SIAMZONE.COM

ผู้กำกับการแสดง สักกะ จารุจินดา ร่วมงานอีกครั้งกับ สุภาว์ เทวกุล นักเขียนบทคู่ใจตั้งแต่สมัยทำงานกำกับละครโทรทัศน์ หยิบเอาบทประพันธ์อมตะอิงประวัติศาสตร์ ขุนศึก ของไม้เมืองเดิมมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่เน้นให้เห็นถึงความรักระหว่างสามัญชนกับหญิงสาวชาววัง อีกทั้งยังผสมผสานกระแสความรักชาติตามยุคสมัยเข้าไปด้วย

ดาราร่วมแสดงก็คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับผู้กำกับ สมบัติ เมทะนี แสดงเป็นเสมาช่างตีดาบ นัยนา ชีวานันท์ แสดงเป็นแม่หญิงเรไร มานพ อัศวเทพ แสดงเป็นหัวหมู่ขัน ผู้มีหัวใจเต็มไปด้วยความริษยา ธัญญรัตน์ โลหนันท์ แสดงเป็นจำเรียงน้องสาวเสมา สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ แสดงเป็นขุนรามเดชะ บิดาของเรไร ดวงใจ หทัยกาญจน์ แสดงเป็นแม่หญิงดวงแข น้องหมู่ขัน ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็นแตน สาวชาวบ้าน สายัณห์ จันทรวิบูลย์ แสดงเป็นสมบุญ คู่หูคู่ฮากับ จีรศักดิ์ ปิ่นสุวรรณที่แสดงเป็นสิงห์

ภาพยนตร์ย้อนกลับไปใช้กรุงศรีอยุธยายุคหลังสมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพ เมื่อปี 2127 เป็นฉาก เสมาหนุ่มชาวบ้านช่างตีดาบ ได้รับราชการเป็นทหารสมใจกับในกองทัพสมเด็จพระนเรศวร โดยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของขุนรามเดชะปลดทัพ 6 เหล่า บิดาของหญิงเรไรสาวชาววังที่เสมาหมายปอง

ยิ่งวันความขัดแย้งระหว่างเสมากับหัวหมู่ขันครูฝึกดาบ ผู้มีหัวใจอิจฉาริษยาของขุนรามเดชะ ก็ยิ่งบานปลายมากขึ้น เพราะไม่เพียงจะเอาชนะหัวหมู่ขันทางด้านฝีมือดาบเท่านั้น เสมายังเอาชนะหัวใจเรไรที่หัวหมู่ขันหมายปองอีกด้วย

ต่อมาหัวหมู่ขันย้ายไปเป็นพันฤทธิ์ทหารล้อมวัง เช่นเดียวกับเสมาที่ขยับขึ้นไปเป็นครูฝึกทหารแทน ก่อนที่จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันสังกัดออกญากลาโหม แต่ก่อนไปกินตำแหน่ง เสมาก่อเรื่อง แอบลอบพบแม่หญิงเรไร ถูกขุนรามเดชะจับได้ เกิดวิวาทกับพันฤทธิ์ สถานการณ์บังคับให้เสมาต้องหนีอาญาไปอาศัยกับพระคงที่วัดป่า แขวงเมืองสุพรรณ ขณะที่พันฤทธิ์ยังคงคุมแค้น จับจำเรียงน้องสาวของเสมาไปเป็นทาสขัดดอก

เมื่อฤดูแล้งมาถึง กองทัพกรุงหงสาวดียกไพร่พลรุกรานอยุธยาอีกครั้ง ชายไทยทุกคนต้องจับดาบต่อสู้กับอริราชศัตรู แม้ความคุมแค้นส่วนตัวยังคงร้อนรุ่มคุโชนก็ตาม

ขุนศึกเป็นผลงานของผู้สร้างภาพยนตร์ตระกูลจารุจินดา เพราะนอกจากจะมี สักกะ จารุจินดา เป็นผู้กำกับการแสดงแล้ว ยังได้ สุพจน์ จารุจินดา มาเป็นคนออกแบบสร้างฉาก และ ณรงค์ จารุจินดา รับผิดชอบงานด้านลำดับภาพอีกด้วย

When Ayutthaya was sacked by the Burmese, King Naraesuan and Prince Eka Tosarot regrouped the royal army and seized the city of Klang as a new stronghold. There, a son of a local blacksmith join the army but is forced to flee into the jungle after a row with his captain. He joins another group of soldiers and fights bravely to ward off the enemy troops.