ละคร มนตร์กาลบันดาลรัก

ดู 2,965 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 12 พฤษภาคม 2562
เวลาออกอากาศ 20:15 - 22:25 น.
  
กำกับโดย ณพธันกรณ์ รัตนระวีโชติ์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ ชมบุหลัน, บทโทรทัศน์ ภาวิต
นำแสดงโดย
มิกค์ ทองระย้า ... ทรงกลด / เอ๋ย
เมลดา สุศรี ... น้ำหนึ่ง / เดียว
ศรัณย่า ชุณหศาสตร์ ... ยดา / ยิ้ม
ศรันทร์ธร ก้องธรนินทร์ ... ชาลี
กัญญา รัตนเพชร์ ... ดารา
พูลภัทร อัตถปัญญาพล ... อ๋อ
ดวงดาว จารุจินดา ... อาม่าหยก
ธัญสินี พรมสุทธิ์ ... พุ่ม
ทราย เจริญปุระ ... แบม / มนัสวี
ติ๊ก ชิโร่ ... บังคม
ศรุฒ สุวรรณภักดี ... สาธิต
ณัฐชยกานต์ ปากหวาน ... วรรณวรางศรี
อิทธิกร สาธุธรรม ... ทวี
พศิน ศรีธรรม ... วิธู
เล็ก ไอศูรย์ ... สุเมธ
สุธิตา เกตานนท์ ... สวรส / โรส
อัจฉรา ทองเทพ ... ทรรศิกา
พบศิลป์ โตสกุล ... เชน
สวีเดน ทะสานนท์ ... เบญจ
พจนีย์ ใยละออ ... มอลลี่
สมิท ธนโชติ ... จำรัส
ภัคสิร์ชา ราย ... ขมิ่น
ทับ ท่ากระดาน ... ศักดิ์ชาย
ชาลี กรรณสูต ... พจน์
ผู้สร้าง บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ มนตร์กาลบันดาลรัก

น้ำหนึ่ง (เมลดา สุศรี) คอลัมนิสต์สาวสวยของนิตยสารซีซั่น ส่องกระจกแต่งตัวอีกครั้งก่อนออกจากบ้าน วันนี้เธอได้รับมอบหมายงานสำคัญจาก สวรส (สุธิตา เกตานนท์) บรรณาธิการของซีซั่น ให้ไปสัมภาษณ์ กาลรุจิ เตชพิพัฒน์ อดีตไฮโซสาวที่มีชื่อเสียงมาก ที่ชีวิตต้องพลิกผันเมื่อเธอถูกรถชนจนต้องเป็นคนพิการ อีกทั้งต้องเผชิญปัญหาชีวิตมากมายจนชีวิตเหมือนดิ่งลงเหว แต่เธอต่อสู้จนปัจจุบันเธอกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมาก

บทสัมภาษณ์นี้จะตีพิมพ์ในคอลัมน์ดล ซึ่งมีแนวคิดในการนำประสบการณ์ของบุคคลต่างๆ ที่เคยล้ม หรือประสบปัญหาชีวิตมากมายแล้วต่อสู้จนประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านที่ประสบปัญหาได้ลุกขึ้นมาต่อสู้บ้าง คอลัมน์ดลนี้ เป็นที่ยอมรับของผู้อ่านในวงกว้าง เรียกได้ว่าเป็นจุดขายและจุดแข็งอย่างหนึ่งของนิตยสารซีซั่น สวรสจึงกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งไม่ใช่ใครก็ได้จะรับหน้าที่สัมภาษณ์ แล้วได้เขียนบทความนี้

สวรสจะเลือกคนที่มีความสามารถจริงๆ เท่านั้น ทีสำคัญคือ หลังจากกาลรุจิประสบอุบัติเหตุเธอเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยออกงานสังคมเหมือนเมื่อก่อน ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อใดทั้งสิ้น นอกจากครั้งนี้กับซีซั่น ดังนั้น น้ำหนึ่งจึงภูมิใจมาก เธอจะพลาดไม่ได้ เพราะเป็นโอกาสเดียวก่อนที่ กาลรุจิ จะเดินทางไปต่างประเทศในวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอหวังว่าผลงานครั้งนี้จะช่วยให้เธอได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่ต้องการ เริ่มตั้งแต่รถยางแบน จนต้องไปยืมรถ ทรรศิกา (อัจฉรา ทองเทพ) ซึ่งเป็นมารดา แถมยังประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถไปสัมภาษณ์กาลรุจิได้ทันเวลา

จนต้องให้ ยดา (ศรัณย่า ชุณหศาสตร์) เพื่อนรุ่นน้องไปแทน วันรุ่งขึ้นสวรสซึ่งเป็นบรรณาธิการของซีซั่น เรียกน้ำหนึ่งเข้าไปตำหนิอย่างรุนแรงที่ตัดสินใจให้ยดาไปสัมภาษณ์กาลรุจิโดนพลการ ถึงจะได้งานมา แต่การที่น้ำหนึ่งตัดสินใจ เองโดยไม่รายงานให้เธอทราบ ถือเป็นการผิดมารยาทอย่างมาก สวรสคาดโทษน้ำหนึ่งว่าถ้า ยดาเขียนรายงาน การสัมภาษณ์ออกมาไม่ดีน้ำหนึ่งต้องรับผิดชอบ และควรจะรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไร หญิงสาวขอโทษสวรส แล้วเดินหน้ามุ่ยออกมาจากห้องทำงานของเธอ น้ำหนึ่งนั่งทำงานอย่างซังกะตายจน มนัสวี (ทราย เจริญปุระ) เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันและเป็นหัวหน้าฝ่ายขายมาคุยด้วย น้ำหนึ่งจึงค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง

วันต่อมาบรรยากาศในที่ทำงานยิ่งแย่ลงไปอีกสำหรับความรู้สึกของน้ำหนึ่ง เมื่อสวรสเดินออกมาชมยดาต่อหน้าทุกคนที่กองบรรณาธิการว่า เขียนบทสัมภาษณ์กาลรุจิออกมาได้ดีมาก แถมยังพูดเหน็บแนมน้ำหนึ่งให้เจ็บใจอีก น้ำหนึ่งแสดงความยินดีกับยดาอย่างจริงใจ แม้จะอดน้อยใจไม่ได้ว่าการที่ ซีซั่น มีผลงานได้สัมภาษณ์กาลรุจิส่วนหนึ่งก็เป็นความสามารถของเธอเช่นกัน ที่มีเพื่อนสนิทของมารดา คือ จำรัส (สมิท ธนโชติ) ช่วยพูดให้ ถ้าไม่ใช่จำรัสแล้วคงไม่มีใครที่จะได้พบตัวกาลรุจิแน่นอน แต่เมื่อไม่มีใครคิดถึงน้ำหนึ่งได้แต่นั่งเบื่อโลกอยู่คนเดียว และยังทำใจไม่ได้

เย็นวันนั้น เมื่อมนัสวีชวนเธอออกไปเที่ยวที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง โดยมี พงศกร กราฟฟิกดีไซน์เนอร์หนุ่มเพื่อนของเธอไปด้วย น้ำหนึ่งจึงปฏิเสธและตั้งใจขับรถไปคืนทรรศิกา บางทีการได้คุยกับมารดาเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอทะเลาะกับมารดาอย่างรุนแรง เมื่อได้รู้โดยบังเอิญว่าทรรศิกากับจรัสมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินไปกว่าความเป็นเพื่อนสนิทเสียแล้ว คำพูดตัดพ้อร้ายๆ ที่น้ำหนึ่งต่อว่าทรรศิกา ทำให้เธอต้องตบหน้าลูกสาวเพื่อเตือนสติ แต่น้ำหนึ่งไม่เข้าใจ เธอผลุนผลันออกจากที่นั่นทั้งที่น้ำตานองหน้า ได้ยินเสียงจำรัสกับทรรศิกาเรียก แต่ความเสียใจ น้อยใจ ผิดหวัง มันมากเสียจนเธอไม่อยากหันหลังกลับไปที่นั่นอีก

น้ำหนึ่งเดินแกมวิ่งไปตามถนน ปาดน้ำตาไปตลอดทางจนมาถึงหน้าร้านอาหารซีแซ่บเวอร์ ที่มีมาสคอตรูปหมึกสีชมพูสด เด็กแถวนั้นบอกว่านี่คือ เจ้าแม่หมึกซีซ่าที่ศักดิ์สิทธิ์มาก แต่น้ำหนึ่งไม่อยากจะเชื่อ ขณะดูอะไรเพลินๆ หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อ อาม่าหยก (ดวงดาว จารุจินดา) ย่าของเธอสะกิด เรียกชื่อแล้วถามว่ามาทำอะไรที่นี่ น้ำหนึ่งยกมือลูบแก้มข้างที่โดนทรรศิกาทำร้ายทันที น้ำตาเริ่มกลบตาอีกครั้ง แต่ไม่ทันได้พูดอะไร อาม่าหยกก็ลูบแขนเธอเบาๆ เหมือนจะปลอบ น้ำหนึ่งถามเบาๆ ว่า อาม่ารู้แล้วใช่มั้ย อาม่าหยกพยักหน้ายิ้มๆ อาม่าจูงมือน้ำหนึ่งไปหาเจ้าแม่ซีซ่า แล้วบอกน้ำหนึ่งให้ลองขอพรดูบ้าง น้ำหนึ่งลังเล เพราะไม่เชื่อในตัวเจ้าแม่หมึกสีชมพูสักนิดเดียว แต่อาม่าก็คะยั้นคะยอให้เธอลองขอพรดูขำๆ น้ำหนึ่งยอมตามใจอาม่าหยก เธอซื้อพวงมาลัย ธูปเทียนจากเด็กคนขาย จุดเทียน จุดธูป แล้วน้ำหนึ่งก็ยกมือไหว้ และขอพรให้เธอได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อสามวันก่อนหน้านี้ อาม่าหยกยิ้มพอใจ แล้วชวนเธอกลับบ้านทันที

สายมากแล้ว เมื่อน้ำหนึ่งเริ่มรู้สึกตัวตื่น เธออิดออดไม่ยอมตื่น เพราะมั่นใจว่าเป็นวันเสาร์ หญิงสาวบิดขี้เกียจ แม้หูจะได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งกระซิบปลุกเธออย่างล้อเลียน น้ำหนึ่งงัวเงียลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจเดินเข้าห้องน้ำ เมื่อเห็นตัวเองในกระจก น้ำหนึ่งขยี้ตาตัวเอง เมื่อผมที่ซอยสั้นเก๋ทันสมัยกลายเป็นผมยาว แถมมีผมม้าเสียอีก เธอลองดึงผมตัวเองแรงๆ เข้าใจว่ามีคนเอาวิกผมมาแกล้งเธอ แต่เจ็บหนังศีรษะจนมั่นใจว่าเป็นผมตัวเอง น้ำหนึ่งรีบออกจากห้องน้ำเรียกหาอาม่าหยกอย่างตกใจ เธอพบอาม่า ที่หน้าบ้าน อาม่าปล่อยให้เธอโวยวายไป ก่อนจะถามว่าจำได้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำหนึ่งเล่าเรื่องขอพรเจ้าแม่หมึกซีซ่าให้ย้อนเวลาสามวัน อาม่าหัวเราะก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์รายวันมาให้เธอดู น้ำหนึ่งตกใจมาก เพราะเวลาในหนังสือพิมพ์คือสามปีล่วงหน้าในอนาคต เจ้าแม่หมึกซีซ่า คงลงโทษเธอที่ลบหลู่ไม่เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ จึงลงโทษเธอด้วยการส่งเธอข้ามเวลามาในอนาคตถึงสามปี น้ำหนึ่งถามอาม่าหยกอย่างงงๆ

ว่าชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้รับสถานการณ์ได้ถูก อาม่าหยกบอกว่า เธอยังทำงานที่เดิม ตำแหน่งเดิม และแต่งงานแล้วกับ ทรงกลด (มิกค์ ทองระย้า) ครูสอนภาษาไทยที่โรงเรียนปราชญาวิทย์ พอพูดถึงทรงกลดก็เดินลงบันไดมา น้ำหนึ่งมองเขาอย่างคนแปลกหน้า สามีของเธอไม่ใช่หนุ่มสไตล์เกาหลีตรงสเป็คอย่างที่ฝัน แต่กลับเป็นหนุ่มลูกครึ่งตาน้ำข้าวรูปร่างใหญ่โต น้ำหนึ่งไม่เข้าใจว่า อะไรทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานกับเขา

การข้ามเวลามาในอนาคตนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับน้ำหนึ่งอีกบ้าง และ พรที่ขอมาจะถูกแก้ได้ไหมหรือเขาต้องติดอยู่ในอนาคตนี้ต่อไป