[SJ] SM entertainment กดขี่อย่างทาส
วันนี้จึงนำบทวิเคราะห์ของจีนมาให้อ่านกัน
ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านนิดนึงนะคะ
มันเป็นแค่บทความวิเคราะห์ค่ะ
จริงเท็จ อย่างไรนั้น ก็ไม่ทราบได้
**อ่านให้จบนะค่ะ ยาว มากก
ว่ากันว่า
Super Junior จะแยกวงใน 2009 นี้??
เรื่องมีอยู่ว่า
สัญญาระหว่าง ฮีชอล นั้นหมดไปเมื่อ ต้นปี 2008
ฮีชอลยังไม่ตัดสินใจจะเซ็นสัญญาต่อ ทางบริษัทจึงหยุดงานของ ฮีชอล ทั้งหมด จ
นกระทั่งได้เซ็นสัญญาใหม่จึงให้เค้ากลับมารับงานต่อ อ่ะแน่ะแนนว่า SM จะปล่อย ฮีชอล ไปได้ไง
เมื่องานของเค้ามีทั้งงานแสดงแลพิธีกรรายการมากมาย
ต่อมาคือ
สัญญาจ้างระหว่าง ซีวอน กับบริษัท SM จะหมดลงในปี 2009 นี้
และด้วยฐานะทางครอบครัวของซีวอน (เพราะเป็นลูกชายเจ้าของห้างที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี)
ระยะเวลาและข้อจำกัดของเค้าจึงไม่เหมือนคนอื่นในวง มีอิสระมากกว่าคนอื่นมาก
และซีวอนเคยสัญญากับพ่อว่าหลังหมดสัญญาเค้าจะเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา
นั่นคือปีนี้ 2009 นี้อ่ะ
ทำให้นึกถึง คิบอม ช่วงที่หายไปนั้นเป็นเพราะยังไม่ยอมต่อสัญญาหรือเปล่า
ทางค่ายเลยหยุดงานทั้งหมดของเค้าไปช่วงหนึ่ง จนอัลบัลที่ 3 เค้าก้อไม่มาโปรโมทกับเพื่อนในวงด้วย
วงนี้จะแยกหรือไม่ในปีนี้คงต้องดูกันต่อไป
*********
ว่าด้วยสัญญาทาสกัน
ขอเริ่มเรื่องที่ ฮันคยอง หรือ ฮันเกิง ป๋าฮันของหลายๆคน
ฮันคยองได้เป็นนักร้องในเกาหลีเป็นเพราะว่า ทาง SM ต้องการบุกตลาดเพลงที่จีน
นั่นก้อเริ่มมาตั้งแต่ ดงบังชิกิ 东方神起 (ที่ตั้งชื่อเป็นภาษาจีน รวมถึง ชื่อ girl generation -- SNDN 少女时代) คนในบริษัทเคลพูดว่า ฮันคยอง เป็นเพียงไม้กระดานที่ทำความฝันของบริษัทเป็นจริงเท้านั้น (คือ เป็นไม้กระดานให้บริษัทกระโดดไปถึงฝันจุดที่สูงสุดเท่านั้น)
ฮันคยอง ได้เซ็นสัญญา ทาสฉบับเดียวกับดงบัง คือ 13 ปี
เป็นเพราะว่าเค้าเป็นตัวเด่นในการบุกตลาดที่จีน จึงต้องผูกมัดไว้
ตามข่าว บอกว่า นักร้องเกาหลีจะได้ 100 วอนจากการขายซีดี 1 แผ่น
ดังนั้น วง SJ มีคน 13 คน จะได้คนละไม่เกิน 20 วอน หลังหักภาษีแล้ว จะเหลือ 0.22 บาท (0.05หยวน)
เพราะการแบ่งรายได้ระหว่างค่ายกับนักร้องตกลงกันไว้ที่ 80% บริษัท ต่อ 20% นักร้อง
เมื่อเทีบยกับทางตะวันตกหรือจีนแผ่นดินใหญ่คือ 40% บริษัท ต่อ 60% นักร้อง
(แฟนๆที่จีนเชียร์ให้กลับมาออกเทปที่จีน แต่ป๋าฮันถูกผูกมัดกัยสัญญาทาส - ใจหนึ่งก้ออยากให้ยุบวงจริงๆ)
นอกจากนี้ล่าสุดทางบริษัทยังต้องการให้ วง SJ ออกค่าช่างแต่หน้าด้วย
จากรายได้ที่แทบจะไม่มี ยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายอื่นทั้งเสื้อผ้าหน้าผมของในวงอีก
ทำให้ หนึ่งในนั้น บ่นออกว่า อยากฉีกสัญญานั้นทิ้งเลย แต่ไม่อาจทำได้เพราะจะถูกปรับเป็นเงิน 5 เท่าของค่าเสียหารและ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก 300 ล้านวอนอีก (จากเดินก้อไม่มีเงินอยู่แล้ว จะเอาอะไรไปจ่ายเนี่ย)
---------
สัญญาทาส ของ ดงบังชินกิ
ล่าสุดทางบริษัทSM ออกมาแถลงรายได้ของ ดงบัง ว่า ตั้งแต่เดบิวถึง 2009 มีรายได้ทั้งหมด 110,000,000,000 วอน (1 แสน 1หมื่น ล้านวอน) แต่สมาชิกทั้งสามออกมาตอบโต้ว่า จริงๆแล้วหลังหักรายรับแก่บริษัทกับภาษีแล้วพวกเค้าได้แค่ 200ล้านวอนต่อปีเท่านั้น(เมื่อหาร 5 แล้ว ได้คนละ40ล้านวอน)
และยังต้องเสียภาษีอื่นๆรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านเสื้อผ้าหน้าผมของคนในวงอีกด้วย และตั้งแต่ต้นปี 2009 เป็นต้นมา อัลบัลที่ออกในญี่ปุ่นทำรายได้มากถึง 330,000,000,000 วอน (3 แสน 3 หมื่น วอน) อีกทั้งตั้งแต่เดบิว จนถึงตอนนี้ ทั้งอัลบัลและซินเกินรวมทั้งหมด 48 แผ่น ทางบริษัทมีรายได้มหาศาลแล้ว แต่สมาชิกในวงได้เพียง คนละ 40 ล้านวอน มันไม่ยุติธรรมมากๆเลย ได้แค่ 0.04-0.01% มั้งเนี่ย
จากข่างวงในบอกอีกว่าทางบริษัทมีแผนในการกดขี่นักร้อง วงดงบัง อย่างมาก คือ บริษัท SM จะแยกเป็นฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นเมื่อได้รายได้จากญี่ปุ่นจะทำการแบ่งแยกรายได้ระหว่างทั้ง 2 บริษัทก่อน แล้วค่อยแบ่งรายได้ 80/20กับดงบังในรายได้ส่วนของบรษัทที่เกาหลีอีกที จากเดิที่มีรายได้น้อยอยู่แล้วก้อน้อยลงไปอีก
ยกตัวอย่าง ( 100 ล้าน เอามาหาร 2 จะเหลือ 50 ล้าน ดงบังจะได้แค่ 20% จาก 50 ล้านนั้น แล้วก้อหาร 5 และลบค่าใช้จ่ายเสื้อผ้าหน้าผมออก)
ตามข่าว บริษัทได้ยกรถยนต์นำเข้าให้ดงบังด้วยนั้น จริงๆแล้วเป็นแค่เจ้าของเพียงภายนอก แต่รถยังเป็นในนามของบริษัททั้งหมด
Micky บอกว่าเสียความรู้สึกกับทางต้นสังกัดมากๆ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของศาลในการตัดสินแล้ว และในอนาคตหากว่าทั้งสามคนจะไม่ได้อยู่ในบริษัทนั้นแล้ว กับ 2 คนที่เหลือ แต่วงดงบังจะไม่แตกแนนอน ทั้ง 5 ยังคงทำกิจกรรมต่างๆภายใต้นาน ดงบังชินกิ อย่างแน่นอนและบอกอีกว่าพวกเค้าไม่ใช่เครื่องจักรหาเงินของ SM ที่มีวันหยุดเพียง 1 สัปดาห์/ปี และนอน 3-4 ช.ม./วัน
ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมากล่าวว่า นาม "ดงบังชินกิ" นั้นไม่เป็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ SM พยายามจะจดทะเบียงแต่ไม่สำเร็จ ดังงนั้น แม้ว่าทั้งสามจะเลิกสัญญากับทาง SM แล้วก้อตาม จะไม่กระทบกิจกรรมที่พวกเขาจะทำในนาน ดงบังชินกิ ในอนาคตนั้นอย่างแน่นอน
---------
ต่อไปเป็นบทสัมภาษของเด็กจีนอีก 2 คนที่ได้เดินทางเป็นเด็กฝึกหัดพร้อมกับฮันคยอง ใน SM เมื่อ 2002
李笑 หนึ่งในนั้นบอกว่า เขาได้เซ้นสัญญา 10 กับ SM สัญญาหนาถึง 8 หน้า 李笑 ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายรักษาของพ่อลงไปในสัญญานั้น และเดินทางไปเกาหลีพร้อมกับด๊อบเรียนมหาวิทยาลัยไปปริยาย ระหว่างนั้นต้องไปกลับประเทศ ทุก 3 เดือน(เหมือน ฮันคยอง) ทั้งนี้เพราทางบริษัทตั้งการประหยัดเงิน ทำเป็นเพียงวีซ่าท่องเที่ยง เพราะทำวิซ่าทำงานต่อที่นั่นต้องเสียภาษีกับทางกรมศุลกากรกับจีน จึงให้เด็กฝึกหักบินไปกลับจะได้ประหยัด แต่เมื่อเดินทางกลับมาจีนครั้งที่ 4 (ปี2004) เค้าถูกลอยแพ ทางบริษัทให้ข้ออ้างว่ามีปัญหาเรื่องวีซ่าให้รอหน่อย (จริงๆแล้วในสัญญาของเค้าบอกว่าจะให้รายได้เค้า 4000 หยวนต่อเดือนและค่ารักษาพยาบานของพ่อเค้าด้วย เพราะเหตุนี้บริษัทจึงตัดปัญหาเลิกสัญญากลับ 李笑 ) ตอนนี้李笑 ได้ดำเนินคดีกับ SM เรื่องกค่าเสียหายเป็นเงิน 120,000 หยวน ในปี 2006 ทางSM กลับขู่เค้ากลับว่า 李笑 เป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อนและเรียกค่าเสียหายกลับ ต่อมาไม่นานทาง SM ส่งผ่านทนายความ ให้ทั้งสองฝ่ายประณประนอมยอมความ จะจ่ายเงินให้ 160,000 หยวน แต่李笑 ไม่ยอมพร้อมเรียกค่าเสียหาร 2 เท่าและขอดเนินคดีทาง กฎหมายต่อไป
คำบอกเล่าจากทนายของ 李笑
สัญญาที่ 李笑 เซ็นนั้นเป็นสัญญาละเมิดกฎหมายผู้ใช้แรงงาน โดย SM ได้เสนอข้อสัญญาไม่เป็นธรรมหลายข้อ จากทั้งหมด 8 หน้า พบว่า SM ได้กำหนดออกค่าใช้จ่ายให้นักร้องน้อยมาก ส่วนใหญ่นักร้องต้องรับผิดชอบเอง อีกทั้งข้อสัญญาหลายข้อกระทบต่อ กฎหมายระหว่างประเทศ
เริ่มแรกคือ ถ้าต้องการฟ้อง ต้องฟ้องในเขตศาลของเกาหลี(เขตอำนาจของศาลที่ SM ตั้งอยู่เท่านั้น) จะฟ้องในศาลในจีนไม่ได้ ทำให้การฟ้องร้องเป็นไปได้ยากทั้งภาษาและค่าเดินทาง (ซึ่งตามกฎหมายแล้ว โจทย์มีสิทธฟ้อง ณ ศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่หรือ ณ ที่เกินสัญญา)
จุดที่ 2 คือ 李笑 ได้เซ็นสัญญา ทั้งหมด 3 ฉบับ แยกเป็น จีน เกาหลี อักกฤษ ในสัญญาภาษาีจนกล่าวว่า ทางSMจะจ่างเงินประมาณ10ล้านบาทเป็นค่ามัดจำเพื่อเป็นนักร้องในสังกัด แต่สัญญาอีกสองภาษาที่เหลือจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งข้อจำกัดและทางกฎหมาย (เป็นการเอารัดเอาเปรียบทางภาษาหรือคนต่างชาตินั้นเอง เพราะปกติสัญญาจะมีฉบับเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก้อมีผลบังคับได้)
จุดที่ 3 คือ สัญญาข้อที่ 9 กำหนดว่า เงินมัดจำที่ให้ไป ทาง SM จะตัดจากค่าตัวที่ได้จาการแสดงและออกเทปทั้งหมดคืนจากตัวนักร้อง (เท่ากับว่านักร้องต้องใช้เงินของตังเอง ปลุกปั้นตังเอง เป็นเพื่ยงเครื่องจักรทำงานให้ SM เท่านั้น)
จุดที่ 4 คือ ข้อที่ 12 ใน สัญญาทาส กล่าวว่า หากมีการเลิกสัญญัาเกิดขึ้น นักร้องต้องจ่ายเงินทั้งหมด 5 เท่าของความเสียหายทั้งหมด และต้องเสียเลิกสัญญาเป็นเงิน 300 ล้านวอน ( 10 ล้านบาท) ตามความเ็นจริงแล้วทางบริษัทต้องเสียเงินมากในการปั้นดารานักร้องออกมา แต่ค่าเสียหาย 5 เท่ากับค่าอื่นอีก 300ล้านวอนดังกล่าวมันเกินไป อีกทั้งในสัญญาว่าเมื่อจ่ายครบแล้วยังไม่สามารถเลิกสัญญาได้ทันที และตังนักร้องก้อต้องออกจากวงการบันเทิงตลอดชีวิตด้วย
都市时报 2006年6月17日
แปลจากหนังสือพิมพ์ ตูซื่อเฉิงเป้า(จีนแผ่นดินใหญ่) วันที่ 17 เดือนมิถุนายน ปี 2006
http://goabroad.wenda.sogou.com/question/3...196.html?fr=rqm
---------
เด็กฝึกหัดอีกคนที่ไม่เปิดเผยชื่อบอกว่า เกือบได้เป็น สมาชิกดงบังชินกิ แต่ก้อดีใจที่ตัดสินใจกลับจีน
ซึ่งเค้าเคยขึ้นเต้นในเวทีเดียวกับ เรน มาก่อนจะเป็นนักร้องดัง
เด็กฝึกหัดเล่าว่า ได้เดินทางไปเกาหลีเพื่อฝึกหัด ระหว่างอยู่ที่นั่นได้เห็นชีวิต เหล่า dancer มีฐานะต่ำต้อยที่สุด ถูกดูถูกมาก นอกจาก dancer ดังๆเท่านั้นถึงมีฐานะทางสังคม เด็กหลายคนที่ฝึกหัดจะไม่มีรายได้ บางคนถึงขนาดหยิบบุหรี่ที่คนอื่นสูบแล้วมาสูบต่อก้อมี และครูฝึกบางคนก็โรคจิตมาก ให้นักเต้นเต้นให้ไ้ด้เหงื่อวันละ 1 ถังน้ำ (15 ลิตร) หรือใช้รองเท้าตบหน้านักเต้นก้อมี เด็กฝึกหัดทุกคนจะเกรงกลัวทำ้ได้เพียงก้มหน้า ขอโทษ อย่างเดียว
นอกจากนี้ ดารานักร้องมักเกรงกลัว ผู้จัดการของตังเองมาก จากบทสัมภาษของ ผู้กำกับชื่อดังของจัน บอกว่าครั้งหนึ่งเคยทางข้าวกับดารา จอน จี-ฮุน (นางเอก My Sassy Girl ) เธอแทบไม่กล้าขยับตะเกีบยเลย จนกระทั่งผู้จัดการของเธอบอกว่า ทานข้าวได้ จอน จี-ฮุน จึงจะเริ่มทางข้าว
Edited by Kagaribi : เนื่องจากบทความดังกล่าวเป็นบทวิเคราะห์ และข้อความบางส่วนไม่มีแหล่งอ้างอิงของข้อมูล หรือมีเนื้อหาขัดแย้งกับข้อเท็จจริง จึงขอนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาลงเพิ่มเติมท้ายกระทู้นะคะ
- สัญญาขั้นพื้นฐานของเทรนนี่ (เด็กฝึกหัด) ที่ผ่านการออดิชันกับบริษัทเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนท์คือสัญญา 10 ปี ซึ่งจะมีผลนับแต่ปีที่ศิลปินเริ่มต้นการฝึกฝนกับบริษัท
- คิม ฮีชอลให้สัมภาษณ์ในรายการ Happy Together ทางช่อง MBC ว่า "เขาและสมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์คนอื่นๆ ต้องเซ็นสัญญาฉบับปรับปรุงแทนสัญญาฉบับเด็กฝึกหัด" สัญญาฉบับปรับปรุงดังกล่าวมีระยะเวลายาวนานกว่ามาก คาดว่าเป็นสัญญาฉบับ 13 ปีแบบเดียวกันกับสมาชิกทงบังชินกิและฮันกยองที่ถูกกล่าวถึงในย่อหน้าถัดมา แต่ฮีชอลไม่ได้ระบุว่าสมาชิกกลุ่มดังกล่าวคือสมาชิก 12 คนของ Super Junior05 หรือสมาชิก SuperJunior ที่มีคยูฮยอนรวมอยู่ด้วย
เข้าใจว่าเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวกับการหมดสัญญาของฮีชอลและชีวอน เป็นการวิเคราะห์จากพื่นฐานข้อมูลของสัญญาเทรนนี่ และการพักงานเป็นเวลานานของคิม ฮีชอลในช่วงต้นปี 2008 โดยไม่ทราบข้อมูลที่ฮีชอลเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ในรายการดังกล่าว หรือมีข้อมูลสนับสนุนอื่นที่ผู้วิเคราะห์ไม่ได้กล่าวถึงในบทความ หรืออาจจะไม่ได้แปลมาทั้งหมด
เครดิตจากเว็บ heechulthailandfanclub.com
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
คลิกที่นี่เพื่อดูความคิดเห็นทั้งหมด
ในความสุขทำไมมันต้องมีความทุกข์ ???
ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างมั๊ย ?
SM ทำไมทำตัวน่าเกลียดจังห่ะ
ทำกะพวกพี่ชายอย่างนี้ได้ไงเนี่ย
ไม่รู้จะด่ายังไงให้เหมาะสมกะสิ่งที่เธอทำอ่ะ
สู้เค้าต่อไปนะ
ดงบังและเอสเจ
จะมีแคสและเอลฟ์อยู่เคียงข้างเสมอ
เราจะไม่มีวันทิ้งพี่ๆไป
เหอะ !
พอศิลปินหมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้ง พอมีประโยช์นหน่อยก็โกยเอากำไรฝ่ายเดียว - -
พอมีวงใหม่มาดันๆๆๆดันอยู่นั่น! เบื่อ! วงที่มีอยู่ทำไมไม่หันมาโปรโมทมั่ง ทำไมไม่เคยสนใจ
พอพี่สาวเริ่มจะดังก็ส่งไปโปรโมทที่อื่น กี่ปี่แล้ว!? กี่อัลบั้มที่ออก?
จะต้องให้PMไปขอร้องอีกกี่รอบถึงจะให้คัมแบ๊ค T T'
เกลียดเลย!!!
ทำกับเอสเจและดงบังได้ยังไง
โดยเฉพาะ " ฮันเกิง"
ชั้นไม่ชอบคุณ !! ฝ่ายการเงิน SM Entertainment
โอ๊ยยยย
อย่ายุบนะ
มันร้ายยิ่งกว่าแผ่นดินไหวอีก
TT
มากไปมั้ย !!
0.22 บาท / 1แผ่น
นักร้องได้แค่นี้แล้วพวกคุณหละ ??
คงสบายแล้วหละซิ
มองได้หลายมุมนะ ทั้งค่าย ทั้งศิลปิน ก็ต่างส่งเสริมกันและกันเองทั้งนั้น
ไม่มีค่ายคอยช่วยเป็นผู้จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ ศิลปินก็ไม่มีทางดังได้
ไม่มีศิลปินที่มีแฟนคลับมากมาย ค่ายก็คงไม่ดังเช่นกัน
ตัวศิลปินเอง ในวันที่ยังไม่ดัง ไม่มีชื่อเสียง ก็ยอมเซ็นต์สัญญาและรับเอาข้อเสนอทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ได้แจ้งเกิดในฐานะนักร้องตามความฝันของตัวเอง
ทางค่ายก็หวังจะกอบโกยเอาให้ได้จากตัวศิลปิน ใช้ความฝันของคนคนนึงเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ จากที่ลงทุนไปเท่าไหร่ ก็กะจะเอากำไรคืน 300%
แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี้ มันก็สรุปใจความได้ด้วยคำสั้นๆ คำเดียวคือ "ธุรกิจ"
งานนี้ไม่มีใครถูกใครผิด
มีแค่ตกลงกันได้ กับ ตกลงกันไม่ได้ เท่านั้นเอง
ถ้าตกลงได้ ก็กลายสภาพความสัมพันธ์เป็น คู่สัญญา
ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็กลายสภาพเป็น คู่กรณี หรือคู่ความ ก็แล้วแต่ว่าเรื่องมันจะลุกลามใหญ่โตไปถึงไหน
แต่ประเด็นนึงที่ควรจะเข้าใจก็คือ นักร้อง ก็คือนักร้อง ผู้บริหารก็คือผู้บริหาร
ผู้บริหารอาจจะไม่มีความสามารถในการเป้นนักร้อง แต่ในทำนองเดียวกัน นักร้องเอง ก็อาจจะไม่มีความสามารถในการบริหารเช่นกัน หมายความว่า ถ้านักร้องเกิดแยกตัวออกมา แล้วไปเปิดค่ายเพลงเอง มันมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่นักร้องคนนั้น จะจบอาชีพนักร้องตัวเองลงไป พร้อมกับเงินทุนก้อนมหาศาลที่ใช้ลงไปกับการเปิดค่ายเพลง (เพราะการทำค่ายเพลงน่ะ ใช้เงินทุนมหาศาลจริงๆ เรียกได้ว่าเป้นร้อย-พันล้านเลยก็ว่าได้)
นี่คือความเห็นส่วนตัวของเรานะ
เราไม่อ่านหรอก
เพราะรู้ว่ายังไง
เขาก็อยากให้ศิลปินได้ดีทุกคน
ดูแต่ละคนก็ดังข้ามฟ้า
ทำไมคุณเอามาลงให้คนอื่นเขาเกลียดแบบนี้ล่ะคะ
ขุดเรื่องเก่าๆมั่วๆมาอยู่ได้
ไม่ได้เรื่อง~!!!!!!!!
SM กำลังหากินกับศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังตามหาความฝัน
คุณกดขี่พวกเขา กดขี่เอาจากความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้
แล้วซักวันคุณจะรู้ว่าอะไรๆมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดนักหรอก :')
sm ค่ะ
เลวค่ะ
สุดยอด
ทำกับป๋าฮันเปนเพียงไม้กระดานเเค่นั้นเหรอ
ทุ เรศ
สงสารทุกคนที่อยู่เอสเอม
ย้ายค่ายด่วน
ป๋าเอาเกี๊ยวมาถล่มตึกเอสเอมเลย(ช่วยไรได้มั้ยนิ555+)
ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
ยิ่งอ่านยิ่งเกลียด
ถ้าโดนเอาเปลียบบ้างแล้วจะรู้สึก
เกลียดจนไม่รู้จะเกลียดยังไงดีแล้ว
ทำไมเอสเอ็มเห็นแก่ตัวแบบนี้ ?
พูดประโยคนี้มาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็นะไม่รู้ทำไมก็ต้องพูดอีกอยู่ดี
เอาจากใจจริงๆคือรู้สึกผูกพัน(จะเรียกว่าไงดีล่ะ ?)กับเอสเอ็มนะ
เพราะว่าเป็นต้นสังกัดของดงบัง เอสเจและวงอื่นๆอีก
เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบศิลปินทุกวงในสังกัดนี้เลย
ก็เลยคิดว่า ไม่อยากให้พี่ๆต้องออกจากที่นี่ แต่แบบนี้มันเกินไป!!!!!!!!!
ชนิดที่ว่าเห็นแล้วเป็นใครก็ทนไม่ไหวจริงๆ
คนบงการอยู่ข้างหลังทำไมเป็นคนที่.. ยิ่งพูดแล้วยิ่งจะขึ้น
พวกแบบนี้คงเรียกว่าคนคงไม่ถูกมั้ง หึ !
หน้าเลือด หน้าเงิน คิดแต่ประโยชน์ตัวเองฝ่ายเดียว
ไม่คิดถึงคนอื่นเลยรึไง(ว่ ะ)คะ ว่าเค้าจะเป็นยังไง เหนื่อยแค่ไหน
กับการที่ต้องเป็นเครื่องจักรให้พวก(ไม่ใช่)คนอย่างคุณหากินด้วยหยาดเหงื่อ ความมุ่งมั่นของเค้า
ยิ่งพูดแล้วยิ่งเดือดคะ ต้องขอโทษจขกท.ด้วยอีกคนนะคะ
โกรธไปหน่อย ขอระบายนิดนึงนะคะ แหะๆ
* #42 จริงๆก็เห็นด้วยนะคะ
เฮ้ออ เพราะนี้คงเป็นสัจธรรมของโลกธุรกิจ
SM รู้ไหม เรารักศิลปินในค่าย
และก็ทำให้ เรารัก ค่ายนั้นๆ ด้วย
แต่ตอนนี้ หมดกับ SM สุดๆ
สงสารศิลปินนะ..... เป็นกำลังใจให้
นี่ SM คุณนำนักร้องพวกนี้มาเกาะกินเหรอ
เค้าดังขนาดนี้ทำให้ค่ายคุณดังไปด้วยอ่ะ
แล้วค่าใช้จ่าย เค้ากลับเปนคนออกเองซะงั้น
นี่มันเรียกว่า ค่าย งั้นเหรอ
คุกชัดๆ ขนาดคุกเค้ายังออกค่าใช้จ่ายอะไรต่ออะไรให้เลย
ค่ายนี้เหลือทน
บอมมี่ออกมาจากค่ายนั้นเถอะ
ถึงเรารักบอมมาก ขนาดยอมตายได้ อยากเห็นบอมในรายการนู้นนี้ MV ต่างๆ
เเต่ถ้าเป็นเเบบนี้เราไม่อยากเห็นบอมลำบาก
แอบเกลียด sm
เราไปต้องค่ายเพลงที่เกาหลีแล้วขนพวกเค้าไปอยู่ค่ายเราได้มั้ย ? - -
555+
SM ยิ่งกว่าคำว่าเลวค่ะ คห.49
>_<*
เห็นด้วยกับ ค.ห 52
ไม่มีคำบรรยายเกี่ยวกับพวกนี้อีกแล้ว
มันโหดมาก ๆๆ และเห็นแก่ตัวที่สุด
อยากรู้ ถ้าไม่มีโอป้า ไม่มีออนนี่
เอสเอมจะเหลืออะไรมั้ย สงสารโอป้า
ถ้าให้มาเป็นตัวทำรายได้ให้ ก็ดูแลกันดีๆไม่เป็นรึไง
โมโหวุ้ย...
อาจจะเป็นเรื่องจริงนะ เพราะมีคนเคย เอามาบอกในเมล์ น่ะ แต่เปนเพียง
แค่ ข่าวสั้นๆไม่ยาวมาก
ตามความคิดนะ
คือ เอสเอม มันเป็นกฎ แบบนี้ตั้งนานแล้ว เรื่อง สัญญา ทาส
ถ้าใครทำให้ผลงานดี ก็จะได้เซนสัญญาอยุ่ต่อ คล้ายๆว่า ใครทำงานดีอยู่
ใครทำไม่ดีก็เชดหัวออกไป ยังไงอย่างงั้นแหละ
ไม่งั้น ค่าย เจวายพี จะมีคนไปสมัครเยอะขนาดนั้นหรอ
ดูเอสเอมสิ กว่าจะมีน้องใหม่ ยาก ชมัด แล้วด้วยความเห็นแก่ตัวของค่ายแล้ว
มันก็อดที่จะว่าไม่ได้ เงินแค่นั้นเอาไปทำซากไรละ ทำงานมาแทบตาย
ทำงานแทบไม่มีพัก แล้วดุตัวเองสิ ได้เงินแล้ว สบายใจ ใช้คนอื่นเยี่ยง
ทาส มัน คิดว่ามันเป็นใครมีอิทธิพล ขนาดนั้น
เราน่ะ สันบสนุน เพราะดาราไม่ใช่ เพราะค่าย
นี่ถ้า เอสเจ กับ ดงบัง แล้วคนที่อยู่ในค่ายนั้น มาอยู่ เจวายพี สิ
อยากรู้นัก จะมีใครสนับสนุนค่าย เอสเอม บ้าง นี่เพราะมี เอสเจ หรอกนะ ถึง
สันบสนุนมาถึงปัจจุบันนี้อ่ะ
เกลียดค่าย เอสเอม เหลือทน ถ้าฉันเป็นญาติคุนนะ คุนจะเจอดีแน่
80/20
บ้าป่ะ?
เห็นแก่ตัวมาอ่ะ
แล้วยังมาให้นักร้องออกค่าเสื้อเองอีกอ่ะ
โห!!
แล้วคิดดูดิเอสเจมีตั้ง 13 คน
แล้วต้องแบ่งๆเงินกันอีก
แล้วยังมาออกค่านู่นค่านี่อีก
เงินจะไม่พอใช้อยู่แล้ว
แล้วค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีก
หมดกัน!
ใช้ยังกับทาสเลย
เอสเจ+ดงบัง
ออกมาทำค่ายเองดีกว่า
ทำรวมกัน
ไม่ต้องมีใครกดขี่ข่มเหง
นักร้องนะไม่ใช่[color=Red]ทาส[/color]
เราพูดตรงๆนะ ตอนแรกที่มีข่าวเรื่องดงบัง เราคิดในใจว่าเออมีข่าวแบบนี้
เอสเอมอาจจะรักโอปป้ามากขึ้นก้ได้ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย- -กลับแย่กว่าเดิมอีก
ใจจริงเราถ้าเรารวยนะเราอยากจะตั้งบริษัทเอลฟ์ จำกัดมหาชนจริงๆๆแล้ว
ดึงตัวออกมาจากเอสเอมเลย เราไม่เข้าใจจริงทำแบบนี้ แล้วใครที่ไหนมันจะไปทนได้
วันไหนที่ทุกวงออกจากเอสเอม เราจะมีความสุขและจะหัวเราะให้ฟันหลุดไปเลย
ลองคิดดูสิถ้าลุกหลานคุณ พี่น้องหรือตัวคถรเองต้องดดนบริษัท เฮียๆๆ แบบนี้
ทำกับคุณแบบนี้คุณจะรู้สึกไง หัดเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบาง เห็นแก่ตัวนี่ที่1
ถ้าจัดรางวัลบริษัทเห็นแก่วเอสเอมคงได้ที่1 เราไม่อยากจะด่า เรายิ่งเป็นคนด่า
เรายิ่งเป็นคนด่าไมค่อยเก่งอยู่ด้วย การกระทำแบบนี้มันไม่เรียกว่าคนแล้วนะ
มันยิ่งกว่ามนุย์ที่เฮียๆๆอีก ลองคิดดูและกันถ้ายิ่งกว่ามนุษย์ที่เฮียๆแล้วมันจะขนาดไหน
ชาติหน้าหรือชาติไหนของให้โอปป้าไม่ได้อยู่บริทเฮียๆแบบนี้อีก ของให้เจอบริษัทที่ดีหว่านี้
ไม่สาระ สระเอ ล ว หรือชาติ ชไม่หันอากาด ไม่เอก ว แบบนี้ สาธุๆๆๆๆๆ
ชาติหน้าของให้มีบริษัทเอลฟ์ จริงๆๆและโอปป้าก็มากอยู่จริง ๆๆๆ
เราไม่อยากจะด่า บอกแล้วว่าด่าคนไม่เก่ง - -
ไม่คิดบ้างหรอถ้า บริษัท
ไม่มีศิลปินแล้วจะเปนยังไง
ทัมแบบนี้กับพวกเค้าได้ไง
ต่างคนต้องพึ่งพากัน
ฉะนั้นค่าตอบแทนก้อน่าจะสมน้ำสมเนื้อมากกว่านี้
ไม่ใช่เอาเปรียบกัน
น่าสงสาร โอปป้าอ่ะ
ถ้าเอสเอมขาดดงบัง ขาดเอสเจ ชายนี่ โบอา จางลี่อิน และอื่นๆ ที่ดังๆ ซะอย่าง
จะอยู่ได้ไม๊ สู้ยอมลดกำไร[อันมหาสาร]ลงนิดนึง บริษัทคุณจะอยู่ได้อีกนาน
โหดมากเลย 80/20..
เห็นแก่ผลประโยชน์จริงๆเลย SM เนี้ย..
ทำไมไม่นึกถึงจิตใจของคนทำบ้าง..
ว่าเค้าเหนื่อยนะเว้ย
เห็นแก่ตัวที่สุด !!
อย่ายอมแพ้นะคะโอปป้า
พวกอยู่เคียงข้างโอปป้าเสมอ
Fighting !! ;s
smเอาเปรียบนักร้องเกินไปแล้วขนาดช่างแต่งหน้า ทำผมถึงกับต้องให้โอป้าออกเงินเองเลยหรอค่ะ
มันไม่แรงไปหน่อยหรอค่ะตัวเองมีเงินไว้ทำไมศิลปินทำรายได้ให้คุณไปทำไหร่ต่อเท่าไหร่ทำไมไม่หัดสำนึกซะบ้าง ไม่เข้าใจsmเลยจริงๆ ถ้าวันหนึ่งดงบังชินกิ super junior shinee snsdและวงอื่นๆย้ายค่ายละก็พวกคุณก็ไม่มีนักร้องให้มาเอารัดเอาเปรียบอีกแล้ว จะไปหามาใหม่ก้คงไม่มีมาหลงกลคุณแล้วแหละ ก็เข้าใจนะว่าที่ทำมันคือธุรกิจแต่นี่มันเป็นธุรกิจของนรกชัดๆเคยแครความรู้สึกของคนมั่งมั้ย นั่นคนนะไม่ใช่เครื่องจักรสักมีแต่ใช้งานคนมันก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ
อย่าเห็นแต่ส่วนตัวสิค่ะเห็นใจคนอื่นซะบ้าง พวกคุณจะหน้าเลือดไปถึงไหนเงินที่มีหน่ะไม่พออีกหรือไงอย่างกได้ป่ะเมื่อก่อนรู้สึกขอบคุณsmมากที่ทำให้มีวงsuper juniorเกิดขึ้นแต่เรื่องร้ายๆหลายอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้รู้สึกไม่ดีกับsmมาก
ป๊าฮันก็เป็นคนเหมือนกับคุณนะค่ะทำไมคุณถึงคิดกับเขาเป้นแค่ไม้กระดานเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ??? คุณได้เกิดมาเป็นคนหรือป่าว???
สิ่งที่คุณทำมันไม่ใช่การกระทำของมนุษย์แล้วนรกส่งคุณมาเกิดหรือไง
พอเหอะเลิกเอารัดเอาเปรียบผูอื่นซะ แล้วลองใช่ตาของคุรมองดูศิลปินของคุณนะว่าคุณใช้แรงงานเค้าเหมือนคนหรือป่าว ในเมื่อมีโอกาสก็แก้ตัวซะ อย่าให้คนอื่นต้องเกลียดคุรไปมากกว่านี้เลย ถ้าวันใดศิลปินของคุณลุกขึ้นมาสู้ละก็รับรองได้เลยว่าคุณคงไม่พ้นคดีอาญาแน่ต่อให้คุณมีทนายที่เก่งขนาดไหนก็ตามทีเถอะ
ทำตัวได้น่ารังเกียจที่สุด
เอสเอ็ม
ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ไม่รู้จะว่ายังไง ไม่เคยเจอบริษัทไหน' โรคจิต 'ได้ขนาดนี้เลย } ;
นี่ก็เป็นสาเหตุใช่มั๊ย ที่โอปป้าไม่ค่อยแต่งหน้ากันขึ้นไลฟ์แล้ว ต้องออกตังค์กันเอง !
สงสารพี่ เป็นห่วงพี่อยากช่วยพี่ ; TT
เราว่าแล้วเชียว ว่าไม่มีทางโดนอยู่วงเดียวแน่นอน
โดนกันถ้วนหน้า แล้วตอนนี้ก็รีบปล่อยวงใหม่ออกมา
คาดว่าชะตากรรมคงไม่ต่าง ประมาณว่ารีบเซ็นต์ไว้ก่อน
เวลายกเลิก จะได้ยากกว่าตอนเป็นเด็กฝึกหัด เพราะก็ฝึกมานานแล้ว
เดี๋ยวหายหมด
เรายังเคยคิดเลยถ้าแฟนแต่ละวงของ SM ร่วมมือกัน ช่วยพี่ๆ ที่เรารัก
จะช่วยอะไรได้ไหม แต่ดูไปดูมาคงยากอยู่ เพราะ เค้าร้ายกาจมากจริง ๆ
ไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่จนทุกวันนี้ เฮ้อ~
เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าที่บอมไม่ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆเพราะว่าไม่ยอมต่อสัญญากับทางเอสเอ็ม
เอสเอ็มเลยทำอย่างนี้เพื่อที่จะกดดันบอม ซึ่งสัญญาของบอมจะหมดในปีนี้
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็แสดงว่าปีหน้าคงไม่ได้เห็นบอมอยู่กับเอสเจอีกต่อไป เราถึงภาวนาว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจริง -*-
โหดร้ายอะ
สงสารทุกคนอะ
แปะ ๆๆ
เด่วพรุ่งนี้มาอ่านค่ะ
อย่าเพิ่งลบน้าาา ~~
ทุ เรศ!!
เกินไปจริงๆ ทำไมทำกับศิลปินที่สร้างรายได้ให้ตัวแ กเองแบบนี้นะ
กดขี่เกินไป
SM I HATE U!!!
คำว่า "พอ" คงไม่มีอยู่ในพจนานุกรมฉบับ SM
ได้แล้วก็ต้องได้ให้มากขึ้นไปอีก.......
ไม่มีคำที่จะบรรยายได้ถึงสิ่งที่ค่ายนี้ได้กระทำต่อพี่ๆที่เป็นที่รักของพวกเรา
ฉันไม่สามารถตราหน้าคุณได้เลย SM เพราะชั้นรู้....ต่อให้ชั้นทำไป พวกคุณก็ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย
แต่รุ้ไว้อย่างงนะ......ว่าพวกเราในนามแฟนคลับ จะไม่ปล่อยให้พวกคุณกดขี่ข่มเหงพี่ชายของพวกเราไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ถ้าคุณยังดื้อด้าน.....พวกเราก็จะทำให้คุณได้รู้สึกถึงพลังของแฟนคลับในสังกัดคุณ
ชั้นไม่สนแล้วว่าต่อไปพี่ๆจะอยู่ในค่ายนี้อีกหรือเปล่า.....ถ้าจำเป็นต้องเสียเงินถึง 5 เท่า ชั้นก็เชื่อว่าแฟนคลับเหล่านั้นสามารถซื้อพี่ๆออกมาได้ ถ้านั่นเป็นความต้องการของพี่ๆ แฟนคลับอย่างพวกชั้นก็จะทำ!!!!!!!
เงินทุกบาทสุกสตางค์ที่ชั้นเสียไปกับการซื้ออัลบั้ม โฟโต้บุ๊ค หรืออะไรก็ตาม.....สิ่งเหล่านั้น ชั้นหวังว่าจะสามารถทำให้พี่ๆมีชื่อเสียง และได้รับรายได้อย่างยุติธรรม แต่สิ่งที่ช้นคิดไว้.....มันตรงข้าม พวกคุณเอารัดเอาเปรียบพี่ๆของเรา ชั้นเองก็ทนไม่ได้ที่จะให้พี่ๆอยู่ในค่ายนี้ต่อไป
ยังไงก็ตาม......ชั้นหวังว่าพวกคุณจะรู้สึกผิดสักนิดแล้วลุกขึ้นมาแก้ไขสัยญญาทาสฉบับนี้ให้มันกลายเป้นสัญญาของศิลปินเสียที
ศิลปินที่มีชีวิต มีจิตใจ และหวังว่า....จะไม่ทำให้พี่ๆของเราเหนื่อยไปมากกว่านี้
คือมันยังทุ -เรศไม่พอใช่ป่ะ ?
แล้วถ้าแกตายไปนี่ไม่ต้องให้เอสเจค่าตัวตายตาม
ไปเล่นคอนให้พวกวิญญาณเลยหรอไงว -ะ
ไอ ห่ -า เอ๊ยยย !!!
อ่านแล้วเครียดandโมโหแทนอ่ะ..
ทำเหมือนกับว่า..ศิลปินในค่ายไม่ใช่คน
อย่างนั้นแหละ..
แค่ดูเปอร์เซ็นของรายได้แล้วเครียดแทน..
คิดได้ไงอ่ะ..80/20 แถมต้องออกค่าอื่นๆเองอีก
สงสารศิลปินในค่ายจริงๆเลยอ่ะT^T
นี่หรือคือ SM
แกยังเป็นคนอยู่มั้ยเนี่ยยย!!!
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google