วิเคราะห์ 3 ความเสี่ยง ! ของ Jessica กับ ธุรกิจมูลค่า 1,200 ล้าน
28 ม.ค. 59 20:42 น. /
ดู 1,769 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
jessica jung ไอดอลสาวอดีตสมาชิกวง SNSD (Girls' Generation) ที่เพิ่งจะออกจากการเป็นสมาชิกของวง จนเป็นข่าวใหญ่ตลอด ได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อแบรนด์แว่นตาของเธอจากเดิม BLANC ไปเป็น BLANC & ECLARE พร้อมประกาศว่านี่จะเป็นก้าวต่อไปของธุรกิจของเธอ แต่ในเวลาเดียวกันกลับมีกระแสข่าวอันน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับการทำธุรกิจครั้งนี้ออกมาหลายประการ����� �������
โดยไอดอลสาวชื่อดังได้ออกแถลงการณ์ถึงก้าวต่อไปของบริษัทที่จะออกแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อBLANC & ECLARE�พร้อมขยายการจัดจำหน่ายไปในต่างประเทศนอกจากนั้นยังจะมีการย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่นิวยอร์กสหรัฐอเมริกาด้วย����� ����
��� "ในอนาคตอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเราจะขอแนะนำคอลเล็คชั่นใหม่ๆ พร้อมโครงการการร่วมงานใหม่ๆ ที่จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์�เจสสิกา�ซึ่งจะปรากฏชัดออกมาเรื่อยๆ ทั้งดีไซน์ใหม่ๆ และโครงการต่างๆ ถือเป็นก้าวต่อไปที่จะแสดงให้เห็นถึงอนาคตของแบรนด์ของเรา"
แถลงการณ์ของ�BLANCกล่าวถึงแผนการในอนาคตอันใกล้ของบริษัท��
��� ������� โดย�เจสสิกา�ยังได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ครั้งนี้ว่า
"แม้จะมีการเปิดตัว�ECLARE�เร็วกว่าที่วางแผนเอาไว้ ฉันก็ยังภูมิใจมากๆ ค่ะที่จะได้พาให้�BLANC & ECLARE�ไปสู่ในอีกระดับหนึ่ง และขอน้อมรับกำลังใจที่มีให้กับแบรนด์นี้มาตลอดด้วย ฉันให้คำมั่นว่าเราจะพยายามอย่างถึงที่สุด อย่างที่เราพยายามจะพัฒนา และทำอะไรใหม่มาตลอด"�����
������� แม้ธุรกิจกำลังจะขยายตัว แต่ในเวลาเดียวกันกลับมีการขุดคุ้ยข้อมูลออกมาว่าเปลี่ยนชื่อแบรนด์จากBLANC�เป็น�BLANC & ECLARE�นั้นเกิดขึ้นหลังจากมีข้อมูลออกมาว่าก่อนที่ไอดอลสาวคนดังจะเปิดบริษัทได้มีแบรนด์แว่นตาที่ชื่อว่า�BLANC�ในประเทศญี่ปุ่น อยู่ก่อนหน้านี้แล้วนั่นเอง หลายฝ่ายจึงเชื่อว่าการ รีแบรนด์ ครั้งนี้น่าจะมีสาหตุส่วนหนึ่งมาจากการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับ ชื่อซ้ำ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้�����
������� ถือว่าข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับทำธุรกิจของ�เจสซิกา�ได้ทำให้เกิดคำถามถึงอนาคตของไอดอลสาวอดีตสมาชิกวง Girls' Generation�ขึ้นมาอีกครั้ง ว่าเธอจะสามารถผลักดันให้ธุรกิจไปไกลได้เพียงใด เพราะเธอไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มไอดอลที่ดังที่สุดในเกาหลีใต้อีกแล้ว����� ���
���� นอกจากนั้นชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งยังได้แสดงความเห็นเชิงตั้งคำถามถึงทักษะในการดำเนินธุรกิจ และบริหารกิจการของตัวเองของ�เจสสิกา�ด้วย
ความเสี่ยงที่ 1 ถ้าความรักของเธอไปไม่รอด มีปัญหาล่ะ ? เพราะทั้งคู่ลงหุ้นกัน ระยะยาวไว้แล้ว
ความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับธุรกิจของ�เจสสิกา�ที่เกี่ยวข้องกับ ไทเลอร์ ควอน (Tyler Kwon) หุ้นส่วนคนดังของเธอ ที่ตอนนี้หลายฝ่ายมองว่าเป็นคนที่ทำให้�เจสสิกาต้องออกจาก�Girls' Generation�ไป����� ���
����
�Sports World�ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับข้อมูลของชายที่ชื่อว่า ไทเลอร์ ควอน หุ้นส่วนทางธุรกิจที่ว่ากันว่ากำลังคบหาดูใจกับ�เจสสิกา�และมีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของเธอ โดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า
"เขาคนนี้ดูจะทำตัวราวกับเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลมหาเศรษฐี และเรียกตัวเองว่าเป็นซีอีโอของบริษัท Coridel Group�แต่เขากลับไม่ได้แสดงออกให้เห็นว่าร่ำรวยมหาศาลอะไรเลย "
เขามักจะหยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัวคราวละ 50 100 ล้านวอน เขายังบอกว่าตัวเองทำธุรกิจประเภทการลงทุน แต่ก็ควรตรวจสอบกันให้ชัดๆ ซะทีว่าเขารวยมาจากอะไรกันแน่
สื่อดังในเกาหลีใต้ตั้งคำถาม��ไทเลอร์
ควอน�ยังโด่งดังมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่ฮ่องกง ในแง่เป็นพวกชอบสร้างข่าว และพยายามเข้าหาดาราสาวคนดังของที่นั้น และโดนกล่าวหาว่าเขาพยายามใช้พวกเธอทำให้ตนเองเป็นที่สนใจขึ้นมา
โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาเคยคบหาดูใจกับ�อาเจียว�(Gillian Chung) แห่งวง Twin�ก็เคยมีข่าวออกมาว่าเขาอาจจะแต่งงานกับเธอ แบบเดียวกับที่มีข่าวว่าเขาอาจจะแต่งงานกับ�เจสสิกา�ในตอนนี้นั่นเอง����� ������
� ความสัมพันธ์ของเขากับ�เจสสิกา�ก็มีอะไรที่น่าสงสัยหลายอย่าง ตั้งแต่การพบกันครั้งแรกที่หลายคนบอกว่าดูเหลือเชื่อราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ โดยตอนนั้น�เจสสิกา�กำลังชอปปิ้งอยู่ที่ฮ่องกง และมีปัญหาตอนจ่ายเงินเกี่ยวกับบัตรเครดิต หนุ่ม�ไทเลอร์ ควอน�จึงเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือจ่ายเงินให้กับเธอแทน ซึ่ง�Sports World�ก็บอกว่าไอดอลสาวคนดังได้ตกหลุมรักเขาตั้งแต่ตอนนั้นเลย หลังจากนั้นทั้งสองจึงคบหากันแบบเงียบๆ มาเรื่อยๆ แต่ถึงจะเป็นการคบกับแบบเงียบๆ และควรจะเก็บเรื่องความสัมพันธ์ครั้งนี้เอาไว้เป็นความลับ แต่ฝ่ายชายก็ดูจะโพสต์ภาพส่วนตัวลงในเว็บไซต์อยู่เสมอ����� ����
��� จนสุดท้ายทั้งสองจึงตัดสินใจลงทุนร่วมกันในที่สุด
ความเสี่ยงที่ 2 เงินลงทุนมหาศาล กับ ประสพการณ์ที่น้อยนิดของเธอ (เผลอๆประสพการณ์น้อยกว่าแฟนหนุ่มเยอะ )
มีข้อมูลว่า�BLANC�ใช้เงินลงทุนไปถึง 40 ล้านเหรียญฯ หรือ 1,200 ล้านบาท ซึ่งตัวของ�เจสสิกา�เองก็ร่วมลงทุนไปไม่น้อยด้วย�
เงินลงทุนมากขนาดนี้ กับ ความไม่มีประสพการณ์ในสายงานธุรกิจของเธอ จะไปรอดหรือเปล่า
ที่สำคัญ เงินลงทุนถ้าต้องกู้มาก็ยิ่งเสี่ยง
แต่สำคัญอีกประการคือ เงินทุนจากแฟนหนุ่มของเธอได้มายังไง ? เอาเครดิตมาจากไหน?
"การเปิดตัวแบรนด์ BLANC & ECLARE นั้น ฉันต้องการทำงานเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์แฟชั่น ทั้งแว่นตากันแดด เครื่องประดับ และน้ำหอมค่ะ"
เป็นคำให้สัมภาษณ์ ของเจสสิก้า ต่อนิตยสารฉบับหนึ่ง
ซึ่งมันขัดแย้งอย่างชัดเจนกับข่าวนี้
News : สาวเจสสิก้าต้องเผชิญกับแรงกดดันอีกทางแล้ว เมื่อสื่อในเกาหลีตั้งข้อสังเกตว่า แบรนด์แฟชั่นที่ชื่อว่า BLANC ของเธอช่างมีความคล้ายคลึงกับแบรนด์ BLANC ในญี่ปุ่นซะเหลือเกิน ทั้งชื่อ ทั้งฟอนต์ รวมถึงดีไซน์ของผลิตภัณฑ์แว่นตาแฟชั่นพูดง่ายๆ ก็อปเขามาเกืิอบหมด
สรุปคือ เธอไม่ได้คิดแบรนด์เอง เหมือนคำให้สัมภาษณ์
ความเสี่ยงที่ 3 เธอใจเร็วเกินไปในการลงทุน และ ลงทุนมาไม่ถูกจังหวะชีวิตของเธอ
"Grace Kelly ค่ะ สไตล์ที่ดูหรูหราและคลาสสิคแบบนั้น ฉันสนใจจริงๆค่ะ เทรนด์ในยุค 50 ของเธอ ยังคงน่าจดจำยันปัจจุบันเลยค่ะ "
นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ ของเจสซี่ ที่บ่งบอกแนวความคิดของเธอมาตั้งแต่ต้น แล้วว่า มีแพลนอยากทำ
แบรนด์แฟชั่นของตนเอง คู่ขนานไปกับ ฐานะนักร้องดังระดับโลกในนาม Girls Generation
แต่ เธอกลับไปไม่ถึงจุดนัดฝันนั้นเพราะ โดนบีบให้ออกจากวงเสียก่อน
และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอไปก็อปแบรนด์ญี่ปุ่นมา เพราะลดความเสี่ยงที่สร้างแบรนด์ใหม่เอง และมันใช้เวลานานในการสร้างแบรนด์
(หรืออาจโดนแฟนหนุ่มแนะนำผิดๆหรือเปล่าก็ไม่รู้)
และแน่นอนมันคืออีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอต้องกลับมาร้องเพลงอีก เพราะ
การออกไปทำธุรกิจอย่างเดียวถือเป็นการทิ้งแฟนคลับของตัวเอง ซึ่งเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของเธอนั่นเอง
สุดท้ายนี้ไม่ว่าธุรกิจของเธอจะเป็นอย่างไร ชีวิตคู่จะไปรอดหรือไม่ ?
เชื่อว่า แฟนคลับยังไม่ทิ้งเธอแน่นอน และพร้อมที่จะให้กำลังใจเธอเสมอ
ขอจบด้วยคำให้สัมภาษณ์ของเธออีกครั้ง เพราะเหมือนบ่งบอกนัยบางอย่างเอาไว้เกี่ยวกับเพื่อนร่วมวง snsd และ SM Entertainment ที่เคยปฎิบัติกับเธอไว้
คำถาม : เจสซี่ คุณได้ดูภาพยนตร์อะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณบ้างรึเปล่า?
เจสสิก้า : พระเอกของเรื่อง Shawshank Redemption ค่ะ แอนตี้ เขาถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมต้องจำคุกตลอดชีวิต เขาแสดงให้เห็นถึงความหวังที่แท้จริงและความหวังและความกล้าหาญ ฉันรู้สึกได้จริงๆค่ะ และนั่นคือแรงบันดาลใจของฉัน( เหมือนเธออยากบอกว่า ถูกเพื่อนร่วมวง และทางค่ายเพลงปฏิบัติกับเธออย่างไม่เป็นธรรมนั่นเอง)
เรียบเรียงโดย monica consovsky
โดยไอดอลสาวชื่อดังได้ออกแถลงการณ์ถึงก้าวต่อไปของบริษัทที่จะออกแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อBLANC & ECLARE�พร้อมขยายการจัดจำหน่ายไปในต่างประเทศนอกจากนั้นยังจะมีการย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่นิวยอร์กสหรัฐอเมริกาด้วย����� ����
แถลงการณ์ของ�BLANCกล่าวถึงแผนการในอนาคตอันใกล้ของบริษัท��
��� ������� โดย�เจสสิกา�ยังได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ครั้งนี้ว่า
"แม้จะมีการเปิดตัว�ECLARE�เร็วกว่าที่วางแผนเอาไว้ ฉันก็ยังภูมิใจมากๆ ค่ะที่จะได้พาให้�BLANC & ECLARE�ไปสู่ในอีกระดับหนึ่ง และขอน้อมรับกำลังใจที่มีให้กับแบรนด์นี้มาตลอดด้วย ฉันให้คำมั่นว่าเราจะพยายามอย่างถึงที่สุด อย่างที่เราพยายามจะพัฒนา และทำอะไรใหม่มาตลอด"�����
������� แม้ธุรกิจกำลังจะขยายตัว แต่ในเวลาเดียวกันกลับมีการขุดคุ้ยข้อมูลออกมาว่าเปลี่ยนชื่อแบรนด์จากBLANC�เป็น�BLANC & ECLARE�นั้นเกิดขึ้นหลังจากมีข้อมูลออกมาว่าก่อนที่ไอดอลสาวคนดังจะเปิดบริษัทได้มีแบรนด์แว่นตาที่ชื่อว่า�BLANC�ในประเทศญี่ปุ่น อยู่ก่อนหน้านี้แล้วนั่นเอง หลายฝ่ายจึงเชื่อว่าการ รีแบรนด์ ครั้งนี้น่าจะมีสาหตุส่วนหนึ่งมาจากการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับ ชื่อซ้ำ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้�����
������� ถือว่าข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับทำธุรกิจของ�เจสซิกา�ได้ทำให้เกิดคำถามถึงอนาคตของไอดอลสาวอดีตสมาชิกวง Girls' Generation�ขึ้นมาอีกครั้ง ว่าเธอจะสามารถผลักดันให้ธุรกิจไปไกลได้เพียงใด เพราะเธอไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มไอดอลที่ดังที่สุดในเกาหลีใต้อีกแล้ว����� ���
���� นอกจากนั้นชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งยังได้แสดงความเห็นเชิงตั้งคำถามถึงทักษะในการดำเนินธุรกิจ และบริหารกิจการของตัวเองของ�เจสสิกา�ด้วย
ความเสี่ยงที่ 1 ถ้าความรักของเธอไปไม่รอด มีปัญหาล่ะ ? เพราะทั้งคู่ลงหุ้นกัน ระยะยาวไว้แล้ว
ความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับธุรกิจของ�เจสสิกา�ที่เกี่ยวข้องกับ ไทเลอร์ ควอน (Tyler Kwon) หุ้นส่วนคนดังของเธอ ที่ตอนนี้หลายฝ่ายมองว่าเป็นคนที่ทำให้�เจสสิกาต้องออกจาก�Girls' Generation�ไป����� ���
����
�Sports World�ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับข้อมูลของชายที่ชื่อว่า ไทเลอร์ ควอน หุ้นส่วนทางธุรกิจที่ว่ากันว่ากำลังคบหาดูใจกับ�เจสสิกา�และมีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของเธอ โดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า
"เขาคนนี้ดูจะทำตัวราวกับเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลมหาเศรษฐี และเรียกตัวเองว่าเป็นซีอีโอของบริษัท Coridel Group�แต่เขากลับไม่ได้แสดงออกให้เห็นว่าร่ำรวยมหาศาลอะไรเลย "
เขามักจะหยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัวคราวละ 50 100 ล้านวอน เขายังบอกว่าตัวเองทำธุรกิจประเภทการลงทุน แต่ก็ควรตรวจสอบกันให้ชัดๆ ซะทีว่าเขารวยมาจากอะไรกันแน่
สื่อดังในเกาหลีใต้ตั้งคำถาม��ไทเลอร์
ควอน�ยังโด่งดังมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่ฮ่องกง ในแง่เป็นพวกชอบสร้างข่าว และพยายามเข้าหาดาราสาวคนดังของที่นั้น และโดนกล่าวหาว่าเขาพยายามใช้พวกเธอทำให้ตนเองเป็นที่สนใจขึ้นมา
โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาเคยคบหาดูใจกับ�อาเจียว�(Gillian Chung) แห่งวง Twin�ก็เคยมีข่าวออกมาว่าเขาอาจจะแต่งงานกับเธอ แบบเดียวกับที่มีข่าวว่าเขาอาจจะแต่งงานกับ�เจสสิกา�ในตอนนี้นั่นเอง����� ������
� ความสัมพันธ์ของเขากับ�เจสสิกา�ก็มีอะไรที่น่าสงสัยหลายอย่าง ตั้งแต่การพบกันครั้งแรกที่หลายคนบอกว่าดูเหลือเชื่อราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ โดยตอนนั้น�เจสสิกา�กำลังชอปปิ้งอยู่ที่ฮ่องกง และมีปัญหาตอนจ่ายเงินเกี่ยวกับบัตรเครดิต หนุ่ม�ไทเลอร์ ควอน�จึงเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือจ่ายเงินให้กับเธอแทน ซึ่ง�Sports World�ก็บอกว่าไอดอลสาวคนดังได้ตกหลุมรักเขาตั้งแต่ตอนนั้นเลย หลังจากนั้นทั้งสองจึงคบหากันแบบเงียบๆ มาเรื่อยๆ แต่ถึงจะเป็นการคบกับแบบเงียบๆ และควรจะเก็บเรื่องความสัมพันธ์ครั้งนี้เอาไว้เป็นความลับ แต่ฝ่ายชายก็ดูจะโพสต์ภาพส่วนตัวลงในเว็บไซต์อยู่เสมอ����� ����
��� จนสุดท้ายทั้งสองจึงตัดสินใจลงทุนร่วมกันในที่สุด
ความเสี่ยงที่ 2 เงินลงทุนมหาศาล กับ ประสพการณ์ที่น้อยนิดของเธอ (เผลอๆประสพการณ์น้อยกว่าแฟนหนุ่มเยอะ )
มีข้อมูลว่า�BLANC�ใช้เงินลงทุนไปถึง 40 ล้านเหรียญฯ หรือ 1,200 ล้านบาท ซึ่งตัวของ�เจสสิกา�เองก็ร่วมลงทุนไปไม่น้อยด้วย�
เงินลงทุนมากขนาดนี้ กับ ความไม่มีประสพการณ์ในสายงานธุรกิจของเธอ จะไปรอดหรือเปล่า
ที่สำคัญ เงินลงทุนถ้าต้องกู้มาก็ยิ่งเสี่ยง
แต่สำคัญอีกประการคือ เงินทุนจากแฟนหนุ่มของเธอได้มายังไง ? เอาเครดิตมาจากไหน?
"การเปิดตัวแบรนด์ BLANC & ECLARE นั้น ฉันต้องการทำงานเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์แฟชั่น ทั้งแว่นตากันแดด เครื่องประดับ และน้ำหอมค่ะ"
เป็นคำให้สัมภาษณ์ ของเจสสิก้า ต่อนิตยสารฉบับหนึ่ง
ซึ่งมันขัดแย้งอย่างชัดเจนกับข่าวนี้
News : สาวเจสสิก้าต้องเผชิญกับแรงกดดันอีกทางแล้ว เมื่อสื่อในเกาหลีตั้งข้อสังเกตว่า แบรนด์แฟชั่นที่ชื่อว่า BLANC ของเธอช่างมีความคล้ายคลึงกับแบรนด์ BLANC ในญี่ปุ่นซะเหลือเกิน ทั้งชื่อ ทั้งฟอนต์ รวมถึงดีไซน์ของผลิตภัณฑ์แว่นตาแฟชั่นพูดง่ายๆ ก็อปเขามาเกืิอบหมด
สรุปคือ เธอไม่ได้คิดแบรนด์เอง เหมือนคำให้สัมภาษณ์
ความเสี่ยงที่ 3 เธอใจเร็วเกินไปในการลงทุน และ ลงทุนมาไม่ถูกจังหวะชีวิตของเธอ
"Grace Kelly ค่ะ สไตล์ที่ดูหรูหราและคลาสสิคแบบนั้น ฉันสนใจจริงๆค่ะ เทรนด์ในยุค 50 ของเธอ ยังคงน่าจดจำยันปัจจุบันเลยค่ะ "
นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ ของเจสซี่ ที่บ่งบอกแนวความคิดของเธอมาตั้งแต่ต้น แล้วว่า มีแพลนอยากทำ
แบรนด์แฟชั่นของตนเอง คู่ขนานไปกับ ฐานะนักร้องดังระดับโลกในนาม Girls Generation
แต่ เธอกลับไปไม่ถึงจุดนัดฝันนั้นเพราะ โดนบีบให้ออกจากวงเสียก่อน
และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอไปก็อปแบรนด์ญี่ปุ่นมา เพราะลดความเสี่ยงที่สร้างแบรนด์ใหม่เอง และมันใช้เวลานานในการสร้างแบรนด์
(หรืออาจโดนแฟนหนุ่มแนะนำผิดๆหรือเปล่าก็ไม่รู้)
และแน่นอนมันคืออีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอต้องกลับมาร้องเพลงอีก เพราะ
การออกไปทำธุรกิจอย่างเดียวถือเป็นการทิ้งแฟนคลับของตัวเอง ซึ่งเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของเธอนั่นเอง
สุดท้ายนี้ไม่ว่าธุรกิจของเธอจะเป็นอย่างไร ชีวิตคู่จะไปรอดหรือไม่ ?
เชื่อว่า แฟนคลับยังไม่ทิ้งเธอแน่นอน และพร้อมที่จะให้กำลังใจเธอเสมอ
ขอจบด้วยคำให้สัมภาษณ์ของเธออีกครั้ง เพราะเหมือนบ่งบอกนัยบางอย่างเอาไว้เกี่ยวกับเพื่อนร่วมวง snsd และ SM Entertainment ที่เคยปฎิบัติกับเธอไว้
คำถาม : เจสซี่ คุณได้ดูภาพยนตร์อะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณบ้างรึเปล่า?
เจสสิก้า : พระเอกของเรื่อง Shawshank Redemption ค่ะ แอนตี้ เขาถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมต้องจำคุกตลอดชีวิต เขาแสดงให้เห็นถึงความหวังที่แท้จริงและความหวังและความกล้าหาญ ฉันรู้สึกได้จริงๆค่ะ และนั่นคือแรงบันดาลใจของฉัน( เหมือนเธออยากบอกว่า ถูกเพื่อนร่วมวง และทางค่ายเพลงปฏิบัติกับเธออย่างไม่เป็นธรรมนั่นเอง)
เรียบเรียงโดย monica consovsky
แก้ไขล่าสุด 1 ก.พ. 59 22:32 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Android
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google