แซมมี่ เครียด รับบทหนักใน ไฟรักเกมร้อน และ ทะเลไฟ

หลังละครเรื่อง "เลื่อมสลับลาย" ลาจอไป "แซมมี่ เคาวเวลล์" ก็ยังมีละครเรื่อง "ไฟรักเกมร้อน" และ "ทะเลไฟ" อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงบทบาทตัวละครที่ได้รับให้ฟังว่า "เป็นคนพี่ของน้องเซฟ (เซฟฟานี่ อาวะนิค) ค่ะ ในเรื่องนี้ จริงๆ คาแรกเตอร์เป็นผู้หญิงใสๆ นะ เรียนอยู่เมืองนอก แล้วก็ชีวิตแฮปปี้ มีความสุข จนวันหนึ่งรู้ว่าพ่อมีเมียน้อย อันนี้ก็เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ของครอบครัวเลยค่ะ พระเอกก็เป็นแบบ เหมือนเราเข้าใจว่าเขาหลอกเรามาตลอด อันนี้ก็จะเริ่มเปลี่ยนจากใสๆ แล้วเริ่มแข็งขึ้น โตขึ้น แล้วก็กลับมาแก้แค้นพระเอก จริงๆ แล้วเหมือนจะดี แต่ไม่ดี มันจะมีพาร์ตที่เรามั่นขึ้น เพราะว่าเราต้องดูแลแม่ แม่ก็เป็นบ้าในเรื่อง พ่อก็ไปอยู่กับเมียน้อย ซึ่งก็เป็นแม่ของ ธันวา (ธันวา สุริยจักร) เขาก็เหมือนต้องอยู่คนเดียวค่ะ ต้องดูแลทุกอย่าง ก็เลยทำให้โตขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าทำไมชีวิตเราตกต่ำลง ในขณะที่พระเอกดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยอยากจะเอาของทุกอย่างของเราคืนค่ะ ก็เลยเริ่มมีการแก้แค้นพระเอก" นางเอกสาวกล่าวว่าทุกวันนี้ก็ยังเดินแบบอยู่ แต่หลายคนอาจจะเห็นเธอในบทบาทของนักแสดงมากกว่า "จริงๆ ก็เดินอยู่นะ แต่ว่าน้อยลง หลายๆ คนอาจจะเห็นหนูในบทบาทของนักแสดงมากกว่า ด้วยเวลาด้วยค่ะ จริงๆ แล้วหนูก็อยู่กองตลอดนะ มีช่วงเวลาที่พักแป๊บเดียว จบจาก เลื่อมสลับลาย ก็หายใจได้แป๊บหนึ่ง แล้วก็มาเปิดเรื่องนี้ มันช่วงคาบเกี่ยวด้วย แล้วก็ถ้ามีเวลาจริงๆ เราก็อยากพัก เพราะว่าเล่นละครดรามา มันเล่นกับสภาพจิตใจ เล่นกับอารมณ์ค่ะ มันค่อนข้างที่จะหนักเหมือนกัน" สาว แซมมี่ เปิดใจไม่กลัวคนติดภาพตนเองเป็นนักแสดงมากกว่านางแบบ "จริงๆ ไม่ค่อยซีเรียสนะ อยากจะให้เห็นในหลายๆ บทบาทมากกว่าค่ะ อย่างเราเล่นละคร เราก็อยากจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้คนเห็นว่าเราก็เล่นได้หลายแบบ ก็เหมือนกัน นางแบบก็เหมือนเป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งค่ะ"

แซมมี่ ยืนยันว่าไม่ได้พักงานเดินแบบ แค่ติดเรื่องเวลาไม่ตรงกัน "ไม่ได้พักค่ะ แค่เวลาไม่ตรงกันเท่าไร แล้วก็คือเรื่องคิว เหมือนเรารับละครเรื่องนี้มาแล้ว และละครมันทำงานกันเป็นทีม แล้วถ้าเกิดว่าเราไม่ได้คนเดียว มันก็จะแบบนิดหนึ่งน่ะ เหมือนรู้สึกกดดันด้วยค่ะ ถ้าเกิดอะไรที่ส่วนรวมไม่เดือดร้อน เราก็เลือกอันนั้นดีกว่า ทุ่มให้ละครเป็นหลักไหม จังหวะนี้มากกว่าค่ะ เพราะด้วยเนื้อหาละครที่เราจะต้องทำการบ้านมากขึ้นด้วยค่ะ" ส่วนเรื่องที่รับแต่งานละครเศร้าเคล้าน้ำตา นักแสดงสาวแง้มว่า "จริงๆ เรื่องละครไม่เคยขอ หรือไม่เคยเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ว่าขอเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ผู้ใหญ่ให้อะไรมาแล้วเราก็รับ โชคดีที่แต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ทำให้หลายๆ คนเห็นว่าเราพัฒนาตัวเองได้ค่ะ เพราะฉะนั้น ถามว่าหนูชอบดรามาไหม ก็ชอบนะ มันก็เหมือนบู๊ บู๊ก็ชอบ แต่ว่าดรามามันใช้อารมณ์มากกว่าร่างกาย คือก่อนหน้านี้ก็จะมีบู๊สองเรื่องติดกันแล้ว อันนี้ก็ลองเปลี่ยนมาดรามาบ้าง"

ดาราสาวเผยถึงอาการหอบจนร้องไห้ไม่หยุด เวลาที่เข้าฉากอารมณ์ว่า "โรคหอบที่เคยเป็นแล้วร้องไห้ไม่หยุด อันนี้ดีขึ้นค่ะ ก็อย่างที่เคยบอกว่าอันนี้มันเหมือนจะต้องใช้เวลาในการปรับตัว ในการคอนโทรลมัน หลังจากที่เมื่อก่อนนี่ร้องแล้วหยุดไม่ได้ แต่อันนี้ก็เริ่มดีขึ้นค่ะ ก็คุยกับผู้ใหญ่หลายๆ ท่านที่เขาเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มา ก็เก็บจากคนนู้นคนนี้มาจำไว้ แล้วก็มาทำกับตัวเราเองค่ะ" นางเอกเจ้าบทบาทบอกว่าอาการที่เป็นอยู่เรียกว่า โรคไฮเปอร์เวนติเลชันซินโดรม "เขาบอกว่าเป็นโรคไฮเปอร์เวนติเลชันซินโดรมค่ะ มันจะเป็นหอบจากอารมณ์ คือหนูก็ไม่รู้ว่ามันมีโรคนี้อยู่หรือเปล่า แล้วพอเป็นแรกๆ มันหายใจไม่ออก พอหายใจไม่ออก แล้วเหมือนสัญชาตญานมันหายใจถี่ขึ้นๆ น่ะค่ะ จนเราคอนโทรลมันไม่ได้ มันเกี่ยวกับพวกกล้ามเนื้อด้วย พอคอนโทรลไม่ได้เสร็จปุ๊ป เราก็ทำให้มันหยุดร้องไม่ได้ ตอนที่เป็นก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ดีขึ้นค่ะ"

ถามว่าได้ไปพบแพทย์บ้างไหม แซมมี่ ตอบว่า "จริงๆ ยังไม่ได้ไปหาหมอนะ แต่ว่าก็คุยกับผู้กำกับ ตอนที่เป็นเนี่ย เป็นอยู่ใน เลื่อมสลับลาย ค่ะ ก็คุยกับผู้กำกับแล้วก็มีผู้ใหญ่ในเรื่อง เขาก็ให้ไปฝึกทางด้านสมาธิ นอน หายใจเข้าเป็นสีฟ้า หายใจออกเป็นสีขาว" ดาราสาวมือทองโอดว่าเครียดกับละครเรื่องล่าสุดจนมีอาการหอบเช่นกัน "เรื่องนี้ก็เครียดนะ จริงๆ เรื่องนี้ ช่วงที่ถ่ายสองเรื่องควบกันกับ เลื่อมสลับลาย ก็เป็น อยู่ดีๆ ก็เป็นเรื่องนี้เฉยเลย หนูก็งง ผู้กำกับต้องมานั่งกุมมือ คอยลูบหลังให้ แต่ว่าหลังๆ นี่ดีขึ้นค่ะ แต่ด้วยบทเรื่องนี้ ในความรู้สึกหนู ก็ยาก ยากกว่า เลื่อมสลับลาย อีก เพราะว่ามันมีเรื่องของเลิฟซีน มีดรามา มีดรามาที่เป็นเลิฟซีนที่ต้องใช้อารมณ์เข้าร่วมค่ะ ก็ยาก เพราะว่าส่วนตัวแล้ว เรื่องกุ๊กกิ๊ก เรื่องเลิฟซีน เข้าพระเข้านาง ไม่ค่อยถนัด ไม่ใช่ทาง"

อ่านเรื่องย่อละคร เลื่อมสลับลาย