ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสเลือกเรียนอะไรดี?
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เรียนญี่ปุ่น
= ท่องศัพท์/ไวยากรณ์ เท่าที่เห็นคือคำศัพท์ส่วนมากจะออกเสียงง่ายๆ เพราะไมมีตัวสะกด ? ส่วนใหญ่จะเน้นการดูหนังหรือการ์ตูน
เรียนฝรั่งเศส
= ท่องศัพท์แบบแยกเพศ มีเพศหญิงและเพศชาย บางคำเขียนเหมือนกัน แต่คนละเพศกันเท่ากับคนละความหมายกัน
= กระจาย V. / มี V. สามกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มเบสิก กระจายง่ายๆสบายๆ กลุ่มสองเริ่มยาก กลุ่มสามต้องใช้การจำเอาเองซึ่งก็เยอะอยู่ บางหลักไวยากรณ์ต้องเอา V. ที่กระจายแล้วไปตัดนู่นี่แล้วเติมนี่นั่น
= หลักไวยากรณ์ คล้ายๆกับภาษาอังกฤษ.. แค่บอกว่าคล้ายนะ เพราะมันยากกว่า มาก!! ต้องใช้การจำล้วนๆ ซึ่งเยอะมากและซับซ้อนมากๆ จำไม่ได้คือตาย สอบตกทุกรอบโอ้เย้
= การฟัง / คนฝรั่งเศสพูดเร็วมาก ดังนั้นการสอบการฟังแต่ละครั้งต้องใช้สมองและประสาทหูเกือบทั้งหมดที่มีเพื่อที่จะสอบให้ผ่าน แน่นอน.. เราตก
แล้วแต่จะตัดสินใจเลยจ้า
ปล. เราเรียนฝรั่งเศสตั้งแต่ ม.4 ตอนนี้ ม.6 แล้ว สามปีแล้วนะที่เรียนมา ..ก็ยังก.ากอยู่
พี่แนะนำว่าญี่ปุ่นนะ ภาษาญี่ปุ่นถ้าตั้งใจแล้วชอบเป็นการส่วนตัวเวลาเรียนจะเข้าใจง่ายมากๆเลยแต่จะปวดหัวตรงตัวอักษรเยอะคันจิเยอะไวยากรณ์ไม่เหมือนภาษาอังกฤษภาษาไทยช่วงแรกๆถ้าไม่ชินจะงงนิดนึง555555555 แต่จริงๆก็แล้วแต่น้องนะคะเพราะมันต้องใช้ความตั้งใจด้วยคือถ้าไม่ชอบเรื่องที่เรียนมันจะไม่เข้าหัวเลยค่ะเวลาเรียนน่ะ ส่วนตัวพี่ชอบภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้วเวลาเรียนอะไรๆมันก็ดูง่ายไปหมดเพราะพี่ตั้งใจจริงๆกับภาษาญี่ปุ่นก็เลยไปได้ไกลกว่าเพื่อนๆนิดหน่อยเพราะเพื่อนพี่ส่วนใหญ่เลือกเข้ามาเพราะไม่รู้จะเรียนอะไรดี น้องก็ลองไปศึกษาสองภาษานี้ดูเนอะว่าภาษาไหนโอเคกับตัวน้องมากกว่ากัน
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google