Sabus News : ครูเงาะ สุดปลื้ม!เปิดร.ร.สอนการแสดง

>>>>>>>>> Sabus News <<<<<<<<< ครูเงาะ สุดปลื้ม!เปิด ร.ร.สอนการแสดงลูกศิษย์คนดัง แห่ให้กำลังใจล้นหลาม



เพาะบ่มประสบการณ์จากการสอนการแสดงมากว่า 10 ปี จนกลายเป็นอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินดาราทั้งในแวดวงโฆษณาและวงการภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แฟนฉัน, แจ๋ว, เพื่อนสนิท, Seasons Change, เก๋า เก๋า, บอดี้ศพ19, โคตรรักเอ็งเลย, ความจำสั้นแต่รักฉันยาว ฯลฯ

ล่าสุด ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ แอ็คติ้งโค้ชคนเก่งถือฤกษ์งามยามดี เปิดโรงเรียนสอนการแสดง The Drama Academy by ครูเงาะ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจมาเรียนรู้ทักษะทางการแสดง เพื่อนำไปสู่วิชาชีพต่างๆ และยังสามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นความกล้าแสดงออก บุคคลิกภาพ หรือเรื่องของสมาธิ



บรรยากาศในงานดูคึกคักเป็นพิเศษ เพราะลูกศิษย์ อาทิ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ขอควงหวานใจ ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ , ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, โบ-ธนากร ชินกูล, แจ็ค-เฉลิมพล ฑิฆัมพรธีรวงศ์, รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์, เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ ฯลฯ ต่างพร้อมใจหอบดอกไม้ช่อโตมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม ทำเอา ครูเงาะ ถึงกับออกอาการปลื้มสุดๆ เพราะเป็นการรวมตัวของบรรดาลูกศิษย์เกือบทุกรุ่น แถมยังฮากระจายกันทั้งงาน เมื่อลูกศิษย์ดำขำอย่าง โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ รับหน้าที่เป็นพิธีกรบนเวทีปล่อยมุกสร้างสีสันเรียกเสียงหัวเราะกันสนั่น

ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ[/b] กล่าวว่า “ดีใจมากค่ะที่วันนี้ผู้กำกับ และน้องๆนักแสดงมาให้กำลังใจกันเยอะมาก โรงเรียนนี้ถือเป็นความฝันของเงาะอีกหนึ่งอย่าง เพราะเงาะเชื่อว่าการแสดงไม่ใช่เป็นเรื่องของพรสวรรค์อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้ที่สามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ ซึ่งการแสดงยังสามารถทำให้ผู้แสดงได้ค้นพบความจริงที่ปรากฎอยู่รอบๆตัวของเราเอง ความจริงที่ช่วยให้เราเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระในแบบของเรา ซึ่งเป็นที่มาของการเปิดโรงเรียนที่เน้นการใช้การแสดงเพื่อพัฒนาตนเอง และนำไปสู่การเป็นวิชาชีพได้ในที่สุดค่ะ ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ใน www.thedramaacademy.com ค่ะ”

ที่มา : Sanook.com

>>>>>>>>><<<<<<<<<

“หม่ำ-จั๊กจั่น” เปิดตัวธุรกิจ “คำเหลามาสเตอร์” ธุรกิจเพชรพันล้าน พร้อมทีมนักแสดง ระดมปล่อยมุขฮาขั้นเทพ



อลังการงานสร้างแถมฮาสุดๆ เพราะ “วงษ์คำเหลา” เป็นหนังรักไฮโซที่กลั่นจากไอเดียของนักแสดงตลกและผู้กำกับมากฝีมือเจ้าของฉายาผู้กำกับ300ล้านอย่าง “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่ทุ่มสุดตัวและเตรียมตัวเตรียมใจที่จะกำกับมากว่า2ปี รวมทั้งยังคัดเลือกนางเอกของเรื่องอย่าง จักจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ด้วยตัวเอง หลังจากทำให้ “แหยมยโสธร” เป็นหนังรักระดับรากหญ้าที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปทั่วทั้งประเทศ



โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ซึ่งเป็นงานเปิดตัว “KUMLAO MASTER” (คำเหลามาสเตอร์) การรีแบรนด์จิวเวอร์รี่ชื่อดังอย่าง “วงษ์คำเหลา” ของครอบครัวมหาเศรษฐีตระกูลค้าเพชรระดับพันล้านของท่านชายเพชราวุธ (หม่ำ จ๊กม๊ก) อัครมหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของกิจการธุรกิจเพชรจิวเวอร์รี่พันล้าน แห่งคฤหาสน์วงษ์คำเหลาที่ได้สาวสวยอย่าง “พิรมน” (ขึ้นจอภาพยนตร์อย่างเต็มตัวของสาวจั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข โดยมีหม่ำ จ๊กม๊กเป็นพระเอกหนังคนแรกในชีวิต)เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเรี่ยวแรงสำคัญ ในการเปิดตัวได้อย่างหรูหราอลังการสุดๆ ท่ามกลางเหล่าแขกเหรื่อ นักธุรกิจระดับแถวหน้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมหน้าพร้อมตากันกับเหล่าสมาชิกในตระกูลวงษ์คำเหลา ซึ่งประกอบด้วย ท่านปู่พรจรัส (สมเล็ก –สมชาย ศักดิกุล) ,คุณหญิงแม่พราวพิลาศ (ฉันทนา กิติยพันธ์),หญิงใหญ่พลอยวรินทร์ (แวววาว จ๊กม๊ก),หญิงเล็กพราวแพรว (ฮาย อาภาพร นครสวรรค์) น้องเล็กประจำตระกูลอย่างจูเนียร์(เฉลิม แย้มขะมัง หรือเหลิม หม่ำโชว์) ,ผักบุ้ง (อรชร) สาวใช้ประจำตัวของหญิงเล็ก , พร้อมด้วยแขกคนสำคัญของตระกูลอย่าง หญิงนุช(ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ - สุดารัตน์ บุตรพรม) และท่านเป้า(แจ้ง อนุวัตน์ ทาระพันธุ์ หรือยอดชายอะเฮ้ยจากแหยมยโสธร) รวมทั้งคุณแม่ของพิรมน[/color[color=Teal]](วิยะดา อุมารินทร์) ที่ต่างมาให้กำลังใจในครั้งนี้ด้วย



ด้วยรายละเอียดความพิถีพิถันของฉากนี้ทำให้ต้องใช้เวลาถ่ายทำถึง 24 ชั่วโมงเต็ม เหล่านักแสดงทั้งหมดต้องมาเตรียมตัวแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตี 4 และต้องถ่ายทำจนถึงช่วงดึกโดยแต่ละคนต่างพกเรี่ยวแรงมากันอย่างเต็มที่ เพราะเป็นฉากที่เต็มไปด้วยสีสันแพรวพราวของการรวมเหล่านักแสดงฮาระดับขั้นเทพมารวมตัวกันเพื่อร่วมกันยิงมุกในฉากสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งค์ 4 สาวอย่าง “แม่แดง-ฮาย-ตุ๊กกี้-แวว” และ อรชน เด็กปั้นคนล่าสุดในนามหม่ำโมเดลลิ่ง หรือแม้แต่นางเอกสาวหน้าหวานอย่างสาวจั๊กจั่นที่เห็นสวยๆอย่างนี้มุกพราวไม่ใช่เล่นเลยทีเดียวถึงขนาดผู้กำกับพระเอกของเรื่องอย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก นั่งไม่ติด ต้องลุกมาจากมอนิเตอร์ มาร่วมแจมมุกเติมไอเดียสารพัดฮากับนางเอกสาวเลยทีเดียว



“ก็เป็นฉากที่สำคัญมากๆฉากหนึ่งในหนังเลยครับ เพราะว่าเป็นฉากที่เหล่านักแสดงหลักทั้งหมดเข้ากันครบถ้วน และแน่นอนว่า เมื่อใดก็ตามที่นักแสดงทั้งหมดมาเข้าฉากพร้อมกัน หรือจะเรียกง่ายๆว่าท่านที่มีฝีไม้ลายมือในการปล่อยมุกเรียกเสียงฮาในระดับขั้นเทพมารวมตัวกัน ก็คงจะเกิดอะไรขึ้นไม่ได้นอกจากความฮาครับ รวมทั้งการเทคและมุกใหม่ที่ไม่ซ้ำเดิมจะถูกจัดมาให้สาแก่ใจอย่างทันท่วงที ต้องยกความดีให้กับนักแสดงทุกท่านทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ รุ่นเล็ก ไม่ว่าจะเป็นแม่แดง,แม่อูม,พี่สมเล็ก,ฮาย,ตุ๊กกี้,แวววาวน้องผมเอง,เฉลิม,แจ้ง ,อรชนหรือ แม้แต่นางเอกสาวสวยอย่าง น้องจั๊กจั่น ที่ต่อไปเราคงเรียกเธอกันว่า จั๊กจั่น จ๊กม๊ก เดี๋ยวนี้เค้าเริ่มปล่อยมุขแพรวพราวมากและสามารถรับมุขเราได้แทบทั้งหมด นางเอกของผมคนนี้เค้าเก่งมากเลยครับ นักแสดงในเรื่องทุกคนน่ารักมากๆ รับรองว่าหนังรักไฮโซเรื่องวงษ์คำเหลานี้ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง สู้หนังรักบ้านๆอย่างแหยมยโสธรได้แน่นอนเลยครับ”



แน่นอนว่าต้องทุ่มทุนกันอย่างไม่อั้น เพื่อให้ฉากนี้ปรากฎอยู่บนจอภาพยนตร์ได้อย่างอลังการ และภาพทุกเฟรมจะต้องเนี้ยบและพิถีพิถันสุดฤทธิ์ งานนี้ผู้กำกับหม่ำสั่งให้ใช้กล้องถ่ายทำถึง 2 ตัวติดอุปกรณ์เครนเพื่อให้เห็นบรรยากาศของฉากในงานที่คราคร่ำไปด้วยแขกเหรื่อ มีการตบแต่งเครื่องเพชรโชว์ทั่วบริเวณงาน ผู้กำกับหม่ำถึงกับระดมทีมงานกว่า100 ชีวิต นักแสดงสมทบตัวประกอบกว่า 300 คน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมนักดนตรีเครื่องสายมืออาชีพมาร่วมขับกล่อมบทเพลงสุดคลาสสิค พร้อมด้วยโชว์พิเศษของเหล่านางแบบสาวสวยนับสิบชีวิตที่มาในชุดที่ถูกดีไซน์เป็นพิเศษโดยเหล่าทีมเมคอัพอาร์ทติสท์ที่มาช่วยกันเนรมิตเรือนร่างของเหล่านางแบบทั้งหมดให้ออกมาโดดเด่นด้วยบอดี้เพ้นท์สีทองเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งตัว ในไฮไลท์บนเวทีแคทวอล์คที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เตรียมพบกับอลังการความฮาของหนังรักไฮโซ “วงษ์คำเหลา”ได้ 11 มิถุนายน นี้แน่นอน













ที่มา : NangDee

>>>>>>>>><<<<<<<<<

"พี่น้องโจนาส" ไม่รุ่งดังคาด "ชุนหลี" ล้มอย่างแรง



สาวน้อย คริสติน ครุค ในมาดชุนหลี ใน Street Fighter: The Legend of Chun-Li

ความโด่งดังของ "โจนาส บราเธอร์ส" บอยแบนด์ชื่อดังแห่งยุคกลับไม่ส่งผลถึงฉบับภาพยนตร์ของพวกเขาที่เปิดตัวน้อยกว่าเพื่อนร่วมค่ายดิสนีย์อย่าง "ไมรีย์ ไซรัส" อย่างมาก แต่ก็ยังดูดีกว่าการกลับมาในฉบับภาพยนตร์ของเกมดัง Street Fighter ที่น่าจะขาดทุนจากการฉายในอเมริกาอย่างแรง



Jonas Brothers: The 3D Concert Experience     

      Jonas Brothers: The 3D Concert Experience ผลงานภาพยนตร์เพื่อตามติดชีวิตของสามพี่น้องสุดหล่อตระกูลโจนาสทั้งบนเวทีและชีวิตส่วนตัว ซึ่งการออกฉายแบบสามมิติด้วยจำนวนโรงฉาย 1,271 โรง ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ได้ เมื่อเปิดตัวได้เพียงอันดับ 2 ด้วยรายได้ 12.7 ล้านเหรียญ
     
      แม้รายได้เฉลี่ยต่อโรงจะทำไปได้ถึงเกือบหมื่นเหรียญ แต่มันก็เทียบไม่ได้กับเพื่อนร่วมค่ายอย่าง ไมรีย์ ไซรัส ที่เคยพา Hannah Montana & Miley Cyrus: Best of Both Worlds Concert ออกฉายเมื่อเดือนก.พ.ปีก่อน และเปิดตัวไปอย่างมโหฬารถึง 65.2 ล้านเหรียญ จากโรงฉายที่น้อยกว่าเพียงแค่ 683 โรง เท่านั้น
     
      "แฮนนาห์ มอนตานา ทำสถิติที่ยากที่ใครจะเอื้อม ทุกอย่างดูลงตัวสำหรับเธอไปหมดตอนนั้น เธอเพิ่งจะออกอัลบั้มที่เยี่ยมและทัวร์คอนเสิร์ตที่ยอด และมีผลงานทางช่องดิสนีย์มา 3 ปีติดต่อกันแล้ว ผมไม่คิดว่าใครจะมีปัจจัยแวดล้อมที่วิเศษไปกว่าที่แฮนนาห์มีเมื่อตอนนั้นอีกแล้ว" ชัค เวียน ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายของดิสนีย์กล่าว



ไทเลอร์ เพอร์รี แต่งหญิงแล้วรับเละ
     
      ส่งผลให้แชมป์เก่าอย่างหนังตลกผิวสีอย่าง Tyler Perry's Madea Goes to Jail กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกเป็นสมัยที่ 2 ทำรายได้สองสัปดาห์ไปแล้ว 64.8 ล้านเหรียญ


     
      แต่ผลงานที่มาเปิดตัวในบ้านเราพร้อมกับอเมริกาในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำท่าจะล้มอย่างแรงที่นั่นได้แก่การกลับมาในฉบับภาพยนตร์ของตำนานนักสู้หญิงจากเกมตู้อย่าง Street Fighter: The Legend of Chun-Li ผลงานของผู้กำกับ อังเดร บาร์ตโคเวียค ผู้เคยมีผลงานทำหนังเกมมาแล้วอย่าง Doom และผลงานหนังแอ็คชั่นอย่าง Romeo Must Die, Exit Wounds, Cradle 2 the Grave แต่ในหนังทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญ ล่าสุดนี้ทำท่าจะรุ่งยาก เมื่อทำเงินจากการเปิดตัว 1,136 โรงไปเพียง 4.6 ล้านเหรียญ เท่านั้น


   
      ผิดกับสถานการณ์ของหนังที่กำลังทำสถิติในทุกๆ ทางอย่าง Slumdog Millionaire ผลงาน 8 รางวัลออสการ์ และหนังยอดเยี่ยมแห่งปี ที่การตัดสินใจเพิ่มโรงฉายอีก 699 โรงเป็น 2,943 โรงในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้รายได้ของหนังเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนถึง 45% ทำรายได้รวมจากการฉายทั้ง 4 เดือนไปแล้ว 115.1 ล้านเหรียญ
     
      ซึ่งการพุ่งมาอยู่ที่ 3 ด้วยรายได้สุดสัปดาห์ที่ 12.1 ล้านเหรียญ ถือเป็นการทำลายสถิติการทำเงินของหนังที่เพิ่งได้รับออสการ์ที่มากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
     
      "ผมยังคงวิ่งไถ่ถามคนที่ยังไม่ได้ดู แล้วถามว่า 'ฮัลโล ไปอยู่ดาวดวงไหนมา' แต่จริงๆ แล้วคงมีคนอีกมากมายที่ยังไม่ได้ดูมัน ไม่อย่างนั้นรายได้ของเราคงไม่พุ่งถึง 45 % อย่างนี้แน่ๆ" ไชลา เดอลอช รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดจำหน่ายของ Fox Searchlight กล่าว
     
      10 อันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ที่ 27 ก.พ.- 1 มี.ค. 2552
      (รายได้โดยประมาณหน่วยเป็นล้านเหรียญสหรัฐ, รายรับประจำสัปดาห์และรายรับรวมตามลำดับ)
     
      1. Tyler Perry's Madea Goes to Jail 16.5 (64.8, 2 สัปดาห์)
      2. Jonas Brothers: The 3D Concert Experience 12.7 (12.7, เข้าใหม่)
      3. Slumdog Millionaire 12.1 (115.1, 16 สัปดาห์)
      4. Taken 9.9 (107.8, 5 สัปดาห์)
      5. He's Just Not That Into You 5.8 (78.5, 4 สัปดาห์)
      6. Paul Blart: Mall Cop 5.6 (128.1, 7 สัปดาห์)
      7. Coraline 5.2 (61.1, 4 สัปดาห์)
      8. Street Fighter: The Legend of Chun-Li 4.6 (4.6, เข้าใหม่)
      9. Confessions of a Shopaholic 4.4 (33.6, 3 สัปดาห์)
      10.Fired Up 3.8 (10.1, 2 สัปดาห์)
     
      ที่มา : ตัวเลขรายรับจากเว็บไซต์ บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจ

ที่มา : ASTV ผู้จัดการไลน์

ป.ล. ผมเอารูปชุนลีที่เคยวาดนานมาแล้วมาให้ชมกัน อิอิ ไม่ค่อยสวยหรอก



>>>>>>>>><<<<<<<<<

'จั๊กจั่น' น้องใหม่งานหนัง รีบถ่อมตัว 'หนูยังไม่เก่ง'



เพิ่งโดดเข้ามาเป็นน้องใหม่ในวงการหนัง ทำเอา จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ต้องพยายาม  ฝึกเรียนรู้งานหนังให้มาก    ยิ่งมาได้ร่วมงานกับ หม่ำ  จ๊กมก ในภาพยนตร์เรื่อง    “วงษ์คำเหลา” ก็ทำเอาสนุกใหญ่ ซึ่งพอหนังใกล้ปิดกล้องก็เสียดายเนื่องจากผูกพันกับทีมงานมาก

“หนัง “วงษ์คำเหลา” ใกล้จะปิดกล้องแล้ว เรื่องนี้ต้องร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย ก็ยังไม่ได้เข้าห้องอัด ซึ่งพอหนังใกล้ถ่ายเสร็จก็เสียดาย เพราะว่าทำงานกับพี่หม่ำสนุกมาก เราก็ผูกพันกับทีมงานมาก แต่ก็อยากเห็นงานออกมาเร็ว ๆ จั่นยังถือว่าเป็นน้องใหม่สำหรับวงการภาพ ยนตร์มาก เพราะว่าเรื่องแรกที่เล่นก็ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3” ก็ยัง ถ่ายทำอยู่ แล้วก็มาเรื่อง “วงษ์คำเหลา” ที่ถ่ายเป็นเรื่องที่ 2 แต่คงจะได้ออกก่อน ก็ยังไม่ค่อยเก่งอะไรเท่าไหร่เลย เพราะเพิ่งเล่นหนังไม่กี่เรื่อง ต้องฝึกปรือไปเรื่อย ๆ หนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกด้วย จั่นชอบมาก จริง ๆ แล้วในความตลกนี่ เราก็จะมีภารกิจอื่น ๆ ไปทำด้วย บางทีคนอื่นเขาขำกัน เราก็ต้องกั๊กไว้ คือในเรื่องเราก็ขำ แต่ไม่ขำเท่ากับคนอื่น ซึ่งจั่นก็หลุดบ้าง แต่ก็จะพยายาม การได้มาทำงานหนังนี่ทำให้จั่นได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง เหมือนแบบว่าเราไม่เคยเล่นหนังมาก่อน เวลาถ่ายทำก็จะไม่รู้ว่าเขาทำยังไง ก็ได้เรียนรู้ หนังก็จะเล่นทีละนิด ๆ ละครจะเล่นยาว เพราะมีกล้องหลายตัว ก็ยากกว่าละครตรงที่เราต้องจำความต่อเนื่องของอารมณ์ให้ได้ เพราะบางทีมันเก็บช่วงสั้น ๆ เราก็ต้องจำให้ได้ว่าที่เล่นไปแล้ว เป็นยังไง หลังจากนี้จะเป็นยังไง เพราะถ่ายไม่ได้เรียงซีน ก็ต้องปรึกษาผู้กำกับ เพราะเราเองก็ยังไม่ได้เก่งอะไรมาก การทำงานก็สนุกดี ก็พยายามรับมุกพี่เขาให้ทัน ก็กลายเป็นขำ ๆ ไป อย่างการหลุดขำนี่จะเป็นช่วง ๆ ถ้าวันไหนหลุดเยอะก็จะหลุดทั้งวันเลย ถ้าวันไหนไม่หลุดก็ไม่หลุดเลย หลุดทีก็ 10 กว่าเทค”

ที่มา : เดลินิวส์

>>>>>>>>><<<<<<<<<

'ก้อย' ถือเคล็ดเก็บรางวัลเข้าตู้กับข้าว

ไม่หวั่นเสียงวิจารณ์พร้อมพิสูจน์ฝีมือ



หลังจากคว้ารางวัล “สุพรรณหงส์” นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ไปครองได้สำเร็จแล้ว ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ เลยเตรียมทำตามเคล็ดลับรุ่นพี่ในวงการด้วยการนำรางวัลไปไว้ในตู้กับข้าว เพื่อการมีกินมีใช้ต่อไป พร้อมยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรางวัล แต่ยืนยันจะทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุด

ก้อย เปิดเผยว่า “ก้อยเอาไปวางไว้บนหิ้งพระ เพราะคิดว่ามันเป็นรางวัลที่สูงสุดแล้ว เป็นอะไรที่มีเกียรติ เหมือนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ แต่สักพักหนึ่งคงเอาไปเก็บไว้ในตู้กับข้าว ถ้าเกิดว่ามันเป็นเคล็ดที่พี่ ๆ เขาบอกกันมาและเป็นเคล็ดที่ทำให้เรามีกินมีใช้ มันเป็นเคล็ดที่ดีก็ไม่เสียหลายถ้าจะเอาไปเก็บตรงนั้น แต่ว่าอาจจะต้องทำตู้กับข้าวให้ดูดีนิดหนึ่ง ตอนนี้ก็วางบนหิ้งพระไปก่อน ตอนได้รางวัลกลับไปคืนนั้นก็นอนไม่หลับเลย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังบ่นกับเป้อยู่เลยว่าเราได้รางวัลนี้ได้ยังไงนะ มันเหมือนเราไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเราจะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ ทั้งที่เรายังเป็นนักแสดงที่ใหม่อยู่ ในวันนั้นก็รู้สึกว่าเราเองเตรียมตัวไม่ทัน ทำหน้าไม่ถูก คำพูดที่ออกมาก็ยังไม่ได้เรียบเรียงคำพูด ยังมีตกหล่นคนที่ต้องขอบคุณอย่างครอบครัว ที่เป็นกำลังสำคัญ เป็นแรงสนับสนุนของก้อยมาก ๆ ที่วันนั้นเรา  ลืมพูดออกไป คือเรายังใหม่ แค่ได้เข้าชิงมันก็เว่อร์มาก ๆ แล้วสำหรับเรา ยิ่งไปได้ยืนอยู่บนนั้นมันสุด ๆ มันตื่นมาก”...ได้รางวัลแล้วจะเป็นการกดดันการแสดงของเราไหม?... “ตอนแรกไม่ได้คิดเลย คิดแค่มันเป็นแรงผลักดันที่ดีมาก ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากจะตั้งใจทำงาน พัฒนาฝีมือเข้าไปอีก แต่ว่าตอนนี้เริ่มรู้สึกว่า ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แล้วเชื่อว่าอาจจะมีข้อกังขาว่า เราเป็นใคร บางคนอาจจะยังไม่ได้ดูหนังของเรา บางคนอาจจะว่าเราเป็นนักแสดงหน้าใหม่แล้วได้รางวัลนี้มาได้ยังไง มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า ไม่เป็นไร เราก็จะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า ผลงานต่อ ๆ ไป เราจะทำให้ดี เราตั้งใจในหน้าที่ของนักแสดงที่จะทำให้ผลงานมีคุณภาพ ให้ได้รู้ว่ารางวัลที่เราได้มาเนี่ย เราได้มาด้วยความสามารถของเรานะ ก้อยเองไม่ทราบว่าคนอื่นพูดถึงเรายังไงกันบ้าง  ตัวก้อยเองมองในมุมที่เราเป็นเด็ก เราโชคดีมากที่เราได้รางวัลนี้ เราหน้าใหม่ แต่ถ้าเราเป็นคนอื่นเราก็คงคิดเหมือนกันว่าปีนี้นักแสดงหน้า    ใหม่ได้ ทำไมปีที่ผ่านมาเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา แต่ไม่เป็นไร ถ้าจะมีใครวิพากษ์วิจารณ์ยังไง เราก็จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดและพิสูจน์ตัวเองให้เต็มที่ว่าเรารักตรงนี้จริง ๆ”.

ที่มา : เดลินิวส์

>>>>>>>>><<<<<<<<<


'วอลท์ฯ' โคลนนิ่ง 'จอห์น ทราโวลต้า' เป็นลักษณะของ 'ซูเปอร์โฮ่ง BOLT'



นอกจากจัดสร้างให้เป็นภาพยนตร์ แอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมผลงานล่าสุดแล้ว วอลท์ ดิสนีย์ อนิเมชั่น สตูดิโอ จึงตั้งใจให้ตัวละครเอกของ “Bolt ซูเปอร์โฮ่งฮีโร่หัวใจเต็มร้อย” มีเสียงบอกถึงตัวตนของเจ้า 4 ขาที่เป็นพระเอกซูเปอร์ฮีโร่ในซีรีส์แอ๊คชั่นบรรดาบิ๊ก ๆ ของดิสนีย์ฯ จึงตัดสินใจเลือก จอห์น ทราโวลต้า ยอดนักแสดงที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มาเป็นแม่แบบซึ่งเรื่องนี้จอห์นเผยว่า



“ผมไม่เคยทำงานหนังแอนิเมชั่นมาก่อนแต่พอผู้บริหารดิสนีย์สตูดิโอ บอกผมว่าตัวละครเอกเรื่องนี้เหมาะกับลักษณะนิสัยของผมมาก ก็เลยรู้ว่าเป็นอีกงานที่น่าทดลองสำหรับผมเพราะมันสนุกตรงที่ได้เห็นแอนิเม เตอร์สร้างสุนัขตัวนี้โดยอาศัยเสียงและสีหน้าท่าทางของผม คือผมทดลองด้วยการอ่านบทพูดด้วยคำเดิม ๆ ประมาณ 20-30 แบบ จากนั้นทีมงานจะใช้จินตนาการและความสามารถด้านศิลป์ทำออกมา ก็เลยเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นการประกอบทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกัน มันออกมาเยี่ยมมากเลยผมจึงตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่เราทำมันขึ้นมา เพราะมีเรื่องราวที่อบอุ่นใจมากมายให้สัมผัสอย่างเช่น หากคุณถูกพรากจากสัตว์เลี้ยงตัวโปรดคุณจะรู้สึกหัวใจสลาย ผมคิดว่าผู้ชมจะเข้าใจความรู้สึกของโบลท์ และเพ็นนีผู้เป็นเจ้าของโบลท์เป็นอย่างดี สรุปว่าหนังเรื่องนี้มีทั้งเรื่องความรักความผูกพันและความสนุกน่าติดตาม อย่าพลาดไปชมนะครับ 5 มีนาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์”.

ที่มา : เดลินิวส์