ละคร หวานใจนายจิตระเบิด

ดู 3,201 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 30 เมษายน 2558
เวลาออกอากาศ 18:45 - 19:45 น.
  
กำกับโดย เฉิด ภักดีวิจิตร
ประพันธ์โดย ภูมิแผ่นดิน
นำแสดงโดย
พาทิศ พิสิฐกุล ... ธนา ราชวงศ์
ป่านทอทอง บุญทอง ... วิรงรอง
พูลภัทร อัตถปัญญาพล ... สมิธ
แพร เอมเมอรี่ ... แองจี้
วรรษพร วัฒนากุล ... ภารดี
ศิระ รัตนโภคาสถิต ... เจิด
กุมภ์ ทองพุทธรักษ์ ... โจอี้
เบนาซิต เพียรรักษ์ ... กรองแก้ว
อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา ... รันย่า/ศักดา นันต๊ะ
พีรวัชร์ เหราบัตย์ ... นล
วันชัย เผ่าวิบูลย์ ... ชาลี
นวลปรางค์ ตรีชิต ... นวลจิต
เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง ... เสียม/พงษ์พิพัฒน์ แซ่จึง
จรินทร์ พรหมรังสี ... ย้ง เยาวราช
จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ... ซ้ง
ดิเรก อมาตยกุล ... โส่ย
กฤษฏิ์ โมกขะสมิต ... แจ๊ค
ปวิน ชิณวงษ์ ... เพชร
จิลล์ โรเจอร์ ... เอรี่
มาริสา อานิต้า ... หมอแววตา
ชุมพร เทพพิทักษ์ ... ลุงจอร์น
ปนัดดา โกมารทัต ... หมอไอรีน
อมต อินทานนท์ ... อายัน
ผู้สร้าง บริษัท อาหลอง จูเนียร์ จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ หวานใจนายจิตระเบิด

ธนา (พาทิศ พิสิฐกุล) ทายาทคนเดียวของ กุ่ย ราชวงศ์ มาเฟียหนุ่มรุ่นสุดท้ายที่จะต้องสืบทอดกิจการของตระกูลต่อไป อย่างที่รู้กันดีว่านี่มันหมดยุคมาเฟียไปตั้ง 3 ถึง 40 ปีแล้ว จะต้องมาสืบทอดหาพระแสงอะไร นี่ก็เป็นความคิดที่ตรงกันของ ชาลี (วันชัย เผ่าวิบูลย์) ผู้เป็นอา ที่กำลังจะส่งต่ออำนาจให้หลาน เขาคิดจะมุ่งเข็มชีวิตสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการลงสมัคร สส. เพราะต้องการที่จะลงหลังเสือแบบมีอำนาจที่ถูกกฎหมายรองรับ เพื่อปลอดภัยจากมาเฟียคู่ปรับคือ แก๊งท่าน้ำดูเม็กซ์ มาเฟียที่ชื่อ พงษ์พิพัฒน์ แซ่จึง (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) หรือที่ชาลีชอบเรียกเขาว่า ไอ้เสียม ทั้งสองฝ่ายเป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด เสียมต้องการช่วงชิงความเป็นหนึ่ง กระทั่งวันหนึ่งชาลีได้ยกพวกไปเคลียร์กับเสียม แต่เคลียร์กันไม่ลงตัวจึงเกิดการตะลุมบอนกัน และในช่วงนี่เองที่ธนาได้พบกับ วิรงรอง (ป่านทอทอง บุญทอง) แต่มันเป็นการพบกันแบบไม่มีความประทับใจเลยเพราะว่าธนาไปทำสินค้าที่วิรงรองเอามาจัดแสดงพังหมด หลังจากนั้นธนาก็ขับรถไปช่วยแต่ก็ต้องพบกับอุบัติเหตุรถคว่ำ โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรเลยนอกจากรถพังยับและความจำเสื่อม ชาลีแทบจะคลั่งที่หลานชายสุดที่รักของเขากลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะจำเขาไม่ได้แล้ว ยังมาเรียกเขาว่าหมีแพนด้าอีก เขาจึงตัดสินใจเสี่ยงที่จะรักษาด้วยการใช้คลื่นไฟฟ้าช็อตสมองธนา การรักษาเป็นไปอย่างระมัดระวัง และในที่สุดธนาก็หายเกินปกติ

เช้าวันรุ่งขึ้นธนาก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง ท่ามกลางความดีใจของชาลี แต่มันมีสิ่งผิดปกติเกิดกับเขานั่นคือ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะคิดอะไร เขาจะได้ยินหมด ในตอนแรกเขารู้สึกรำคาญแต่ไม่นานนักเขาก็ชิน และถ้าไม่อยากได้ยินใครคิดก็อุดหูซะ สาเหตุมาจากการใช้คลื่นไฟฟ้าช็อตสมองมากไปนั่นเอง เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกให้ใครรู้นอกจากหมอที่รักษาเขาเท่านั้น ธนาเป็นมาเฟียที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชั้นสูง เขาได้มาดูเดินแบบแฟชั่นการกุศลและได้พบกับ รันย่า (อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา) นางแบบอาชีพที่มาร่วมเดินด้วย รันย่าเกิดหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ ธนาเองก็ถูกใจรันย่าเหมือนกันแต่ติดที่นิสัยบางอย่าง เช่น ความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นต้น แต่ธนาก็ลองคบไปก็ไม่น่าจะเสียหาย ทั้งๆ ที่ นล (พีรวัชร์ เหราบัตย์) นักแสดงและนายแบบหนุ่มก็กำลังเป็นแฟนกับรันย่าอยู่ กำลังจะหมั้นกันในไม่ช้า และมักมีข่าวซุบซิบทางหนังสือพิมพ์และทีวีเสมอ แต่รันย่าก็ไม่สนใจกับกระแสเหล่านี้ อีกทั้งรันย่าคิดว่าเธอก็มีสิทธิ์เลือก นี่เป็นข้อดีของเธอที่นลชอบ แต่ที่คาใจธนาอยู่ก็คือ ธนาไม่ได้ยินเสียงความคิดของรันย่า จนธนารู้สึกว่าตัวเองผิดปกติถึงขนาดต้องไปปรึกษาจิตแพทย์เลยทีเดียว ชาลีตั้งใจว่าจะต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียให้ธนาต่อไป ส่วนตัวเองคิดอยากทำสิ่งที่ชอบคือ การช่วยเหลือผู้อื่นแต่เป็นมาเฟียมันก็ช่วยได้ระดับหนึ่งแต่ถ้าเป็นตัวแทนประชาชนล่ะ เขาจึงเบนเข็มสู่วงการการเมืองด้วยการลงสมัคร สส. แต่มันมีกฎหมายบังคับไว้ว่าต้องจบปริญญาตรี ชาลีจึงต้องไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย โดยมีธนาเป็นผู้ปกครองและคนคอยรับส่ง รวมถึงต้องคอยเอาอาหารกลางวันไปส่งด้วย และปกปิดเรื่องการเป็นมาเฟียเอาไว้เพื่อป้องกันคนแตกตื่น

ที่มหาวิทยาลัยธนาได้พบกับ ภารดี (วรรษพร วัฒนากุล) อาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ แล้วนึกชอบ เขาอาศัยว่าเขาได้ยินความคิดของเธอจึงรู้ใจไปเสียทุกอย่าง เขาจึงตีสนิทและสร้างความสนิทสนมกับเธอได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกลายเป็นเพื่อนรู้ใจในเวลาต่อมา คนสวยก็ย่อมเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มเป็นธรรมดา โดยเฉพาะชาลีที่หลงรักภารดีตั้งแต่แรกพบ แต่ด้วยบุคลิกที่เป็นอาจารย์ทุกตารางนิ้วจึงไม่มีใครอยากจะมาพัวพันด้วย แม้ว่าภารดีจะเคร่งเครียดและดุไปหน่อยตามประสาอาจารย์ แต่ธนาก็พอใจที่จะคบและพยายามหาโอกาสบอกความจริงกับชาลีว่าภารดีไม่ได้ชอบชาลีเลย สำหรับวิรงรองแล้วการขายของและการพบลูกค้าเป็นอาชีพและหน้าที่ที่จะต้องทำทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เธออาศัยอยู่บ้านหลังเก่าๆ ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิตกับน้องสาวชื่อ กรองแก้ว (เบนาซิต เพียรรักษ์) ซึ่งนอกจากจะทิ้งบ้านเอาไว้ให้แล้วยังทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้อีกด้วย วิรงรองเอาของไปเสนอขายที่บ้านธนาแต่มีพวกลูกน้องกันไว้ วิรงรองไม่ยอมแพ้จึงใช้ความกะล่อน และ 18 มงกุฎจนลูกน้องหัวปั่นแล้วยอมให้ไปขายของ ธนากับวิรงรองได้พบกัน วิรงรองไม่ค่อยสนธนาเท่าไรเพราะดูภายนอกธนาก็เหมือนตี๋ฮ่องกงทั่วๆ ไป และที่สำคัญเธอคิดว่าเขาไม่รวย วิรงรองมักใช้ความกะล่อนหลอกผู้ชายไปเรื่อย แต่สำหรับธนาเธอใช้ไม่ได้ผล เพราะเขาได้ยินทุกอย่างที่เธอคิดจะทำกับเขา ทำให้วิรงรองตกหลุมรักธนาทันที มีแก๊งรุ่นพี่ปี 4 ชื่อ แจ๊ค (กฤษฏิ์ โมกขะสมิต) ที่มหาวิทยาลัย ที่ชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ มักจะมาล้อและรังแกชาลี ชาลีพยายามอดกลั้นและอดทน แต่ไม่ทนอด เขาพยายามไม่ยุ่งกับใครและไม่มีเพื่อน แต่กรองแก้วที่มาเรียนที่นี่เหมือนกันก็มาเป็นเพื่อนกับชาลี นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่ที่ชื่อ โจอี้ (กุมภ์ ทองพุทธรักษ์) ที่เป็นคนเงียบขรึม คอยช่วยดูแลแบบห่างๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วโจอี้ก็รู้สึกชอบกรองแก้วเหมือนกันแต่เก็บไว้ในใจ

ตอนกลางวันธนาจึงมีหน้าที่เอาอาหารมาส่งเหมือนเด็กอนุบาล นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ชาลีโดนล้อ ภารดีมาพบเข้าจึงเห็นใจและปกป้องชาลี เขาจึงนึกชอบภารดี จนวันหนึ่งความอดทนอดกลั้นหมดลงชาลีจึงมีเรื่องกับแจ๊ค จนมีการทำทัณฑ์บนและเรียกผู้ปกครองมาพบ ชาลีพาธนามา ภารดีตกใจมากที่ผู้ปกครองของชาลีเด็กกว่า และเป็นหลานอีกต่างหาก ชาลีบอกว่าเขามีกันสองคนอยู่บ้านเขาเป็นผู้ปกครองธนา แต่เวลาอยู่โรงเรียนธนาเป็นผู้ปกครองเขา วิรงรองพยายามเข้าหาธนาแต่ธนาก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไร เธอจึงใช้วิธีผ่านชาลีโดยการนำของมาขายให้ชาลีบ้าง ใช้วิธีตีสนิทอย่างอื่นบ้าง จนชาลีรู้สึกเอ็นดู แม้แต่ในวงการนางแบบวิรงรองก็สอดแทรกเข้าไปได้อย่างกลมกลืน ด้วยการนำเอาสินค้าประเภทสวยๆ งามๆ ส่งเสริมหุ่นให้สวยตลอดเวลา ฯลฯ จนรันย่ากลายเป็นลูกค้าชั้นดีของเธอภายในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับเรื่องรักวิรงรองก็มีคนมาจีบเหมือนกัน แต่เป็นลักษณะเพื่อนมากกว่า เขาผู้นั้นชื่อ เพชร (ปวิน ชิณวงษ์) เจ้าของมหาวิทยาลัยที่ภารดีสอนอยู่ เพชรเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุด ขนาดกรองแก้วน้องสาวของวิรงรองยังสนับสนุนเลย แต่ในใจวิรงรองคิดกับเพชรแค่เพื่อน ทางด้านวงการมาเฟียเสียมคิดการใหญ่ที่คิดจะฮุบวงการมาเฟียทั้งหมดให้เป็นของแก๊งตัวเอง เขาพยายามมาเจรจากับชาลี แต่ชาลีปฎิเสธ และบอกให้เลิกกิจการไปเลย เสียมไม่พอใจคิดว่าชาลีอยากจะควบรวมกิจการไว้คนเดียว จึงหาเรื่องส่งพวกมากวนบ่อยๆ หนักๆ เข้าก็ต้องมีต่อยตีกัน เดือดร้อนตำรวจต้องมาเคลียร์ทุกครั้งไป แต่งานหลังมันใหญ่มากจนต้องโอนคดีไปที่ดีเอสไอ เพราะมีรัฐมนตรีจีนคนหนึ่งเดินทางมาแล้วถูกดักทำร้าย ดีที่บังเอิญธนาช่วยเอาไว้ได้ เพราะการได้ยินเสียงผู้หญิงคิดนั่นเอง แต่ไม่มีใครเชื่อคิดว่าธนาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่สอบสวนแล้วไม่มีหลักฐานเขาจึงรอด ดีเอสไอจึงส่ง สมิธ (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) นักสืบมือดีมาติดตามคดีนี้ สมิธเกลียดมาเฟียเข้าไส้อยู่แล้วจึงกัดไม่ปล่อย นอกจากนี้ยังมาพัวพันเรื่องความรักสามเส้าของธนาอย่างชุลมุนไปหมด

สมิธเป็นนักสืบที่เก่งหล่อและคม จบหลักสูตรเอฟบีไอจากอเมริกา แต่เป็นคนประเภทรักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน จนวันหนึ่งเบื้องบนได้ส่งคู่หูมาให้เขาช่วยทำคดีนี้ แองจี้ (แพร เอมเมอรี่) คือชื่อของหล่อน หล่อนเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน ตำรวจ แองจี้จึงเรียกสมิธว่ารุ่นพี่ แองจี้เป็นคนติ๊งต๊องทำอะไรเป็นพลาดไปหมด แต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องกลับทำ สำเร็จทุกครั้ง เวลาทำอะไรพยายามจะให้รอบคอบ ทุกครั้งที่ซื้อของต้องขอใบเสร็จ ร้านข้าวแกงข้างทางก็ยังขอ เคยจับคนร้ายแล้วพลาดไปทำข้าวของเขาเสียหายจึงมีบิลมาแจ้งเก็บเป็นหางว่าว เธอหลงรักสมิธ แต่สมิธไม่ค่อยเล่นด้วย แต่บางครั้งเธอก็ทำให้ชีวิตสมิธสดชื่นขึ้นจนสมิธรู้สึก ธนาจะได้ยินความคิดของแองจี้ทุกครั้ง และรู้ว่าแองจี้แอบรักสมิธ ธนา จึงมักพูดเป็นนัยๆบ่อยๆ กับสมิธ ชื่อเสียงของมาฟียทั้งสองฝ่ายเริ่มเสียและเป็นที่จับตามองว่าเกเรและทำให้เสียชื่อประเทศ ทั้งคู่จึงร่วมมือกันชั่วคราวสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้ ธนากำลังมีความสุขกับสามสาวที่เขาต้องสับรางไม่ให้ชนกัน เพราะเขาได้ยินความคิดของแต่ละคนนั่นเอง ในคราวแรกสามสาวไม่รู้ว่าธนาคบสามคนพร้อมกัน มาภายหลังจึงรู้และพยายามหาทางช่วงชิงธนามาเป็นแฟนโดยใช้วิธีตามรูปแบบของตัวเอง คนกะล่อนก็ใช้ความกะล่อน คนสวยก็ใช้ความสวยและมารยา ส่วนคนเป็นอาจารย์ก็ใช้ความสุมขุมและความฉลาดบวกวิชาการ

แต่คนที่ธนาสนใจที่สุดก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยเลิศเลอสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญคือรู้ใจผู้ชายทุกอย่างนั่นคือรันย่า และชื่อนี้ทำให้ธนาต้องจดจำไปตลอดชีวิต ทั้งคู่พอใจและคบกันไปพักหนึ่งซึ่งสิ่งที่ทำให้ธนาไม่เบื่อก็คือเขาต้องค้นหาตัวเธอตลอดเวลา เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่ได้ยินความคิดของเธอ อีกทั้งเธอเป็นคนใจกว้างทั้งที่รู้ว่ามีผู้หญิงมาพัวพันถึงสองคน จนในที่สุดธนาก็รู้ความจริงว่าทำไมเขาไม่ได้ยินความคิดของรันย่า ทำไมรันย่าถึงเข้าใจผู้ชายทุกอย่างก็เพราะเธอเป็นผู้ชาย เคยเป็นมิสทิฟฟานี่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว แล้วย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่อเมริกา ในบัตรประชาชนระบุว่าชื่อ นายศักดา นันต๊ะ (อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา) ทั้งคู่จึงต้องจบความสัมพันธ์แบบชู้สาว มาเป็นชู้ทางใจแทน เพราะมันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้ และคนที่เหมาะสมกับเธอที่สุดก็คือนล เพราะนลเป็นเกย์ บางทีสิ่งที่อยากได้ยินได้รับรู้เรื่องคนอื่นมันกลับไม่ได้ยิน แต่สิ่งที่ไม่อยากได้ยินได้ฟัง มันกลับได้ยินชัดเจน ชัดพอที่จะทำให้ธนารู้สึกว่าอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ธนาได้เปรียบผู้หญิงพวกนี้เพราะเขาได้ยินสิ่งที่พวกเธอคิด แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับไม่ได้ยินซะอย่างนั้น มันกลายเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับเขาไปซะแล้ว เขาไปปรึกษา หมอแววตา (มาริสา อานิต้า) หมอจิตแพทย์ที่รักษาเขา หมอแววตาบอกว่าถ้าทดลองใช้ไฟฟ้าช็อตอาจจะกลับมา แต่มันกลับมาไม่กี่นาทีแล้วก็หายไป ธนาแก้ไขด้วยการพกเครื่องช็อตไฟฟ้าติดตัวตลอดเวลา ทำให้เขาสามารถควบคุมการได้ยินความคิดของผู้หญิงได้ วันที่เขาจำเป็นต้องใช้มันช็อตตัวเองเพื่อที่จะได้ยินความคิดของรันย่า แบตเตอรี่เครื่องช็อตเกิดหมด เขารู้สึกมืดแปดด้านแล้วทำอะไรไม่ถูกต้อง ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ในที่สุดธนาก็ได้รับการรักษาจนหายเขาไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงอีกแล้ว แต่คราวนี้เขากลับได้ยินเสียงผู้ชายแทน ยุ่งไปกันใหญ่เลย และชาลีก็รู้เรืองนี้ในที่สุด

ย้ง เยาวราช (จรินทร์ พรหมรังสี) คู่แค้นเก่าของพ่อของธนาออกจากคุก และต้องการมาล้างแค้นจึงร่วมมือกับเสียม กวาดล้าง แก๊งของธนาและชาลี ทั้งหมดได้ต่อสู้กันจนในที่สุด แก๊งของธนาก็ยังอยู่ แต่มันกำลังจะสลายไป เมื่อชาลีเรียนจบ การที่เป็นคนพิเศษกว่าคนอื่นมันอาจจะได้เปรียบ จนกลายเป็นการเอาเปรียบไป แต่บางครั้งเขา อาจจะไม่รู้ความจริงสักอย่างเลยนั่นก็คือใจของตัวเอง รันย่า ภารดี และวิรงรอง ใครกันแน่ที่เขารักจริงๆ วันหนึ่งธนาก็ได้รับการรักษาจนเป็นเหมือนคนปกติเขาไม่ได้ยินใครคิดอีกแล้ว สิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบก็คือแม้ว่าเขาจะได้ยินเสียงผู้หญิงคิด แต่ไม่มีใครสักคนที่คิดตรงกับปากและการกระทำ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นคือวิรงรอง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงคิดของวิรงรองอีกแล้วแต่เขาก็มั่นใจว่าวิรงรองคือคนที่ใช่สำหรับเขา ส่วนวิรงรองเองก็รู้ว่าเธอรักเขาอยู่เต็มหัวใจ