ละคร เปลวไฟในฝัน

ดู 10,334 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
  
กำกับโดย มาวิน แดงน้อย
ประพันธ์โดย นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
นำแสดงโดย
เขตต์ ฐานทัพ ... บัว
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ... มะลิ
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ... กุหลาบ
อารยา เอ.ฮาร์เก็ต ... ลีลาวดี
ปิยะดา เพ็ญจินดา ... จำปา
เลิศพร อารยะโกศล ... สมชาย
ทัฬห์ อมรบุณยกร ... เฮียไก่
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ ... นิกร
วสุนทรา ศรีทองสุข ... หลิงหลิง

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เปลวไฟในฝัน

ลานดอกหญ้า คือชื่อชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ แหล่งรวมอาชญากรรม ยาเสพติดและผู้คนเหลือขอ สมชื่อแหล่งรวมผู้คนระดับรากหญ้าทุกๆ เย็น สาวๆ อายุต่ำกว่า 40 ปี ไม่มีใครซื้อของ ไม่มีใครเดินเล่น ไม่มีใครนั่งเมาท์ พวกหล่อนจะหายไปรวมกันอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง นั่นคือ ที่ลานกีฬาของชุมชน ที่มีสนามบาสเก่าตั้งอยู่

เสียงกรี๊ดดังลั่นอึกทึก มีให้กับชายหนุ่มสองพี่น้อง บัว และกุหลาบ ชายหนุ่มทั้งคู่ไม่ได้หล่ออย่างเดียว พวกเขายังมีน้ำใจช่วยเหลือ เพื่อนบ้านในชุมชน เพื่อต่อสู้กับความยากจนมาโดยตลอดอีกด้วย

บัว หล่อเนี้ยบ นักเรียนกฎหมายอนาคตไกล เจ้าชายแห่งรอยยิ้มอ่อนโยน เสียสละ งานหลักในชีวิตประจำวัน คือช่วยเหลือผู้คนทุกคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทั้งที่ตัวเองร่างกายไม่แข็งแรง เป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เด็ก

กุหลาบ หล่อเท่ห์กึ่ม ฮีโร่ของจิ๊กโก๋ในซอย ลูกน้องมือขวาของเฮียไก่ มาเฟียท้องถิ่นที่กำลังเรืองอำนาจ ใครมีเรื่องร้อนใจถูกเรียกค่าคุ้มครอง หรืองานอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้กำลังจัดการ มาขอแรงกุหลาบ รับรองไม่ผิดหวัง

ชายหนุ่มผู้งดงามเหมือน “ดอกไม้กลางดอกหญ้า” ทั้งสองคนเป็นลูกของ จำปา แม่ค้าขายข้าวแกงในชุมชนแห่งนั้น บัวและกุหลาบอายุเท่ากัน เกิดปีเดียวกัน เพราะบัวเป็นลูกแท้ๆ แต่กุหลาบไม่ใช่

ย้อนไปในอดีต …จำปามาจากครอบครัวยากจน ต้องทำงานเก็บขยะเลี้ยงดูลูกชายที่เพิ่งคลอด ชื่อบัวเพียงลำพัง เพราะ สมชาย สามีขี้เหล้าไม่ยอมทำงานทำการ วันหนึ่งขณะทำงานเก็บขยะ จำปาเจอเด็กชายวัยไล่เลี่ยกับบัว ถูกทิ้งอยู่ที่ถังขยะ จำปาเก็บเด็กคนนั้นมาเลี้ยง ให้กินน้ำนมร่วมกับบัว จำปาตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่า กุหลาบ จำปาที่มีปัญหากับสมชายสามีขี้เหล้ามาโดยตลอด ถูกสมชายตบตีหนักกว่าที่เคย ด.ช.บัว และด.ช.กุหลาบ ออกดิ้นรนช่วยแม่ด้วยวิธีที่ต่างกัน บัววิ่งไปสถานีตำรวจ เพื่อแจ้งให้ตำรวจมาจับพ่อแท้ๆ ของตัวเอง แต่กุหลาบกลับทำตรงกันข้าม เอาขวดเหล้าฟาดหัวสมชายหัวแตก แล้วพาแม่วิ่งหนี จำปาพาลูกหนีเข้ากรุงเทพ มาเริ่มต้นที่ชุมชนลานดอกหญ้า แหล่งรวมคนหนีคดีทุกรูปแบบ หล่อนกลับไปบ้านเก่าไม่ได้แล้ว สมชายเกลียดกุหลาบ ที่ไม่ใช่ลูกของตนมานาน เพราะมาแย่งกินแย่งใช้ตั้งแต่เด็ก ชีวิตของจำปาและเด็กทั้งสองเริ่มลืมตาอ้าปากได้ที่ลานดอกหญ้านี้นี่เอง

ด.ช.บัว สอบได้ที่หนึ่งทุกเทอม เขาช่วยจำปาทำร้านข้าวแกง จากเพิงเล็กๆ จนเป็นร้านตึกแถว ด.ช.กุหลาบตรงกันข้าม ไม่เคยประสบความสำเร็จในการเรียน แต่หาเงินให้แม่เก่งว่าใครๆ ด้วยอาชีพดูต้นทางวงไพ่ให้บรรดาแม่ค้าในตลาดทั้งหลาย

จำปา และกุหลาบ ทำงานหนัก พากเพียรเอาเงินมาหยอดกระปุกเพื่อให้ได้จำนวนเงินหนึ่งแสนบาท เพื่อเป็นค่าผ่าตัดหัวใจใหม่ให้กับบัว ไม่เช่นนั้นบัวจะเจ็บป่วยบ่อย เหนื่อยง่ายและที่สำคัญ …มีอายุสั้น แต่สำหรับบัว เขาไม่สนใจที่จะหาย เขาเอาแต่ช่วยเหลือแจกข้าวแกงให้คนแก่ และเด็กยากจนในชุมชนแออัด แม้บางครั้งจะเหนื่อยจนหายใจไม่ออก บัวก็ยังกัดฟันดูแลเด็กๆ เหล่านั้นต่อไป จำปาแสนระอาใจ ไม่ว่าตนและกุหลาบผู้เป็นพี่ชายจะช่วยเหลือดูแลสุขภาพของบัวแค่ไหน บัวก็ยังคงเป็นบัวคนเดิม ที่คิดถึงแต่คนอื่นมากกว่าตัวเอง

ผ่านไปสิบปี จนเด็กชายทั้งสองเติบโตเป็นหนุ่มวัยรุ่น จำปาและกุหลาบเพิ่งจะได้เงินครบหนึ่งแสนบาท คืนก่อนที่บัวจะเข้าผ่าตัด ทั้งครอบครัวเลี้ยงฉลองกัน จำปาทุบกระปุกแตก แม่ลูกทั้งสามนอนลงบนกองเงิน ที่เขาอาบเหงื่อต่างน้ำหามาตลอดสิบปี แต่พอเขาหลับสนิท สมชายสามีขี้เมา ก็ย่องมาขโมยเงินไปจนหมด

จำปาออกติดตามเอาเงินคืน แต่สมชายเอาไปลงกับการพนันหมดแล้ว กุหลาบขาดสติ ลอบเข้าไปเอามีดฟันแขนสมชายขาด ด้วยความแค้นกุหลาบถูกจับ ! โชคชะตา นำเด็กชายทั้งสอง บัวและกุหลาบ เดินเข้าสู่สถานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บัวเข้าเรียนกฎหมายในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง ในขณะที่กุหลาบถูกจับเข้าสถานพินิจ !

กุหลาบบอกบัวว่า ตั้งแต่เล็กพ่อสมชายชอบเฆี่ยนตีตน เพราะเป็นเด็กนรกที่มาแย่งกินแย่งใช้ลูกเทวดาอย่างบัว ถ้าบัวโตมาคนเดียว บัวจะมีทุกอย่างมากกว่านี้ ไม่ใช่ต้องคอยแบ่งครึ่งทุกอย่างให้กุหลาบ ทั้งที่กุหลาบไม่มีแววจะดีได้ถึงครึ่งของบัวเลย

บัวร้องไห้กอดกุหลาบ เห็นกุหลาบเป็นทั้งพี่ชายและเพื่อนที่ตายแทนกันได้เช่นกัน กุหลาบเข้าใจดี ได้แต่บอกน้องชายให้เข้มแข็งและรักษาสุขภาพให้ดี ถ้าบัวมีชีวิตรอดจนได้เป็นอัยการ ทนายของแผ่นดิน ก็เท่ากับได้ใช้ชีวิตเพื่อรักษาความถูกต้องในสังคมทดแทนตนเองแล้ว ชีวิตของบัวจะเป็นชีวิตด้านดีของกุหลาบ ที่กุหลาบไม่สามารถจะไปถึงได้อีกแล้วในชาตินี้

บัวเข้าใจแล้ว บัวให้สัญญากับกุหลาบในคืนนั้น ต่อไปนี้ตนจะอยู่อย่างเข็มแข็ง จะเรียนหนังสือและช่วยทำงานที่มูลนิธิ เพื่อเด็กในชุมชนอย่างจริงจัง ทำให้ลานดอกหญ้า ที่มีแต่เด็กไร้อนาคต กลายเป็นลานดอกรัก ที่มีแต่ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ณ เวลานั้น ชายหนุ่มทั้งสองแอบเลือกเส้นทางชีวิตของตนเอาไว้ในใจ บัว จะสร้างโลกด้วยความถูกต้อง กุหลาบ จะสร้างโลกด้วยความดุดัน

ผ่านไปห้าปี บัวสำเร็จการศึกษาออกมาด้วยคะแนนอันดับหนึ่งของรุ่น และสามารถสอบเป็นอัยการได้สำเร็จ ในขณะที่กุหลาบออกจากสถานพินิจ ด้วยบาดแผลเต็มตัว หนุ่มทั้งสองกลับมาอยู่ร่วมครอบครัวกันอีกครั้ง บัวพยายามบังคับขู่เข็ญให้กุหลาบไปทำงานที่สุจริต แทนที่จะอยู่กับแก็งค์ของ เฮียไก่ มาเฟีย ประจำชุมชน กุหลาบบอกว่าไม่ได้ผล แล้วพิสูจน์ให้เห็นด้วยการไปสมัครงานให้บัวดู บริษัทห้างร้านพอรู้ว่ากุหลาบออกจากสถานพินิจ เพราะเหตุฟันแขนพ่อตัวเองขาดก็เกรงกลัวเกินกว่าจะรับไว้

กุหลาบถูกรังเกียจเดียจฉันท์จากสังคมยิ่งกว่าที่บัวคิด กุลาบบอกบัวว่าคนจนอย่างเรา ไม่มีโอกาสมากนักหรอก ถึงบัวเองก็เถอะ ต่อให้เรียนจบกฎหมาย ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จเท่าเพื่อนคนอื่นๆ เพราะไม่มีเส้นสาย โลกของเราเป็นอย่างนี้เอง ดอกหญ้าต่อให้เอาผ้าตกแต่งห่อไว้อย่างมิดชิด สุดท้ายก็ไม่มีวันพ้นไปจากความต่ำต้อยอยู่ดี แต่บัวไม่เชื่อ บัวเชื่อว่าชาติกำเนิดไม่ได้กำหนดชีวิตคนตลอดไป ยิ่งต้อยต่ำ ยิ่งต้องต่อสู้ “ถ้าคนจนที่ไม่เคยมีอะไรอยู่แล้ว ยังไม่เหลือแม้แต่ความดี คนจนก็ไม่เหลือคุณค่าใดๆ ที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้อีก” สองพี่น้อง บัวและกุหลาบพี่น้องที่เคยรักกัน บัดนี้เกิดกำแพงบางๆ ขวางกั้นอยู่ !

บัวรู้สึกว่ากุหลาบเปลี่ยนไปมาก โลกอันโหดร้ายในสถานพินิจสอนให้กุหลาบกลายเป็นคนกร้านโลกและมีแววตาที่ดุดันกว่าเดิม บัวเริ่มไม่แน่ใจ พี่ชายคนเดิมของเขายังอยู่หรือเปล่า หรือกุหลาบจะปล่อยให้ชีวิตตำต่ำไปตามกระแสสกปรกภายในชุมชนลานดอกหญ้า !?!

ความดีแบบไม่มีเหตุผลของบัว อยู่ในสายตาของเฮียไก่ มาเฟียประจำชุมชน อดีตเจ้านายของกุหลาบตลอดเวลา เฮียไก่เกิดความหมั่นไส้บัวอย่างหนัก เพราะหลายปีมานี้ บัวคอยขัดขวางการทำงานของเขามาโดยตลอด แม้แต่ในเวลานี้ บัวและเฮียไก่ก็กำลังมีความสนใจเดียวกัน อยู่ที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มีหัวโจกชื่อมะลิ มะลิเป็นผู้หญิงแต่มีลักษณะเป็นทอมบอยขาโจ๋ พี่ใหญ่ของเด็กในชุมชนหลายสิบคน ในขณะที่เฮียไก่กำลังพยายามชักนำให้มะลิเป็นพวกด้วย เพื่อจะให้มะลิเป็นหัวหน้าแก๊งค์ส่งยาเสพติด บัวก็กำลังพยายามหว่านล้อมให้มะลิเข้ามาอยู่ในมูลนิธิของตน ระหว่างที่ติดตามเปลี่ยนใจทอมบอยมะลิอยู่นี่เอง งานประจำของบัวก็กำลังมีปัญหา บัวกำลังเป็นอัยการให้กับคดีฟ้องร้องเสี่ยนิกร มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาจากยาเสพติด และในช่วงนี้คดีก็กำลังมีความคืบหน้าไปมาก เพราะ เสี่ยลพ หุ้นส่วนผลิตยาบ้าของเสี่ยนิกรเกิดกลับใจเป็นคนดี เตรียมนัดกับกลุ่มของตำรวจและอัยการ ขอยื่นหลักฐานเข้ามอบตัว ระหว่างที่กำลังติดต่อกันเพื่อยื่นส่งหลักฐานนี่เอง นิกรก็กำลังวางแผนส่งทีมมือปืน เข้าไปลอบสังหารเสี่ยลพพร้อมลูกสาวที่เติบโตในต่างประเทศชื่อ ลีลาวดี เพื่อฆ่าปิดปาก

บัวได้พบลีลาวดีโดยบังเอิญมาก่อนหน้านี้ บัวหลงรักลีลาวดีทันที สาวสวยอาชีพจิตรกร สูงส่งและงดงามเหมือนเจ้าหญิง ความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังจะคืบหน้าไป แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น เกิดหนอนบ่อนไส้ในกลุ่มตำรวจที่คุ้มกันลพและลีลาวดี ลพและลีลาวดีถูกลอบฆ่า ลพบาดเจ็บสาหัส และลีลาวดีเป็นเป้าหมายต่อไป บัวตัดสินใจพาลีลาวดีไปฝากไว้กับกุหลาบ แล้วขอสัญญาลูกผู้ชายจากกุหลาบว่าจะปกป้องชีวิตลีลาวดีแทนตน กุหลาบไม่ลังเลแม้แต่น้อยเขาพาลีลาวดีหนีไปทันที กุหลาบพาลีลาวดีมาอยู่ที่เกาะตามคำสั่งของบัว เจ้าหญิงในสายตาของบัว เป็นแค่สาวน้อยเอาแต่ใจตัวเอง ที่เย่อหยิ่งและจองหองในสายตาของกุหลาบ ลีลาวดีอาละวาดกินอยู่ไม่ได้ เอาแต่จะถามเรื่องพ่อและจะหนีออกจากเกาะ กุหลาบค้นพบว่าลีลาวดีก็มีปัญหาของตนเอง เจ้าหล่อนเป็นคุณหนูเอาแต่ใจตัวเองขนานแท้ สวยเริ่ดเชิดหยิ่ง ใช้ชีวิตอย่างไร้สาระกับผู้คนที่คอยเอาอกเอาใจ สินค้าแบรนด์เนมและความสวยความงามมาเกือบตลอดชีวิต ลีลาวดีจิกใช้กุหลาบเสมือนเป็นคนใช้ กุหลาบเลยดัดนิสัยคุณหนู ด้วยการกลั่นแกล้งลีลาวดีทุกรูปแบบ ถ้าลีลาวดีโมโหตบหน้าเขา เขาก็จะตบหน้าลีลาวดีกลับ ไม่มีวันอ่อนข้อให้เด็ดขาด ชีวิตบนเกาะของทั้งคู่ เต็มไปด้วยความดุเดือดถึงพริกถึงขิงจนทั้งสองต่างระอาใจในกันและกัน

และแล้วลพก็สิ้นใจในเวลาต่อมา ลีลาวดีเจ็บปวดแทบบ้า หล่อนไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อเลย เพราะพ่อใช้ชีวิตบนเส้นทางสายมาเฟียมาโดยตลอด จนกระทั่งสามเดือนสุดท้ายของชีวิตลพนั่นเอง ที่ลพยอมกลับเนื้อกลับตัวเพื่อลูก แต่เพราะการกลับเนื้อกลับตัวครั้งนี้เองทำให้ลพต้องตาย ลีลาวดีอดคิดไม่ได้ว่าตนเองเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อตาย

กุหลาบจำเป็นต้องอยู่บนเกาะ ดูแลให้จิตใจลีลาวดีสงบลง และที่สำคัญกุหลาบต้องช่วยให้ลีลาวดีคิดให้ออกว่า หลักฐานที่ลพเตรียมส่งมอบให้ตำรวจนั้นซ่อนไว้ที่ไหน เพราะลพไม่ได้บอกลีลาวดีไว้ก่อนตาย ที่สำคัญลีลาวดีเองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับลพแนบแน่นพอที่จะรู้เรื่องส่วนตัวของลพ ทั้งสองต้องอยู่เกาะต่อไป จนกว่าลีลาวดีจะนึกออกว่าพ่อซ่อนหลักฐานไว้ที่ไหน ระหว่างนี้ การพิจารณคดีของนิกรก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ขึ้นศาล การว่าความของบัวก็เฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ นิกรรู้สึกหนาวๆ อัยการคนนี้น่ากลัวมากกว่าทุกๆ คน ถ้าเขาได้หลักฐานจากลีลาวดีมาเมื่อไหร่ ชีวิตของนิกรจบลงแน่นอน นิกรเริ่มติดต่อเฮียไก่ ให้จับตามองบัวทุกฝีก้าว เฮียไก่ทำตามคำสั่ง เพราะปัญหาของตนที่หมั่นไส้บัวก็ยังคงอยู่ หมู่นี้บัวออกติดตามมะลิทุกวัน อีกไม่นานมะลิและพรรคพวกคงถูกกล่อมไปอยู่ด้วยแน่

มะลิเป็นสาวทอมบอยหัวโจกของเด็กในชุมชนก็จริง แต่ไม่ได้ติดยาและไม่ได้ทำชั่วร้ายแรง ความที่มะลิเป็นเด็กกำพร้าถูกเลี้ยงโดยญาติบ้านโน้นบ้านนี้ ทำให้มะลิชอบเรียกร้องความสนใจ ด้วยการป่วนคนในชุมชนตามประสาเด็กคะนอง เรียกค่าคุ้มครองทีละสิบบาทยี่สิบบาทบ้าง ขโมยกล้วยแขกกินบ้าง แกล้ง
เอาประทัดไปโยนใส่คนในป้ายรถเมล์บ้าง ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้เองอยู่ในความสนใจของบัวมาก เพราะบัวเชื่อว่าเนื้อแท้ของมะลิเป็นเด็กดี ที่พอจะขัดเกลาได้บัวเดินตามมะลิทุกเย็นหลังเลิกงาน จนสาวๆ ในชุมชนแอบอิจฉามะลิที่จู่ๆ มีหนุ่มหล่อคอยเดินตาม ข้างฝ่ายมะลิก็เห็นเป็นเรื่องสนุก ที่เจ้าชายผู้ไม่เคยอารมณ์เสียกับเรื่องใดๆ เลยมาคอยตอแย มะลิเห็นบัวเป็นของเล่น ที่น่าป่วนที่สุดตั้งแต่เล่นมา ยิ่งเดินตามมะลิก็ยิ่งแกล้งเอาน้ำโคลนสาดบ้าง เอาถ่านร้อนๆ แอบใส่เสื้อของบัวบ้าง แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนบัวก็ยังอดทนไม่อารมณ์เสียใส่มะลิ จนมะลิชักงงว่าบัวต้องการอะไร บัวเลยบอกมะลิว่า ต้องการให้มะลิและลูกสมุนทั้งหลายไปเรียนหนังสือในมูลนิธิ มะลิยิ้มทันทีเข้าใจแล้ว มะลิบอกบัว นัดให้บัวมาเจอกันวันพรุ่งนี้ บัวดีใจมาก เตรียมมารับเด็กมะลิที่บ้านทันที แต่พอเข้าไปถึงก็ต้องตะลึงเพราะมะลิกำลังตั้งวงน้ำเต้าปูปลา รับแทงพนันอยู่ในบ้าน พอบัวมาถึงมะลิก็เยาะเย้ย ถ้าอยากให้ตนเป็นเด็กดี ตนก็จะเป็นคนชั่วให้ดู ทีนี้อัยการสุดโต่งอย่างบัวจะทำอย่างไร บัวบอกว่าไม่ทำอะไร ก็แค่วิ่งไล่จับเท่านั้นเอง แล้วบัวก็วิ่งไล่จับมะลิจริงๆ มะลิยิ่งสนุกใหญ่ เพราะเกมการไล่จับเป็นเรื่องทำมาตั้งแต่สามขวบกว่า มะลิวิ่งหนีเพราะคิดว่าไม่มีใครสู้ได้ แต่บัวก็จับมะลิได้ทุกครั้ง ไม่ว่ามะลิจะไปซ่อนที่ไหนบัวก็ตามทันหมด มะลิเริ่มเหนื่อยขอพัก และนัดให้บัวมาเจอกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น บัวมารับมะลิอีก มะลิก็โชว์ความเลวด้วยการสะเดาะกลอนในร้านสะดวกซื้อ เข้าไปขโมยไอติมให้บัวดู บัวเห็นดังนั้นก็ไล่จับอีก มะลิก็หนีอีก แล้วก็นัดกันมาใหม่อีกในวันรุ่งขึ้น

เรื่องราวของบัวและมะลิเกิดขึ้นซ้ำเช่นนี้อยู่หลายวัน จนมะลิเริ่มระอาใจชักไม่สนุกแล้ว บัวเลยจับมะลิเข้ามากอด บัวบอกมะลิว่า ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกบัวคิดเสมอว่ามะลิเป็นน้องชาย ถ้ามะลิไม่รู้ว่าจะอยู่ในโลกนี้เพื่อทำความดีให้ใครก็จงคิดว่า ทำความดีให้พี่บัวจะได้ไหม มะลิตะลึงเกิดมาไม่เคยถูกกอด ที่สำคัญตนไม่ใช่ผู้ชาย ทำไมบัวจึงเข้าใจผิดไปได้ขนาดนี้

มะลิกลับบ้านด้วยใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ทำไมจู่ๆ คิดไม่ออกขึ้นมาซะเฉยๆ ว่าพรุ่งนี้จะทำชั่วประชดบัวด้วยวิธีอะไรดี ระหว่างนั้นเฮียไก่ก็ติดตามมะลิอยู่เช่นกัน เฮียไก่เข้ามากล่อมมะลิให้ไปเป็นนักเลงในกลุ่มของตน พร้อมเยาะเย้ยว่า ที่มะลิโอนอ่อนกับบัวเพราะเห็นว่าบัวเป็นหนุ่มหล่อล่ะสิ มะลิโกรธมาก รีบปฏิเสธว่าไม่ใช่ ด้วยความโมโหเฮียไก่ วันรุ่งขึ้นมะลิจัดการสะเดาะกลอนสถานีตำรวจทันที มะลิพาพวกเข้าไปในสถานีตำรวจ แล้วแกล้งใช้วอของตำรวจป่วนตำรวจด้วยกันเองวุ่นวาย เหล่าตำรวจโมโหมาก วิ่งตามจับมะลิจะเอาเข้าห้องขังบัวรู้เข้ารีบออกวิ่งตามมะลิอีกคนหนึ่ง บัวต้องการไปให้ถึงตัวมะลิก่อนที่ตำรวจจะไปถึง บัวออกตามมะลิไป โดยลืมไปว่าวันนี้ตนเครียดจากงานจนมีอาการหัวใจกำเริบ แต่ความห่วงมะลิมีมากกว่า บัวออกวิ่งต่อไปจนเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาล

มะลิรู้เข้า หยุดการกระทำทุกอย่างทันทีวิ่งไปดูอาการของบัวที่โรงพยาบาลและร้องไห้เสียใจ ถ้าบัวตายเพราะเรื่องเลวๆ ของตน ตนจะทำยังไงต่อไป บัวได้ยินเสียงร้องไห้แล้วตื่นขึ้นมาในที่สุด มะลิกอดบัวทันที บอกขอโทษ บัวหัวเราะจับหัวมะลิ อย่าร้องไห้เป็นผู้หญิงขี้แยไปหน่อยเลย มะลิงงไป อยากตะโกนให้ลั่นโรงพยาบาลว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชาย !…

ในที่สุดมะลิก็พาพวกสมุนเด็กเสเพลทั้งหลาย เข้ามูลนิธิของบัวแถมยังไปตามกวาดต้อนเด็กเหล่านี้มาจากชุมชนอื่นๆ อีกเพียบ จนพวกของเฮียไก่ไม่มีเด็กส่งยาอีก นอกจากนี้ มะลิขาใหญ่ยังปวารณาตนเป็นลูกน้องของบัว เดินตามบัวและยอมตายแทนบัว

เรื่องนี้ทำให้เฮียไก่แค้นมาก เฮียไก่ถึงกับสาบานกับนิกรว่า ชาตินี้ตนจะต้องทำให้ได้สองอย่าง อย่างที่หนึ่ง คือทำให้บัวและกุหลาบขาดกัน เมื่อไหร่ที่กุหลาบเลิกคิดถึงบัว เลิกทำเพื่อบัว คนอารมณ์รุนแรงอย่างกุหลาบจะไปมีอาชีพอื่นไม่ได้นอกจาก มือปืนที่เลือดเย็นที่สุด อย่างที่สอง คือทำให้ความเป็นอัยการของบัวด่างพร้อย เมื่อไหร่บัวถูกให้ออก นิกรและกลุ่มประกอบยาเสพติดก็ปลอดภัย

ทางด้านกุหลาบและลีลาวดีที่อยู่บนเกาะ ลีลาวดียังคงหดหู่ซึมเซา
ไม่สามารถลืมการตายของพ่อได้ วันหนึ่งลีลาวดีหนีออกไปจากเกาะและโชคร้ายคนกลุ่มแรกที่ลีลาวดีพบ คือกลุ่มคนขี้ยาที่แฝงตัวอยู่ในเมือง กลุ่มคนขี้ยาเอายาสลบโปะหน้าลีลาวดี และกำลังจะเอาลีลาวดีไปขายให้เสี่ยในบาร์อะโกโก้ กุหลาบออกตามหาลีลาวดีอย่างบ้าคลั่ง แทบจะตามฆ่าทุกคนที่พบหน้า กุหลาบตามลีลาวดีที่กำลังเมา และกำลังจะถูกเคลมได้ทันเวลา ภาพที่ลีลาวดีถูกทำร้าย ทำให้กุหลาบโมโหจัด เกือบใช้ขวดปากฉลามฆ่าเสี่ยที่ทำร้ายลีลาวดี ดีแต่ลีลาวดีเข้าไปยับยั้งได้ทันก่อนที่กุหลาบจะทำผิด เหมือนเมื่อครั้งทำกับพ่อสมชาย ลีลาวดีประจักษ์ชัดถึงอารมณ์โกรธอันน่ากลัวของกุหลาบ แต่ในขณะเดียวกันก็ภูมิใจอยู่ลึกๆ ว่า กุหลาบที่ดูเฉยชาหมางเมินกับตนนั้น ที่แท้ก็เป็นห่วงตนมากมายขนาดนี้

ลีลาวดีตัดสินใจถามกุหลาบว่า ตนมีความสำคัญอย่างไรกับกุหลาบกันแน่ทำไมต้องปกป้องตนขนาดนี้ กุหลาบรู้คำตอบมาตั้งแต่ต้น นอกจากแม่แล้ว มีแต่เพียงลีลาวดีเท่านั้นที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของตน แต่ลีลาวดีเป็นผู้หญิงที่น้องชายของเขาฝากไว้ ทั้งหมดก็เพียงเพราะบัวเป็นคนพบและรักลีลาวดีก่อน ด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้ก็เกินพอ ที่จะทำให้เขารักลีลาวดีไม่ได้

กุหลาบเลือกที่จะตอบคำถามของลีลาวดี ด้วยการเดินหนีและเมื่อถูกลีลาวดีตอแยมากๆ เขาก็เลยอุ้มลีลาวดีไปไว้บนเวทีอาโกโก้ กุหลาบบอกลีลาวดีว่าถ้าลีลาวดีเต้นอโกโก้ได้ ยอมเป็นผู้หญิงอย่างว่า ลีลาวดีก็เป็นผู้หญิงของเขาได้ ผู้ชายอย่างเขาจะสนใจแต่ผู้หญิงเช่นนี้เท่านั้น ส่วนผู้หญิงอย่างลีลาวดีนั้นก็แค่งานในหน้าที่บอดี้การ์ดเท่านั้นเอง ลีลาวดีโกรธแต่ไม่ร้องไห้ เจ้าหล่อนเริ่มเต้นระบำอวดผู้ชายเหล่านั้น จนกุหลาบอึ้งผู้หญิงอะไร บ้าเลือดไม่มีที่สิ้นสุด กุหลาบตามไปอุ้มลีลาวดีลงมา ลีลาวดีก็หันไปอ้อนผู้ชายโต๊ะข้างๆ จนกุหลาบทนไม่ไหวต้องพาลีลาวดีกลับไปที่เกาะ ลีลาวดีถามกุหลาบอีก ถ้าเป็นแค่บอดี้การ์ดก็ไม่ควรมายุ่งกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของเจ้านาย คราวนี้กุหลาบอึ้ง ลีลาวดียิ้มพอใจ หล่อนคาดไม่ผิดเลย กุหลาบคิดกับตนมากกว่างานในหน้าที่แน่นอน หลายวันต่อมา ลีลาวดีจึงอารมณ์ดีขึ้น เพราะมีภารกิจการติดตามยั่วยวนกุหลาบ จนกุหลาบต้องหลบไปทำใจบ่อยๆ ที่หลังเกาะ เพราะเกือบตบะแตกไปหลายครั้ง

จนกระทั่งวันหนึ่งลีลาวดีเกิดป่วยเป็นไข้ กุหลาบที่พยายามหลีกลี้ หนีหน้าลีลาวดีไปหลายวัน จำเป็นต้องมาอยู่ใกล้ชิดพยาบาลลีลาวดี ลีลาวดีป่วยไข้และเริ่มฝันถึงพ่อ ลีลาวดีร้องไห้กอดกุหลาบจนกุหลาบสงสาร กุหลาบเริ่มยั้งใจไว้ไม่ได้ เขาจูบลีลาวดีก่อนจะรู้สึกตัวขึ้นมา เพราะสร้อยคอของลีลาวดีขาด

กุหลาบตกใจตัวเองมาก วิ่งออกไปต่อยที่ต้นมะพร้าวไม่หยุด แต่ลีลาวดีมองสร้อยเส้นนั้น สร้อยรูปดอกลีลาวดีที่พ่อเคยให้ ลีลาวดีคิดถึงอาร์ต แกลลอรี่ชื่อลีลาวดี ที่พ่อเปิดให้ทันที ในฝันเมื่อสักครู่พ่อก็ยืนอยู่ที่อาร์ตแกลลอรี่แห่งนี้ หลักฐานเอาผิดนิกรที่พ่อซ่อนไว้ต้องอยู่ที่นี่แน่นอน หล่อนวิ่งไปบอกกุหลาบ ทั้งสองตัดสินใจเข้ากรุงเทพมาสมทบกับบัวทันที

ข้างฝ่ายบัว งานมูลนิธิเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะขาใหญ่อย่างมะลิไปช่วยเกณฑ์เด็กมาวันหนึ่งไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน มะลิมีความสุขขึ้น และเลิกทำตัวเกเรเพราะชีวิตของมะลิต่อไปนี้จะทำเพื่อพี่บัวเท่านั้น มะลิเริ่มคิดถึงการที่จะแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพราะจนแล้วจนรอดบัวก็ไม่เคยมองตนในฐานะผู้หญิงซักที

มะลิรวบรวมกำลังใจแต่งตัวเป็นผู้หญิงในวันหนึ่ง แต่พอกำลังจะไปหาบัว มะลิก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงมาจากรถพร้อมกุหลาบ ผู้หญิงสวยสง่าคนนั้นคือผู้หญิงที่บัวพูดถึงเสมอ ลีลาวดีกลับมาแล้ว มะลิเห็นนัยน์ตาของบัวจากที่ไกลๆ บัวมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาที่มะลิไม่เคยได้รับ มะลิคอตกเดินกลับห้องพักของตนทันที และตัดสินใจเลิกแต่งตัวเป็นผู้หญิง ยอมเป็นน้องชายในสายตาของบัวต่อไป

บัวรู้เรื่องอาร์ตแกลลอรี่ของลีลาวดีแล้ว เขาพาลีลาวดีไปที่อาร์ตแกลลอรี่แห่งนั้น ที่ถูกพวกของนิกรยึดไป นิกรยึดทรัพย์สมบัติทุกอย่างของลพไป ทำให้การเข้าไปตามหาหลักฐานในอาร์ตแกลลอรี่ยากยิ่งขึ้น พวกเขาทั้งสามจึงทำตัวเป็นคนจะมาซื้องานภาพเขียน ยามหน้างานให้บัวและลีลาวดีเข้าไปแต่ไม่ให้กุหลาบเข้าเพราะรูปลักษณ์ของกุหลาบไม่ผ่าน กุหลาบมองอยู่หน้ากระจกบัวและลีลาวดีเดินดูภาพเขียนอยู่ในนั้น ทั้งสองงดงามเหมาะเจาะที่จะเป็นคู่กันจริงๆ ส่วนตนคงเป็นได้แค่คนขับรถของสองคู่พระคู่นางคู่นี้ กุหลาบยิ่งคิด ยิ่งเศร้า เาตัดสินใจแน่วแน่จะไม่ใจอ่อนกับลีลาวดีเด็ดขาด

บัวและกุหลาบปรึกษากัน พวกเขาคงต้องเข้าไปในอาร์ตแกลลอรี่ตอนกลางคืน และเอามะลิไปด้วย มะลิผู้มีความสามารถพิเศษจะช่วยสะเดาะกลอนตู้เซฟในอาร์ตแกลลอรี่ได้ ทั้งหมดลอบเข้าไปเปิดตู้เซฟสำเร็จแต่ในนั้นไม่มีหลักฐานตามที่ลีลาวดีต้องการ !

ลีลาวดีเข้าใจผิด ที่นี่ไม่มีหลักฐาน…แล้วหลักฐานอยู่ที่ไหนกันแน่ !สถานการณ์ย่ำแย่ลง นิกรเริ่มสงสัยว่า ลีลาวดีจะอยู่ในกรุงเทพ เขาเริ่มให้คนออกตามหา ลีลาวดีต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ หล่อนเริ่มเครียด….ถ้าไม่ใช่ที่นี่แล้วจะเป็นที่ไหน ! ในขณะเดียวกัน เรื่องความสัมพันธ์ของตนกับกุหลาบก็เริ่มย่ำแย่ลงกุหลาบทำตัวเหินห่างและผลักไสตนให้ไปกับบัว เช่นเดียวกับมะลิ ที่พยายามคอยเป็นลูกคู่ จับคู่ตนกับบัวอยู่บ่อยๆ ลีลาวดีไม่เคยรักบัว หัวใจของหล่อนเป็นของกุหลาบตั้งแต่อยู่บนเกาะ มะลิเองก็เถอะ ไม่ต้องใช้ความสนิทสนม ลีลาวดีก็รู้ว่ามะลิไม่ใช่ทอมบอย เจ้าหล่อนแอบหลงรักบัว สภาพความรักแบบสามเส้าสี่เส้าแบบนี้จะยาวนานไปถึงไหนก็ไม่รู้

ลีลาวดีตัดสินใจบอกรักกุหลาบ และชวนกุหลาบหนีไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน กุหลาบคิดหนัก แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจบอกลาลีลาวดี กุหลาบทรยศหัวใจตนเองเพื่อน้องชาย ! เขาบอกลีลาวดีว่า ลีลาวดีเป็นตัวน่ารำคาญ เขาไม่เคยมองหล่อนด้วยซ้ำ ที่ทำทุกอย่างนี้เพื่อหาเงินรางวัลไปตั้งตัวสักก้อนเท่านั้นเอง !!

จากนั้นความสัมพันธ์ของลีลาวดีและกุหลาบก็หมางเมินลง ลีลาวดีประชดด้วยการเป็นแฟนกับบัวอย่างจริงจัง และคนที่เจ็บปวด ก็คือกุหลาบและมะลินั่นเอง กุหลาบเศร้าเสียใจกับเรื่องของลีลาวดีเป็นอย่างยิ่ง ภาพบัวมีความสุขกับลีลาวดีคอยเสียดแทงหัวใจของเขา จนเริ่มหงุดหงิดน้องชายตัวเอง เฮียไก่
สบช่องโอกาส เขาได้ข่าวว่าบัวและกุหลาบทะเลาะกันอยู่เนืองๆ เขาใส่ความกุหลาบและยัดเยียดยาเสพติดให้กุหลาบ กุหลาบถูกดำเนินคดีมียาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย แต่ก่อนจะถูกคุมขังกุหลาบได้รับการประกันตัวด้วยเงินของลีลาวดี แต่ก็แค่ประกันตัวเท่านั้น กุหลาบจะติดคุกหรือไม่ก็อยู่ที่การขึ้นศาลในครั้งหน้า เฮียไก่เห็นช่องทาง เขาดำเนินตามแผนต่อไป เขาจัดการให้บัวว่าความคดีของกุหลาบ เพราะรู้นิสัยของบัวดี ถ้าบัวต้องเลือกระหว่างการรักษากฎหมายกับพี่ชายของตนเอง บัวจะเลือกกฎหมาย และจะส่งพี่ชายของตนเองเข้าคุก ทันทีที่ได้คดีของกุหลาบมา บัวคิดหนัก หลักฐานเอาผิดกุหลาบแน่นหนาเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญกุหลาบเองก็มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับเฮียไก่ เป็นไปได้ทุกเมื่อที่กุหลาบจะถูกเฮียไก่กล่อมไปแล้ว บัวตัดสินใจไปถามกุหลาบว่ากุหลาบทำหรือไม่

เพียงแค่ถาม… กุหลาบก็น้อยใจแล้ว กุหลาบทุกข์ยากทุกวันนี้เพราะความไม่เชื่อใจของคนในสังคม แล้วถ้าคนในสังคมเหล่านั้น มีบัวที่เขารักที่สุดอยู่ด้วย ทุกอย่างก็จบกัน กุหลาบทะเลาะกับบัวรุนแรง น้องชายที่เขารักที่สุด ไม่มีความเชื่อใจในตัวเขา เขาเกือบหมดแรงที่จะทำความดี

หลังจากนั้นกุหลาบก็เริ่มเปลี่ยนไป ด้วยแรงยุของเฮียไก่ กุหลาบเริ่มฝึกยิงปืนและกำลังจะถูกเทรนด์ให้เป็นมือปืน ! เฮียไก่สะใจอย่างยิ่ง ดอกหญ้าก็คือดอกหญ้า คนดีอย่างบัวและกุหลาบในที่สุดก็สั่นคลอน สองพี่น้องที่เคยรักกันยิ่งชีวิตกำลังจะทำลายกันเอง ! ก่อนวันที่บัวจะขึ้นว่าความ เอาผิดกุหลาบมะลิและลีลาวดีทำงานอย่างหนัก ถ้าลีลาวดีเจอหลักฐานของลพ กุหลาบอาจจะถูกกันให้เป็นแค่คนส่งของมีโทษสถานเบา เพราะผู้ที่เป็นเจ้าของยาเสพติดทั้งหมด ตัวจริงก็คือเฮียไก่และนิกร และแล้วลีลาวดีก็เจอมันในนาทีสุดท้าย ที่แท้หลักฐานทั้งหมดก็อยู่ในกรอบรูป ที่ตนวาดรูปพ่อไว้นั่นเอง มันไม่ได้อยู่ในเซฟไหนๆ เลย มิน่ามะลิตามเปิดเซฟไหนๆ ก็ไม่เจอ ลีลาวดีรีบเอาหลักฐานมาให้บัว จำปา มะลิและลีลาวดี ช่วยกันยืนยันและอธิบายให้บัวกลับมาเชื่อใจกุหลาบอีกครั้ง บัวเริ่มโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ถ้าเขาจับนิกรไม่ได้ ก่อนขึ้นว่าความให้กุหลาบ เขาก็ไม่มีหลักฐานที่จะช่วยเหลือกุหลาบได้เลย ทั้งหมดวางแผนล่อนิกรและเฮียไก่ออกมาให้ตำรวจจับ โดยหลอกว่าให้มารับหลักฐานจากลีลาวดี นิกรและเฮียไก่ออกมาจริงๆ แต่มาพร้อมกุหลาบที่บัดนี้เป็นสมุนของเฮียไก่ไปแล้ว ช่วงชุลมุนระหว่างการต่อสู้นั้นเอง ปืนได้ไปตกอยู่ในมือของกุหลาบ เฮียไก่ยุให้กุหลาบยิงบัวเสียถ้าหมดสิ้นบัวไปคนหนึ่ง กุหลาบจะได้ครอบครองลีลาวดีและอำนาจเงินตราทั้งปวง ปืนที่อยู่ในมือของกุหลาบจะจ่อไปที่ใคร อำนาจความดีในใจของกุหลาบจะเข้มแข็งแค่ไหน หรือกุหลาบจะปล่อยให้ตนเองตกอยู่ภายใต้อำนาจความอิจฉาริษยา ความหึงและความโกรธที่มีต่อบัว

นาทีสุดท้าย…กุหลาบก็ยังเป็นกุหลาบ เขาตัดสินใจยิงเฮียไก่ เฮียไก่จึงใช้ปืนยิงกุหลาบ ทั้งสองต่อสู้กัน หลังการต่อสู้ เฮียไก่และนิกรถูกจับ …

กุหลาบโดนยิงบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่บัวบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่อาการโรคหัวใจของบัวกำเริบขึ้น เพราะรู้ว่าพี่ชายของตนเองกำลังจะตาย ตายทั้งที่เพิ่งทะเลาะกันไปหมาดๆ ค่ำคืนนี้บัวอาจจะไม่มีโอกาสได้ขอโทษพี่ชายตัวเองด้วยซ้ำ จำปาหัวใจแทบสลาย…ลูกชายสุดที่รักทั้งสองนอนอยู่ในห้องไอซียูกำลังจะตายทั้งคู่

กุหลาบสั่งแม่ ถ้าเขาเป็นอะไรไปมากกว่านี้ เขาต้องการมอบหัวใจของเขาให้บัว ให้ผ่าตัดเอาหัวใจของเขาใส่ในตัวของบัวคืนนี้เลย ชีวิตที่สกปรกจะเหลือหัวใจที่ใสสะอาดไว้ให้บัว ชีวิตใหม่ของกุหลาบจะสวยงาม และมีโอกาสที่จะได้ทำแต่ความดี โดยไม่ต้องมีเงาอดีตมาตามหลอกหลอน … ผ่านชีวิตของบัว แต่เหมือนบัวจะรับรู้ทั้งหมด บัวพยายามบอกกุหลาบและแม่ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เขาไม่ต้องการหัวใจของพี่ชาย กุหลาบไม่ใช่คนที่ต้องเกิดมามีชีวิตเพื่อบัว กุหลาบต้องมีชีวิตของตนเอง กุหลาบต้องฟื้นขึ้นมาแก้ไขชีวิตของเขาด้วยตัวของเขาเอง ถ้าหากจะตาย ก็ตายทั้งสองคนและถ้าหากจะอยู่ก็ต้องอยู่ทั้งสองคน ! แล้วทั้งสองก็สลบไป….

ชีวิตของคนส่วนใหญ่ พึงพอใจที่จะเป็นดอกหญ้าที่ดาษดื่น ปล่อยตัวเองให้หลงไปกับความมอมเมาทั้งปวง แต่ยังมีชีวิตของใครอีกหลายคน ที่เกิดมาเพื่อเป็นดอกไม้ที่งดงาม

รุ่งอรุณที่สดใสมาถึง … ประตูห้องผ่าตัดทั้งสองห้องเปิดออก การผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตชายหนุ่มทั้งสองจบสิ้นลง บัวลืมตาตื่นขึ้น….สดใสเหมือนได้หัวใจดวงใหม่ จำปากระซิบบอกบัว หัวใจของบัวมันเก่งกล้าเหมือนร่างกายของบัว หมอทำการผ่าตัดบายพาสโดยใช้หัวใจดวงเดิม บัวจะมีชีวิตที่สดใสไปอีกหลายสิบปี ด้วยหัวใจดวงเดิม…

และจำปายังบอกอีกว่า หัวใจของกุหลาบก็ยังเต้นอยู่ มันยังดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อแก้ไขความผิดพลาดเช่นกัน…กุหลาบปลอดภัยแล้ว พร้อมที่จะลบล้างความผิดเดิมๆ ด้วยตัวของเขาเอง

ลำแสงยามเช้าทอดเข้ามาในห้องพยาบาลที่ชายทั้งสองนอนอยู่ด้วยกัน พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงวันที่จะออกไปลงสนามแข่งบาสเก็ตบอลอีกครั้ง อย่างน้อยชีวิตก็ไม่เลวร้ายเกินไปนัก…ตราบใดที่ความดียังคงอยู่