มาเรียนรู้เทคนิกการแก้คอมช้ากันดีกว่า
1 ก.ย. 57 10:30 น. /
ดู 942 ครั้ง /
1 ความเห็น /
2 ชอบจัง
/
แชร์
เห็นบทความมีสาระจึงนำมาแชร์ครับ : D
คอมพิวเตอร์ ถือเป็นอวัยวะที่หลายๆ ท่านต้องมีไว้ใช้กันอยู่แทบจะทุกคน และถ้าจะถามว่าปัจจุบันระบบปฏิบัติการอะไรที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด Microsoft Windows คงเป็นคำตอบที่หลายท่านทราบกันเป็นอย่างดี และเชื่อว่าผู้ใช้หลายๆ ท่านอาจจะเคยประสบปัญหา คอมพิวเตอร์ช้า ค้าง หรือเปิดโปรแกรมช้า แต่วันนี้เรามีวิธีช่วยเหลือคุณมาแนะนำครับ
เชื่อว่าอาการเครื่องช้า เครื่องแฮงก์หรือหยุดทำงานเอาดื้อๆ ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่ติดไวรัส ฮาร์ดดิสเต็ม แรมไม่พอใช้ ไฟล์ขยะในเครื่องเยอะ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต่างก็ต้องเคยเจอกันมาอยู่บ้าง แม้ปัจจุบันจะมีระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย และสเปคคอมพิวเตอร์ที่เร็วแรงไปไกลแล้วก็ตาม
ติดตั้งโปรแกรมเยอะไปหรือไม่?
แม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลจะสามารถทำได้ดีขึ้น บรรจุข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้น แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า ยังมีผู้ใช้งานไม่น้อยที่ยังพบปัญหากับคอมพิวเตอร์ อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยปัญหาเหล่านั้นมักจะเกิดขึ้นกับคนที่ชอบติดตั้งซอฟต์แวร์ หรือเกมต่างๆ มากจนเกินพอดี นอกจากจะใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเยอะขึ้นแล้ว โปรแกรมหรือเกมบางตัว ยังมีระบบอัพเดตอัตโนมัติหรือทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบางครั้งผู้ใช้งานเองก็ไม่สามารถรู้ได้เลย เ
หน่วยความจำประเภท RAM มีน้อย ไม่พอใช้
เป็นปัญหาสุดคลาสสิค ที่หลายคนที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนมากจะรู้ อาจจะด้วยคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ใช้รองรับแรมได้น้อย หรือไม่มีช่องสำหรับใส่เพิ่ม เมื่อต้องติดตั้งโปรแกรมและใช้งานจริง ก็จะพบกับปัญหามากมาย เพราะโปรแกรมที่ทำงานอยู่ก็ต้องใช้แรมเพิ่มขึ้น เมื่อแรมที่มีอยู่ก็ไม่พอ อาการที่เห็นได้ก็คือ เปิดโปรแกรมช้าลง ทำงานช้าลงและสุดท้ายเมื่อโหลดมากๆ เข้า ก็จะช้า และค้างไปในที่สุด
มีอะไรมาแอบมาแชร์ทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่หรือเปล่า?
อีกสาเหตุยอดนิยมที่ทำให้เกิดอาการมากมายกับคอมพิวเตอร์ตัวเก่งของคุณ เรียงหน้ากันมาตั้งแต่ ไวรัส (Virus) ม้าโทรจัน (Trojan Horse) มัลแวร์ (Malware) หรือแอดแวร์ (Adware) ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นเหตุที่จะคอยดึงทรัพยากรเครื่องไปใช้อยู่ตลอดเวลา บางตัวก็ใช้ในการรันตัวเองให้ทำงานตามที่ถูกเขียนมา หรืออย่างม้าโทรจันที่เข้ามาแฝง ก็ใช้ทรัพยากรเพื่อเก็บและส่งข้อมูลออกไปแบบลับๆ หรือจะเป็นแอดแวร์ที่จะเปิดหน้าต่างเว็บขึ้นมา เพื่อรบกวนการทำงานของบราวเซอร์อยู่บ่อยครั้ง นอกจากจะทำให้คอมพิวเตอร์ค้าง หรือช้าลงแล้ว และเมื่อไวรัสเริ่มทำงาน แอนตี้ไวรัสก็จะต้องทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจจับ ก็จะส่งผลให้คอมพิวเตอร์ยิ่งทำงานหนักขึ้นไปอีกเช่นกัน
ฮาร์ดดิสก์เสีย หรือเสื่อมสภาพ?
สาเหตุนี้เกิดขึ้นได้กับฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) ที่ใช้งานมานาน และฮาร์ดดิสก์บนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่ดูแล บ้างก็อาจจะเกิด Bad sector กลไกการทำงานเริ่มลดประสิทธิภาพลงไป การหมุนแบบผิดปกติที่ทำให้หัวอ่านเริ่มชำรุด หรือแม้กระทั่งการกระแทกก็อาจจะนำมาสู่อาการช้าหรือค้างของคอมพิวเตอร์ได้เช่นกัน
เคยกำจัดไฟล์ ขยะ กันบ้างหรือเปล่า? (Temp file, cookies, Dump file)
เมื่อพูดถึงไฟล์ ขยะ ต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่ามันคืออะไร ทำไมต้องเรียกแบบนั้นและ ไฟล์เหล่านี้ไม่มีประโยชน์เลยจริงหรือไม่ แล้วมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ไปลองแยกประเภทของไฟล์ขยะกันดีกว่าครับ
ไฟล์ขยะที่เกิดจากการติดตั้ง (Install) ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งวินโดวส์ ติดตั้งโปรแกรมต่างๆ การอัพเดทโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ กระบวนการเหล่านี้จะทำให้เกิดไฟล์ขยะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าการอัพเดทหรือลงโปรแกรมต่างๆ วินโดวส์จะแตกและแยก (extract file) ไฟล์นั้นๆออกมาแล้วค่อยติดตั้งมันลงไปในฮาร์ดดิสก์ กระบวนการนี้จะทำให้เกิดไฟล์ที่เหลือทิ้ง เช่น .temp .old .bak ซึ่งไฟล์ที่เหลือทิ้งเหล่านี้คอมพิวเตอร์ของเราไม่ต้องการใช้มันอีกแล้ว
ไฟล์ขยะที่หลงเหลือจากการที่เราลบโปรแกรม (uninstall) ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เกิดจากการถอนการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น ค่า Registry ที่ยังไม่ถูกแก้ไขหรือตัวแปรที่เพิ่มหรือลดค่าภายในคอมพิวเตอร์ของเรานั้นเอง ไฟล์ขยะอื่นๆเช่น .temp .bak .chk .htt และ prefetch file เป็นต้น ซึ่งไฟล์เหล่านี้คอมพิวเตอร์ของท่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไป
ไฟล์ขยะที่ทุกท่านน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด ไฟล์ที่เกิดจากการเล่นอินเตอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น cookies .temp .htt cached เป็นต้น
Restore Point หรือ Windows Protection Feature ระบบนี้จะเป็นตัวป้องกันความเสียหายรุนแรงที่อาจเกิดกับคอมพิวเตอร์ของท่าน เช่นการที่คอมพิวเตอร์ของท่านเกิดระบบล้มเหลวหรือจอฟ้า (blue screen) ยิ่งถ้าฮาร์ดดิสก์มีขนาดใหญ่มากแค่ไหน system restore ก็จะกันที่ไว้มากยิ่งขึ้น
สำหรับไฟล์ขยะนั้น แท้จริงก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไฟล์ที่ไม่มีประโยชน์เลยเสียทีเดียวนะครับ เพราะไฟล์ขยะเหล่านี้ถูกสร้างจากระบบเพื่อทำให้เราสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ของเราให้รวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น การมีไว้บ้างอาจจะมีประโยชน์ แต่ถ้าเก็บไว้มากๆ และนานๆ โดยที่ไม่มีการลบไฟล์เหล่านี้ทิ้ง ไฟล์เหล่านี้ก็จะถูกสร้างเพิ่มและทำให้เสียพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ของท่านไปเรื่อยๆ หลายครั้งเราพบว่าคอมพิวเตอร์ของหลายๆ ท่านอาจจะมีไฟล์ขยะเหล่านี้มากกว่า 10 GB เลยทีเดียว
เป็นอย่างไรบ้างครับ หลายคนเริ่มได้รู้จักปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ของท่านเพิ่มขึ้น และน่าจะพอทราบแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างไร แต่นอกจากวิธีที่ผมแนะนำไปนั้น ก็มีอีกหลายวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของคุณได้ แถมยังง่ายและทำได้บ่อยๆ โดยไม่เสียเวลา อย่างการใช้โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ง่ายมาก โดยในปัจจุบันนี้มีโปรแกรมประเภทนี้ให้เลือก เช่น � BeeDoctor for PC, Speed Up my PC, TuneUp เป็นต้น ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ท่านผู้อ่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและดาว์นโหลดได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ ส่วนวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
BeeDoctor for PC: http://beedoctor.in.th/thai/download.php?ch=tu
SpeedUpMyPC: http://www.uniblue.com/product/pc/speedupmypc/
TuneUp Utilities: http://www.tune-up.com/
ที่มา �http://thumbsup.in.th/2014/08/beedoctor-pc-slow-windows-tools/
แก้ไขล่าสุด 1 ก.ย. 57 10:32 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google