซึ่งทางตำรวจไม่ทราบว่าตนเองเป็นดาราของประเทศไทย "ไม่รู้ครับ ไม่รู้ แต่ว่าตอนหลังพอเขามาด่า ผมก็บอกว่าผมเป็นดารา หลังกล้องนะครับหลังกล้อง ตามที่เห็นนั่นคือการตัดต่อที่ให้มันฮาเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรครับ"
แต่ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น แต่เจ้าตัวก็รู้สึกคุ้มค่า "ทางอาร์เอสเขาโทรไปเช็คทางโครงการ เขาบอกยอดพุ่งกระจุยเลยครับ และก็ทำให้คนที่ไม่รู้จัก รู้จักโครงการดีๆ แบบนี้ด้วย ผมก็รู้สึกว่าผมได้บุญ คุ้มครับ คือส่วนตัวนี่กลับมาบริจาคไปอีกแสนหนึ่งเพิ่มเติมเข้าไป" หลายๆ คนมองว่านักร้องหนุ่มสร้างกระแสให้กับตัวเองด้วย "ใช่ครับ ใช่ คือผมว่า ได้ลงในไอจีของผมไปแล้วครับว่า มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ คือมันก็มีคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองเราอยู่แล้ว แต่ว่าไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้แคร์ตรงนั้น คือผมแคร์แค่ว่าผมคิดดี ทำดี จบครับ"
ฟิล์ม ยังเสริมอีกว่า "พอเราทำไปเนี่ย ผมก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วแหละว่ามีรถตำรวจมาจอดอยู่ ผมก็คิดว่าเขาคงไม่ได้ว่าอะไร ตอนหลังเขาก็แค่มาด่า ไม่ได้จับ ไม่ได้โหดร้ายอะไร" ซึ่งทางตำรวจไม่ทราบว่าตนเองเป็นดาราของประเทศไทย "ไม่รู้ครับ ไม่รู้ แต่ว่าตอนหลังพอเขามาด่า ผมก็บอกว่าผมเป็นดารา หลังกล้องนะครับหลังกล้อง ตามที่เห็นนั่นคือการตัดต่อที่ให้มันฮาเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรครับ"
แต่ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น แต่เจ้าตัวก็รู้สึกคุ้มค่า "ทางอาร์เอสเขาโทรไปเช็คทางโครงการ เขาบอกยอดพุ่งกระจุยเลยครับ และก็ทำให้คนที่ไม่รู้จัก รู้จักโครงการดีๆ แบบนี้ด้วย ผมก็รู้สึกว่าผมได้บุญ คุ้มครับ คือส่วนตัวนี่กลับมาบริจาคไปอีกแสนหนึ่งเพิ่มเติมเข้าไป" หลายๆ คนมองว่านักร้องหนุ่มสร้างกระแสให้กับตัวเองด้วย "ใช่ครับ ใช่ คือผมว่า ได้ลงในไอจีของผมไปแล้วครับว่า มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ คือมันก็มีคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองเราอยู่แล้ว แต่ว่าไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้แคร์ตรงนั้น คือผมแคร์แค่ว่าผมคิดดี ทำดี จบครับ"
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google