อย่าถามว่า แอร์ซัมซุง ดีมั้ย จะซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดี ปัญหาของแ

ก่อนจะซื้อแอร์ ไม่ว่ายี่ห้อไหน ก็ดี ต้องระลึกไว้ว่า มันเป็นแค่เครื่องปรับอากาศ เท่านั้น ไม่ต้องวิเศษวิโสมากมายอะไร ซื้อแอร์ต้องดูนิดนึง อย่าดูแค่ราคาถูก โดยเฉพาะถ้าใช้ในห้องนอน ความเงียบและความเย็น ความทนทานนี่ต้องมาก่อน ซื้อแพงครั้งเดียวใช้ได้นานนี่คุ้ม อย่าถามว่า แอร์ซัมซุง ดีมั้ย แอร์ไดกิ้น ดีมั้ย แอร์โตชิบา ดีมั้ย ผู้ใช้จริงเท่านั้นที่รู้คำตอบ ทุกยี่ห้อมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน 1. มองยี่ห้อที่แพงที่สุด ว่าเขามีอะไรบ้างในเครื่อง มันถึงได้แพง

2. คัดกรองเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการเป็นเครื่องปรับอากาศออก เช่น ฟั่งก์ชั่นการทำงานที่ชาตินี้เราอาจไม่ได้ใช้มันเลย หากไม่รู้ก็สอบถามวิศวกรเครื่องปรับอากาศว่า หากเป็นเขาจะเลือกซื้อแบบไหน แล้วแบบไหนที่ว่าไม่จำเป็น

3. อย่าได้ตัดเสียหมดนะ เหลือพวกอุปกรณ์ป้องกันไว้บ้าง ซึ่งที่จำเป็นคือ เครื่องต้องตัดการทำงานเมื่อน้ำยารั่วเหลือน้อย ตัดการทำงานเมื่อคอยล์เย็นเป็นน้ำแข็ง ตัดการทำงานเมื่อคอมเพรสเซอร์ร้อนเกินไป ตัดเมื่อไฟฟ้าลัดวงจร ตัดเมื่อคอนเด็นเซอร์ตัวข้างนอกระบายความร้อนไม่ได้ ตัดก่อนที่คอมเพรสเซอร์จะเสียหรือตัดตัวเอง อย่าลืมนะ อย่าเลือกซื้อแอร์ หากเขาบอกว่า แต่ละอุปกรณ์มีตัวป้องกันอยู่แล้ว เช่น มอเตอร์มีตัวป้องกันภายใน คอมเพรสเซอร์มีตัวป้องกันภายใน อย่างนี้ไม่เอานะ ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันภายนอก เช่น มีตัวตัดการทำงาน หากแรงดันน้ำยามากเกินไป น้อยเกินไป มีตัวการทำงาน ก่อนคอย์เย็นเป็นน้ำแข็ง ก่อนคอมน็อก ก่อนมอเตอร์หยุดทำงาน เป็นต้น

4. เมื่อตัวตัดการทำงานตัดแล้ว เราผู้ใช้งานต้องสามารถรู้สถานะของเครื่องว่าตัดเพราะอะไรในเบื้องต้น เช่น มีไฟกระพริบสีแดง 2 ครั้ง หยุด หรืออะไรก็ได้ ที่เมื่อเราโทรแจ้งช่างให้เข้ามาตรวจสอบ เราสามารถบอกในโทรศัพท์ให้เขารู้ว่า อะไรเกิดขึ้น กระพริบกี่ครั้ง ง่ายในการที่ช่างจะตรวจสอบด้วยนะ หากไม่มีบอกช่างก็จะค้นหาสาเหตุกันง่วนเลยแหละ เจอช่างเก่งก็ดีไปนะจ๊ะ

5. ดูที่วัสดุ เปรียบเทียบกันว่า มันจะอยู่กับเรากี่ปี เช่น พลาสติก ดูสิว่าแตกง่ายมั๊ย filter กรองอากาศขากง่ายมั๊ย คอยล์เย็นสวยมั๊ย สภาพดีมั๊ย คอยล์ร้อนสภาพดีมั๊ย ดูแล้วใช้จิตใต้สำนึกว่า หากเราเช็ดถูทำความสะอาดมันแล้ว มันจะไม่ทำอันตรายเรา บำรุงรักษาง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน คอยล์เย็นเคลือบสารอะไรมาเพื่อป้องกันการกัดกร่อนหรือเปล่า ตัวข้างนอกหละมีเคลือบมั๊ย อย่างไรก็ต้องให้ปลอดภัย แอร์กินไฟมั้ย แอร์เสียงดังหรือเปล่า

6. บาท ต่อ BTU ช่วยให้แอร์ไม่กินไฟมากจนเกินไป

7. EER ฉลากเบอร์ 5 ยิ่งค่ามากยิ่งดี เช่น 11.0 ขึ้นไป

8. ในบีทียูเดียวกัน EER เดียวกัน เครื่องที่มีลมแรงมากๆ จนรับไม่ได้ในเรื่องเสียง อย่างไปเอา ความเร็วต่ำสุดต้องเงียบ ความเร็วสูงสุดต้องไม่แรงมากจนนอนไม่หลับ หรือ ดูหนังฟังเพลงไม่ได้ อย่างนี้เขาจะใช้คอยล์ขนาดเล็ก แล้วใช้ลมแรงๆ เพื่อให้ได้บีทียูที่ต้องการอย่างนี้ไม่เอา ให้เลือกเอาคอยล์เย็นที่ใหญ่กว่า

9. ดูที่ compressor ว่าบีทียูเท่ากัน EER เท่ากัน ยี่ห้อไหนใช้แรงม้ามากกว่ากัน (แต่ดูยากเพราะคนที่ขายคงไม่บอกแน่ๆ หรืออาจไม่รู้) เอาเป็นว่าดูคอย์เย็นที่ใหญ่ คอยล์ร้อนที่ใหญ่ ลมไม่แรงมาก ปัญหาของแอร์ก็จะหมดไป เสียงแอร์จะได้ไม่ดังรบกวนเวลานนอน

10. inverter ก็ดีนะ ไม่ได้ประหยัดพลังงานกว่ากันทำไรหรอกนะ แต่ที่แน่เราได้ความสบาย แอร์เย็น ไม่ร้อนเกินไม่เย็นเกิน นอนหลับสบายไม่ตื่นในตอนดึกแน่นอน ไม่ต้องเดี๋ยวห่มผ้า เดี๋ยวก็ถีบผ้าออก หากจะเลือก inverter ให้ดูที่อุปกรณ์ลดแรงดันน้ำยาด้วยว่าเป็นขดท่อเล็กๆ หรือเป็น อุปกรณ์ลดแรงดันแบบอิเล็กทรอนิค ขดท่อเล็กๆ อย่าไปเลือกนะ เอาเท่านี้ก่อน..จริง

แล้วให้เลือกเครื่องปรับอากาศเท่าที่ไรพอจะใช้มันได้ บริการหลังการขายก็มีส่วน เลือกที่การเคลม การซ่อมรวดเร็ว เชื่อถือ ไว้ใจได้ ซ่อมแล้วปลอดภัย ไม่ยุ่งยากวุ่นวายในการบำรุงรักษา ส่วนเราเองยังไม่ใช้แอร์เพราะยังทนได้กับอากาศเมืองไทย จริงแล้วเราอย่างให้ท่านทั้งหลายใช้แอร์เท่าที่จำเป็น อย่าเปิดตลอด คนอื่นๆที่ไมแอร์เขาจะร้อนขึ้น แต่คุณเย็นสบาย ทำบ้านให้ปลอดโปล่ง อุณหภูมิ 27 - 30 C หากให้ลมผ่านได้ตลอด อยู่ได้แน่นอน ความชื้นในห้องไม่เกิด 60 สบาย หยุดใช้แอร์ ก็ทำให้โลกสบายขึ้น ไม่เอาเปรียบคนจนที่ไม่มีแอร์ใช้

หยุดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ไม่เปิด TV ให้ผีดู ไม่ทำอาหารทานเกินตัว "พอเพียงเท่านั้น" เมืองไทยน่าอยู่ มองรอบๆ ตัวคุณสิ อะไรที่เป็นปัจจัยให้คุณต้องเสียเงินซื้อแอร์..พอก่อนนะจ๊ะ บาย เราอยู่แค่ในโลกกลมๆ ใบนี้ มันเล็กมากหากมองมาจากนอกโลก เหมือนลูกแก้ว เราก็เหมือนตัวอะไรสักอย่างเล็กๆ ที่อยู่รวมกัน หากเรายิ่งทำให้โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ก็ร้อนขึ้นด้วย ก็เกิดการฆ่าฟันกัน..งง..เอานะใช้เท่าที่จำเป็นนะจ๊ะ


.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...