ละคร แม่ดอกรักเร่

ดู 4,197 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 29 กรกฎาคม 2558
เวลาออกอากาศ 18:35 - 19:45 น.
  
กำกับโดย ชาญชัย สวัสดิวิชัยกุล
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ แสงเพชร เสนีย์บดินทร์, บทโทรทัศน์ ทองเอก
นำแสดงโดย
ปิยพันธ์ ขำกฤษ ... กรณ์เทพ
อาภา ภาวิไล ... บัวตอง
ธีรภัทร์ แย้มศรี ... ทองดี
จุฑามาศ มันตะลัมพะ ... พอลล่า/พรหล้า
ปาลิตา โกศลศักดิ์ ... นวลอนงค์
ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล ... อาวุธ
พชรพล ศุขอร่าม ... เบ๊นซ์
อุทุมพร ศิลาพันธ์ ... ป้าพลอย
สุเมธ องอาจ ... เฮียช้าง
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ ... เจ้าสัวสมโชค
ไปรมา รัชตะ ... เจ้าแม่ไผ่แก้ว
ราตรี วิทวัส ... เจ๊พริ้ง
ปราบ ยุทธพิชัย ... เชฟหอย
น้อย โพธิ์งาม ... ป้าเม้าท์
อาภาพร นครสวรรค์ ... นิดหน่อย
เทพ โพธิ์งาม ... เจ้าที่
ชูศรี เชิญยิ้ม ... ฉลอง
ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี ... ใบพาย
เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรตม์ ... ลิ้นจี่
เทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์ ... จ๊อด
ตูมตาม เชิญยิ้ม ... บุญช่วย
ดิสรยา เตชะไพบูลย์ ... หน่อไม้
กฤตไน เลาหปราสาท ... คิงคอง
มหัศจรรย์ มาตศรี ... ดวง/ดวงดี นาดอน
เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง ... ตาเอิบ
วรารัตน์ เทพโสธร ... ยุภา
หนุงหนิง สีหราช ... รปภ.นุ้ย
ผู้สร้าง บริษัท เค.เอ.เอ็น. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ แม่ดอกรักเร่

บัวตอง (อาภา ภาวิไล) สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 ปี เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ยังไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วย ยุภา (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของเธอทำนา แต่แล้วเกิดปัญหาดินเสียที่นาไม่ได้ผลผลิต จนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะกู้หนี้ยืมสินจาก ตาเอิบ (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เศรษฐีเงินกู้จอมโกงและยังหัวงูเป็นที่สุด ตาเอิบจ้องจะงาบบัวตองมานาน จึงตั้งใจปล่อยกู้ให้ยุภาทำนา แล้วลอบโรยสารเคมีทำให้ดินเสียจนปลูกข้าวไม่ได้ และเมื่อเห็นว่ายุภากับบัวตองหมดปัญญาใช้หนี้ ตาเอิบก็ยื่นข้อเสนอทันทีว่าถ้ายุภายกบัวตองให้เป็นเมียตนก็จะยินยอมยกหนี้พร้อมดอกเบี้ยร่วมห้าแสนให้ มิฉะนั้นจะยึดที่นาทำกินแห่งนี้ ยุภาสอนบัวตองมาแต่เกิดให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดี ไม่มีวันที่ยุภาจะยอมให้บัวตองทำสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ บัวตองเลยประเคนผ่าหมากตาเอิบให้ทีหนึ่ง ก่อนจะลั่นวาจาว่าจะขอเวลา 3 เดือน หาเงินมาใช้หนี้ตาเอิบให้ได้ ดวง (มหัศจรรย์ มาตศรี) หนุ่มหล่อผู้เป็นคนรักของบัวตองกำลังขับร้องเพลงลูกทุ่งในชุดเสื้อสูทผูกหูกระต่ายหล่อเหลามีมาลัยเต็มคอ แต่ความจริงแล้วดวงร้องเพลงอยู่บนแคร่ข้างกองฟาง ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขาวม้า คนดูที่ดวงยื่นไมโครโฟนให้ จริงๆ คือควายที่บัวตองจูงมากินหญ้า มีเพียงบัวตองที่ยังคอยให้กำลังใจดวง บัวตองเจอข่าวค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ซาวด์สยาม กำลังจัดโครงการค้นหานักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งดวงใหม่ จึงยุให้ดวงเดินทางจากตำบลบ้านนาดอนแห่งนี้ เพื่อมุ่งหน้าตามล่าฝันในเมืองกรุงไปพร้อมกับเธอ ที่ตั้งใจจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เหมือนกัน ดวงมีความทะเยอทะยานอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งอย่างแรงกล้า จึงรีบตกลงปลงใจทันที

ดวงกับบัวตองจึงหิ้วกระเป๋ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่ที่ขนส่ง เพราะระหว่างที่ดวงไปเข้าห้องน้ำ บัวตองถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าไป บัวตองร้องให้ช่วย บัวตองเดินริมบาทวิถีอย่างไร้จุดหมาย เพราะกระเป๋าสตางค์ดันอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบนั้น แต่เมืองกรุงก็ยังมีคนดีพี่แท็กซี่นายหนึ่งเห็นบัวตองเดินปาดน้ำตาก็รีบอาสาพาไปส่งที่บริษัท ซาวด์สยาม แต่ดันพามุดเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อฉุดเข้าป่าหญ้าข้างทางจะปลุกปล้ำ บัวตองสู้สุดชีวิต ถีบข่วน กัด แต่ก็สู้แรงผู้ชายหื่นๆ ไม่ได้ แต่สวรรค์ยังเห็นใจ เมื่อ กรณ์เทพ (ปิยพันธ์ ขำกฤษ) หนุ่มเซลล์แมนขายเครื่องดับเพลิงเดินมาพอดี กรณ์เทพต่อสู้ปกป้องบัวตองอย่างไม่เกรงกลัว ในขณะที่ดวงไปที่บริษัทซาวด์สยาม และได้พบกับ นวลอนงค์ (ปาลิตา โกศลศักดิ์) คุณหนูสวยเปรี้ยว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เฮียช้าง (สุเมธ องอาจ) เจ้าของบริษัทค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดังแห่งนี้ นวลอนงค์เห็นความหล่อเข้มของดวงก็แทบใจละลาย ในการร้องรอบคัดเลือกนักร้องเข้าสังกัดที่เฮียช้างมานั่งเป็นกรรมการเอง เฮียช้างจะไม่ให้ผ่าน แต่นวลอนงค์ดุให้พ่อรีบเปลี่ยนใจ เฮียช้างที่ดุเป็นมาเฟียในวงการเพลงลูกทุ่งก็ยังต้องยอมแพ้ลูกสาว ดวงคิดว่าบัวตองที่คลาดกันไป คงจะรีบมาหาเขาที่นี่ จึงนั่งรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ จนหลับคาเก้าอี้ไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนเลิกงาน รปภ.นุ้ย (หนุงหนิง สีหราช) มาปิดประตูบริษัทขังดวงไว้โดยไม่รู้ตัว

กรณ์เทพพาบัวตองไปที่ค่ายเพลงซาวด์สยาม แต่ก็พบว่าประตูบริษัทปิดไปแล้ว ไปยืนด้อมๆ มองๆ ก็โดนรปภ.นุ้ยตะเพิดออกมา กรณ์เทพรู้ว่าบัวตองไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็พาไปพักที่บ้านบอกว่าตนพักกับแม่ บัวตองจึงยอมไป แต่พอถึงหน้าประตูบ้านกลับกลายเป็นว่ามีสองหนุ่มมาเปิดประตูบ้าน บัวตองจินตนาการไปถึงว่าสามหนุ่มเป็นพวกจิตทรามใช้กำลังฉุดจะรุมโทรมเธอ ก่อนจะสะดุ้งจากจินตนาการ เพราะทั้งสองแสดงท่าทีสุภาพและเป็นมิตร สองหนุ่มก็คือ ทองดี (ธีรภัทร์ แย้มศรี) ที่ดูจะมีอายุมากกว่าอีกสองหนุ่ม เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร และมีรถประจำตำแหน่งด้วย อีกคนคือ เบ๊นซ์ (พชรพล ศุขอร่าม) หนุ่มหน้าหยกที่แนะนำตัวเองว่าเป็นนักแสดงที่รับบทพระเอกมาแล้ว เบ๊นซ์ท่าทางกรุ้มกริ่มปากหวาน เห็นว่าบัวตองสวย น่ารัก ก็ทำท่าจะจีบ กรณ์เทพต้องด่าเอาว่า บัวตองมีแฟนแล้ว และแค่มาพักคืนสองคืน พอเจอแฟนที่ชื่อดวงแล้วก็จะกลับ คืนนั้นสามหนุ่มคึกคัก ทำตัวหล่อกันเป็นพิเศษ เพราะร้อยวันพันปี จะมีผู้หญิงสวยๆ มาค้างคืนอยู่ร่วมชายคาสักครั้ง ป้าพลอย (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของกรณ์เทพ เป็นคนปากจัดใจดี เห็นบัวตองก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกเด็กใจแตก หนีตามแฟนเข้าเมืองกรุง แต่พอได้คุยกันก็กลับกลายเป็นรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาแทน เพราะความใสซื่อไร้จริตของบัวตอง

รุ่งเช้านวลอนงค์มาที่บริษัทแล้วพบ ดวงที่นอนหลับอยู่ ก็ต่อว่า รปภ.นุ้ยซะยับ ดวงเล่าเรื่องของตัวเองกับบัวตองให้นวลอนงค์ฟัง วันนั้นในห้องอัดนักร้องที่นัดไว้เกิดหวัดลงคอร้องเพลงไม่ได้ นวลอนงค์จึงให้ดวงร้องเสียบแทนไปซะเลย พอเข้าห้องอัดดวงก็ทำได้ดีมาก จนเฮียช้างถึงกับออกปากว่าตามประสบการณ์ที่ทำค่ายเพลงลูกทุ่งมาหลายสิบปีขอบอกว่าดวงคือนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็น พร้อมตั้งชื่อให้ว่า ดวงดี นาดอน (มหัศจรรย์ มาตศรี) นวลอนงค์ยิ่งเห็นรัศมีนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ก็ยิ่งหลงใหลในตัวดวง เมื่อบัวตองมาถามหาดวงที่บริษัทอีกครั้งนวลอนงค์รับหน้าพอดี เลยโกหกว่าดวงไม่ผ่านการคัดเลือกและคงกลับต่างจังหวัดไปแล้ว บัวตองเสียใจคิดว่าหาเงินได้ครบห้าแสนเมื่อไรค่อยกลับไปหาดวง ใบพาย (ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) กับ ลิ้นจี่ (เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรตม์) สองสาวหางเครื่องประจำวงได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ใบพายเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด คอยประจบสนับสนุนนวลอนงค์ ในขณะที่ลิ้นจี่จะรักความถูกต้อง รู้สึกสงสารและลั่นไว้ว่าวันหนึ่งจะบอกความจริงให้ดวงฟัง บัวตองเริ่มสนิทสนมกับกรณ์เทพมากขึ้น และยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนในชุมชนแจ่มใจ ชุมชนที่รวบรวมคนที่จนเงิน แต่ไม่จนน้ำใจ แต่ทุกคนก็แสบก็ร้ายไม่ธรรมดา ตั้งแต่ เจ๊พริ้ง (ราตรี วิทวัส) เจ้าของร้านเสริมสวยที่มีบริการนวดเท้าในร้าน ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมขาเม้าท์ประจำชุมชน เจ๊พริ้งมีลูกมืออีกคนคือ พอลล่า (จุฑามาศ มันตะลัมพะ) ที่มีชื่อตามบัตรประชาชนว่า พรหล้า ซึ่งเป็นหลานสาวของเจ๊พริ้ง ที่เพิ่งมาเริ่มหัดวิชาเสริมสวย และมักจะทำผมให้ลูกค้าเจ๊ง เตลิดเปิดเปิง อยู่บ่อยๆ แต่ก็เป็นที่หมายปองของทองดีที่ชอบแวะมาแทะเล็มบ่อยๆ อีกมุมของชุมชนมีสำนักเจ้าแม่ของ เจ้าแม่ไผ่แก้ว (ไปรมา รัชตะ) ที่รับดูหมอ สะเดาะเคราะห์ ใบ้หวย ดูฤกษ์ยาม หรืออะไรก็ตามที่ได้เงิน เจ้าแม่ไผ่แก้วเป็นคนกะล่อน หาเลี้ยงชีพปากกัดตีนถีบ อาศัยรู้จริงตามตำราโหราศาสตร์มาบ้าง แต่ส่วนมากมักจะมั่ว โดนจับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ที่หลอกเงินชาวบ้านก็เพราะต้องเลี้ยงดู หน่อไม้ (ดิสรยา เตชะไพบูลย์) ลูกสาววัยสิบขวบที่ฉลาด ฉาดฉาน ช่างถาม แก่นแก้ว แต่ก็มีความน่ารักสมวัย ส่วนทองดีที่อวดว่าตนเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครมีรถประจำตำแหน่ง บัวตองก็ได้พบความจริงที่ทองดีมากับรถขยะ เป็นพนักงานขนขยะของกรุงเทพมหานครนั่นเอง

บัวตองพยายามตระเวนสมัครงาน แต่ก็ไม่มีใครรับเลย เพราะคุณสมบัติที่เรียนจบแค่มัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงหางานดีๆ ได้ยากเหลือเกิน จนเริ่มคิดว่าอาจจะต้องทำงานแบบใช้แรงงานหาเงินประทังชีวิตไปก่อน โดยมี กรณ์เทพ ทองดี และเบ๊นซ์ คอยช่วยให้กำลังใจ ทองดีนั้นอาศัยอ่านหนังสือที่คนทิ้งขยะมากมายจึงเป็นคนที่มีคำคม คำสอนใจมาให้กำลังใจบ่อยๆ ส่วนนายเบ๊นซ์ก็คอยกะล่อน เล่นมุกแซวให้บัวตองยิ้มได้ และเมื่อบัวตองเศร้าเรื่องของดวงเหมือนคนอกหักก็จะได้กรณ์เทพที่คอยดูแลหัวใจให้เป็นอย่างดี เฮียช้างนั้นนอกจากจะเป็นเจ้าของค่ายเพลงผู้ทรงอิทธิพลในวงการลูกทุ่งแล้ว ยังเป็นเจ้าของที่ดินเกือบทั้งหมดในละแวกชุมชนแจ่มใจ แม้แต่บ้านของกรณ์เทพก็เป็นบ้านเช่าของเฮียช้างเช่นกัน โดยเฮียช้างมอบหมายให้ อาวุธ (ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล) ลูกคนโตจอมกร่างเป็นคนเก็บค่าเช่าบ้าน พื้นที่ค้าขาย ดูแลผลประโยชน์ในพื้นที่นี้ โดยมี จ๊อด (เทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์) เป็นลูกสมุนคู่ใจ เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะจีบบัวตองให้ได้ เพลงของดวงเริ่มดังและขายดี นวลอนงค์จึงยื่นข้อเสนอให้ดวงว่าถ้าอยากจะดังเป็นนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งพุ่งแรงตัวจริง และได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มกับบริษัท มีเงินเดือนและที่พักหรู มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือให้เลิกกับแฟนอย่างเด็ดขาด ดวงหน้ามืดใฝ่ฝันอยากดังจึงตอบรับทันที กรณ์เทพพาบัวตองไปตระเวนสมัครงาน แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนรับ บัวตองจึงแอบไปสมัครงานก่อสร้าง คอยแบกปูน แต่ก็พลาดพลั้งไปเทปูนหล่อติดเอาหัวหน้าช่างติดพื้นปูนไปครึ่งแข้ง โดนตะเพิดออกมา บัวตองท้อใจ คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาเงินใช้หนี้

ระหว่างนั้นกรณ์เทพโหมทำงานหนัก พยายามขยันขายเครื่องดับเพลิงให้มากขึ้นเพื่อค่าคอมมิชชั่น และยังรับทำงานกะดึกด้วยการเป็นรปภ.หมู่บ้านใกล้ๆ จับพลัดจับผลูไปช่วยจับโจรที่กำลังจะปล้นบ้านของ เจ้าสัวสมโชค (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) อภิอัครมหาเศรษฐีจากตระกูลที่เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าสัวจึงตบรางวัลให้อย่างงาม เพื่อเป็นการตอบแทนความดีของกรณ์เทพ แต่การทำงานทั้งกะดึกกะกลางวัน ก็หนักหนาเกินกำลัง จนกรณ์เทพต้องเลิกทำงานเป็นรปภ.หมู่บ้าน ที่ทำเลติดถนนใหญ่ของชุมชนแจ่มใจที่จะมีผู้คนพลุกพล่าน เป็นทำเลที่ดีของร้านอาหารการกิน มีร้านขายอาหารตามสั่งของ เชฟหอย (ปราบ ยุทธพิชัย) ที่ชอบคุยโม้ว่าตนคือเชฟระดับเชฟกระทะเหล็ก ที่อนาคตจะต้องมีภัตตาคารหรูเป็นของตนเอง ร้านเชฟหอยขายดีเพราะอร่อยและมีอยู่ร้านเดียว และมี คิงคอง (กฤตไน เลาหปราสาท) ลูกชายวัย 11 ขวบ เป็นคู่ซี้คู่ทะเลาะของหน่อไม้ ลูกเจ้าแม่ไผ่แก้ว คอยเป็นผู้ช่วย คิงคองจะคอยช่วยพ่อเสิร์ฟ ช่วยล้างถ้วยชาม ทำงานสารพัดเกินวัย จนกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างกร้านโลก แก่แดดกว่าหน่อไม้ กรณ์เทพกับบัวตองมานั่งกินข้าวที่นี่ เห็นร้านติดกันติดป้ายให้เช่า ก็เกิดความคิดว่านอกจากอาหารตามสั่งแล้ว ชุมชนละแวกนี้ยังไม่มีใครทำข้าวมันไก่ขาย แต่ถ้าบัวตองไปฝึกและขอสูตรจากป้าพลอยแม่ของตนก็น่าจะเปิดร้านขายข้าวมันไก่ได้ บัวตองจึงรีบไปกราบคารวะขอเป็นลูกศิษย์ป้าพลอย จนในที่สุดด้วยนิสัยสู้ยิบตาไม่มีถอยของบัวตองทำให้เธอสามารถทำได้

วันหนึ่งรถยนต์หรูของเจ้าสัวสมโชคดันมาเครื่องยนต์ดับอยู่แถวชุมชนแจ่มใจ เจ้าสัวได้เจอหน้ากรณ์เทพก็จำได้ที่กรณ์เทพเคยช่วยไว้จากโจรที่ปล้นบ้านเจ้าสัว กรณ์เทพยังช่วยดูเครื่องยนต์ให้ ปรากฏว่าเป็นความสะเพร่าของ นายบุญช่วย (ตูมตาม เชิญยิ้ม) คนขับรถที่ดันลืมเติมน้ำมันซะเอง เจ้าสัวด่าบุญช่วยยกใหญ่ ก่อนจะบ่นว่าหิว กรณ์เทพจึงรีบอาสาพาไปกินข้าวมันไก่ของบัวตอง เพียงชิมน้ำซุปคำแรกเจ้าสัวสมโชคก็น้ำตาไหลพรั่งพรู เพ้อว่านี่คือรสมือของอดีตเมียเสี่ยคนเก่าก่อนที่เสี่ยรักฝังใจไม่เคยลืม หลังจากนั้นเจ้าสัวสมโชคจะแวะเวียนมากินข้าวมันไก่อีกครั้ง เจ้าสัวสอบถามบัวตองว่าไปได้สูตรน้ำซุปไก่แบบนี้มาจากไหน ขอร้องให้พาไปพบเจ้าของสูตรนั้น บัวตองกับกรณ์เทพพาเจ้าสัวสมโชคไปพบกับป้าพลอย ทันทีที่ทั้งสองพบกันก็ต่างโผเข้าสวมกอดร้องห่มร้องไห้ กรณ์เทพถึงกะอึ้งที่ป้าพลอยบอกให้เรียกเจ้าสัวว่า พ่อ เห็นเด็กๆ งง เจ้าสัวสมโชคจึงเล่าย้อนอดีตให้ฟัง ป้าพลอยจึงเล่าต่อว่าที่ตนหายไปนั้นเพราะพ่อแม่ของเจ้าสัวสมโชคบุกมาเจรจาข่มขู่ว่าถ้าไม่หนีออกไปจากชีวิตของสมโชคจะจ้างมือปืนมาเก็บ เจ้าสัวสมโชคคุกเข่าขอโทษพร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะเลี้ยงดูทุกคนอย่างดี แต่ป้าพลอยปฏิเสธทันที พร้อมสั่งให้กรณ์เทพห้ามรับเงินทองจากสมโชคเพราะไม่อยากให้ทางบ้านสมโชคดูถูกเอาได้ ในงานเลี้ยงเปิดตลาดนัดมีงานประกวดเทพีชุมชนแจ่มใจ กรณ์เทพได้เห็นบัวตองใส่ชุดสวย แต่งหน้าทำผมเผ้าสวยหยาดเยิ้มขึ้นประกวดบนเวที โดยมีพอลล่า ใบพาย ลิ้นจี่ มาร่วมประกวดด้วยและแน่นอนผู้ชนะคือบัวตอง คืนนั้นกรณ์เทพรู้สึกความรักแน่นคับอก จนต้องระบายออก เขาตัดสินใจบอกรักบัวตอง บัวตองไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ พูดแต่เพียงว่าขอจัดการเคลียร์หนี้ของแม่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาว่ากันใหม่

บัวตองถึงกับสับสน แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของดวง ที่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเธอไปเลย บัวตองก็ใจอ่อน ตอบรับรักจากดวง ที่พอรู้สาเหตุว่าบัวตองไม่ได้ตั้งใจทิ้งตนไป ก็ขอร้องบัวตองให้มาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับเขาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็เริ่มมีฐานะพอตั้งตัว และคิดสร้างครอบครัวในอนาคตได้ ทำเอากรณ์เทพถึงกับอกหักหัวใจสลาย เป็นที่น่าสงสาร จนทองดีและเบ๊นซ์ ต้องคอยเฝ้าปลอบใจ บัวตองรู้ตัวแล้วในนาทีนี้ว่าใครกันแน่ที่ดีกับเธอ และเห็นความสำคัญของเธอจริงๆ บัวตองรีบตรงไปหากรณ์เทพ แต่ก็พบว่าสายไปเสียแล้ว เพราะทองดีกับเบ๊นซ์เล่าให้ฟังว่า กรณ์เทพหลบไปเลียแผลใจ และสั่งทองดีกับเบ๊นซ์ไว้ว่าห้ามบอกบัวตองว่าเขาหายไปไหน เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าบัวตองอีกให้เจ็บปวดใจ บัวตองเสียใจแต่ก็ต้องยอมรับเพราะตนเป็นฝ่ายทิ้งกรณ์เทพให้เจ็บก่อนจริงๆ บัวตองเก็บร้านขายข้าวมันไก่ จะย้ายกลับไปที่ตำบลบ้านนาดอนบ้านเกิดของตน บัวตองกลับไปเจอยุภาแม่ของตนก็สารภาพว่าหาเงินได้ไม่ครบห้าแสน มีอยู่เพียงแค่แสนห้า ตาเอิบเห็นบัวตองกลับมาก็ตามมากะลิ้มกะเหลี่ยทำท่าหัวงูอีก ยุภาเลยบอกให้บัวตองเตะผ่าหมากสั่งสอนเสี่ยซะ พร้อมบอกว่าตนเคลียร์หนี้ตาเอิบไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก บัวตองงงว่าแม่เอาเงินจากไหน ยุภาก็งงเพราะได้เงินจากที่บัวตองส่งมา บัวตองนึกย้อนแล้วรู้ทันทีว่ากรณ์เทพเป็นคนส่งมาแน่ๆ เพราะกรณ์เทพเล่าว่าเคยทำงานพิเศษ เคยทำงานหนักสารพัด เคยได้รับเงินเป็นน้ำใจที่ช่วยให้เจ้าสัวสมโชครอดจากเงื้อมมือโจร บัวตองเพิ่งรู้ว่าเงินทั้งหมดนี้เป็นความช่วยเหลือจากกรณ์เทพนั่นเอง บัวตองรีบกลับไปกรุงเทพฯ อีกครั้ง เธออธิบายให้ทองดีและเบ๊นซ์เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด พร้อมขอร้องให้บอกเธอว่ากรณ์เทพหนีไปอยู่ที่ไหน ทั้งสองจึงตกลงว่าจะพาไป โดยมีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ที่นายบุญช่วยขับมาช่วยอำนวยความสะดวกถึงที่ เรื่องราวของบัวทองและ กรณ์เทพจะลงเอยอย่างไร