1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

เปิดห้องใจ 4 หนุ่ม ไนซ์ ทู มีท ยู คุยกันแบบตัวต่อตัว

เปิดห้องใจ 4 หนุ่ม ไนซ์ ทู มีท ยู คุยกันแบบตัวต่อตัว

กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ สำหรับ 4 หนุ่ม "Nice 2 Meet U" (ไนซ์ ทู มีท ยู) ได้แก่ "ปั้นจั่น - กวิน อิ่มอโนทัย" "เชน - ธนา ลิมปยารยะ" "แจ็ค - จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม" และ "เต้ - พงศ์ธร วนะเกียรติกุล" ซึ่งทั้ง 4 หนุ่มหน้าใสก็ได้มาเล่าอย่างเปิดใจถึงการทำอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวงว่า "Nice 2 Meet U" ให้ฟังกันด้วยว่า กว่าจะออกมาเป็นงานเพลงชิ้นนี้ พวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

ทั้ง 4 คนมารวมตัวกันได้ยังไง

ไนซ์ ทู มีท ยู "ทางบริษัทมีโปรเจกต์บอยแบนด์ขึ้นมา พวกเราก็เข้ามาถ่ายรูปเทสต์เสียง แล้วคัดมาหลายๆ คนจนเหลือ 50 คนแล้วก็มาคัดเหลือ 10 คน จาก10 คนก็มาอัดเสียงก่อน แล้วก็มาถ่ายรูปดูลุก ดูความเหมาะสม พอเลือกมาได้ 4 คนก็ยังไม่ได้การันตีว่าจะได้ทำอัลบั้ม ต้องเข้ามาไฟนอลเทสต์ และให้ค่ายเข้ามาเลือกตัวก่อนทำโปรเจกต์ครับ"

ทั้ง 4 คน เข้ามาสมัครเองหรือเปล่า

ปั้นจั่น "ไม่ใช่ครับแต่ละคนจะเข้ามาไม่เหมือนกัน ของ ปั้นจั่น ไปงานบายเนียร์ แล้วไปเจอรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งรู้จักกับพี่ที่อยู่ฝ่ายแคสติ้งของบริษัท แล้วตอนนั้นมีโปรเจกต์บอยแบนด์พอดี เค้าเลยชวน ปั้นจั่น เข้ามาเทสต์เสียงและถ่ายรูปไว้ ตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรแต่พอผลออกมาคือติด 1 ใน 10 ก็เลยได้มาเจอเพื่อนๆ"

เชน "ของ เชน จริงๆ เข้าอาร์เอสมาตั้งแต่ ม.5 ได้ประมาณ 4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นไปเจอพี่ที่เป็นแมวมองที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า แล้วก็ได้มาถ่ายปกนิตยสาร แล้วก็มาถ่ายเอ็มวี จนทางบริษัทเลือกเข้ามาร่วมในโปรเจกต์นี้อีกทีครับ"

แจ็ค "ของ แจ็ค ได้เข้ามา เพราะตอนปี 1 ได้ไปรู้จักกับพี่ฝ่ายแคสติ้ง แล้วเค้าก็เรียกเข้ามาทำประวัติหลังจากนั้นประมาณ 1 ปี ก็ติดต่อมาอีกว่าจะมีโปรเจกต์บอยแบนด์ แล้วก็ได้เข้ามาเจอกับเพื่อนๆ ครับ"

เต้ "ส่วน เต้ ก็รู้จักกับพี่ฝ่ายแคสติ้ง เค้าเรียกให้มาเทสต์ แล้วก็ได้มาทำโปรเจกต์นี้ครับ ในช่วงที่เค้าเอารูปมาเทียบกัน 10 คน จะดูว่ามีตัวใหญ่ก็มีตัวเล็ก ตอนแรกก็จะมาอัดเสียง ถ่ายรูป สุดท้ายเค้าก็มาเลือกพวกเราอีกทีหนึ่งครับ"

แล้วมารู้จักกันทั้ง 4 คนนี่ใช้เวลานานหรือเปล่า

ไนซ์ ทู มีท ยู "ปีกว่าครับ แต่ ปั้นจั่น กับ เต้ จะรู้จักกันมาก่อนตอนไปแคสต์โฆษณาครับ"

ปรับตัวเข้าหากันยากหรือเปล่า

ไนซ์ ทู มีท ยู "ช่วงแรกๆ ยากครับ เป็นธรรมดาที่เอา 4 คนมารวมตัวกัน เพราะนิสัยแต่ละคนต่างกันคนละขั้วเลย เวลาอยู่ด้วยกันก็มีจูนกันบ้างครับ อย่าง ปั้นจั่น จะเป็นขาลุยครับง่ายๆ สบายๆ เป็นคนไม่มีฟอร์มครับ เชน จะเป็นคนนิ่งๆ วันๆ อ่านหนังสือเรียน เล่นอินเตอร์เน็ต ทุกอย่างจะดูเรียบๆ แต่พอสนิทกันแล้วจะขี้เล่น พูดมาก ส่วน แจ็ค ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน แจ็ค จะนิ่งๆ บางคนอาจจะมองว่าหยิ่ง แต่จริงๆ ถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็จะยิ้มไว้ก่อน แต่พอสนิทกันแล้วก็จะยิ้มเล่น ส่วน เต้ จะเป็นคนซีเรียสกับงานครับ

พอไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้าน แจ็ค ประมาณ 5 เดือนเพื่อให้สนิทกัน ให้เข้าใจกันมากขึ้น จะได้ไม่ต้องมีปัญหาทีหลัง พอเราอยู่ด้วยกัน 4 คนตอนนั้น ทุกอย่างก็กดดันเข้ามาด้วย ทั้งเรื่องสอบ เรื่องไฟนอลเทสต์ เวลาซ้อมก็ไม่มีเวลาอ่านหนังสือก็ไม่มีอีก พวกเราเลยตัดสินใจไปรวมกันบ้าน แจ็ค เลยทำให้เห็นแง่มุมของแต่ละคนว่าเค้ามีส่วนที่เหมือนกับเรานะ แล้วเราก็มีส่วนที่คล้ายเค้า พอมาอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่เข้าใจกัน เราก็มานั่งคุยกันจนกลายเป็นผูกพัน มีความสนุกด้วยกัน อยู่ด้วยกันมันแฮปปี้ พวกเราเลยจูนเข้าหากันได้ครับ"

แล้วทำให้การทำงานง่ายขึ้นหรือเปล่า

ไนซ์ ทู มีท ยู "ง่ายมากครับ หลังจากนั้นเราจะตั้งกฎ 3-1 คือถ้าใครคนนึงทำผิดแล้วที่เหลือเห็นว่าผิดจริง คนๆ นั้นก็ต้องยอมรับครับและห้ามเถียงเลย เพราะเราใช้หลักประชาธิปไตย"

ตอนอยู่รวมกันมีอะไรที่ทำร่วมกันแล้วประทับใจบ้าง

ไนซ์ ทู มีท ยู "ที่ประทับใจที่สุดเลย คือตอนเปิดใจช่วงที่เรามานั่งคุยกัน 4 คน พอเรามานั่งคุยกันเราก็พูดตรงๆ เลย ทุกคนไม่โกรธ ไม่ทะเลาะกัน เคลียร์ครับ แล้วสิ่งที่บอกกลับเป็นสิ่งที่ดีเหมือนเรารู้ว่าที่ผ่านมาทำไมเค้าถึงนิ่ง"

มีจุดที่ไม่ไหวแล้วหรือเปล่า

ไนซ์ ทู มีท ยู "มีครับ จะรู้สึกกดดันตลอดเวลา ช่วงนั้นต้องอาศัยการซ้อมมากๆ สุดท้ายพวกเราก็ไปอยู่รวมกันต้องพากันไปให้ได้ เราถึงจะสู้กับคนอื่นได้"

ปัญหาเกิดมาจากจุดไหนบ้าง

เชน "เกี่ยวกับเรื่องเต้น ซึ่ง เชน จะเรียนหนัก ต้องเข้าเรียนด้วย แล้วเวลาซ้อมก็ไม่มี ปกติถ้าวันไหนไม่ว่างก็จะไม่เข้าบริษัท พอเต้นไม่ได้ก็จะกดดันตัวเองครับว่าทำไมเพื่อนเต้นได้ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คุยกัน จะเก็บไว้คนเดียว เครียดจนไม่ไหวเลยมาพูดกัน มาอยู่รวมกัน พอไปอยู่ด้วยกันเพื่อนๆ ก็ช่วยกันซ้อม จนออกมาเป็นวิดีโอยื่นบอร์ดแล้วผ่านครับ เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ ถ้าวันไหนใครที่ติดเรียนหรือมีธุระก็จะส่งตัวแทนเข้ามาเรียนแล้วกลับมาสอนกันที่บ้านครับ"

รู้สึกยังไงบ้างพอได้รู้ว่าจะได้ออกอัลบั้ม

ไนซ์ ทู มีท ยู "คุณแม่ พี่โปรดิวเซอร์ เค้าเป็นคนขึ้นไปฟังผล และพวกเราซ้อมเต้นอยู่ข้างล่าง พอวันนั้นรู้ผลแล้วเลิกเรียนเลยครับ ออกมาจากห้องเรียน ยิ้มแย้มกระโดดกอดกันเลยครับ หลังจากผ่านแล้วต้องซ้อมกันหนัก ทั้งเข้าห้องอัด ซ้อมเต้นหนักขึ้น พอรู้ว่าได้ออกก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าจะได้ออกเมื่อไหร่"

แล้วรู้ว่าจะได้ออกเมื่อไหร่

ไนซ์ ทู มีท ยู "ประมาณธันวาครับ ตอนแรกเค้าวางไว้ว่าไม่เมษาก็สิงหา แล้วเราต้องซ้อมกันหนักกว่าเดิมอีกจนสุดท้ายก็ได้ออกช่วงนี้ครับ"

แต่ละคนมีพื้นฐานอะไรมาบ้าง

ปั้นจั่น "พื้นฐานของ ปั้นจั่น จะเล่นกีต้าร์ได้และเคยเรียนร้องเพลงมาบ้าง สมัยอยู่โรงเรียนเก่าก็เคยตั้งวงดนตรีกับเพื่อน"

เชน "ของ เชน นี่ก็จะฟังเพลงครับ เวลาพักเที่ยงก็จะอยู่ที่โต๊ะนั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง ก็จะฟังเพลงตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ"

แจ็ค "ของ แจ็ค ด้วยความที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เริ่มจากร้องเพลงการ์ตูนก่อน เพราะ แจ็ค ชอบดูการ์ตูน ก็ร้องซ้อมเองมาเรื่อยๆ ไม่ได้ซ้อมตามหลักวิธีการร้องเพลงที่ถูกต้อง แต่ก็พยายามมาตลอด จนมาเริ่มเรียนร้องเพลงจริงจังประมาณปีกว่า แต่ก็พยายามซ้อมเองมาตลอด เพราะชอบที่จะยืนบนเวที ชอบที่จะร้องเพลงให้คนอื่นฟัง เราจึงต้องซ้อมเพื่อให้การแสดงออกมาดี"

เต้ "ของ เต้ ก่อนที่จะเข้ามาเรียนร้องเพลง เต้น เต้ ก็จะดูคอนเสิร์ตของนักร้องแล้วก็ซ้อมเต้นตามครับ"

ในอัลบั้มนี้มีกี่เพลง

ไนซ์ ทู มีท ยู "6 เพลงครับ ใจเกเร เป็นเพลงโปรโมต เพราะเป็นเพลงเอเชี่ยนป๊อป แล้วเป็นเพลงช้าด้วย แล้วเพลงนี้ก็บอกตัวตนของพวกเราได้ชัดเจนเลย คือคนที่ฟังจะรู้ได้เลยว่าพวกเราเป็นแนวเอเชี่ยนป๊อปฟังดนตรีแล้วจะรู้เลย"

แต่ละคนชอบเพลงไหนมากที่สุด

ไนซ์ ทู มีท ยู "เลิฟการันตี ครับ เพราะเป็นเพลงที่เราร้องด้วยกัน แล้วก็เป็นเพลงที่แสดงออกถึงความเป็นตัวเราซึ่งเพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 2 ครับ แล้วเพลงนี้เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก คือดึงความสดใสของทุกคนออกมาได้"

ทำไมจึงเป็นเพลงแนวเอเชี่ยนป๊อป

ไนซ์ ทู มีท ยู "ก็เป็นคอนเซ็ปต์ของโปรเจกต์นี้ด้วยครับ คนส่วนใหญ่คิดว่าเอเชี่ยนป๊อปเป็นแนวเกาหลี-ญี่ปุ่น แต่ไทยเราก็อยู่ในเอเชี่ยนด้วยนะ แล้วเราต้องการให้ทุกคนทราบว่าเอเชี่ยนก็มีไทยอยู่ด้วย แต่เราก็ไม่ได้ไปเลียนแบบเค้า คือชื่อกับวงจะเป็นเอเชี่ยนป๊อป แต่เพลงทั้ง 6 เพลงของเราจะสื่อบุคลิกของแต่ละคน เราจะเน้นตัวตนของเราให้มากที่สุดครับ กว่าจะมาเป็นอัลบั้มนี้ทุกอย่างสร้างมาจากตัวของพวกเรา จะมีทีมงานคอยเก็บภาพตลอดแล้วมาสรุปว่าแบบนี้คือตัวเรามากที่สุดครับ"

แล้วเหมาะกับตัวของเราทั้ง 4 คนหรือเปล่า

ไนซ์ ทู มีท ยู "เหมาะครับ เพราะก่อนที่เราจะได้เพลง พี่โปรดิวเซอร์จะถามว่าผมให้เพลงนี้กับคุณแล้วคุณแฮปปี้หรือเปล่า ถ้าไม่แฮปปี้คุณก็จะร้องออกมาไม่ดีแน่นอน เราจะมานั่งคุยกันตลอด แล้วจะไปนั่งคุยกับโปรดิวเซอร์ครับว่าอดีตที่ผ่านมาประสบการณ์ความรักเป็นยังไงบ้าง เจออะไรมาบ้าง ผิดหวัง สมหวังยังไง ชีวิตเป็นยังไงชอบแบบไหน คุยแล้วก็แต่งใหม่เลยครับ"

ทำไมถึงใช้ชื่อว่า Nice 2 Meet U

ไนซ์ ทู มีท ยู "Nice 2 Meet U เป็นคำพูดที่เราพูดกันว่าเรายินดีที่ได้รู้จักคุณนะ ซึ่งเป็นความรู้สึกของเราที่เราอยากจะแสดงให้รู้ว่าเราอยากรู้จักกับทุกๆ คนนะ เราก็หวังว่าทุกคนยินดีที่ได้รู้จักกับเราเหมือนกันครับ"

คาดหวังกับอัลบั้มนี้ยังไงบ้าง

ไนซ์ ทู มีท ยู "ตอนแรกที่พวกเราเข้ามามีความคาดหวังสูง พอเราตั้งเป้าไว้สูงแล้วไม่ได้จะรู้สึกแย่มากๆ เราเลยคิดว่าเราจะไม่คาดหวังสูงครับ เราจะไปเรื่อยๆ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่อยๆ ก้าวไปด้วยกันครับ"

อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ บ้าง

ไนซ์ ทู มีท ยู "ก่อนอื่นก็ขอบอกว่า ไนซ์ ทู มีท ยู ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนครับ แล้วก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้มาตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามาจนถึงตอนนี้ พวกเราประทับใจจริงๆ แล้วก็อยากให้ทุกคนมารู้จักกับพวกเราแล้วจะรู้ว่าพวกเราเป็นยังไง เพราะยังมีหลายช่องทางที่จะรู้จักกับเรา และก็ฝากผลงานเพลงทั้ง 6 เพลงให้ติดตามกันด้วยเพราะมาจากตัวตนของพวกเราทั้ง 4 คนอย่างแท้จริง และขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่สนับสนุนพวกเรามาตลอดสามารถร้องเพลงเราได้ ทำทุกอย่างให้พวกเรา พวกเราขอบคุณจริงๆ ครับ"

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12

ความคิดเห็น