1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ดอน ธีระธาดา กลับไทย ฉลองมงคลสมรสยิ่งใหญ่ถึงใจ

ดอน ธีระธาดา กลับไทย ฉลองมงคลสมรสยิ่งใหญ่ถึงใจ

ไม่เห็นหน้าในวงการบันเทิงไทยมานาน หลังจากหนุ่ม "ดอน ธีระธาดา" ตัดสินใจไปทำงานเป็นนักแสดงฉากอันตรายในฮอลลีวูด กลับมาประเทศไทยคราวนี้ เพื่อจัดงานแต่งงานยิ่งใหญ่ถึงใจกับทันตแพทย์คนสวยชาวเวียดนาม "มีมี่ ลานนี นูเหวน" ซึ่งในวันที่ 21 ธันวาคม 2557 ทั้งคู่ได้เข้าสู่พิธีวิวาห์ในฝัน ณ ริมชายหาดเกาะสมุยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ และจัดพิธีฉลองมงคลสมรสอย่างเป็นทางการที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดย "ซูซี่ - หทัยเทพ ธีระธาดา" คุณแม่ของหนุ่ม ดอน จัดใหญ่จัดเต็มให้ลูกชายเลยทีเดียว เริ่มจากขบวนขันหมากในตอนเช้าที่ทำเอาอึ้งกันไปกับช้างตัวใหญ่ 2 เชือกที่หนุ่ม ดอน ขี่ไปตามถนนราชดำริ เพื่อสู่ขอเจ้าสาว จากนั้นในช่วงบ่ายคุณแม่ ซูซี่ และบ่าวสาวก็ออกมาให้สัมภาษณ์ร่วมกันถึงงานแต่งงานในครั้งนี้

งานแต่งงานที่สมุยเป็นอย่างไรบ้าง

ดอน "งานทั้งสองอันนะครับ งานกรุงเทพฯ กับสมุย เราครีเอตกันแล้วก็วางแผนทั้งปีครับ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็จริงๆ สมุยพอไปถึงปุ๊บ สิ่งที่เรากังวลที่สุดก็ถ้าฝนตกเพราะงานมันอยู่ข้างนอก แล้วทีนี้ทางที่นู่นแจ้งมาบอกว่างานทุกอันที่เขาแต่งที่นู่นช่วงนี้ตกทุกครั้ง เราก็เลยรู้สึกกลัวนิดหนึ่งครับ เพราะว่าเราวางแผนหมดแล้ว แต่ว่าถึงเวลาพอไปถึงที่นู่นปุ๊บมันก็อากาศดีตลอด วันแต่งก็ตกตอนเช้านิดหนึ่งเราก็เริ่มกลัวอีกแล้ว แต่ว่าถึงเวลาแบบเอเวอร์รีติงเพอร์เฟกต์ รู้สึกว่ามันเป็นงานที่เราต้องการให้เพื่อนๆ สนิท ครอบครัว มาแชร์ความรู้สึกด้วยกัน ไม่ใช่ว่าแค่เรา 2 คนแฮปปี้ เราอยากให้ทุกคนแฮปปี้ มีความสุขด้วยกัน ที่รีสอร์ทซามูจาน่า เขาดูแลอย่างดีเลย แล้วก็ที่พักทุกอย่างสวยมาก งานทุกอย่างไม่มีอะไรผิดพลาดเลยครับ มีแบบเล็กน้อยที่ไม่ต้องนึกถึง ครั้งแรกนะพูดจริงๆ ไอคิดว่าเราคงได้ประมาณ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์กับสิ่งที่ต้องการ แต่ว่าถึงเวลาเราได้ประมาณ 96 เปอร์เซ็นต์ มันก็ดี ทุกคนแฮปปี้ เรามีวิดีโอให้ทุกคนเห็นว่าเรามีความสุขมาก"

คุณแม่ "จะบอกความลับให้เพราะจริงๆ ก็เช็คอากาศนะ แต่ว่าบางคนอาจจะไม่เชื่อว่ามันเป็นความจริงไหม เพราะว่าคุณแม่ปักต้นตะไคร้ให้นะคะ ใช่ เพื่อขอไม่ให้ฝนตกนะคะ"

ช่วงเช้าได้ขี่ช้างในขบวนขันหมาก รู้สึกอย่างไรบ้าง

ดอน "ตอนเช้า โอเคเหมือนเมื่อก่อนที่คุณแม่กับทุกคนก็บอกว่าจะมีช้างมา ไอก็คิดว่าเรื่องใหญ่ไปหรือเปล่าเพราะว่าไอก็ไม่ได้ชอบแบบโอเวอร์มากมาย ไอชอบเล็กๆ คุณแม่ชอบแบบอลังการมาก แต่ว่าไอเป็นคนแบบนึกออกไหมซิมเปิลหน่อย ทีนี้เมื่อคืนก็นอนน้อย นอนประมาณชั่วโมงครึ่งสองชั่วโมง ตื่นมาไอก็คิดหนักเดี๋ยวต้องขี่ช้าง ทำตัวไม่เป็น นึกออกไหมมันเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมชาติสำหรับผม แต่ถึงเวลาเห็นช้าง ช้าง 2 เชือกใช่ไหม พูดถูกใช่เปล่า โอเคช้าง 2 เชือกแต่ใหญ่มาก แต่น่ารักมาก เราเป็นคนที่ชอบแบบรักสัตว์ เหมือนเรามีหมาที่เรารักมากใช่ไหม ช้าง 2 เชือกนี้ก็เหมือนนั่นแหละครับ แอตทิจูดกับความรู้สึกของช้างแบบพีซฟูล พอไปถึงข้างบนพูดตรงๆ จริงๆ ก็เริ่มตื่นเต้นเหมือนกัน ก็พอเขาเล่นเพลงมันก็เออโอเคก็มันดี ก็ชอบ (หัวเราะ) ครั้งแรกคิดว่ามันเวอร์ แต่ครั้งนี้ชอบแล้ว มันก็สนุกดีเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต วายน็อต แต๊งกิ้ว (ยกมือไหว้คุณแม่)"

เป็นที่สงสัยกันว่าช้างในขบวนขันหมากช่วงเช้าคือช้างเผือก

คุณแม่ "ที่จริงนะคะเคยถามดอนว่า ดอนแม่เคยเห็นว่าบางทีเนี่ยเขาจะทำให้เป็นช้างเผือก แต่พวกเราเนี่ยจะเป็นพวกที่สงสารนะคะ แล้วก็ดอนก็บอกว่าไม่ให้เอาสีไปทา ไม่ให้อะไรทั้งนั้น แต่ทีนี้ด้วยความที่เรียกว่าเจตนาดีของควาญช้าง เพราะเขามาแอบถามว่าคุณแม่ชอบอะไร แม่บอกชอบกุหลาบสีชมพู เขาก็เลยไปทำช้างสีชมพูให้ จริงๆ ก็คงไม่ใช่ช้างเผือก ช้างเผือกต้องขาวใช่ไหม คงขาวกว่านี้ แต่เราก็ยังมีความรู้สึกว่า กว่าเขาจะไปอาบน้ำออกเนี่ยก็สงสารเหมือนกัน แต่ว่าในเมื่อเขาทำมาแล้ว ก็เป็นเจตนาดีของที่เขาตั้งใจที่จะทำมาให้สวยนะคะ ก็เลยต้องขอบคุณที่เขาคิดมาให้นะ"

เจ้าสาวรู้สึกอย่างไรบ้าง

มีมี่ "ตอนนี้ฉันรู้สึกง่วงนอนมากค่ะ (หัวเราะ)"

ดอน "ง่วงนอน น้องก็ไม่ได้นอนมากมายเหมือนกัน เมื่อคืนเราถ่ายหนังสือถึงเช้าครับ"

มีการเตรียมการต่างๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานอย่างไร

ดอน "เรามีของชำร่วยที่เราส่งมาจากอเมริกา ซึ่งมันของเล็กน้อยแต่ว่ากว่าที่จะเอามาเมืองไทยได้ ไอจะบอกไว้ก่อนมันยากมาก เพราะมันเป็นหลายสเต็ปมาก เราต้องไปซื้ออันนี้แล้วก็ซื้ออย่างอื่น แล้วก็ซื้ออย่างอื่นมาต่ออย่างนี้ แล้วก็ส่งมากว่าที่มาถึงเมืองไทย พอมาถึงที่นี่เราก็ต้องมาต่อ แล้วก็เอาเพื่อนๆ กับน้องกับผมก็ไปต่อก็ใส่ให้มันเรียบร้อยที่จะไปแจกวันนี้ ก็ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ (หัวเราะ) ต่อจากนั้นก็ไปแพลนนิงงานแต่งงาน แล้วก็มีหนังสือกับสัมภาษณ์ตอนกลางคืนถ่ายถึงประมาณเกือบเที่ยงคืนครับ"

สินสอดมีอะไรบ้าง

ดอน "จำไม่ได้ ก็เห็นเงิน (หัวเราะ) มีเงิน มีพวกจิวเวอรี มีกุญแจแลมโบกินี (พูดเล่นโดยหันไปมองคุณแม่ยิ้มๆ) ไม่มีเหรอ ไม่ใช่ ไม่มีๆ โอเค พูดง่ายๆ นะมีความรัก"

คุณแม่ "แม่จะซื้อให้ ถ้าลูกย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ (ยิ้ม)"

สินสอดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทจริงไหม

คุณแม่ "ไม่จริงค่ะ ไม่จริง คุณแม่เป็นคนไม่ชอบจะบอกว่าเราซื้อของอะไรมาราคาเท่าไร ไม่ชอบที่จะเป็นคนโอ้อวดนะคะ ว่าเราซื้อโน่นซื้อนี่ แต่เราเรียกว่าเราไปซื้อด้วยความรัก แล้วเราก็ไม่อยากจะจำจำนวนเงินแล้วกันนะคะ แต่ซื้อให้ด้วยใจว่าอันไหนที่เหมาะสมที่เขาจะควรที่จะต้องได้รับนะคะ แล้วก็มีมี่เนี่ยเขาเป็นคนที่น่ารักมาก เหมือนอย่างสินสอดที่จะให้ บอกว่าถ้าเผื่อแม่ให้เล็กๆ เดี๋ยวนักข่าวก็บอกว่า เอ๊ะ แม่นี่ไม่ได้รักเขาหรือว่ายังไง เขาก็บอกว่าไม่ เขาต้องการเล็กเพื่อให้เขาไปใส่ได้จริงๆ ไม่ใช่ใส่ไปเพื่อเอาไปเก็บในตู้เซฟ แล้วก็โดยเฉพาะที่อเมริกา คนไม่ได้แต่งตัวกันเวอร์มากๆ นะคะ ขอไม่บอกแล้วกัน แต่ว่าที่บอกไปแล้วก็คือแหวน 7.2 กะรัต แล้วก็น้ำเอฟ (Rare White+) แล้วก็วีวีเอสวัน (VVS1 บ่งบอกความสะอาดของเพชร) อันนั้นคือ 22 ล้านนะคะ ถ้าเผื่อเห็น ถ้าหนูเห็นได้เป็นตัวเงิน วันนี้ก็คือให้เขาไป 2 ล้าน ที่เป็นเงินสดนะคะ อันนั้นสำหรับ 2 คนเขาไปตั้งตัว แล้วก็ให้ในขันหมากอีก 5 แสนนะคะ แล้วก็เป็นพวกเพชรที่เขาเอาไปใส่ได้"

วางแผนครอบครัวหลังจากนี้อย่างไร

ดอน "เราก็คุยกันสักพักหนึ่ง เราวางแผนตั้งแต่ขอแต่งแล้ว เรากะว่าหลังแต่งงานจะซื้อบ้านใหม่ ซื้อร้านทำฟันใหม่ปีนี้ ก่อนมาผมก็เพิ่งเอาคอนโดไปวางขายในตลาดที่อเมริกา ก็กะว่าขายปุ๊บก็พยายามหาบ้านใหม่ที่จะไปใช้ชีวิตใหม่ด้วยกัน อันนั้นสองเรื่องที่ใหญ่ต่อจากนี้คือซื้อบ้านซื้อร้านใหม่ เพราะว่าร้านที่น้องทำงานทุกวันนี้มันไกลมากครับ น้องต้องขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงไปถึงที่นู่น 2 ชั่วโมงกลับมา บางครั้งน้องกลับมาประมาณ 4 ทุ่มก็ต้องนอนตื่นไปอีกแล้ว เขาบอกเขาโอเค แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ผมก็พยายามอยากหาที่ใกล้ๆ หรือไม่งั้นก็ซื้อบ้านใกล้ๆ ที่นู่นก็ได้ ก็ดูว่าอันไหนดีกว่ากัน"

ตั้งใจจะมีทายาทเลยหรือยัง

ดอน "ยังครับ ยังๆ (หัวเราะ) ทำไมต้องถามต่อหน้าแม่ด้วย เราตกลงกันว่าจริงๆ ยังไม่พร้อม เหมือนที่บอกเรามีแพลนนิงเยอะที่ต้องใช้เวลากับชีวิตเราสองคนเองก่อนใช่ไหมครับ ทีนี้ก็ถ้ามีลูกตอนนี้มันจะลำบาก"

คุณแม่ "มีลูกเดี๋ยวซื้อบ้านให้ (ยิ้ม)"

ดอน "ไม่เป็นไร ไอซื้อเองได้ (ยิ้ม) จนกว่าที่จะทำทุกอย่างที่เราอยากทำ เราก็อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน สนุกด้วยกันอีกสักพักหนึ่ง การที่จะมีลูกตอนนี้ยังไม่ได้นึกถึง"

หลังจากแต่งงานกันแล้ว ตื่นมาเจอหน้าสามีรู้สึกอย่างไร

มีมี่ "ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากค่ะ เราอยู่ด้วยกันมานาน ดังนั้นการแต่งงานก็แค่อีกขั้นหนึ่งค่ะ ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับพวกเราก็ยังเหมือนเดิมค่ะ"

ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ไหน

ดอน "คือน้องเขาอยากไปฮันนีมูนปีหน้าที่ฝรั่งเศสกับอิตาลี เพราะน้องอยากไปปารีสตั้งนานแล้วยังไม่เคยไป ทีนี้ไอก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวปีนี้เราซื้อบ้าน แล้วก็ซื้อร้านใหม่ แล้วก็ไอต้องทำงานมากขึ้น มีเวลาน้อยที่จะเดินทางใช่ไหม ไอก็บอกเขาว่าปีถัดไปครับ เดี๋ยวปีใหม่เราจะไปเวียดนามก่อนแต่ไม่ใช่ฮันนีมูนนะ แต่ว่าไอก็คิดว่าที่เวียดนามก็มีคนฝรั่งเศสเยอะเหมือนกันใช่เปล่า"

ประทับใจอะไรในตัวกันและกัน

มีมี่ "เขาเป็นคนติดดินมากๆ ค่ะ ยิ่งดูจากพื้นเพทางบ้านของเขากับความสำเร็จของเขาด้วยแล้ว เขาเป็นคนที่เข้าหาง่ายมากๆ ง่ายแบบที่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จแค่ไหน ตอนที่เจอกันครั้งแรก เขายังเป็นคนตลกค่ะ ทำให้ฉันหัวเราะได้ตลอดเลย และเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนหวานมากๆ ทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ที่ทำให้ฉันประทับใจทั้งความติดดิน ความอ่อนหวาน และความจริงใจค่ะ"

ดอน "ผมประทับใจที่น้องเขาเก่ง โอเคก็จริงๆ เขาเก่ง เขาเป็นหมอเป็นเรื่องที่ต้องประทับใจอยู่แล้ว แต่ว่าที่ประทับใจจริงๆ เราเข้ากันได้ดี เขาเข้าใจกับสิ่งที่ผมต้องการหรือว่าที่ผมชอบที่เขาอาจจะไม่ชอบก็ได้แต่ไม่เคยห้าม ทีนี้เหมือนงานผมเป็นงานที่อันตราย เขาไปอยู่กับผมตอนที่คนในทีมของเราเสียชีวิต แล้วไอเกือบเสียชีวิตซึ่งน้องเขากลัวตรงนี้มากแต่ว่าเขาจะไม่พูด เพราะเขารู้ว่าถ้าไอเริ่มกังวลตรงนี้ ผมอาจจะผิดพลาดในการทำงานก็ได้ เพราะว่าผมก็จะกังวลไม่โฟกัส มันแบบจูนกันจนไอรู้ว่าน้องไม่ชอบอะไรแต่เขาไม่ต้องพูด ไอก็จะพยายามไม่ทำ แต่ว่าน้องก็รู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องพูด มันเป็นสิ่งที่มันเข้าใจกันจริงๆ ครับ"

เจ้าสาวใช้นามสกุลอะไรอยู่

ดอน "ตอนนี้ใช้ เหวน แต่ว่าน้องจะเปลี่ยนเป็น ธีระธาดา ก็เร็วที่สุดที่ทำได้"

มีมี่ "ฉันจะเปลี่ยนค่ะ รอให้ไปถึงที่อเมริกาก่อน"

บอกรักกันบ่อยไหม

ดอน "บอกรักกันบ่อยอยู่ครับ ก็นั่นเป็นหนึ่งในวาวที่เราสัญญาไว้ว่า ไม่เกี่ยวว่าทะเลาะกันมากเท่าไร หรือว่าไม่เกี่ยวว่าอยู่ด้วยกันหรือไม่ด้วยกัน ผมจะบอกกูดไนต์แล้วก็ไอเลิฟยูทุกคืนก่อนนอน อาจจะพูดต่อหน้า แต่ถ้าไม่อยู่ก็เท็กซ์ไป มันเป็นสัญญาอันหนึ่งที่พูดอยู่แล้ว"

รู้สึกอย่างไรที่คุณแม่จัดเตรียมงานแต่งงานให้อย่างเต็มที่

ดอน "ก็รู้สึกดีครับ ก็เกรงใจคุณแม่ด้วย เพราะว่าผมก็รู้ว่าการจัดงานแต่งงานมันเหนื่อยแค่ไหน จริงๆ มันเหนื่อยกว่าการทำหนังอีกใช่เปล่า คุณแม่ก็เตรียมมาเยอะตั้งแต่ต้นปีเหมือนกัน ก็รู้สึกดีแล้วก็เกรตฟูลมากที่คุณแม่ทำทุกอย่างให้ผมอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าแค่ผม ให้เขา (มีมี่) ด้วย เพราะว่าผมรู้นิสัยแม่ ถ้าคุณแม่ไม่ชอบเขา เขาจะไม่ทำอย่างนี้จริงๆ เขาจะไม่ยุ่งเลย แต่นี่เขาทำเต็มที่ก็แต๊งกิ้ว (ไหว้ขอบคุณคุณแม่)"

หลังจบการให้สัมภาษณ์จะเป็นพิธีรดน้ำสังข์จากแขกผู้ใหญ่ บรรดาญาติ และเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่าย โดยงานนี้มีคุณ "ประวิทย์ มาลีนนท์" มาร่วมในพิธีด้วย จากนั้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสก็ถูกจัดขึ้น ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ซึ่งได้รับเกียรติจาก "พลตำรวจเอก สันต์ ศรุตานนท์" ออกมากล่าวถึงคู่บ่าวสาวพร้อมทั้งนำทุกคนร้อง "ไชโย" 3 ครั้งและร่วมกันดื่มอวยพรแด่งานมงคลครั้งนี้

ต่อมา ดอน ได้เผยถึงการพบกันครั้งแรกกับคุณหมอฟันคนสวยเพราะฟันคุด ก่อนจะกล่าวขอบคุณแขกที่มีร่วมงาน "ผมดีใจที่ได้เห็นทุกคนมาในงาน แล้วก็ดีใจที่รู้ว่ามีเพื่อนเยอะแยะที่ยังรักผมครับ สุดท้ายก็อยากบอกเมอร์รีคริสมาสต์ อย่าลืมนะวันนี้เป็นวันคริสมาสต์ ก็หวังว่าทุกคนมีความสุขวันนี้มันก็เป็นวันฮอลลิเดย์นะครับ" ด้าน มีมี่ เล่าว่า "นี่ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วนะคะที่ได้มาเมืองไทย ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดเลยค่ะ เป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยมมาก มีแต่คนที่เรารักที่นี่ ขอบคุณคุณแม่ (ของ ดอน) สำหรับการจัดงานแต่งงานได้ไม่มีที่ติ คุณพ่อคุณแม่ของฉัน และเพื่อนๆ ที่ให้เวลามาอยู่ด้วยกันในคืนนี้ค่ะ"

บริเวณหน้างานประดับไว้ด้วยภาพของคู่บ่าวสาว ทางเดินระยิบระยับไปด้วยแสงไฟจากเทียน ผู้ร่วมงานจะได้ของชำร่วยน่ารักๆ ในโหลแก้ว ซึ่งงานนี้เหล่าดาราคนดังที่มาร่วมงานก็มีมากมาย อาทิ "วู้ดดี้ - วุฒิธร มิลินทจินดา" ที่มาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ "ไก่ - วรายุฑ มิลินทจินดา" "ดอม เหตระกูล" กับภรรยา "ก้อย - ศศิลักษณ์ เหตระกูล" "โอริเวอร์ บีเวอร์" ควงมากับภรรยา "ยี่หวา สุทธาสินี ทองสาริกา" และ "ใหม่ เจริญปุระ"

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65
  • รูปภาพ 66
  • รูปภาพ 67
  • รูปภาพ 68
  • รูปภาพ 69
  • รูปภาพ 70
  • รูปภาพ 71
  • รูปภาพ 72
  • รูปภาพ 73
  • รูปภาพ 74
  • รูปภาพ 75
  • รูปภาพ 76
  • รูปภาพ 77
  • รูปภาพ 78
  • รูปภาพ 79
  • รูปภาพ 80

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

  • โกหก...ทั้งเพ
    เข้าฉายปี 2003
    แสดง เร แม๊คโดแนลด์, พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์, เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา
  • เกรียน ฟิคชั่น
    เข้าฉายปี 2013
    แสดง พันธดนย์ จันทร์เงิน, กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ปุริม รัตนเรืองวัฒนา
  • The Recruit
    เข้าฉายปี 2003
    แสดง Al Pacino, Colin Farrell, Bridget Moynahan

เกร็ดภาพยนตร์

  • Boyhood - เอลลาร์ โคลเทรน ผู้รับบท เมสัน ตอนเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์อายุ 7 ปี และตอนถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จอายุ 18 ปี อ่านต่อ»
  • Deliver Us from Evil - โจเอล แม็กเฮล ผู้รับบท บัตเลอร์ ใช้เวลาหลายเดือนฝึกฝนขว้างมีด และศิลปะการต่อสู้เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้นักแสดงแทน เขาไม่มีบาดแผลจากการฝึกฝนหรือการถ่ายทำเลยสักแผลเดียว จนกระทั่งวันท้ายๆ ของการถ่ายทำ เขากลับมีบาดแผลเพราะใช้มีดตัดช็อกโกแลตให้ลูกชาย อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เมื่อเราทุกคนต่างมีความเป็นยอดมนุษย์อยู่ในตัวของเรา มันก็แค่ต้องใช้มนตร์วิเศษสักหน่อยเพื่อที่จะดึงมันออกมา ในกรณีของ บิ...อ่านต่อ»