ละคร ผ่าโลกบันเทิง

ดู 15,605 ครั้ง / แชร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 6 ธันวาคม 2551
เวลาออกอากาศ 18:45 - 19:30 น.
  
กำกับโดย เฉิด ภักดีวิจิตร
ประพันธ์โดย ดรรชนี
นำแสดงโดย
อานัส ฬาพานิช ... ขุนพล
จีรนันท์ มะโนแจ่ม ... น้ำผึ้ง
ภาณุ สุวรรณโณ ... สตางค์
อารดา เลิศเกียรติไพบูลย์ ... น้ำฝน
สิทธิชัย ผาบชมพู ... เสี่ยสำอาง
มิณฑิตา วัฒนกุล ... ขันทอง
ศิระ รัตนโภคาสถิต ... ขบวน
ผู้สร้าง บริษัท บางกอก ออดิโอวิชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ ผ่าโลกบันเทิง

สตางค์ ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของสิงห์โต นักธุรกิจพันล้าน เพิ่งสำเร็จ ปริญญาโทมาหมาดๆ จากประเทศเยอรมันนี โดยที่บิดาของเขาไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของเขานั้น มิได้เล่าเรียนสาขาบริหารธุรกิจดั่งที่เขาหมายมั่นปั้นมือ แต่ไพล่ไปเรียนสาขาสิ่งประดิษฐ์ตามที่ใจรัก แต่ความลับไม่มีในโลก ทันทีที่สิงห์โตรู้ความจริงบ้านก็แทบแตก สตางค์พยายามทำทุกวิถีทางให้พ่อของเขาเห็นว่าวิชาที่เขาอุตสาห์ขัดใจพ่อบากบั่นร่ำเรียนนั้นดีอย่างไร

สตางค์โชว์วัตกรรมใหม่จากสิ่งประดิษฐ์ของเขาให้พ่อดู โดยเริ่มจากเครื่องนวดเท้าด้วยเจลทำความร้อน ซึ่งเล่นเอาสิงห์โตเดินไม่ได้ไปหลายวัน เครื่องทำค๊อกเทลที่ผสมเครื่องดื่มออกมาไม่สมบูรณ์ จนทำให้ระเบิดออกมาไฟลุกท่วม ยังดีที่ฉลาดคนสนิทของสิงห์โตนำคนงานมาช่วยดับไฟไว้ได้ทัน และที่ทำให้สิงห์โตฟิวส์ขาดก็คือ หุ่นยนต์สาวใช้ ฮันนี่ ที่มีร่างกายเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่สมองเทียมยังไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดการผิดพลาดในการสั่งงาน ทำให้เครื่องลายครามสมัยราชวงศ์ถังชุดใหญ่ ที่สิงห์โตหวงแหนยิ่งกว่าชีวิตพังพินาศหมด

สิงห์โตโกรธลูกชายมาก ถึงกับประกาศกร้าวให้สตางค์เลิกสนใจสิ่งประดิษฐ์ และหันมาเรียนรู้ ที่จะบริหารอาณาจักรธุรกิจของเขาทันที เพื่อเตรียมตัวรับช่วงงานทั้ง หมดต่อจากสิงห์โต ซึ่งหวังจะเกษียรตัวเองมาพักผ่อนเงียบๆ อยู่ที่บ้าน ในอนาคตอันใกล้ แต่สตางค์ไม่ยอม สิงห์โตจึงขู่จะตัดเขาออกจากกองมรดก สตางค์จึงตกปากรับคำอย่างไม่เต็มใจในที่สุด

การทำธุรกิจน่าเบื่อหน่ายกว่าที่สตางค์คิดเอาไว้มากมายนัก วันๆ สตางค์ต้อง ตระเวณไปดูแลการผลิต สายงานในองค์กร และพบลูกค้าทั้งไทยและเทศ จนแทบไม่มีเวลาจะหายใจ สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้คือความเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่สามารถทำใจให้รักชอบงานเหล่านี้ได้เลย

ในที่สุดสตางค์จึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับสิงห์โต บอกเจตนารมณ์ของเขาว่ายินดีให้สิงโตตัดเขาออกจากกองมรดก เขาจะไม่ทนทำงานนี้แม้เพียงอีกนาทีเดียว สิงห์โตโกรธมาก ไล่สตางค์ออกจากบ้านทันที สตางค์เก็บข้าวของไปตายเอาดาบหน้า โดยไม่ลืมพาหุ่นยนต์ ฮันนี่ ไปกับขาด้วย

สตางค์มุ่งหน้าไปหา นมขาว แม่นมคนเก่าแก่ที่เคยเลี้ยงดูเขาเมื่อครั้งยังเป็นเด็กๆ แต่บ้านของนมขาวอยู่ชานเมืองไกลออกไป การเดินทางที่ไม่มีรถยุโรปราคาแพงเป็นยานพาหนะ เป็นเรื่องสาหัสสำหรับเขา แต่ด้วยความทรงจำเก่าๆ ทำให้เขาหาหมู่บ้านเจอในที่สุด

สตางค์เที่ยวเดินถามหาบ้านนมขาวไปทั่ว จนคนในหมู่บ้านนึกว่าเขาสติไม่ดี แล้วเขาก็เกือบถูกน้ำฝน ลูกสาวของช่างตัดผมประจำหมู่บ้านตบเอา เพราะนึกว่าเขาลามปาม แต่ในที่สุดจากความช่วยเหลือของขันทองเด็กสาวจอมแก่น ก็ช่วยให้เขาหาบ้านนมขาวจนเจอ

นมขาวดีใจมากที่ได้พบสตางค์ และยินดีให้สตางค์พักอาศัยอยู่ด้วย ด้านขันทองเมื่อแยกจากสตางค์ก็ตรงดิ่งกลับบ้านเรือนแพ ที่อยู่ติดกับร้านตัดผมของลุงเชย ขันทองเล่าเรื่องสตางค์ให้พี่ชายทั้งสาม (ขุนพล ขบวน เข้ม) ฟังอย่างออกรส

สตางค์ยังคงมุ่งหน้าแก้ไขหุ่นยนต์ฮันนี่ให้สมบูรณ์ เพื่อหวังจะส่งประกวดงานสิ่งประดิษฐ์โลกในต้นปีหน้า เขามั่นใจเต็มเปี่ยมว่าคนทั้งโลกจะต้องฮือฮากับแม่สาวฮันนี่มากกว่าเจ้าหุ่นอาเซโม่จากญี่ปุ่นแน่นอน ระหว่างพักเขาได้มีโอกาสทำความรู้จักกับชาวบาน เขาพบว่าพี่ชายทั้งสามของขันทองนั่นใฝ่ฝันที่จะเป็นนักร้อง ทั้งๆ ที่ร้องเพลงเพี้ยนไปเพี้ยนมา เสียงประสานของสามพี่น้องทำให้เป็ดไก่พากันกระเจิง แต่คนที่ร้องเพลงได้ไพเราะอ่อนหวาน แต่ตื่นเวทีที่สุด กลับเป็นน้ำผึ้งแม่ค้าตาหวาน พี่สาวของน้ำฝน ที่ขุนพลแอบหลงรักอย่างเปิดเผย

สตางค์ถูกชะตากับพี่ชายทั้งสามของขันทองเป็นอันมาก ถึงกับอาสาประดิษฐ์ไมโครโฟนชนิดพิเศษให้ สามพี่น้องขอบคุณสตางค์ล่วงหน้า นอกจากสี่พี่น้องตระกูล ข.ไข่ แล้ว สตางค์ก็รู้สึกชื่นชอบน้ำฝนเป็นพิเศษ แต่น้ำฝนนั้นไม่สู้จะชอบขี้หน้าสตางค์เท่าไหร่นัก จึงพยายามเลี่ยงๆ เขาอยู่เสมอ แต่สตางค์ก็ไม่ย่อท้อ เพราะเขาถือคติว่าตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก แต่การที่จะใกล้ชิดน้ำฝนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลุงเชยนั้นขึ้นชื่อในเรื่องหวงลูกสาว ไหนจะยังเสี่ยสำอางค์ที่มาก้อร่อก้อติกน้ำฝนเช้ายันค่ำ มาคอยกันท่าอีก

ในที่สุดสตางค์ก็ประดิษฐ์ไมโครโฟนชนิดพิเศษให้พวกขุนพลได้สำเร็จ พวกขุนพลชื่นชอบเป็นอันมาก เพราะไมโครโฟนอันนี้ร้องยังไงเสียงก็ไม่เพี้ยน ชอบบ้านหลั่งไหลกันมาขอบอกขอบใจสตางค์ เพราะจะได้ไม่ต้องทนกับเสียงเพลงอันโหยหวนของสามพี่น้องอีกต่อไป โดยเฉพาะลุงเชยที่อยู่ใกล้บ้านสามคนนี้ที่สุด แต่ความชื่นชมของลุงเชยก็ไม่สามารถช่วยให้เขาได้ใกล้ชิดน้ำฝนคนสวย ขันทองเห็นสตางค์จ๋อยๆ ก็สงสาร อาสาช่วยกันเสี่ยสำอางค์ให้ แต่เรื่องน้ำฝนจะชอบไหม และเขาจะชนะใจลุงเชยได้อย่างไรต้องให้สตางค์ช่วยตัวเอง แต่เพียงแค่นี้สตางค์ก็ขอบใจขันทองเป็นอย่างมาก

ระหว่างนี้สิงห์โตก็เริ่มจะอ่อนใจลง จึงบัญชาให้ฉลาดออกสืบการว่าสตางค์ไปตกระกำลำบากอยู่แห่งหนตำบลไหน ฉลาดก็ทำงานได้คุ้มค่าจ้าง สืบหาจนเจอ เมื่อกลับมารายงานสิงห์โต สิงห์จึงสั่งให้เขาคอยสอดแนมสตางค์ไปเรื่อยๆ และคอยรายงานความเคลื่อนไหวให้เขารู้ทุกฝีก้าว

เก้าอี้ตัดผมตัวเก่งและตัวเดียวของลุงเชยพังลง สตางค์จึงอาสาช่วย เขาประดิษฐ์เก้าอี้ตัดผมแบบพิเศษให้ลุงเชย ชาวบ้านชื่นชอบกันมาก มาต่อคิวตัดผมเนืองแน่นกันทุกวัน น้ำฝนจึงเริ่มจะพูดดีกับสตางค์มากขึ้น ทำให้เขาหัวพองโต

เมื่อฉลาดกลับไปรายงานว่าสตางค์กับชาวบ้านผูกพันธุ์กันแน่นแฟ้น สืบเนื่องมาจากสิ่งประดิษฐ์ของสตางค์ สิงห์โตจึงสั่งให้ฉลาดหาทางทำลายสิ่งประดิษฐ์ของสตางค์เสีย โดยเริ่มจากเก้าอี้ตัดผม

เมื่อเก้าอี้พังลง ลุงเชยก็ทอดอาลัย ในขณะที่ขุนพลกับพวกพากันไปออร์ดิชั่นที่ค่ายเทปตามคำแนะนำของสตางค์ แต่ถูกนายห้างตะเพิดออกมาแบบไม่เป็นท่า เพราะไมโครโฟนช๊อต ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนร้องเพลงไม่เอาไหน สตางค์เสียใจที่ช่วยใครไม่ได้

นมขาวทนเห็นสตางค์เป็นทุกข์ไม่ได้ จึงบอกความลับว่าตนมีเงินเก็บและทรัพย์สมบัติมากมาย ส่วนหนึ่งมาจากแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว และตนยินดีให้สตางค์นำไปใช้สร้างอาชีพให้ชาวบ้าน สตางค์จึงคิดสร้างสวนสนุกลอยน้ำ และเมื่อประกาศออกไปก็สร้างความยินดีให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากที่จะมีงานทำ

และเมื่อฉลาดกลับไปรายงานสิงห์โต สิงห์โตจึงส่งฉัตรมณี ไฮโซสาวพราวเสน่ห์ ที่สิงห์โตหมายมั่นปั้นมืออยากจะได้มาเป็นสะใภ้ ไปทำให้สตางค์หวั่นไหวจะได้ยอมกลับบ้าน แต่สตางค์ไม่ชอบฉัตรมณี เพระใจของเขานั้นยกให้น้ำฝนไปหมดแล้วทั้งใจ แต่กระนั้นฉัตรมณีก็ทำให้น้ำฝนไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ฉัตรมณีสร้างความปั่นป่วนยุ่งยากให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะนมขาว เพราะความจู้จี้เรื่องมากของเธอ งานของสตางค์ที่ควรจะคืบหน้าก็เลยล่าช้า เสี่ยสำอางค์ที่หันมาเทใจให้ขันทอง จึงรวมหัวกับพวกขันทองเล่นงานจนฉัตรมณีกระเจิดกระเจิดกระเจิงหนีกลับกรุงเทพฯแทบไม่ทัน

หุ่นยนต์ฮันนี่เสร็จสมบูรณ์แล้วในที่สุด แต่สตางค์กลัวชาวบ้านแตกตื่นจึงบอกกับใครๆว่าเป็นน้องสาวชาวบ้านโดยเฉพาะเด็กๆชอบหุ่นฮันนี่มาก เพราะน่ารักและรอบรู้ นอกจากนี้หุ้นฮันนี่ยังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสวนสนุก น้ำฝนระแวงว่า ฮันนี่เป็นหุ่นยนต์ แต่แทนที่น้ำฝนจะโกรธกลับทึ่งในตัวเขาเป็นอันมาก

เมื่อฉลาดกลับไปรายงานสิงห์โต สิงห์โตจึงให้ฉลาดวางแผนเปิดโปง ว่าสาวน้อยฮันนี่เป็นหุ่นยนต์ ฉลาดจึงแจ้งปาปารัสซี่ให้ไปคอยจับผิดหุ่นฮันนี่เพื่อเอามาเปิดโปงแต่มันไม่ง่ายนักเพราะน้ำฝนกับขันทองช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยให้รอดพ้นไปได้ทุกครั้ง

เมื่อจนแต้มสิงห์โตจึงใช้ไม้สุดท้าย ประกาศยึดที่คืนจากชาวบ้าน สตางค์ช็อกที่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าที่ทางทั้งหมดนี้เป็นของพ่อเขา และน้ำฝนก็โกรธที่เขาไม่ยอมบอกว่าเป็นลูกของสิงห์โต ส่วนชาวบ้านก็ไม่พอใจที่พวกตนตกเป็นเครื่องมืองัดข้อกันระหว่างสองพ่อลูก โดยมีที่ทำกินเป็นเดิมพัน สวนสนุกของสตางค์จึงต้องหยุดชะงัก

สตางค์กลับไปบ้าน เพื่อขอร้องแทนชาวบ้านแต่สิงห์โตให้ทางเลือกเพียงทางเดียว คือสตางค์ต้องกลับมาบ้านและมาดูแลธุระกิจของครอบครัวเท่านั้น สตางค์โกรธสิงห์โต ที่เอาชาวบ้านมาขู่เขาสิงห์โตจึงชี้ให้เห็นว่าหากสตางค์ทิ้งกิจการของทางบ้านไปพนักงานนับพันจะถูกลอยแพ ตกงานไร้ที่อยู่ จะยิ่งลำบากกว่าชาวบ้านเป็นไหนๆทำให้สตางค์ได้คิด แต่ก็ไม่วายต่อรองขอทำสวนสนุกให้สำเร็จก่อนและขอแต่งงานกับน้ำฝนสิงห์โตตกลง สองพ่อลูกจึงเข้าใจกันในที่สุด

สตางค์นำข่าวดีกลับมาบอกชาวบ้าน พร้อมทั้งขอน้ำฝนแต่งงาน น้ำฝนตกลงด้วยความเต็มใจอีกหนึ่งปีต่อมาสวนสนุกลอยน้ำก็ผงาดขึ้น มีนักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลมาสตางค์ได้รางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปีจากการส่งหุ่นฮันนี่เข้าประกวดหนังสือนิตยสารต่างๆต่างตีพิมพ์รูปเขาขึ้นหน้าปก ในฐานะนักธุระกิจหนุ่มมาแรงพ่วงด้วยรูปฮันนี่ความสำเร็จของคนไทย