เมย์ ยอมรับคำวิจารณ์ กรณีนำเสื้อผ้าลูกสาวมาขาย

หลังจากคุณแม่ยังสาว "เมย์ - ปทิดา กำเนิดพลอย" ออกบูธขายเสื้อผ้ามือสองของลูกสาวอย่าง "มายู - ภูรดา กำเนิดพลอย" ก็มีหลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเชิงตำหนิทางอินสตาแกรมส่วนตัวของดาราสาวว่า ทำไมไม่นำเสื้อผ้าเหล่านี้ไปบริจาคให้แก่เด็กด้อยโอกาส จนกลายเป็นกระแสขึ้นมา โดยคุณแม่ของ มายู ก็ได้ออกมาพูดถึงกรณีนี้ว่า "คือจริงๆ แล้วเป็นงานที่ให้ดาราไปมีของขาย จริงๆ แล้วเมนหลักของเมย์เนี่ย บูธเมย์จะมีเสื้อผ้าที่เมย์เปิดร้านเสื้อผ้าขาย แต่ว่าของมันไม่พอ ก็เลยเอาเสื้อผ้าของตัวเองด้วย แล้วอยากจะให้มันมีกิมมิกเล็กๆ ก็เลยเอาชุดมายูเข้าไปค่ะ ประมาณนี้เท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไร" สาว เมย์ เสริมว่า "ปกติแล้วเรื่องทำบุญ เมย์ทำประจำอยู่แล้วนะคะ แล้วก็มายูนี่เมย์ก็ให้เขาไปไหว้พระทำบุญ อย่างเรื่องบริจาคชุด เมย์เข้าใจนะ แต่พอดีว่าเมย์คิดว่าเอาชุดไปขายตรงนี้ บางคนที่เขาอยากได้ แล้วได้ใช้จริงๆ แล้วเอาเงินไปทำบุญดีกว่า เพราะว่าชุดมายูบางตัวมันก็ฟรุ้งฟริ้งไง จะให้บริจาค มันก็จะไม่เหมาะ เอาให้บางคน บางครอบครัว เขาอยากได้ แล้วก็เอาไปใช้ เอาไปใส่ในราคาที่ถูกๆ แต่เงินเหล่านี้ เมย์ไม่ต้องมาบอกไงคะว่า เงินที่ได้จะเอาไปบริจาคนะ คือเมย์ไม่ใช่แบบนั้นไง ก็เลยเหมือนกับว่ามันก็ไม่ได้พูด แต่จริงๆ ปกติน่ะ บริจาค ช่วยเหลือคนประจำ อย่างทำรายกงรายการ อย่างปากโป้ง พี่หนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย สามี) ทำ เจอคนที่ลำบาก เราช่วยเหลือกันทุกอาทิตย์อยู่แล้วค่ะ ทุกวันเลย เป็นประจำกันอยู่แล้วค่ะ"

นักแสดงสาวเผยว่าเห็นความคิดเห็นเชิงติเตียนในอินสตาแกรมแล้ว "เห็นค่ะ แต่เมย์เข้าใจนะ เมย์ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าเราเข้าใจหลายๆ คนน่ะค่ะ ที่อาจจะแบบว่าทำไมไม่บริจาค อะไรอย่างนี้ เข้าใจ แต่ไม่ได้คิดอะไรค่ะ เข้าใจ เพราะว่าบางคนก็รู้สึกแบบนั้น แต่ว่าจริงๆ อยากให้เข้าใจอีกมุมหนึ่งเหมือนกันว่า เราไม่ได้พูด บรรยายอะไรเยอะว่า ต้องอย่างนั้นอย่างนี้" ถามว่าหลังเกิดกระแส ได้ล้มเลิกการขายเสื้อผ้ามือสองของลูกสาวไหม เจ้าตัวตอบว่า "ไม่ค่ะ ก็ยังขายเหมือนเดิม แต่ว่าคนก็มารอกันเต็มเลย แล้วก็มาแป๊บเดียว ก็คือชั่วโมงเดียวก็หมด เพราะว่าไม่ได้มีเยอะค่ะ เพราะว่าจริงๆ เมย์ก็ยังเก็บของมายูอยู่ มีบางส่วนเท่านั้นเองค่ะ ยังเก็บอยู่"

เมย์ เปิดใจว่ายังไม่ได้วางแผนเรื่องลูกคนที่สอง "ก็จริงๆ แล้วยังไม่ได้แพลนนะคะ เอาเป็นว่าเลี้ยงมายูให้ดีที่สุดก่อน เดี๋ยวถ้าเกิดจะมี เดี๋ยวว่ากันอีกทีดีกว่า พี่หนุ่มอยากมีไหม จริงๆ ลึกๆ เขาก็อยากมี แต่ว่าเขาเป็นห่วงสุขภาพเมย์มากกว่า เพราะเห็นว่ามียาก อย่างคนแรกมีก็ต้องทั้งกินยา ทั้งฉีดยาทุกวัน ใช้เวลาเยอะเหมือนกัน แล้วก็ไปไหนไม่ได้เลย เขาก็เลยเห็นว่าเมย์ดูจะเหนื่อยๆ หรือดูจะลำบาก เขาก็เลยเหมือนกับพูดแบบว่า เออจริงๆ แล้ว คนเดียวก็ได้ ไม่ต้องมีอีกหรอก พยายามพูดให้เราไม่ไปกังวลกับตรงนี้ค่ะ เหมือนแบบไม่จำเป็นต้องมีอีกคนก็ได้ เพราะว่ามีมายูเขาก็แฮปปี้ดีแล้วค่ะ"