"ยุ้ย รจนา" นางแบบที่ใช้โอกาสเปลืองที่สุด !!

"ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา" นางแบบไทยคนแรกที่โกอินเตอร์ ที่ชีวิตเหมือนจะสวยหรู แต่ก็ว่ามีจุดพลิกผัน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีโอกาสดีๆเข้ามาหาเธอมากมาย แต่ก็ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป อดีตนางแบบชื่อดัง ที่มีข่าวกลายเป็นคนเร่ร่อน มีอาการทางจิต โดย ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา ประวัติในอดีตเป็นนางแบบซูเปอร์สตาร์ในใจหลายคน         กลายเป็นประเด็นฮือฮาอย่างมาก หลังมีข่าว ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา อดีตนางแบบชื่อดัง ดีกรีซูเปอร์โมเดลระดับโลก กลายเป็นคนเร่ร่อนข้างถนน และมีอาการทางจิตจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม  โดยหลังจากที่มีข่าว ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา ออกมา หลายคนก็ให้ความสนใจกับประวัติความเป็นมาของหญิงสาวคนนี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอ จึงทำให้นางแบบอินเตอร์คนนี้กลายมาเป็นแบบนี้ได้

สำหรับประวัติ ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา เป็นนางแบบชาวไทยที่มีชื่อเสียงในระดับอินเตอร์ ช่วงปี พ.ศ. 2537-2545 เคยติดอันดับ 1 ใน 12 ซูเปอร์โมเดลโลก เป็นนางแบบนิตยสาร Vogue (โว้ก) ฉบับเอเชีย มีผลงานเดินแบบแฟชั่นในต่างประเทศทั้ง ฝรั่งเศส อิตาลี สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ โดย ยุ้ย รจนา เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2518 พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก ยุ้ย รจนา จบการศึกษาชั้น ป.6 แล้วจึงเข้ากรุงเทพฯ มาเป็นเด็กล้างจานที่ร้านอาหารของญาติแถววัดธาตุทอง ก่อนจะถูกแมวมองชักชวนให้เข้าประกวดซูเปอร์โมเดล ออฟ ไทยแลนด์ ในปี พ.ศ. 2537 (Elite Super Model of Thailand 1994) ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

        เนื่องจากหน้าตาที่สวยแบบไทยแท้ ๆ ของเธอซึ่งถูกใจกรรมการชาวต่างชาติ จากนั้น ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา ก็ได้ถ่ายแบบให้นิตยสารโว้กที่สิงคโปร์ และถูกส่งเข้าประกวด Supermodel of the World 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ฮาวาย จากนั้นก็ไปอยู่ในลอนดอน สังกัด สตอร์ม โมเดล เมื่ออายุ 18 ปี มีงานเดินแบบหลัก ๆ อยู่ที่ ปารีส มิลาน นิวยอร์ก และลอนดอน ได้ทำงานร่วมกับนางแบบชั้นนำ อาทิ เคท มอสส์ และนาโอมิ แคมป์เบลล์ มีผลงานถ่ายแบบในนิตยสารชื่อดัง อาทิ คอสโม,แอลล์, แมรี่ แคลร์ นอกจากนี้ เธอยังเป็นนางแบบให้กับ คริสเตียน ดิออร์ และลาล์ฟ ลอเรน อีกด้วย แถมยังได้แสดงในมิวสิควิดีโอของศิลปินชื่อดังอย่าง จอร์จ ไมเคิล และเป็นนางแบบเอเชียคนแรกที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของชาแนลอีกต่างหาก

        จากความสำเร็จในเส้นทางนางแบบอินเตอร์ ทำให้ ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา มีโอกาสได้เดินทางไปทั่วโลก ได้พบประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมากมาย ทำรายได้สูงสุดถึงปีละ 50 ล้านบาท ซึ่งเธอเองก็ใช้จ่ายเงินมากมายในการซื้อเสื้อผ้าและทานอาหารที่หรูหราราคาแพง รวมถึงไปสนุกที่คลับ ก่อนที่เธอจะเลือกทางผิดด้วยการเริ่มใช้ยาเสพติดในช่วงอายุ 20 ต้น ๆ ด้วยความอยากรู้อยากลอง เธอติดโคเคนและติดสุราอย่างหนัก แล้วหลังจากนั้นชีวิตของ ยุ้ย รจนา ก็เข้าสู่ช่วงตกต่ำ เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ทำงานได้ จนถูกเอเจนซี่ส่งตัวกลับบ้านด้วยเงินติดตัวเพียง 500 บาท หลังจากที่ ยุ้ย รจนา กลับมาเมืองไทยในช่วงปี พ.ศ. 2545 เรื่องราวของเธอก็กลายเป็นข่าวดังในสมัยนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่เธอประชดชีวิตด้วยการกินเหล้าอย่างหนักแล้วมีข่าวว่า ยุ้ย รจนา ทุบตีมารดาจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งภายหลังเธอยอมรับว่า ช่วงเวลานั้นเธอไม่มีสติ เมื่อมีสติแล้วก็กลับมาขอขมาแม่แล้วท่านก็ให้อภัยกับสิ่งที่เธอทำ

        หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มามากมาย ยุ้ย รจนา ได้ใช้เวลาถึง 2 ปี ในการเลิกยาเสพติดได้สำเร็จ แต่ฤทธิ์ของมันก็ทำลายสมองเธอมากพอสมควร เมื่อคุณแม่พาเธอไปโรงพยาบาลก็พบว่า ยุ้ย รจนา มีอาการของโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder) ทำให้มีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ต้องเข้ารับการรักษาและรับยาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เธอจำหันมาเข้าวัดเข้าวา ศึกษาธรรมะและบวชชีพราหมณ์ 2-3 ครั้ง ชีวิตของ ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา จากซูเปอร์โมเดลระดับโลก ก็ได้กลับมาเป็นคนเดินดิน ทำงานเป็นครูสอนเดินแบบและมีงานถ่ายแบบออกมาเป็นระยะ ส่วนคุณแม่ของเธอ ขณะนี้กำลังบวชชีอยู่ที่ภาคใต้


ปัจจุบัน ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา ได้เข้ารักษาตัวจากอาการของโรค Bipolar ที่โรงพยาบาล ซึ่งทางคนใกล้ชิดรวมถึงอดีตผู้จัดการของ ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา อย่าง โจ สาโรจน์ ณ นคร ก็ยืนยันว่า อาการของโรคซึ่ง ยุ้ย รจนา ประสบอยู่นั้นไม่ได้จัดอยู่ในอาการของคนบ้าอย่างที่เห็นตามข่าว แต่เป็นการมีสองบุคลิก เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้หายขาด ต้องรับประทานยาตลอดเวลา หากหยุดยาเมื่อไหร่ก็จะมีอาการข้างเคียงปรากฏ ซึ่งคาดว่าโรคนี้เกิดจากโคเคนได้เข้าไปทำลายสมองบางส่วนของเธอ จนทำให้มีอาการดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งหากเธอได้รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนสาเหตุที่ ยุ้ย รจนา กลายเป็นคนเร่ร่อนนั้น เนื่องจากเธอไม่ได้รับยาอย่างต่อเนื่องและไม่มีครอบครัวที่สามารถให้ที่พักพิงอย่างถาวร ทำให้ไม่สามารถรักษาตัวได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง



https://www.youtube.com/watch?v=iz_9aD13ZuI
https://www.youtube.com/watch?v=A9p_NSw4vts