พุฒ อธิบาย ไม่มีเจตนาพูดจากระทบจิตใจนักแสดงสมทบ
SZ News
5 ก.พ. 59 12:06 น. /
ดู 705 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียว เมื่อมีบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า อีเจ้ ออกมาเล่าเรื่องราวในกองถ่ายละครที่มีผู้จัดอักษรย่อ จ. ซึ่งในคืนวันหนึ่ง นักจัดรายการวิทยุอักษรย่อ พ. ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงหลักของเรื่องก็ได้พูดกับนักแสดงสมทบที่มาร่วมถ่ายทำในวันนั้นว่า "เอกซ์ตราที่รู้ตัวว่าได้เงินค่าจ้าง ช่วยขยับเร็วๆ ด้วยครับ" ทำให้หลายคนมองว่าเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม และมีเจตนาดูถูกเพื่อนร่วมอาชีพ งานนี้ก็มีคนคาดเดาว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นในกองถ่ายละครเรื่อง "เกมมายา" ของผู้จัด "เจี๊ยบ - โสภิตนภา ชุ่มภาณี" และนักแสดงเจ้าของคำพูดที่ตกเป็นประเด็นก็คือพระเอกของเรื่องอย่าง "พุฒ - พุฒิชัย เกษตรสิน" นั่นเอง โดยหนุ่ม พุฒ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านทางรายการวิทยุ 94 EFM โดยเริ่มต้นเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า "คือจริงๆ แล้ววันนั้นเนี่ยเป็นวันที่เราถ่ายละครกันตั้งแต่เช้าจนถึงดึกดื่นเลยครับ แล้วก็เป็นซีนใหญ่ที่มีนักแสดงหลักเยอะมาก แล้วก็มีนักแสดงร่วมอีกเป็น 50-60 ชีวิต แล้วก็บวกกับแฟนคลับของผมเอง ของจุ๋ย (วรัทยา นิลคูหา) มีอีกประมาณเกือบ 300 คนที่เข้าไปในวันนั้น"
หนุ่มคนนี้เล่าต่อว่า "คือมันเป็นซีนใหญ่ที่เราทำกันมาตั้งแต่เช้าครับ แล้วก็คือทีมงาน นักแสดงร่วม นักแสดงหลัก แฟนคลับทุกคนที่มาก็ทำงานกันอย่างเต็มที่แหละครับ แล้วก็คือด้วยความที่มันเป็นซีนใหญ่ มันก็อาจจะต้องมีการโยกย้ายคนในแต่ละที่เยอะ แล้วเวลาคนเยอะๆ เวลาเราจะเคลื่อนตัวทีหนึ่ง หรือว่าเราจะทำอะไรทีหนึ่ง มันก็ค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ช้า แล้วงานที่เราทำในวันนั้นเนี่ยมันต้องแข่งกับเวลาด้วย เพราะว่าอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ยคือมันเป็นช่วงดึกแล้ว ประมาณสัก 5 ทุ่ม เกือบๆ จะเที่ยงคืนแล้ว หนึ่งคือเราก็มีแฟนคลับที่เราต้องดูแล ที่เราต้องเทกแคร์ด้วย เพราะว่าเราเชิญเขามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงละครเรื่อง เกมมายา แล้วก็ในวันนั้นเราถ่ายกันในโรงละครใหญ่ๆ ในภาพของการถ่ายทำเนี่ยมันก็จะต้องมีการย้ายคนจากตรงนี้ สลับกับตรงนี้ เพื่อมุมกล้อง เพื่อภาพที่สวยงาม ก็อาจจะต้องมีการย้ายหลายที่หน่อย"
พุฒ อธิบายสาเหตุที่ออกโรงถือไมโครโฟนพูดประโยคดังกล่าวว่า "ทีมงานของเราที่เป็นคนที่ถือไมค์เนี่ยก็เป็นทีมงานผู้หญิง แล้วก็ทำงานมาตั้งแต่เช้า แล้วเราเห็นว่าเขาเหนื่อยครับ เราก็เข้าไปช่วยเหลือในการที่จะเอนเตอร์เทนหรือว่ากระตุ้น แล้วก็อยากให้ทุกคนได้กลับบ้านเร็ว เพราะว่ามันจะเที่ยงคืนแล้ว แล้วรุ่งขึ้นทุกคนก็มีงานเช้า พี่ๆ นักแสดงร่วมทุกคนก็อาจจะต้องมีไปกองละครอื่นอีก แฟนคลับผมแฟนคลับจุ๋ยก็ทุกคนมีงานเช้า แล้วก็มันดึกมากแล้วเนี่ยเที่ยงคืนแล้วครับ เราก็อยากให้งานมันผ่านไปได้ด้วยเร็ว แล้วก็สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็เป็นเหมือนที่ข่าวบอก คือสิ่งที่เราทำลงไป เราต้องการที่จะกระตุ้นไม่ให้ทุกคนง่วง แล้วเราก็อยากให้งานเสร็จเร็วๆ แล้วก็จะได้แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน นักแสดงร่วมเหนื่อยผมเข้าใจ แฟนคลับก็เหนื่อย นักแสดงหลักก็เหนื่อย แล้วก็ทีมงานทุกคนก็เหนื่อย เข้าใจหมดเลยครับ แล้วก็หลังจากวันนั้นที่แฟนคลับกลับแล้ว นักแสดงสมทบกลับแล้ว นักแสดงหลัก ทีมงาน ผู้กำกับทุกคนก็ยังคงถ่ายทำกันต่อไปจนถึงประมาณตี 1"
เมื่อถูกทักว่าอาจเป็นเพราะน้ำเสียงที่เปล่งออกไปหรือเปล่าที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการเข้าใจผิด พระเอกหนุ่มก็แง้มว่า "คือวิถีของพิธีกร หรือว่าเวลาเราทำพิธีกรหรือเราเป็นดีเจ คือน้ำเสียงเราปกติ ถ้าเกิดว่าคนที่ทำงานด้วยกันก็จะรู้ว่าเราทำงานแล้วเราเป็นยังไง คือบางทีในการพูดในการเอ็นเตอร์เทนหรืออะไรอย่างนี้ มันมีการพูดแหย่กัน หยอกเอินกัน ซึ่งมันเป็นวิถีของเราอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ว่าสิ่งที่เราเป็น เราไม่ใช่แค่พิธีกร เราไม่ใช่แค่นักแสดงอย่างเดียว เรามีบทบาทอื่นเข้ามาด้วยครับ" หนุ่มหน้าใสกล่าวขอโทษที่บางคำพูดอาจไปกระทบความรู้สึกของคนอื่นๆ "สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ในช่วงที่ทุกคนเหนื่อยล้าแล้วก็อยากกลับบ้านไปพักผ่อนกันแล้ว เราก็เอนเตอร์เทนในสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะทำให้งานมันไหลลื่น แล้วทุกคนก็ไม่เครียด แล้วก็ให้งานมันเสร็จเร็ว แล้วก็อยากจะให้ทุกคนได้กลับไปพักผ่อน ทั้งนักแสดงร่วม แล้วก็แฟนคลับที่ไปกันในวันนั้นครับ ถ้าเกิดคำพูดบางคำพูดที่ออกจากเสียงของเราไป แล้วมันไปทำลายความรู้สึกของบางคน เราก็ขอโทษครับ"
พุฒ อธิบายสาเหตุที่ออกโรงถือไมโครโฟนพูดประโยคดังกล่าวว่า "ทีมงานของเราที่เป็นคนที่ถือไมค์เนี่ยก็เป็นทีมงานผู้หญิง แล้วก็ทำงานมาตั้งแต่เช้า แล้วเราเห็นว่าเขาเหนื่อยครับ เราก็เข้าไปช่วยเหลือในการที่จะเอนเตอร์เทนหรือว่ากระตุ้น แล้วก็อยากให้ทุกคนได้กลับบ้านเร็ว เพราะว่ามันจะเที่ยงคืนแล้ว แล้วรุ่งขึ้นทุกคนก็มีงานเช้า พี่ๆ นักแสดงร่วมทุกคนก็อาจจะต้องมีไปกองละครอื่นอีก แฟนคลับผมแฟนคลับจุ๋ยก็ทุกคนมีงานเช้า แล้วก็มันดึกมากแล้วเนี่ยเที่ยงคืนแล้วครับ เราก็อยากให้งานมันผ่านไปได้ด้วยเร็ว แล้วก็สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็เป็นเหมือนที่ข่าวบอก คือสิ่งที่เราทำลงไป เราต้องการที่จะกระตุ้นไม่ให้ทุกคนง่วง แล้วเราก็อยากให้งานเสร็จเร็วๆ แล้วก็จะได้แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน นักแสดงร่วมเหนื่อยผมเข้าใจ แฟนคลับก็เหนื่อย นักแสดงหลักก็เหนื่อย แล้วก็ทีมงานทุกคนก็เหนื่อย เข้าใจหมดเลยครับ แล้วก็หลังจากวันนั้นที่แฟนคลับกลับแล้ว นักแสดงสมทบกลับแล้ว นักแสดงหลัก ทีมงาน ผู้กำกับทุกคนก็ยังคงถ่ายทำกันต่อไปจนถึงประมาณตี 1"
เมื่อถูกทักว่าอาจเป็นเพราะน้ำเสียงที่เปล่งออกไปหรือเปล่าที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการเข้าใจผิด พระเอกหนุ่มก็แง้มว่า "คือวิถีของพิธีกร หรือว่าเวลาเราทำพิธีกรหรือเราเป็นดีเจ คือน้ำเสียงเราปกติ ถ้าเกิดว่าคนที่ทำงานด้วยกันก็จะรู้ว่าเราทำงานแล้วเราเป็นยังไง คือบางทีในการพูดในการเอ็นเตอร์เทนหรืออะไรอย่างนี้ มันมีการพูดแหย่กัน หยอกเอินกัน ซึ่งมันเป็นวิถีของเราอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ว่าสิ่งที่เราเป็น เราไม่ใช่แค่พิธีกร เราไม่ใช่แค่นักแสดงอย่างเดียว เรามีบทบาทอื่นเข้ามาด้วยครับ" หนุ่มหน้าใสกล่าวขอโทษที่บางคำพูดอาจไปกระทบความรู้สึกของคนอื่นๆ "สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ในช่วงที่ทุกคนเหนื่อยล้าแล้วก็อยากกลับบ้านไปพักผ่อนกันแล้ว เราก็เอนเตอร์เทนในสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะทำให้งานมันไหลลื่น แล้วทุกคนก็ไม่เครียด แล้วก็ให้งานมันเสร็จเร็ว แล้วก็อยากจะให้ทุกคนได้กลับไปพักผ่อน ทั้งนักแสดงร่วม แล้วก็แฟนคลับที่ไปกันในวันนั้นครับ ถ้าเกิดคำพูดบางคำพูดที่ออกจากเสียงของเราไป แล้วมันไปทำลายความรู้สึกของบางคน เราก็ขอโทษครับ"
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย WinXP
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google