ละคร เคหาสน์ดาว

เขียว (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) สถาปนิกหนุ่มอารมณ์ดี เขียวเป็นพนักงานตรวจสอบอาคารของรัฐ เงินเดือนไม่มากมาย ชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย เขียวคบกับแฟนที่ชื่อ แสนเสน่ห์ (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ตั้งแต่ตอนเรียนที่ศิลปากร แสนเสน่ห์เป็นดาราดังระดับชั้นนำของวงการบันเทิง ลูกคุณหนูมหาเศรษฐีใช้ชีวิตอย่างหรูหรามาตลอด ทำให้สังคมของทั้งคู่แตกต่างกันอย่างมาก เขียวได้มาเจอกับ จ๋อม (จินตนัดดา ลัมะกานนท์) สาวออฟฟิศที่รักการใช้ชีวิตเรียบง่าย ทั้งคู่มีทัศนคติที่ตรงกัน แม้จะรู้จักกันไม่นานความสัมพันธ์กลับค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในทางที่ดีกว่า แต่ทว่าจ๋อมมีแฟนอยู่แล้วชื่อ ปูชนีย์ (อนุสรณ์ มณีเทศ) หนุ่มนักเรียนนอกเจ้าของโรงแรมสุดหรู ปูชนีย์ใช้ชีวิตเมืองนอกมาแต่เด็กจึงมีความเป็นตัวเองสูง เขาชอบให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าปัญหาอะไรปูชนีย์สามารถแก้ได้ทุกอย่าง ซึ่งมีเรื่องเดียวที่ปูชนีย์แก้ปัญหาไม่ได้คือเรื่องของเขากับความรักครอบครัวของจ๋อม เรื่องราวความรักของคน 2 คู่ 4 คนนี้จึงเริ่มพัวพันกัน

ยิ่งนานวันพ่อแม่ของแสนยิ่งกีดกันแสนกับเขียวเพราะคิดว่าถ้าคบกันจริงๆ ก็ไปไม่รอดเพราะรู้จักลูกตัวเองดี ตรงกันข้ามกับแสนที่จะพยายามเอาชนะพ่อแม่ให้ยอมรับเขียวให้ได้ แม้แสนจะพยายามทำทุกวิธีเพื่อยืนยันความรักของเธอแล้วก็ตาม แสนไม่สามารถใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบเขียวได้ ส่วนเขียวก็ไม่สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบแสนได้เช่นกัน ฝ่ายจ๋อมเริ่มมีปัญหาบ้านจะถูกไล่ที่เพื่อสร้างคอนโด จึงต้องมองหาที่อยู่ใหม่ ปูชนีย์อยากซื้อบ้านที่เป็นเรือนหอให้เขากับจ๋อมจะได้อยู่กัน 2 คน แต่จ๋อมอยากให้แม่กับน้องสาวที่พิการมาอยู่ในบ้านด้วยเพื่อจะได้ดูแลกัน ความขัดแย้งของจ๋อมกับปูชนีย์เริ่มสูงขึ้น เมื่อเขียวเสนอตัวที่จะเขียนแบบบ้านให้จ๋อมและด้วยความที่ทั้งคู่เหมือนถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน ความสัมพันธ์ของเขียวกับจ๋อมกลับดีวันดีคืน แต่การที่ต่างฝ่ายต่างมีคู่อยู่แล้วนั้นทำให้ความรักของทั้งคู่เหมือนจะเบ่งบานไม่ได้ เหมือนมาพบกันเมื่อสายไปเสียแล้ว ความรักของทั้ง 4 ดูเหมือนจะอึมครึม แต่ในที่สุดก็คลี่คลายได้เพราะปูชนีย์กับแสนเสน่ห์ที่มารู้จักกันในตอนแรกนั้น ต่างคนต่างมาปรึกษาเรื่องปัญหาความรัก ช่วยกันหาวิธีกระชับความสัมพันธ์ของตนกับแฟน และร่วมกันหาทางให้แฟนของแต่ละฝ่ายออกห่างจากแฟนตัวเอง แต่เมื่อเจอกันบ่อยขึ้นพอสนิทกันมากขึ้น ด้วยความที่ทั้งคู่มีอะไรเหมือนกันทั้งฐานะ สังคม ค่านิยม ทัศนคติ ที่ตรงกัน ก็กลายเป็นว่าทั้งคู่กลับเริ่มรู้ใจตัวเอง จึงเปิดโอกาสให้เขียวและจ๋อมได้เปิดใจต่อกัน กลายเป็นความสัมพันธ์วุ่นๆ ของ เขียว แสน จ๋อม และปูชนีย์ที่ความรักสลับคู่เหมือนบ้านที่สร้างผิดแบบ รอวันที่ใครสักคนจะรู้หัวใจตัวเองแล้วแก้ไขให้รักครั้งนี้ถูกต้องเสียที

นอกจากนั้นยังมีความรักสุดยียวนของ เข้ม (วรเวช ดานุวงศ์) สถาปนิกหนุ่มเพื่อนรุ่นพี่ศิลปากรของเขียวกับ เจน (อรจิรา แหลมวิไล) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสาวสวยผู้ตกงาน เข้มเป็นชายหนุ่มสุขนิยมที่ประกาศตัวกับเพื่อนอย่างหนักแน่นว่าขอปฏิญาณตนว่าชาตินี้จะไม่แต่งงานเด็ดขาด สมรสคือภาระ ส่วนเจนก็เป็นสาวสมัยใหม่ที่เรียนจบมาก็แต่งงานกับชายที่เธอรัก เมื่อมีลูกด้วยกันกลับมีเหตุให้ต้องเลิกรากับสามีกันไป ทำให้เจนต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว สามีที่รับปากว่าจะส่งเสียลูกแม้ว่าแยกทางกันกลับผิดสัญญา เธอปฏิญาณตนว่าจะเลี้ยง ก้อนหิน (อันดา อินทฤทธิ์) ลูกคนเดียว ไม่ของ้อผู้ชายอีกต่อไป ทั้ง 2 คนไม่มีอะไรเหมือนกันแม้แต่นิดเดียว ถ้าจะเหมือนกันก็คือทั้งคู่ไม่ต้องการชีวิตคู่ โชคชะตาฟ้าลิขิตให้เจนกับเข้มต้องมาอยู่ในบ้านติดกัน เมื่อเจนเลิกกับสามีต้องพาลูกมาเช่าบ้านเพื่อนสนิทที่อยู่ติดกับบ้านเข้ม เมื่อเริ่มแรกเจอกันความต่างทำให้ทั้งคู่ปะทะกัน อย่างดุเดือดสนุกสนาน แต่นานไปบ้านเจนมีเรื่องวุ่นวายให้เข้มต้องเข้าไปช่วยเหลือทั้งๆ ที่เจนไม่ต้องการอยู่บ่อยๆ ทำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันมากขึ้นและกลายเป็นความรักความเข้าใจ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นตรงที่ว่าเข้มเคยประกาศหนักแน่นว่าจะไม่มีชีวิตคู่ เขาจึงยังไม่กล้าแสดงออกเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจน ทำให้ความรักนี้ดูจะไม่ลงเอยง่ายๆ

และสุดท้ายคือ เหมียว (พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า) เพื่อนของจ๋อม กับ ทวน (อัครัฐ นิมิตรชัย) เพื่อนของเขียว เป็นเรื่องของคู่รักที่ตัดสินใจแต่งงานกันเร็วจนมีปัญหากันเนื่องจากศึกษากันไม่ดีพอ เริ่มจากปัญหาเล็กๆ เช่นการตกแต่งเรือนหอที่ต่างคนต่างมีรสนิยมที่ต่างกัน จนลามไปถึงปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้จ๋อมกับเขียวเพื่อนสนิทของทั้งคู่ ต้องมาร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาอยู่ทุกครั้งไป แต่สุดท้ายด้วยความรักของคนทั้งคู่ ทำให้เข้าใจได้ว่าบ้านไม่ใช่แค่ของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นบ้านที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นทั้งคู่จึงปรับตัวเข้าหากัน และช่วยกันสร้างเรือนหอที่ทั้งคู่พอใจและมีความสุขที่จะอยู่ร่วมกัน สุดท้ายแล้วความรักวุ่นๆ อบอวลความอบอุ่นของทั้ง 8 คน 4 คู่ จะลงเอยเช่นไร