จองฮุน-กิ่ง ร่วมมือทำสารคดีและเพลงระลึกถึงสงครามเกาหลี

"คิมจองฮุน" (Kim Jeong Hoon) นักร้องและนักแสดงหนุ่มหล่อชื่อดังของเกาหลีใต้ ที่หายหน้าจากแฟนๆ ไปเกือบ 2 ปี หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจรับราชการทหารเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จองฮุน ก็กลับมาลุยงานวงการบันเทิงต่อทันที ล่าสุดเจ้าตัวเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมในโครงการพิเศษของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส เพื่อถ่ายทำสารคดีระลึกถึงการเสียสละของเหล่าทหารเกาหลีและทหารจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมรบในเหตุการณ์สงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1950 ซึ่ง จองฮุน ได้มีการถ่ายทำสารคดีที่เกาหลีไปบ้างบางส่วนแล้ว ก่อนจะมาถ่ายทำต่อที่ประเทศไทย

นอกจากนั้น จองฮุน ยังได้ชวนนักร้องสาวเสียงใส "กิ่ง - เหมือนแพร พานะบุตร" ศิลปินตัวแทนของไทยไปเก็บภาพบรรยากาศกันที่อนุสรณ์สถานสงครามเกาหลี จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 งานนี้หนุ่ม จองฮุน ยังได้อวดอีกหนึ่งความสามารถ รับหน้าที่แต่งเนื้อเพลงประกอบสารคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยมี กิ่ง ร่วมร้องในเพลงนี้ด้วย ซึ่งนักร้องสาวจะต้องเดินทางไปบันทึกเสียงที่เกาหลี และไปเยี่ยมสวนอนุสรณ์สถานสหประชาชาติที่เมืองปูซาน ในช่วงเดือนกันยายน ที่จะถึงนี้ โดยสารคดีชุดนี้จะออกอากาศให้ได้ชมกันในเดือนตุลาคม

วันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ทางทีมงานจากเกาหลีได้มีการเก็บภาพการทำงานคู่กันของ กิ่ง และ จองฮุน ซึ่งช่วงเช้าเป็นการถ่ายทำในส่วนเบื้องหลังการทำงานเพลงและอวดความสามารถในเล่นดนตรีของ กิ่ง สำหรับนำไปออกอากาศแนะนำตัวที่เกาหลี ก่อนจะต่อด้วยการพูดคุยถึงเรื่องเพลงที่จะนำมาใช้ประกอบสารคดี และในช่วงบ่ายทั้งสองคนก็มาเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงการทำงานร่วมกันครั้งแรก

ทักทาย

จองฮุน "สวัสดีครับ ผมชื่อคิมจองฮุนครับ (ภาษาไทย)"

กิ่ง "สวัสดีค่ะ กิ่งค่ะ"

ความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานด้วยกัน

กิ่ง "โอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีมากนะคะ ก็ต้องขอขอบคุณทั้งทีมงานทางเกาหลีแล้วก็ผู้ใหญ่ด้วยนะคะ ที่เลือกให้กิ่งเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่จะมาบอกเล่าเรื่องถึงเหตุการณ์ในสงครามเกาหลี ที่ประเทศไทยของเราก็ได้ส่งทหารเข้าไปช่วยด้วยนะคะ เรื่องราวที่กิ่งได้ไปทำมาทั้งหมด รวมถึงเมื่อวานนี้ที่เราทั้ง 2 คนก็ได้ไปที่อนุสรณ์สถานที่ชลบุรี ทำให้ได้รู้อะไรมากยิ่งขึ้น เพราะว่าจริงๆ แล้วคนรุ่นใหม่ก็อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวของสงคราม

ทำให้กิ่งได้รู้ว่าทั้งที่ไทยแล้วก็ที่ปูซานเองก็มีอนุสรณ์สถาน ซึ่งเอาไว้ระลึกถึงความสัมพันธ์ของไทยและเกาหลี ที่สำคัญเลยที่ปูซานเป็นสถานที่ที่ยูเอ็นแต่งตั้งให้มีสถานที่เอาไว้ฝังศพของเหล่าทหารที่เสียสละชีวิตของเขา เป็นสถานที่เดียวที่ปูซานที่ยูเอ็นแต่งตั้งให้เป็นสถานที่แห่งอิสรภาพและเสรีภาพด้วยนะคะ ทำให้ได้ระลึกถึงเหตุการณ์นั้นย้อนกลับไป ก็ยินดีมากๆ ที่ได้เป็นตัวแทนได้มาร่วมงานกับคุณคิมจองฮุนค่ะ"

จองฮุน "ผมก็เพิ่งจะปลดประจำการทหารมา ก็ไม่ได้มาเมืองไทยหลายปีแล้ว ประมาณ 4-5 ปี ก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเข้าร่วมในงานที่มีความหมาย แล้วก็ได้ร่วมงานกับคุณกิ่งซึ่งนักร้องไทยที่สวยมากๆ เลยครับ"

กิ่ง "ขอบคุณค่ะ"

นอกจากเมืองไทยยังต้องไปถ่ายทำที่ประเทศอื่นอีกไหม

จองฮุน "สำหรับของผมได้มาเป็นตัวแทนระหว่างไทยกับเกาหลีครับ สารคดีนี้เป็นสารคดีที่จัดทำขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์เคบีเอส ก็จะมีดาราเกาหลีอีกคนนึงที่อาจจะไปประเทศตุรกีหรือในประเทศอื่นๆ ผมเป็นตัวแทนมาแค่ที่เมืองไทยครับ"

เล่าถึงบรรยากาศการถ่ายทำสารคดี

จองฮุน "ก่อนหน้าที่จะมาที่เมืองไทย ก็ได้ไปถ่ายทำที่อนุสรณ์สถานที่ปูซาน ที่จัดขึ้นมาเพื่อทหารที่ไปเข้าร่วมในสงครามเกาหลี พอมาที่เมืองไทยก็ได้ไปที่ชลบุรีกับคุณกิ่ง ซึ่งมีศพของทหารผ่านศึก แล้วก็ได้ไปเยี่ยมและสัมภาษณ์พูดคุยที่หมู่บ้านทหารผ่านศึก ในคราวนี้ผมก็ได้แต่งเพลงขึ้นมาหนึ่งเพลงเป็นเพลงที่เกี่ยวกับสันติภาพ เร็วๆ นี้ก็จะได้ฟังกันครับ"

เลือกที่จะเขียนเพลงเอง

จองฮุน "ผมแต่งเฉพาะในส่วนของเนื้อเพลง ในส่วนของเมโลดีจะเป็นอีกคนนึงที่แต่งเอาไว้แล้ว ผมเริ่มการเขียนเนื้อเพลงตอนที่อยู่ที่ญี่ปุ่น ในระหว่างที่เรียนภาษาญี่ปุ่นผมก็ได้เรียนการแต่งเพลงด้วย ก็รู้สึกว่าสนุกดี หลังจากนั้นก็หัดแต่งเพลงมาเรื่อยๆ ครับ"

ประหม่าไหมที่ได้ร่วมงานศิลปินดังจากเกาหลี

กิ่ง "ก็ประหม่า ตื่นเต้นค่ะ ยิ่งตอนที่ได้รู้ก่อนที่จะได้ร่วมงานกัน ก็ต้องเตรียมตัว ต้องทราบเรื่องราวของสงครามบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่าจริงๆ แล้วถ้าเกิดคนรุ่นใหม่ยุคนี้ เด็กๆ ก็อาจจะไม่ค่อยรู้ รวมถึงตัวกิ่งก็ยังไม่ค่อยรู้เท่าไรนะคะ ก็เลยต้องไปหาข้อมูล ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น และยิ่งได้รู้ว่าจะต้องร่วมงานกับคุณคิมจองฮุน ซึ่งก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ นะคะ เป็นซุปเปอร์สตาร์ก็เลยรู้สึกว่าตื่นเต้นมากๆ แต่พอได้มาร่วมงานกันแล้ว จริงๆ ทั้งทีมงานแล้วก็คุณคิมจองฮุนเองให้ความเป็นกันเองมากค่ะ แล้วก็คอยบอกว่ากิ่งต้องทำยังไงบ้าง เพราะเขารู้ว่ากิ่งตื่นเต้น เขาก็พยายามทำให้กิ่งผ่อนคลายมากขึ้น ทำงานได้ง่ายๆ ค่ะ"

ต้องร้องเพลงเป็นภาษาเกาหลีด้วย ยากไหม

กิ่ง "ก็ยากนะคะ แต่ก็คุ้นๆ มาบ้างแล้วจากเวลาได้ติดตามทั้งเพลงหรือว่าภาพยนตร์เกาหลี สำเนียงอาจจะพอก๊อปปี้เขาไปได้บ้างค่ะ (หัวเราะ) แต่เดี๋ยวต้องไปคุยกันอีกทีว่าจะถ่ายทอดเนื้อหา เรื่องราวของเพลงยังไง เดี๋ยวต้องดูไปว่าเพลงจะเป็นยังไง"

เตรียมตัวเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มเติมหรือเปล่า

กิ่ง "เดี๋ยวกิ่งก็คงจะต้องไปฝึกนะคะ ถ้าเกิดได้เพลงมาก็คงต้องทำการบ้านหนักขึ้นกว่าเพลงของตัวเองหลายเท่า เพราะว่าร้องคู่ด้วย อาจจะต้องมีไลน์ที่ประสานกันคู่กันหรือเปล่า แล้วก็เป็นภาษาที่เราก็ไม่ได้คุ้นเลย เดี๋ยวต้องไปซ้อมเยอะๆ"

ความคืบหน้าของเพลงที่ต้องร้องคู่กัน

กิ่ง "ก็ยังไม่ได้ร้องเพลงด้วยกันนะคะ แต่ว่าวันนี้ก็เพิ่งมีการคุยกันถึงเรื่องเพลงที่คุณคิมจองฮุนจะเป็นคนเขียนเนื้อเพลง แล้วเขาก็ถามกิ่งด้วยเหมือนกันว่า จากเมื่อวานที่ได้ไปพูดคุยกับทหารผ่านศึกมา กิ่งมีเรื่องราวอะไรที่อยากจะให้มีอยู่ในเนื้อเพลงบ้างไหม ก็ได้คุยกันแล้วกิ่งก็บอกว่าอยากจะให้มีเรื่องราวของความรักแล้วก็มิตรภาพค่ะ"

จะมีกิจกรรมสาธารณประโยชน์แบบนี้อีกไหมในอนาคต

จองฮุน "เป็นครั้งแรกที่ได้ทำโปรเจกต์เกี่ยวกับทหาร เกี่ยวกับสงครามครับ เป็นโปรเจกต์ที่มีความหมายกับผมมากเลยครับ เพราะผมก็เพิ่งจะปลดประจำการทหารมา ก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมในโปรเจกต์นี้ ถ้าในอนาคตมีโปรเจกต์ดีๆ อย่างนี้อีก ผมก็อยากจะทำครับ"

ความรู้สึกหลังจากที่ได้ไปถ่ายทำสารคดี

จองฮุน "เมื่อวานนี้ก็ได้ไปถ่ายทำที่อนุสรณ์สถานที่ชลบุรี แล้วก็ได้ไปพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับทหารที่เข้าร่วมในสงครามและสิ่งที่เกี่ยวกับสงคราม หลังจากนั้นก็ได้ไปเยี่ยมที่หมู่บ้านทหารผ่านศึก ตอนที่ได้เข้าไปก็มีความรู้สึกเศร้า เสียใจที่ได้เห็นว่าพวกเขาต้องอยู่กันอย่างนี้ แต่พอได้เจอกับทหารที่ได้อยู่กับลูกหลานอย่างมีความสุข ผมก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย ถ้ามีอะไรที่ผมสามารถช่วยได้ผมก็อยากจะช่วยครับ ก็ขอให้ในอนาคตไม่มีสงครามอย่างนี้เกิดขึ้นอีกครับ"

ตอนนี้เกือบทั่วโลกมีสงครามเกิดขึ้น คิดว่าสารคดีนี้ช่วยอะไรได้บ้าง

จองฮุน "ในขณะที่ด้านนึงของโลกใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แต่อีกด้านนึงของโลกก็มีคนที่เสียชีวิตจากสงคราม ตอนนี้แม้ว่าที่เกาหลีจะไม่มีสงคราม แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดสงครามขึ้นเมื่อไรก็ได้ ผมก็อยากให้ทุกคนรู้ไว้ สงครามอาจจะไม่ได้เกิดเฉพาะกับเพื่อนร่วมโลกของเรา แต่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศของเราก็ได้ ตอนที่ผมเข้ารับราชการทหาร ผมได้เรียนรู้ว่าทหารไม่ใช่คนที่เอาไว้เพื่อต่อสู้กับสงคราม แต่ทหารคือคนที่ทำหน้าที่ป้องกันประเทศ ผมก็อยากให้ทุกคนรู้และตระหนักถึงสงครามและสันติภาพของโลกครับ"