แตงโม รู้สึกดี คนเข้าใจความรักกับ โตโน่ มากขึ้น
SZ News
6 ม.ค. 58 11:45 น. /
ดู 1,098 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
คู่รักสะเทือนวงการอย่าง "แตงโม - ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" และหนุ่ม "โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" หลังจากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาสักระยะก็เริ่มมีเสียงแซวว่าเมื่อไรทั้งคู่จะมีเจ้าตัวน้อยเสียที ด้านนักแสดงสาวเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า "โมยังต้องทำงาน ละครก็ถ่ายอยู่ ถ้ามีน้องตอนนี้ก็เท่ากับโมไม่รับผิดชอบหน้าที่การงาน เพราะฉะนั้นมันก็ทำไม่ได้ ก็คือมันยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ตอนนี้ค่ะ คนเรามันต้องเรียงลำดับให้ถูกค่ะ จริงๆ แล้วโมก็อยากจะขอเลยว่าเรื่องลูกเนี่ยรอให้ละครจบก่อนแล้วค่อยมาถามดีกว่า เพราะว่าอย่างที่บอกเลยว่าโมเป็นคนรับผิดชอบหน้าที่การงานมากกว่าค่ะ"
เวลาที่ผันผ่านทำให้กระแสด้านลบ เกี่ยวกับการครองรักของหนุ่ม โตโน่ และสาว แตงโม เริ่มเงียบหาย ดาราสาวกล่าวว่า "ก็รู้สึกขอบคุณนะคะ ขอบคุณทุกๆ อย่างเลยค่ะ เพราะว่าเวลามันก็ช่วยในการทำให้คนอื่นได้เข้าใจในตัวเราทั้งคู่ บวกกับโมขอบคุณพระเจ้ามากๆ ที่ทำให้เรามีเข็มทิศเดียวกัน ทำให้โมกับพี่โน่มีความเชื่อในแบบเดียวกัน แล้วก็พระเจ้าสอนให้เรารักคนอื่นก่อนที่คนอื่นจะรักเรา โมคิดว่ามันอาจเป็นผลมาจากการที่ ในเมื่อโมได้รับความรักจากพระเจ้าแล้ว โมก็รักคนอื่นเป็น คนอื่นก็เลยรักเราค่ะ ก็พระเจ้าเปลี่ยนชีวิตโมเยอะ หลายๆ คนก็อาจจะสังเกตชีวิตโมว่า โมปีที่แล้วกับโมปีนี้เนี่ยค่อนข้างที่จะต่างกันโดยสิ้นเชิง หลายๆ คนก็อาจจะสังเกตได้ค่ะ ก็ขอบคุณพระเจ้าค่ะที่ให้ชีวิตใหม่โม แล้วโมก็รู้สึกว่ามันเป็นพรสำหรับคนอื่นด้วย ก็รู้สึกดีที่วันนี้เขาเข้าใจเรามากขึ้น"
นักแสดงสาวให้ความเห็นเกี่ยวกับทัศนคติที่เปลี่ยนไปของแฟนๆ ที่เคยไม่เข้าใจในความรักของคนทั้งคู่ว่า "อาจจะด้วยวัยของน้องๆ ที่เคยไม่เข้าใจ วันหนึ่งเขาโตขึ้นเขาก็มีความคิดที่เปลี่ยนไป แล้วก็สุดท้ายแล้วชีวิตเรามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพที่เขาอยากจะให้เป็น แต่เขาจะต้องเป็นในสิ่งที่ชีวิตมันเป็นไปแล้ว คือเขาต้องเอาความมโนหรือจินตนาการ หรือว่าสิ่งที่ใจเขาอยากจะให้เป็น กลับมายืนอยู่ในสภาพความเป็นจริง ที่ศิลปินดาราทุกคนต้องมีชีวิตครอบครัว แล้วก็ต้องเป็นบุคคลตัวอย่างต่อไปค่ะ"
นักแสดงสาวให้ความเห็นเกี่ยวกับทัศนคติที่เปลี่ยนไปของแฟนๆ ที่เคยไม่เข้าใจในความรักของคนทั้งคู่ว่า "อาจจะด้วยวัยของน้องๆ ที่เคยไม่เข้าใจ วันหนึ่งเขาโตขึ้นเขาก็มีความคิดที่เปลี่ยนไป แล้วก็สุดท้ายแล้วชีวิตเรามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพที่เขาอยากจะให้เป็น แต่เขาจะต้องเป็นในสิ่งที่ชีวิตมันเป็นไปแล้ว คือเขาต้องเอาความมโนหรือจินตนาการ หรือว่าสิ่งที่ใจเขาอยากจะให้เป็น กลับมายืนอยู่ในสภาพความเป็นจริง ที่ศิลปินดาราทุกคนต้องมีชีวิตครอบครัว แล้วก็ต้องเป็นบุคคลตัวอย่างต่อไปค่ะ"
แก้ไขล่าสุด 6 ม.ค. 58 11:46 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google