1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

โทนี่ พบความท้าทายใหม่ในภาพยนตร์ พี่ชาย My Hero

โทนี่ พบความท้าทายใหม่ในภาพยนตร์ พี่ชาย My Hero

เป็นที่น่าจับตามองเมื่อนักแสดงหนุ่ม "โทนี่ รากแก่น" ตัดสินใจแสดงภาพยนตร์แนวชายรักชายเรื่อง "How to Win at Checkers (Every Time)" หรือที่ในไทยใช้ชื่อว่า "พี่ชาย My Hero" ซึ่งได้รับเกียรติให้เป็นภาพยนตร์เปิดงาน "Bangkok Gay & Lesbian Film Festival 2015" เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 โดยหนุ่ม โทนี่ กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "หนังชื่อเรื่องว่า พี่ชาย My Hero นะครับ คือก่อนหน้านี้ใช้ชื่อเรื่องว่า Win at Checkers Every Time นะครับ แต่ว่าตอนนี้เข้ามาอยู่ที่ไทยก็มีการเปลี่ยนนิดหนึ่งเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็เป็นพี่ชาย My Hero นะครับ เป็นหนังที่เกี่ยวกับช่วงเกณฑ์ทหารของประเทศไทย แล้วก็เป็นเรื่องราวของ 2 พี่น้องที่เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยพร้อมเท่าไร แล้วก็ต้องใช้ชีวิตอย่างต่อสู้ครับ ต่อสู้กับชีวิต"

ดาราหนุ่มบอกถึงบทบาทที่ได้รับว่า "เราก็จะได้เล่นเป็นคนน้อง คนน้องที่มองเห็นพี่ชายเป็นฮีโร่ของเรา ซึ่งพี่ชายเนี่ยคือก็จะมีบทบาทเรื่องเกี่ยวกับชายรักชายด้วยครับ ก็จะมีเข้าไปด้วย แต่ต้องบอกว่าชายรักชายในเรื่องนี้ค่อนข้างออกแนวน่ารัก ว่าเวลาเราดูแล้วเรารู้สึกว่าเหมือนกับเป็นผู้หญิงรักผู้ชาย ผู้ชายรักผู้หญิงครับ เหมือนกับคู่นี้ธรรมดามาก เป็นเรื่องธรรมดา แค่เขาอยู่ในสภาพร่างกายที่เป็นผู้ชายทั้งคู่แค่นั้นเอง ซึ่งก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากครับ" โทนี่ เอ่ยถึงนักแสดงที่ได้รับบทเป็นพี่ชายของตนเองในเรื่องว่า "ชื่อว่า อั้ม (ถิร ชุติกุล) ครับ เป็นนักแสดงหน้าใหม่ครับ ก็เล่นได้ดีมากครับ คนน้อง (อิงครัต ดำรงค์ศักดิ์กุล) ก็หูย คือผมถามจอช (Josh Kim) ผู้กำกับครับว่ายูกำกับเด็กคนนี้ยังไง เขาบอกว่าไอไม่ได้กำกับเลย เขาเหมือนเป็นพรสวรรค์ครับ"

โทนี่ เผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ประเทศไทยทั้งเรื่อง "ถ่ายที่ไทยหมดเลยครับ เป็นเรื่องราวของคนไทยเลย คือเป็นผู้กำกับต่างชาติแล้วก็ทีมงาน โปรดิวซ์มาจากต่างประเทศครับ เขาเหมือนสนใจเรื่องราวเรื่องนี้จากหนังสือเรื่องหนึ่ง หนังสือเรื่อง Draft Day ครับ" นักแสดงหนุ่มใช้เวลาในการตัดสินใจรับงานแสดงเรื่องนี้ไม่นาน พร้อมกล่าวถึงความท้าทายใหม่ที่ได้รับว่า "เอาจริงๆ แล้วไม่นานเลยนะครับ พอคุยกับเขาแล้วเรารู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำคืออะไรเนี่ยเราชอบเลย เพราะว่าสิ่งที่เราต้องทำก็คือเราเล่นบทคนน้องตอนโตแล้ว ซึ่งก็จะเป็นคนเล่าเรื่องตัวเองในตอนเด็กใช่ไหมครับ สิ่งที่เราต้องทำก็คือใช้เสียงในการเล่าเรื่องทั้งเรื่องเลยครับ เหมือนกับพากย์ พากย์เล่าเรื่องๆ เราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แล้วเราก็เคยโดนพี่ผู้กำกับบ้าง ทีมงานบ้างเรื่องอื่นๆ ครับที่เคยคอมเมนต์ว่าทำไมโทนี่โมโนโทนจังเลย แบบเสียงเรื่อยๆ จังเลย พอมาเรื่องนี้เขาให้เราใช้เสียงในการเล่าเรื่อง เราก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายดีครับ"

หนุ่มคนนี้ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่มาแสดงภาพยนตร์แนวชายรักชาย "ก็ไม่ได้ซีเรียสนะครับ ไม่ได้ซีเรียสแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลก หมายถึงว่าเรื่องของชายรักชายอะไรพวกนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกใหม่อะไรมากมายขนาดนั้น แล้วก็การนำเสนอวิธีการชายรักชายของเรื่องนี้ก็ค่อนข้างออกมาในรูปแบบที่โพซิทีฟน่ารัก ไม่รุนแรงครับ" โดย โทนี่ บอกว่าแฟนคลับรับทราบถึงการมาร่วมแสดงในเรื่องนี้แล้ว "รู้ๆ ครับเพราะว่าจริงๆ เรื่องนี้ไปเปิดตัวที่เบอร์ลิน (เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน) นะครับ แฟนคลับก็จะตามไอจีผม ก็จะรู้ว่าเราก็ไปที่นู่นด้วย แล้วก็มีหนังอะไรแบบนี้เกิดขึ้นครับ"

โทนี่ พูดถึงกระแสตอบรับที่ได้จากชาวต่างชาติว่า "ฝรั่งก็คือให้ความสนใจเยอะมาก เพราะว่าเราก็ไม่เคยไป อันนั้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่หนังฉายจบเสร็จปุ๊บก็จะมีคิวแอนด์เอ ถามตอบ เราก็เลยถามจอชว่านี่มันปกติหรือเปล่าที่คนดูยังนั่งอยู่เต็มโรงแบบนี้ เขาบอกว่าไม่ปกติ นี่คือเขาให้ความสนใจมากครับ เพราะว่ามันเป็นท็อปปิกที่น่าสนใจด้วย เรื่องเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารของไทย ทำไมเป็นอย่างนี้ ทำไมเป็นรูปแบบนี้ เดี๋ยวไปดูกันเองดีกว่าว่าเป็นรูปแบบไหนนะครับ แล้วก็เรื่องราวของชายรักชายที่เขามองว่าเป็นการเล่าเรื่องได้ธรรมชาติแล้วก็น่ารักมาก ภาพที่เขาสื่อถึงประเทศไทยเนี่ยเหมือนกับเราไปอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ ครับ" ด้านกระแสตอบรับในประเทศไทย นักแสดงหนุ่มเผยว่า "ตอนแรกเราก็ค่อนข้างกังวลประมาณหนึ่งว่าเอามาฉายในไทยเนี่ยฟีดแบ็กจะเป็นยังไง ปรากฏว่าค่อนข้างดีมาก เขาก็เลยอยากจะขอใช้เวลานิดหนึ่งก่อนที่จะเอามาฉายจริงๆ ครับ"

เตรียมพร้อมที่จะออกสู่สายตาชาวไทยแล้วกับภาพยนตร์เรื่อง พี่ชาย My Hero พบกันได้ในวันที่ 16 กรกฏาคม 2558 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • John Wick - คีนู รีฟส์ ผู้รับบท จอห์น แสดงฉากเสี่ยงตายด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้งฉากต่อสู้ ฉากดวลปืน ฉากกระโดดจากตึกสูง รวมถึงฉากขับรถไล่ล่าด้วย อ่านต่อ»
  • Whiplash - ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 19 วัน อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ ไมค์ แบนนิง (เจอราร์ด บัตเลอร์) และ ประธานาธิบดี อัลลัน ทรัมบูล (มอ...อ่านต่อ»