วิจารณ์ ขังแปด

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 18 เม.ย. 47 00:18

    ผมดูจบแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ตัวเองของเรื่อง รู้จักกับกลุ่มโสเภณีอิสระได้อย่างไร
    งงครับ ใครตอบได้ช่วยตอบที

  • เมื่อ 29 ก.ย. 46 15:02

    ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลักษณะสัจจะนิยายหรือสารนิยาย โดย ดาวไสว ไพจิตร ในลักษณะที่เปิดโปงชีวิตตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่บทนำที่เกริ่นถึงสาเหตุที่ทำให้ติดคุกในคดีฆ่าคนรัก ไปจนถึงบทสุดท้ายในวันที่ได้อิสรภาพ สะท้อนชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่อนาคตดับวูบลงเพราะรักเป็นพิษ

    อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างผิดประเด็นไปจากหนังสือพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณพ่อหรือทนาย ฉากรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในคุกที่เห็นจากตัวอย่างภาพยนตร์ ก็ไม่ปรากฏในหนังสือแต่อย่างใด การนำโครงเรื่องจากเรื่องสั้น วันเวลาของกระหรี่คนหนึ่ง มาผสมผสาน. และเน้นเรื่องราวในเชิงเปรียบเทียบชีวิตที่ถูกจองจำ ไม่ว่าจะเป็นทางความรู้สึกหรือทางกายของหญิงสาว 2 กลุ่ม นั่นคือ นักโทษหญิง และ โสเภณี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องขังแปดเหมือนกับหนังสือก็เพียงแค่ชื่อเรื่องและชื่อตัวละครนำเท่านั้น

    จะว่าไปแล้วเรื่องราวของโสเภณีดูจะมีอิทธิพลกับเรื่องมากกว่านักโทษหญิงเสียอีก แถมยังดูสุขสบายผิดกับเจตนารมย์ที่บอกกล่าวไว้ ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกสงสารแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับชีวิตนักโทษหญิงก็ดูขาดๆ เกินๆ เมื่อเทียบกับหนังสือ ขาด ในแง่การนำเสนอถึงความขมขื่นและความชอกช้ำที่สามารถจะเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่ง ส่วนที่เกิน คือ เรื่องความรุนแรงทางเพศ ซึ่งน่าจะเปลี่ยนเป็นความทรมานจากขังซอยมากกว่า

    จากคำบรรยายไว้ในหนังสือ ทำให้รู้ว่าบุคลิกของ ดาวไสว ไพจิตร เป็นคนหน้าตาดี มีการศึกษา แต่ในขณะเดียวกัน แม้จะมีความทุกข์ ก็เข้มแข็ง และไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีให้ใครง่ายๆ สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสิร์ฐ แสดงบทบาทนี้ออกมาได้อย่างเหมาะสม และค่อนข้างตรงกับความเป็น ดาวไสว ในจินตนาการอยู่ไม่น้อย

    สำหรับคนที่อยากรู้เรื่องของขังแปด แนะนำให้อ่านหนังสือดีกว่า เพราะสำนวนถ่ายทอดตัวตน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญของ ดาวไสว ไพจิตร ได้อย่างถึงแก่นและเห็นภาพจริงๆ เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่าน คงเกิดความรู้สึกกลัวที่จะกระทำผิดขึ้นมาบ้าง และรู้สึกสงสารจับใจในชะตากรรมของผู้หญิงคนนี้

    อย่างที่ ดาวไสว ได้กล่าวไว้ในท้ายเล่ม "อย่างจะแค้นสุดแค้น แค่เอาส้นรองเท้าเฉาะหน้าผากฝากแผลให้เพื่อนหญิงรู้ว่า 'ไอ้ผู้ชายคนนี้เป็นคนร้อยลิ้นกะลาวน อย่าหลงเชื่อลิ้นสองนิ้วเป็นอันขาด' เท่านั้นก็พอ"

  • เมื่อ 24 ต.ค. 45 16:16

    เป็นไงล่ะท่าน วิจารณ์เขามาเยอะ แล้วมาเจอกับตัวเองบ้าง
    เป็นไงล่ะท่าน

  • เมื่อ 23 ต.ค. 45 00:04

    เป็นหนังไทยที่แย่มากๆ และดูแล้วไม่น่าสนใจ ผิดต่อคำโฆษณา ผมดูแล้วคิดเสียดดายเงินจริงๆ แล้วถ้ามีหนังไทยเรื่องต่อไปผมคงไม่ดูอีกแน่เลย เป็นหนังที่แย่พอๆๆ กับ หนังเรื่อง14 ตุลาคม

  • เมื่อ 11 ต.ค. 45 21:36

    คาดว่าที่โดนเซนเซอร์ไปนั้นคงจะเป็นฉากแนว erotic แหละน้อง บวกกับฉากความรุนแรง ซึ่งถ้าตัดออกก็ไม่ได้ทำให้เรื่องเสียหายสักกะนิดเลยครับ แถมดีกว่าเดิมเสียอีกเพราะว่าประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงที่ใครจะทำร้ายกันอย่างไร จะมีsexกันอย่างไรนี่ครับ ก็อย่างที่บอกแหละครับน้องพอดูแล้วแทบจะไม่เจอเนื้อหาในหนังเลย ดูแล้วภาพมันเกินมามากซะด้วยซ้ำ การถ่ายภาพก็แย่ production design ก็ห่วย ดูออกว่า set สุดๆ ดนตรีประกอบก็แย่ คือดูได้สักพักก็รู้สึกอยากจะลุกออกจากโรงแล้วง่ะ ประมาณว่าอ่านเองอาจจะสนุกกว่า

  • เมื่อ 11 ต.ค. 45 09:07

    มันก็ใช่นะครับไอ้เรื่องคนดูอ่านออกในเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกนะ และมันก็ไม่ได้เรื่องจริงอย่างว่า แต่หนังที่ดีมันก็ต้องมีแย่ในบางส่วนหนังที่แย่มันก็ดีในบางส่วน ก็อย่างว่าขัง8มันไม่ถึงเลยซักอย่าง ไม่ว่าจะดราม่า หรืออย่างอื่น และ อีโรติคถึงมันจะเป็นทางออกสุดท้ายแต่ก็ยังไม่ได้เรื่องอยู่ดี แต่ที่ผมพูดคืออยากดูแบบเต็มๆอย่างไม่เซ็นเซอร์ก่อนนะว่ามันจะเป็นอย่างไรแล้วค่อยลงมติว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างชัดเจน แต่ถ้าให้ผมสรุปอย่างปัจจุบันที่ได้ดูผมก็ว่ามันห่วยเหมือนกัน ประเด็นมั่วก็ใช่ แต่พอจะมองออกว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร เรื่องไม่หน้าติดตามก็ใช่เลย ถูกต้อง ผมก็ผิดหวังเรื่องนี้มาก

  • เมื่อ 10 ต.ค. 45 23:42

    ห่วย....
    จริงๆแล้วไอ้ฉากอีโรติกน่ะ มันไม่ใช่จุดสำคัญของเรื่องเลยสักนิด (ถึงไม่มีก็ดูรู้เรื่อง) กลับกัน หากเป็นที่การเล่าเรื่องอันสุดห่วย ประเด็นที่มั่วซั่ว ฉากอีโรติกจึงเป็นทางรอดทางเดียวของผู้กำกับต่างหาก หนังเล่าเรื่องแบบ 3 1 2 ซึ่งแต่ละช่วงที่เล่ามานั้นไม่ได้มีความน่าติดตามเลยแม้แต่น้อย จริงๆแล้วเนื้อหาของหนังนั้นจบไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้วน้องเอ๋ย.... ในการเล่าแบบ 3 1 2 นั้นแต่ละช่วงจะต้องมีอะไรที่บอกถึงแก่นสำคัญ และชวนให้คนดูติดดามช่วงต่อไป แต่ขังแปด คนดูสามารถที่จะ ดูแค่ 3 1 ก็จบเรื่องได้ โดยในส่วนที่ 2 นั้น สามารถจินตภาพเอาเองได้ (แล้วก็ถูกเสียด้วยสิ) ดังนั้นเมื่อขณะที่ดูขังแปดผู้ชมสามารถเดา shot ต่อไปอย่างง่ายดาย บวกกับบทที่จืดสนิท และการตีประเด็นแบบมั่วซั่วไม่ชัดเจนด้วยแล้ว การดูหนัง 2 ชั่วโมงก็เหมือนกับไป นั่งทรมาน ไอ้เรื่องประเด็นของหนังน่ะชาวบ้านเขาตีกันแตกตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วล่ะน้องเอ๋ย.........

  • เมื่อ 10 ต.ค. 45 13:03

    เรื่องนี้ผมก็ได้ดูมาเหมือนกันนะครับ ผมคิดว่าผู้กำกับแกคงอยากจะเสนอเรื่องราวของตัณหาของคนมากกว่าว่า แค่เพียงสิ่งเดียวนี้ทำให้ชีวิตคนหนึ่งคนพลิกผันไปคนละขั้วของชีวิตเลย ผมว่าแกคงคิดทุกอย่างมาดีนะครับ แต่เพียงว่าโดนเซนเซอร์ไปซะหมด หนังเลยไม่ถึงอารมณ์ที่แกอยากเสนอกระมัง สวนในทางเล่านเรื่องนั้น ผมดูแล้วก็เข้าใจนะแต่คนอื่นผมไม่รู้ เค้าเล่าตอนก่อนปิดเรื่องแล้วย้อนมาที่เหตุการณ์ที่ทำให้เค้าไปติดคุกแล้วเกิดความเห็นอกเห็นใจกันระหว่างผู้ต้องหาด้วยกัน เกิดความสัมพันธ์ในตัวละครโดยที่ตัวละครเด่นในเรื่องและนางพยาบาลฆ่าคนเพราะเรื่องความรัก พยาบาลรักลูก สวนตัวเอกเหมือนโดนหักหลังจากคนที่รัก ทั้งสองฆ๋าคนเพื่อสังเวยความรักที่เค้ามีให้คนอื่นและตัวเอง เฮอๆ แต่ผมเสียดายอย่างเดียวแหละไม่หน้าโดนเซนเซอร์ ถ้าไม่โดนคนที่ดูแล้วไม่เข้าใจอาจจะเข้าใจก็ได้นะครับ ...

  • เมื่อ 8 ต.ค. 45 14:07

    ยังไม่ได้ไปดูเลยพึงสอบเสร็จแต่เพื่อนบอกว่าไม่น่าดู ดูไม่รู้เรื่องแต่ก็คิดว่าจะไปดูเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้สร้างหนังไทย

  • เมื่อ 7 ต.ค. 45 19:26

    ไม่รู้เรื่อง เล่าไปเล่ามา ไร้สาระมาก

มีทั้งหมด 26 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 3 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • พี่มาก..พระโขนงพี่มาก..พระโขนงเข้าฉายปี 2013 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, ดาวิกา โฮร์เน่, ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์
  • G.I. Joe: RetaliationG.I. Joe: Retaliationเข้าฉายปี 2013 แสดง Bruce Willis, Channing Tatum, Dwayne Johnson
  • หลบผี ผีไม่หลบหลบผี ผีไม่หลบเข้าฉายปี 2003 แสดง นภดล ดวงพร, ผัดไท นิลุบล, สุเทพ ประยูรพิทักษ์

เกร็ดภาพยนตร์

  • Deliver Us from Evil - โจเอล แม็กเฮล ผู้รับบท บัตเลอร์ ใช้เวลาหลายเดือนฝึกฝนขว้างมีด และศิลปะการต่อสู้เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้นักแสดงแทน เขาไม่มีบาดแผลจากการฝึกฝนหรือการถ่ายทำเลยสักแผลเดียว จนกระทั่งวันท้ายๆ ของการถ่ายทำ เขากลับมีบาดแผลเพราะใช้มีดตัดช็อกโกแลตให้ลูกชาย อ่านต่อ»
  • Kite - เดิมที เดวิด อาร์ เอลลิส คือผู้กำกับที่ถูกวางตัวให้กำกับภาพยนตร์ แต่หลังจาก เดวิด เสียชีวิตในโรงแรมที่โจฮันเนสเบิร์ก ราล์ฟ ซีแมน จึงรับหน้าที่กำกับแทน อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

1917 1917 เรื่องราวของทหารหนุ่มชาวอังกฤษสองนายในช่วงที่สงครามกำลังคุกรุ่น พลทหารสโคฟิลด์ (จอร์จ แม็กเคย์) และพลทหารเบลก (ดีน-ชาร์...อ่านต่อ»