รบกวนช่วยแปลกลอนพระอภัยมณีหน่อยค่ะ

20 ก.ย. 52 13:40 น. / ดู 101,785 ครั้ง / 7 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร

รบกวนหน่อยนะคะ
ใครที่พอแปลไดน่ะค่ะ

รีบใช้มาก

ขอบคุณอย่างสูงเลยค่ะ

* จะกล่าวกลับจับความไปตามเรื่อง ถึงบาทเบื้องปรเมศพระเชษฐา 
องค์อภัยมณีศรีโสภา ตกยากอยู่คูหามาช้านาน 
กับด้วยนางอสุรีนฤมิต เป็นคู่ชิดเชยชมสมสมาน 
ต้องรักใคร่ไปตามยามกันดาร จนนางมารมีบุตรบุรุษชาย 
ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนองค์พระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดูดังสุริย์ฉาย 
ทรงกำลังดังพระยาคชาพลาย มีเขี้ยวคล้ายชนนีมีศักดา 
พระบิตุรงค์ทรงศักดิ์ก็รักใคร่ ด้วยเนื้อไขมิได้คิดริษยา 
เฝ้าเลี้ยงลูกผูกเปลแล้วเห่ช้า จนใหญ่กล้าอายุได้แปดปี 
จึงให้นามตามอย่างข้างมนุษย์ ชื่อสินสมุทรกุมารชาญไชยศรี 
ธำมรงค์ทรงมาค่าบุรี พระภูมีถอดผูกให้ลูกยา 
เจียรบาดคาดองค์ก็ทรงเปลื้อง ให้เป็นเครื่องนุ่งห่มโอรสา 
สอนให้เจ้าเป่าปีมีวิชา เพลงศัสตราสารพัดหัดชำนาญ 
วันหนึ่งนางอสุรีผีเสื้อน้ำ ออกจากถ้ำเที่ยวหาภักษาหาร 
จับกระโห้โลมากุมภาพาล กินสำราญรื่นเริงบันเทิงใจ ฯ 
    * ฝ่ายกุมารสินสมุทรสุดสวาท ไม่ห่างบาทบิดาอัชฌาไสย 
ความรักพ่อยิ่งกว่าแม่มาแต่ไร ด้วยมิได้ขู่เข็ญเช่นมารดา 
เห็นทรงธรรม์บรรทมสนิทนิ่ง หนีไปวิ่งเล่นอยู่ในคูหา 
โลดลำพองลองเชิงละเลิงมา เห็นแผ่นผาพิงผนิดปิดหนทาง 
หนักหรือเบาเยาว์อยู่ไม่รู้จัก เข้าลองผลักด้วยกำลังก็พังผาง 
เห็นหาดทรายพรายงามเป็นเงินราง ทะเลกว้างข้างขวาล้วนป่าดง 
ไม่เคยเห็นเป็นน่าสนุกสนาน พระกุมารเพลินจิตต์พิศวง 
ออกวิ่งเต้นเล่นทรายสบายองค์ แล้วโดดลงเล่นมหาชลาไลย 
ด้วยหน่อนาถชาติเชื้อผีเสื้อสมุทร ดำไม่ผุดเลยทั้งวันก็กลั้นได้ 
ยิ่งถูกน้ำกำลังยิ่งเกรียงไกร เที่ยวเลี้ยวไล่ขี่ปลาในสาชล 
ละลอกซัดพลัดเข้าในปากฉลาม ลอดออกตามซีกเหงือก**สลน 
เห็นฝูงเงือกเกลือกกลิ้งมากลางชล คิดว่าคนมีหางเหมือนอย่างปลา 
ครั้นถามไต่ไม่พูดก็โผนจับ ดูกลอกกลับกลางน้ำปล้ำมัจฉา 
ครั้นจับได้ให้ระแวงแคลงวิญญา เช่นนี้ปลาหรืออะไรจะใคร่รู้ 
ฉุดกระชากกลากหางขึ้นกลางหาด แลประหลาดลักษณามีตาหู 
จะเอาไปให้พระบิดาดู แล้วลากลู่เข้าในถ้ำด้วยกำลัง 
ถึงหุบห้องร้องบอกบิตุเรศ พระลืมเนตรเหลียวหาทั้งหน้าหลัง 
เห็นลูกลากเงือกน้ำแต่ลำพัง จากบัลลังก์มาห้ามแล้วถามไป 
เมื่อกี้เห็นเล่นอยู่ในคูหา เงือกนี้เจ้าเอามาแต่ข้างไหน 
พระลูกเล่าตามจริงทุกสิ่งไป พระตกใจจึงว่าด้วยปราณี 
แม้นแม่เจ้าเขารู้ว่าแรงนัก กลัวจะลักลอบพาบิดาหนี 
จะโกรธเกรี้ยวเคี้ยวเล่นเป็นธุลี ไม่พอที่ชีวันจะบรรไลย ฯ 
    * สินสมุทรกุมารชาญฉลาด ฟังพระบาทบิตุรงค์ให้สงไสย 
จึงทูลถามความจริงด้วยกริ่งใจ เหตุไฉนจึงจะเป็นเช่นนั้น ฯ 
    * พระฟังคำน้ำเนตรลงพรากพราก คิดถึงยากยามวิโยคยิ่งโศกศัลย์ 
แถลงเล่าลูกยาสาระพัน จนพากันมาบรรทมที่ร่มไทร 
แม่ของเจ้าเขาเป็นเชื้อผีเสื้อสมุทร ขึ้นไปฉุดฉวยบิดาลงมาได้ 
จึงกำเนิดเกิดกายสายสุดใจ จนเจ้าได้แปดปีเข้านี่แล้ว 
ไปเปิดประตูคูหาถ้าเขาเห็น ตายหรือเป็นว่าไม่ถูกเลยลูกแก้ว 
แม้นสินสมุทรสุดสวาทพ่อคลาดแคล้ว ไม่รอดแล้วบิตุรงค์ก็คงตาย ฯ 
    * พระโอรสรู้แจ้งไม่แคลงจิตต์ รำคาญคิดเสียใจมิใคร่หาย 
ด้วยแม่กลับอัปลักษณ์เป็นยักษ์ร้าย ก็ฟูมฟายชลนาโศกาไลย ฯ 
    * ฝ่ายเงือกน้ำนอนกลิ้งนิ่งสดับ กิตติศัพท์สองแจ้งแถลงไข 
รู้ภาษามนุษย์แน่ในใจ จะกราบไว้วอนว่าให้ปราณี 
ค่อนเขยื้อนเลื่อนลุกขึ้นทั้งเจ็บ ยังมึนเหน็บน้อมประณตบทศรี 
พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าในธาตรี ข้าขอชีวิตไว้อย่าให้ตาย 
พระราชบุตรฉุดลากลำบากเหลือ ดังหนังเนื้อนี้จะแยกแตกสลาย 
ทั้งลูกเต้าเผ่าพงศ์ก็พลัดพราย ยังแต่กายเกือบจะดิ้นสิ้นชีวัน 
พระองค์เล่าเขาก็พาเอามาไว้ เศร้าพระไทยทุกข์ตรอมเหมือนหม่อมฉัน 
ขอพระองค์จงโปรดแก้โทษทัณฑ์ ช่วยผ่อนผันให้ตลอดรอดชีวา 
ซึ่งปากถ้ำทำลายลงเสียหมด ให้โอรสยกตั้งบังคูหา 
ข้าเห็นอย่างนางมารจะนานมา จะอาสาเกลี่ยทรายเสียให้ดี 
หนึ่งพวกพ้องของข้าคณาญาติ ขอรองบาทบงกชบทศรี 
แม้นประสงค์สิ่งไรในนที ที่สิ่งมีจะเอามาสารพัน ฯ 
    * พระฟังเงือกพูดได้ให้สงสาร จึงว่าท่านคิดนี้ดีขยัน 
รู้เจรจาสาระพัดน่าอัศจรรย์ อยู่พูดกันอีกสักหน่อยจึงค่อยไป 
เราตรองตรึกนึกจะหนีนางผีเสื้อ แต่ใต้เหนือไม่รู้แห่งตำแหน่งไหน 
ท่านเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ทำกระไรจึงจะพ้นทรมาน ฯ 
    * ฝ่ายเงือกน้ำคำนับอัภิวาท ข้าพระบาททราบสิ้นทุกถิ่นฐาน 
อันน้ำนี้มีนามตามบุราณ อโนมานเคียงกันสีทันดร 
เป็นเขตแคว้นแดนที่นางผีเสื้อ ข้างฝ่ายเหนือถึงมหิงษะสิงขร 
ข้างทิศใต้ไปจนเกาะแก้วมังกร หนทางจรเจ็ดเดือนไม่เคลื่อนคลา 
ไปกลางย่านบ้านเรือนหามีไม่ สมุทรไทซึ้งซึกลึกนักหนา 
แต่สำเภาชาวเกาะเมืองลังกา เขาแล่นมามีข้างอยู่ลางปี 
ถ้าเสียเรือเหลือคนแล้วนางเงือก ขึ้นมาเลือกเอาไปชมประสมศรี 
เหมือนพวกพ้องของเขารู้พาที ด้วยเดิมทีปู่ย่าเป็นมนุษย์ 
อายุข้าห้าร้อยแปดสิบเศษ จึงแจ้งเหตุแถวทางกลางสมุทร 
แม้นจะหนีผีเสื้อด้วยแรงรุทร์ เห็นไม่สุดสิ้นแดนด้วยแสนไกล 
แต่โยคีมีมนต์อยู่ตนหนึ่ง อายุถึงพันเศษถือเพทไสย 
อยู่เกาะแก้วพิสดารสำราญใจ กินลูกไม้เผือกมันพรรณผลา 
พวกเรือแตกแขกฝรั่งแลอังกฤษ ขึ้นเป็นศิษย์อยู่สำนักไม่ตักไษย 
ด้วยโยคีมีมนต์ดลวิชา ปราบบรรดาภูตพรายไม่กรายไป 
แม้นพระองค์ทรงฤทธิ์จะคิดหนี ถึงโยคีเข้าสำนักไม่ตักไษย 
เผื่อสำเภาเขาซัดพลัดเข้าไป ก็จะได้โดยสานไปบ้านเมือง 
แต่ทางไกลไม่น้อยถึงร้อยโยชน์ ล้วนเขาโขดคิรีรัตน์ขนัดเนื่อง 
กลางคงคาสาระพัดจะขัดเคือง จงทราบเบื้องบงกชบทมาลย์ 
แม้กำลังดังข้าจะพาหนี เจ็ดราตรีเจียวจึงจะถึงสถาน 
อสุรีมีกำลังดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวันจะทันตัว 
ถ้าแก้ไขให้นางไปค้างป่า ได้ล่วงหน้าไปเสียบ้างจะยังชั่ว 
จะอาสาพาไปมิได้กลัว ชีวิตตัวบรรไลยไม่เสียดาย 
แต่พระองค์ทรงคิดให้รอบคอบ ถ้าเห็นชอบท่วงทีจะหนีหาย 
จึงโปรดใช้ให้องค์พระลูกชาย ไปหาดทรายหาข้าจะมาฟัง ฯ 
    * พระแจ้งความตามคำเงือกน้ำเล่า ค่อยบันเทาทุกข์สมอารมณ์หวัง 
จึงว่าพี่มีคุณน้องสักครั้ง ให้ได้ดังถ้อยคำที่รำพรรณ 
ซึ่งลูกรักหักหาญให้ท่าโกรธ จงงดโทษทำคุณอย่างหุนหัน 
ช่วยไปปิดปากถ้ำที่สำคัญ จวนสายัณห์ยักษ์มาจะว่าเรา 
จึงบัญชาว่าเจ้าสินสมุทร ไปช่วยฉุดศิลาใหญ่ขึ้นให้เขา 
ขอษะมาตาปู่อย่าดูเบา ช่วยอุ้มเอาแกออกไปให้สบาย 
กับลูกน้อยค่อยพยุงจูงเงือกน้ำ มาปากถ้ำแลเห็นวลชลสาย 
หวนรำลึกตรึกตรองถึงน้องชาย พระฟูมฟายชลนาด้วยอาไลย 
แล้วให้ลูกเลิกศิลาเข้ามาปิด เห็นมิดชิดมั่นคงไม่สงไสย 
พระกลับมาตาเงือก**ลงไป ลงที่ในวังวลชลธาร ฯ 
    * ฝ่ายผีเสื้อเมื่อขึ้นมาจากฝั่งน้ำ จะมาถ้ำเที่ยวหาพฤกษาหาร 
เก็บลูกไม้ใส่ห่อเห็นพอการ ทั้งเปรี้ยวหวานสาระพัดแล้วลัดมา 
เห็นหินปิดเปิดประคูหากว้าง นิมิตรอย่างนางมนุษย์เสนหา 
วรพักตรนารีศรีโสภา ลีลามาเข้าในห้องเห็นสององค์ 
วางลูกไม้ในห่อให้ลูก** ท้องของตัวเต็มท้องไม่ต้องประสงค์ 
พระทรงเลือกลูกมะทรางปรางมะยง ประทานองค์โอรสสู้อดออม 
ครั้นพลบค่ำทำรักนางยักษ์ร้าย ประคองกายกอดแอบแนบถนอม 
ชื่นแต่หน้าอารมณ์นั้นกรมกรอม แต่คิดอ่านหว่านล้อมจะล่อลวง 
ไม่เห็นช่องตรองตรึกนึกวิตก ทุกข์ในอกนั้นสักเท่าภูเขาหลวง 
พระกอดลูกน้อยประทับไว้กับทรวง ให้เหงาง่วงงีบหลับระงับไป ฯ 
   
ปล.เดี๋ยวมีอีกน่ะค่ะ
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | Lee_HyukPair | 20 ก.ย. 52 13:41 น.

* ฝ่ายผีเสื้อเมื่อจะจากพรากลูก** แต่พลิกตัวกลิ้งกลับไม่หลับไหล 
ให้หมกมุ่นขุ่นคล้ำในน้ำใจ จนเสียงไก่แก้วขันสนั่นเนิน 
พอม่อยหลับกลับจิตต์นิมิตต์ฝัน ว่าเทวัญอยู่ที่เกาะนั้นเหาะเหิน 
มาสังหารผลาญถ้ำ**เยิน แกว่งพเนินทุบนางแทบวางวาย 
แล้วอารักษ์ควักล้วงเอาดวงเนตร สำแดงเดชเหาะกลับไปลับหาย 
ทั้งกายสั่นพรั่นตัวด้วยกลัวตาย พอฟื้นกายก็พอแจ้งแสงตวัน 
จึงก้มกราบบาทบงสุ์พระทรงศักดิ์ แล้วนางยักษ์เล่าตามเนื้อความฝัน 
ไม่เคยเห็นเป็นวิบัติอัศจรรย์ เชิญทรงธรรม์ช่วยทำนายร้ายหรือดี ฯ 
    * พระฟังนางพลางนึกคนึงหมาย ซึ่งฝันร้ายก็เพราะจิตต์เราคิดหนี 
เห็นจะไปได้ตลอดรอดชีวี แต่นางผีเสื้อนั้นจะอันตราย 
พอได้ช่องลองลวงดูตามเล่ห์ สมคะเนจะได้ไปดังใจหมาย 
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสเพทุบาย เจ้าฝันร้ายนักน้องต้องตำรา 
อันเทวัญนั้นคือมัจจุราช จะหมายมาดเอาชีวิตริศยา 
แล้วเสแสร้งแกล้งทำบีบน้ำตา อนิจจาใจหายเจียวสายใจ 
แม้สิ้นสูญบุญนางในปางนี้ ไม่มีที่พึ่งพาจะอาไศรย 
จะกอดศพซบหน้าโศกาไลย ระกำใจกว่าจะม้วยไปด้วยกัน 
นึกจะใคร่เสดาะพระเคราะห์เจ้า พอบันเทาโทษาที่อาสัญ 
เหมือนงอนง้อขอชีวิตแก่เทวัญ กลัวแต่ขวัญเนตรพี่จะมิทำ ฯ 
    * นางผีเสื้อเชื่อถือรื้อประณต พระทรงยศจงช่วยชุบอุปถัมภ์ 
ตามตำราสาระพัดไม่ชัดคำ ช่วยแนะนำอนุกูลอย่าสูญใจ ฯ 
    * พระฟังคำสำราญสำเร็จคิด จึงว่าผิดสายสมรหาสอนไม่ 
ตำรานั้นแต่ครั้งตั้งเมรุไกร ว่าถ้าใครฝันร้ายจะวายปราณ 
ให้ไปอยู่ผู้เดียวที่**เขา แล้วอดข้าวอดปลากระยาหาร 
ถ้วนสามคืนสามวันจะบันดาล ให้สำราญรอดตายสบายใจ ฯ 
    * ฝ่ายว่านางผีเสื้อก็เชื่อถือ คิดว่าชื่อสจริตพิสมัย 
จึงตอบว่าถ้ากระนั้นฉันจะไป อยู่เขาใหญ่ในป่าพนาวัน 
พระโฉมยงจงอยู่ในคูหา เลี้ยงรักษาลูกน้อยคอยหม่อมฉัน 
จะอดใจให้เหมือนคำที่รำพรรณ ถ้วนสามวันก็จะมาอย่าอาวรณ์ 
แล้ววันทาลาองค์พระทรงโฉม ปลอบประโลมลูกแก้วแล้วสั่งสอน 
อย่าแข็งนักรักตัวกลัวบิดร แม้นไม่นอนมารดาจะมาตี ฯ 
    * สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบิดาจะพาหนี 
ให้ห่วงหลังกังวลด้วยชนนี เจ้าโศกีกราบก้มบังคมคัล 
บิดาดูรู้แจ้งจึงแกล้งห้าม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์ 
อยู่เป่าปีตีเกราะเสนาะครัน แล้วรับขวัญลูกน้อยกลอยฤไทย ฯ 
    * นางผีเสื้อเมื่อแรกก็แปลกจิตต์ ครั้นทรงฤทธิปลอบลูกชายหายสงไสย 
จึงรีบออกนอกคูหาแล้วคลาไคล ไปเขาใหญ่ในป่าพนาวัน ฯ 
    * ฝ่ายองค์พระอภัยวิไลยโฉม ปลอบประโลมลูกชายจะผ่ายผัน 
จึงหยับปีที่เป่าเมื่อคราวนั้น เอาผ้าพันผูกดีแล้วลีลา 
ให้ลูกรักผลักแผ่นศิลาล้ม สมอารมณ์รีบออกนอกคูหา 
เลียบลีลาสหาดทรายชาคงคา แลชลาล้วนคื่นเสียงครื้นโครม ฯ 
    * ฝ่ายเงือกน้ำสำหรับทะเลลึก ไม่วายนึกถึงองค์พระทรงโฉม 
พอแจ่มแจ้งแสงทองผ่องโพยม ปลอบประโลมลูกเมียเข้าเคลียคลอ 
จะไปลอยคอยองค์ทรงสวัสดิ์ ให้สมนัดซึ่งสัญญาเธอมาหนอ 
แล้วออกจากวลวังไม่รั้งรอ ค่อยเคลื่อนคลายว่ายคลอกันไคลคลา 
พอเห็นองค์ทรงยศโอรสราช อยู่ชายหาดพร้อมกันก็หรรษา 
จึงชวนลูกสาวนั้นกับภรรยา คลานขึ้นมาชายฝั่งแล้วบังคม ฯ 
    * พงศ์กษัตริย์ทัศนานางเงือกน้อย ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม 
ประไพพักตรลักษณ์ล้ำล้วนขำคม ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง 
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสอาด ดังสุรางค์นางนาฎในวังหลวง 
พระเพลินพิศคิดหมายเสียดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป 
จึงตรัสว่าตาเงือกมาคอยรับ ช่างสมกับวาจาจะหาไหน 
เราล่อลวงนางผีเสื้อก็เชื่อใจ เดี๋ยวนี้ไปแรมทางกลางอรัญ 
ช่วยเมตตาพาตรงไปส่งที่ พระโยคีมีเวทวิเศษขยัน 
กลางคงคาปลาร้ายก็หลายพรรณ จะป้องกันไภยพาลประการใด ฯ 
    * เงือกผู้เฒ่าเคารพอภิวาท ขอรองบาทบริรักษ์จนตักไษย 
เสด็จขึ้นทรงบ่าจะพาไป พรหน่อไทให้ขี่ภริยา 
อันอำนาจชาติเชื้อผีเสื้อน้ำ ปลาไม่กล้ำกรายกลัวทั่วทิศา 
ด้วยกลิ่นอายคล้ายท่าผู้มารดา เมื่อจับข้าข้าจึงอ่อนหย่อนกำลัง 
สัตว์ในน้ำจำแพ้แก่ผีเสื้อ เปรียบเหมือนเนื้อเห็นพยัคฆ์ให้ชักหลง 
อย่าเกรงไภยในชลที่วลวัง ขึ้นนั่งยังบ่าข้าจะพาไป ฯ 
    * พงศ์กษัตริย์ตรัสชวนสินสมุทร สอนให้ขุตรขอษะมาอัชฌาไสย 
พระทรงบ่าเงือกน้ำงามวิไลย พระหน่อไทยขอษะมาขึ้นบ่านาง 
เงือกประคองสององค์ลงจากฝั่ง มีกำลังลีลาสค่อยวาดหาง 
ค่อยฟูฟ่องล่องน้ำไปท่ามกลาง ลูกสาวนางเงือกงามตามลีลา ฯ 
    * พระโฉมยงองค์อภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมู่มัจฉา 
เหล่าฉลามล้วนฉลามตามกันมา ค่อยเคลื่อนคลาคล้ายคล้ายในสายชล 
ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ ขึ้นฟ่องฟูพ่นฟองลอองฝน 
ฝูงพิมพาพาฝูงเข้าแฝงวล บ้างผุดพ่นฟองน้ำบ้างดำจร 
กระโห้เรียงเคียงกระโห่ขึ้นโบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน 
มังกรเกี่ยวเลี้ยวบอดกอกมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน 
ฝูงม้าน้ำทำท่าเหมือนม้าเผ่น ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน 
ตะเพียนทองล่องน้ำนำตะเพียน ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา 
เห็นละเมาะเกาะเขาเขียวชะอุ่ม โขดตะคุ่มเคียงเคียงเรียงรุกขา 
จะเหลียวซ้ายสายสมุทรสุดสายตา จะแลขวาควันคลุ้มกลุ้มโพยม 
จะเหลียวดูสุริย์แสงเข้าแฝงเมฆ ให้วิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม 
ฟังสำเนียงเสียงคลื่นดังครึ้นโครม ยิ่งทุกข์โทมนัสในฤไทยทวี 
พอเย็นย่ำค่ำพลบลงโพล้เพล้ ท้องทะเลมืดมัวทั่ววิถี 
พระห้ามเงือกสองราด้วยปราณี ประเดี๋ยวนี้ลมกล้าสลาตัน 
เห็นละเมาะเกาะใหญ่ที่ไหนกว้าง หยุดเสียบ้างให้สบายจึงผายผัน 
เราหนีนางมาได้ก็ไกลครัน ต่อกลางวันจึงค่อยไปให้สำราญ ฯ 
    * ตาเงือกน้ำซ้ำสอนพระทรงศักดิ์ ยังใกล้นักอย่าประมาททำอาจหาญ 
นางรู้ความตามมาไม่ช้านาน จะพบพานพากันตายวายชีวัน 
อันตาข้าถ้าค่ำเห็นสว่าง ทั้งเดินทางเรี่ยวแรงแข็งขยัน 
ถ้าแดดกล้าตามัวเป็นหมอกควัน จะผายผันล่วงทางไปกลางคืน 
แล้วว่ายแหวกแบกองค์พงศ์กษัตริย์ พลางสบัดโบกหางไปกลางคลื่น 
สลาตันลั่นพิลึกเสียงครึกครื้น จนดึกดื่นรีบรุดไม่หยุดเลย 
ครั้นรุ่งเช้าเข้าเกาะเสาะลูกไม้ พระลูกให้บิตุรงค์ทรงเสวย 
เงือกก็หาอาหารกินตามเคย แล้วรีบเลยล่วงไปในคงคา ฯ 
    * ฝ่ายนางผีเสื้อสมุทรที่สุด** ไปนั่งโซเซาอยู่ริมภูผา 
ขอชีวิตพิษฐานตามตำรา ต้องอดปลาอดนอนอ่อนกำลัง 
ได้สามวันรันทดสลดจิตต์ เจียนชีวิตจะเด็ดดับไม่กลับหลัง 
อุส่าห์ยืนฝืนใจให้ประทัง ค่อยเซซังซวนทรงไม่ตรงตัว 
เห็นลูกไม้ในป่าคว้าเข้าปาก กำลังอยากยืนขยอกจนกลอกหัว 
ที่มืดอดหน้าตาลายค่อยหามัว คิดถึง**เหยาะย่างมากลางไพร 
ถึงประตูคูหาเห็นเปิดอยู่ เอ๊ะอกกูเกิดเข็ญเป็นไฉน 
เข้าในห้องมองเขม้นไม่เห็นใคร ยิ่งตกใจเพียงจะดิ้นสิ้นชีวี 
แลดูปี่ที่เป่าเล่าก็หาย นางยักษ์ร้ายรู้ว่าพากันหนี 
เสียน้ำใจในอารมณ์ไม่สมประดี สองมือตีอกตูมฟูมน้ำตา 
ลงกลิ้งเกลือก**กายร้องไห้โร่ เสียงโฮโฮดังก้องห้องคูหา 
พระรูปหล่อพ่อคุณของเมียอา ควรหรือมาทิ้งขว้างหมองหมางเมีย 
ทั้งลูกน้อยกลอยใจไปด้วยเล่า เหมือนควักเอาดวงใจน้องไปเสีย 
ถึงแปดปีนี่แล้วไม่แคล้วคลาด เคยร่วมอาสน์อกอุ่นพ่อคุณเอ๋ย 
ตั้งแต่นี้น้องจะได้ผู้ใดเชย เหมือนพระเคยคู่เคียงเมื่อเที่ยงคืน 
เสียแรงรักหนักหนาอุส่าห์ถนอม สู้อดออมสาระพัดไม่ขัดขืน 
ช่างกระไรใจจืดไม่ยืดยืน นางสอื้นอ้าปากจนรากเรอ 
ด้วยแรงน้อยถอยทบสลบหลับ แล้วก็กลับพลิกฟื้นตื่นเผยอ 
ร้องเรียกลูก**เฟือนเหมือนละเมอ ไม่เห็นเธอทอดกายดังวายปราณ 
ระกำอกหมกมุ่นหุนพิโรธ กำลังโกรธกลับแรงกำแหงหาญ 
ประหลาดใจใครหนอมาก่อการ ช่างคิดอ่านเอาคู่ของกูไป 
ศิลานี้ที่มนุษย์จะเปิดนั้น สักหมื่นดันก็ไม่เกรงข่มเหงกู 
พลางรำพึงถึงจะไปไม่ไกลนัก จะตามหักคอกินเหมือนชิ้นหมู 
โมโหหุนผลุนออกนอกประตู เที่ยวตามดูรอยลงในคงคา 
กระโดดโครมโถมว่ายสายสมุทร อุตลุดดำด้นเที่ยวค้นหา 
ไม่เห็น**คว้าไปได้แต่ปลา ควักลูกตาสูบเลือดด้วยเดือดดาล 
ค่อยมีแรงแผลงฤทธิคำรณร้อง ตะโกนก้องเรียกหาโยธาหาญ 
ฝ่ายปีศาจราชทูตภูตพรายพาล อลหม่านขึ้นมาหาในสาชล 
อสุรีผีเสื้อจึงซักถาม **อยู่ตามเขตแขวงทุกแห่งหน 
เห็นมนุษย์นวลลอองทั้งสองคน มาในวลวังบ้างหรืออย่างไร ฯ 
    * ผ่ายพวกผีที่อยู่ทิศทักษิณ ครั้นได้ยินจึงแจ้งแถลงไข 
เห็นเงือกพามนุษย์รีบรุดไป ข้างทิศใต้แต่เมื่อคืนวานซืนนี้ 
ข้านึกร้ายหมายจะก็ขามเด็ก ด้วยลูกเล็กเหลือตัวไม่กลังผี 
เห็นจะไปได้ครันจนวันนี้ ด้วยท่วงทีรีบร้อนไม่นอนใจ ฯ 
    * นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคุนธร์ขุนไศล 
ลุยทะเลโครมครามตามออกไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย 
เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภูเขาหักหินหลุดซุดฉลาย 
เสียงครึกครื้นคลื่นล้มขึ้นกลุ้มกาย ผีเสื้อร้ายรีบรุดไม่หยุดยืน ฯ 
    * ฝ่ายพระอภัยมณีซึ่งหนียักษ์ กับลูกรักเงือกน้ำไปตามคลื่น 
บรรลุทางกลางชลาได้ห้าคืน เห็นทมื่นมาข้างหลังดังสะเทือน 
จึงถามเงือกว่าไฉนจึงไหวหวั่น สลาตันลมใหญ่ก็ไม่เหมือน 
ไม่เห็นแสงสุริยันตวันเดือน เป็นคลื่นเคลื่อนคลอนลั่นสนั่นดัง ฯ 
    * ฝ่ายเงือกน้ำสำเหนียกแน่ในจิตต์ คือว่าฤทธิ์ยักษ์ร้ายมาภายหลัง 
ด้วยเดชนางยักษ์ขินีมีกำลัง ชีวิตครั้งนี้เห็นไม่เป็นตน 
จึงทูลองค์พระอภัยว่าใช่อื่น เสียงครึกครื้นมารนางมากลางหน 
คงทันกันวันนี้หนีไม่พ้น เห็นสุดจนจำม้วยลงด้วยกัน ฯ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | Lee_HyukPair | 20 ก.ย. 52 13:42 น.

* พระอภัยใจหายไม่วายเหลียว ให้เปล่าเปลี่ยวนัยนาเพียงอาสัญ 
แต่มานะกษัตริย์สู้กัดฟัน อุส่าห์กลั้นกลืนน้ำตาแล้วพาที 
จะไปไหนไม่พ้นผีเสื้อน้ำ วิบากกรรมจะสู้อยู่เป็นผี 
ท่านส่งเราเข้าที่เกาะละเมาะนี้ แล้วรีบหนีไปในน้ำแต่ลำพัง 
แล้วว่าแก่สินสมุทรสุดที่รัก แม้นนางยักษ์จะมารับจงกลับหลัง 
อันตัวพ่อขอตายวายชีวัง กรรแสงสั่งลูกยาด้วยอาไลย ฯ 
    * สินสมุทรมิได้กลัวกลับหัวร่อ ลูกไม่ขอจากพระองค์อย่าสงไสย 
แม้มารดามาตามจะห้ามไว้ พระรีบไปก่อนข้าอย่าปรารมภ์ 
ลูกจะค่อยลอยตามแต่ห่างห่าง อยู่ต้นทางจะได้พบประสบสม 
แล้วเผ่นโผนโจนลงทะเลลม พระปรารมภ์เรียกไว้ก็ไม่ฟัง 
เที่ยวดำด้นค้นหามัจฉาใหญ่ พอจับได้ปลาอินทรีขึ้นขี่หลัง 
เสียงโผงผางกลางน้ำแต่ลำพัง ค่อยลอยรั้งรอมาในวาริน ฯ 
    * ฝ่ายผีเสื้อสมุทรไม่หยุดหย่อน ครั้นลุยอ่อนอุส่าห์ว่ายสายกระสินธุ์ 
กำลังน้อยถอยถดด้วยอดกิน เจียนจะสิ้นชีวาในสาคร 
ได้สามวันทัน**กับลูกน้อย เห็นเลื่อนลอยลิบลิบยิ่งถีบถอน 
กระโจมโจนโผนโผชโลธร คลื่นกระฉ่อนฉาดฉานสะท้านมา ฯ 
    * ฝ่ายเงือกน้ำกำลังก็สิ้นสุด ครั้นจะหยุดยักษ์ไล่ใกล้นักหนา 
เรียกลูกสาวคราวนี้พ่อจะมรณา เจ้าช่วยพาภูวไนยไปให้พ้น 
นางเงือกน้อยสร้อยเศร้าเข้ามาผลัด แบกกษัตริย์ว่าย**เสลือกสลน 
กำลังสาวคราวด่วนด้วยจวนจน ออกกลางชลโบกหางผางผางไป ฯ 
    * สินสมุทรหยุดอยู่ดูนางยักษ์ เห็นผิดพักตรมารดาน่าสงไสย 
ด้วยเห็นแม่แต่รูปนิมิตต์ไว้ สงไสยใจออกขวางกลางคงคา 
แล้วร้องถามตามประสาเป็นทารก นี่สัตว์บกหรือสัตว์น้ำดำนักหนา 
โจนกระโจมโครมครามตามเรามา จะเล่นข้าท่าไรจะใคร่รู้ ฯ 
    * ฝ่ายนางอสุรีผีเสื้อน้ำ ได้ยินคำโอรสนึกอดสู 
เป็นห่วง**มัวแลชะแง้ดู ไม่เห็นอยู่ด้วยกันนี่ฉันใด 
หรือจวนตัวกลัวเมียไปเสียก่อน หรือซุ่มซ่อนอยู่เกาะละเมาะไหน 
จำจะปลอบโดยดีแม้นมิไป จึงจะได้จับกุมตลุมบอน 
จึงตอบโต้โป้ปดโอรสราช มิใช่ชาติยักษ์มารชาญสมร 
เจ้าแปลกหรือคือนี่แลมารดร เมื่อนั่งนอนอยู่ในถ้ำไม่จำแลง 
ออกเดินทางอย่างนี้ต้องนิมิตต์ รูปจึงผิดไปกว่าเก่าเจ้าจึงแหนง 
ไม่ปิดงำอำพรางอย่าคลางแคลง แม่แกล้งแปลงตัวตามเจ้างามมา 
ไหนพ่อเจ้าเล่าแม่ไม่แลเห็น อย่างหลงเล่นจงไปอยู่ในคูหา 
แต่จากอกหกวันแล้วขวัญตา ขอมารดาอุ้มหน่อยเถิดกลอยใจ ฯ 
    * สินสมุทรฟังเสียงสำเนียงแน่ รู้ว่าแม่มั่นคงไม่สงไสย 
ดูรูปร่างอย่างเปรตสมเพชใจ ช่างกระไรราศีไม่มีงาม 
กระนี้หรือพระบิดามิน่าหนี ทั้งท่วงทีไม่สุภาพทำหยาบหยาม 
จำจะบอกหลอกลวงหน่วงเนื้อความ อย่าให้ตามเข้าไปชิดพระบิดา 
จึงเสแสร้งแกล้งว่าข้าไม่เชื่อ จะฉีกเนื้อกินเล่นเป็นภักษา 
ถ้าเป็นแม่แน่กระนั้นจงกรุณา อย่างตามมามุ่งหมายให้ว่ายปราณ 
ด้วยองค์พระชนนีเป็นผีเสื้อ อันชาติเชื้ออยู่ถ้ำลำละหาร 
พระบิดรร้อนรนทนทรมาน เคยอยู่บ้านเมืองมนุษย์สุดสบาย 
คิดถึงวงศ์พงศาคณาญาติ จึงสามารถมานี่ไม่หนีหาย 
เห็นมารดรซ่อนตัวด้วยกลัวตาย ลูกจึงว่ายน้ำอยู่แต่ผู้เดียว 
ประทานโทษโปรดปล่อยไปหน่อยเถิด ที่ละเมิดแม่คุณอย่าฉุนเฉียว 
ลูกขอลาฝ่าธุลีสักปีเดียว ไปท่องเที่ยวหาประเทศเขตนคร 
แม้พบอาย่าปู่อยู่เป็นสุข บรรเทาทุกข์ภิญโญสโมสร 
จึงจะชวนบิตุเรศเสด็จจร มาสถานมารดรไม่นอนใจ ฯ 
    * อสุรีผีเสื้อไม่เชื่อถ้อย นึกว่าน้อยหรือ**มาแก้ไข 
แกล้งดับเดือดเงือดงดอดฤไทย ทำปราไสยเสียงหวานด้วยมารยา 
ถ้าแม้นแม่แต่แรกรู้กระนี้ ชนนีก็จะได้ไม่เที่ยวหา 
นี่นึกแหนงแคลงความจึงตามมา ไม่โกรธาทูลหัวอย่ากลัวเลย 
จะไปไหนไม่ห้ามจะตามส่ง ไหนทรงฤทธิบิตุรงค์เล่าลูกเอ๋ย 
แม่ขอพบพูดจาประสาเคย แล้วทรามเชยจึงค่อยพาบิดาไป ฯ 
    * สินสมุทรสุดฉลาดไม่อาจบอก ยังซ้ำหลอกลวงแม่พูดแก้ไข 
มิใช่การมารดาจะคลาไคล ขอเชิญไปอยู่ในถ้ำให้สำราญ 
ซึ่งจะให้ไปบอกออกมาหา บิดาข้าขี้ขลาดไม่อาจหาญ 
พระแม่อย่าทาระกำให้รำคาญ ไม่ช้านานบิตุรงค์คงจะมา ฯ 
    * อสุรีผีเสื้อเหลือจะอด แค้นโอรสราวกับไฟไหม้มังสา 
ช่างหลอกหลอนผ่อนผันจำนรรจา แม้นจะว่าโดยดีเห็นมิฟัง 
จะจับไว้ให้พาไปหาพ่อ แล้วหักคอเสียให้ตายเมื่อภายหลัง 
โกรธตวาดผาดเสียงสำเนียงดัง น้อยหรือยังโหยกเหยกเด็กเกเร 
ช่างว่ากล่าวราวกับกูไม่รู้เท่า มาพูดเอาเปรียบผู้ใหญ่ทำไพล่เผล 
เอาบิดรซ่อนไว้ในทะเล ทำโว้เว้ว่ากล่าวให้ยาวความ 
ยิ่งปลอบโยนโอนอ่อนยิ่งหลอนหลอก แม้นไม่บอกโดยดีจะตีถาม 
พลางโผโผนโจนโจมเสียงโครมคราม เข้าไล่ตามคลุกคลีตีไปพลาง 
สินสมุทรผลุดออกนอกรักแร้ แล้วล่อแม่ตบหัตถ์ผัดผางผาง 
แกล้งหลบลี้หนีวนไปต้นทาง หมายให้ห่างพระบิดาได้คลาไคล 
นางผีเสื้อเหลือแค้นแสนสาหัส แต่ฉวยพลัดแพลงคลื่นลื่นไถล 
อุตลุดผุดดำปล้ำกันไป เหมือนเล่นไล่ตามละเมาะทุกเกาะเกียน 
ถึงเขาใหญ่ในน้ำง้ำชะเงื้อม พระหลบเลื่อมเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน 
เข้าหาดทรายชายตื้นขึ้นบนเตียน เที่ยววิ่งเวียนวนรอบขอบคิรี 
เห็นมารดาล่าลับแล้วยับยั้ง แกล้งถอยหลังลงน้ำแล้วดำหนี 
ไม่พ่นผุดรุดไปในนที ตั้งภักดีตามติดพระบิดร ฯ

* ฝ่ายผีเสื้อเมื่อลูกลอบลงน้ำ พอจวนค่ำคิดว่าวิ่งขึ้นสิงขร 
ด้วยใจนางคิดว่าพาบิดร มาซุ่มซ่อนอยู่ที่นี่จึงหนีมา 
เที่ยวแลรอบขอบเขาเงาชะงุ้ม ยิ่งมืดคลุ้มก็ยิ่งคลั่งตั้งแต่หา 
เสียงคลื่นโครมโถมตะครุบก้อนศิลา จนหน้าตาแตกยับลงสับเงา 
แล้วลุกขึ้นยืนชะโงกโยกสิงขร จนโคลงคลอนเคลื่อนดังทั้งภูเขา 
ยิ่งมืดค่ำสำเหนียกร้องเรียกเดา ไม่พ้นเราเร่งมาหาโดยดี 
เห็นไม่ขานมารร้ายทลายซ้ำ เขา**ย่อยยับดังสับสี 
ไม่พบเห็นเป็นเพลาเข้าราตรี อสุรีเหลือแค้นเน่นอุรา 
ช่างชาติชั่วหัวกระดูกลูก** ลวงให้แม่หลงกลเที่ยวค้นหา 
เออกระนั้นมันจึงทบตลบมา ให้บิดาเลยไปเสียไกลแล้ว 
ดำริพลางนางมารอ่านพระเวท ให้สองเนตรโชติช่วงดังดวงแก้ว 
แลเขม้นเห็นไปไวแววแวว อยู่โน่นแล้วลุยตามโครมครามไป ฯ 
    * หน่อนรินทร์สินสมุทรไม่หยุดยั้ง รีบมาทั้งคืนค่ำในน้ำไหล 
จนแจ่มแจ้งสุริโยอโณไทย เห็นเงือกใหญ่ยายตายังล้านัก 
จึงว่ารีบถีบถอนไปก่อนท่าน โน่นนางมารหมุนไล่มาใกล้หนัก 
แล้วว่ายรอคลอไปพอได้พัก พอนางยักษ์ทันโถมกระโจมมา 
พระลูกหลบพบเงือกจะ**หนี เหยียบขยี้สองแขนแน่นนักหนา 
ตะคอกถามตามโมโหที่โกรธา ไย**พา**พรากมาจากกู 
เดี๋ยวนี้องค์พระอภัยอยู่ไหนเล่า ไม่บอกเราหรือกระไรทำไขหู 
จะควักเอานัยน์ตาออกมาดู ตะคอกขู่คุกถามคำรามรณ ฯ 
    * ทั้งสองเงือก**กายหมายไม่รอด ถึงม้วยมอดมิให้แจ้งแห่งนุสนธิ์ 
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสด้วยเล่ห์กล เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา 
ข้าจะพาไปจับจงกลับหลัง ให้ได้ดังมุ่งมาดปรารถนา 
ไม่เหมือนคำรำพรรณที่สัญญา จงเข่นฆ่าให้เราม้วยไปด้วยกัน ฯ 
    * อสุรีผีเสื้อก็เชื่อถือ ยุดเอามือขวาซ้ายให้ผายผัน 
เงือกก็พามาถึงได้ครึ่งวัน แกล้งรำพรรณพูดล่อให้ต่อไป 
นางผีเสื้อเบื่อหูรู้เท่าถึง จึงว่า****มาแก้ไข 
มาถึงนี่ชี้โน่นเนื่องกันไป แกล้งจะให้ห่าง**ไม่กลัวกู 
แล้วนางยักษ์หักขาฉีกสองแขน ไม่หายแค้นเคี้ยวกินสิ้นทั้งคู่ 
แล้วกลับตามข้ามทางท้องสินธู ออกว่ายวู่แหวกน้ำด้วยกำลัง ฯ 
    * ฝ่ายกุมารสินสมุทรไม่หยุดหย่อน ตามบิดรทันสมอารมณ์หวัง 
จึงเล่าความตามติดไม่ปิดบัง พระทรงฟังลูกชายค่อยคลายใจ 
พอเห็นเงาเขาขวางอยู่กลางน้ำ พิลึกล้ำกว่าคิรีที่ไหนไหน 
จึงถามนางเงือกน้อยกลอยฤทัย เกาะอะไรแก้วตาตรงหน้าเรา ฯ 
    * นางเงือกน้ำบอกสำคัญว่านั่นแล้ว คือเกาะแก้วพิสดารเป็นชานเขา 
พระฟังนางสร่างโศกค่อยบันเทา จึงว่าเราเห็นรอดไม่วอดวาย 
แล้วสพิศดูภูผาศิลาเสื่อม ชะโงกเงื้อมน้ำวลชลสาย 
แลลิบลิบหลังคาศาลาราย มีเสาหงส์ธงปลายปลิวระยับ 
พระยินดีชี้บอกสินสมุทร โน่นแน่กุฏิ์มุงกระเบื้องเหลืองสลับ 
พระหน่อน้อยค่อยเรียงเคียงคำนับ หมายประทับที่เสาหงส์ตรงเข้ามา ฯ 
    * ฝ่ายโยคีที่อยู่บนภูเขา กับคนเหล่าเหลือตายหลายภาษา 
ทั้งจีนจามพราหมณ์แขกไทยชวา วิลันดาฝรั่งพรั่นพร้อมกัน 
เป็นร้อยคนปรนนิบัติอยู่เช่าค่ำ บ้างต้นน้ำเก็บลูกไม้มาให้ฉัน 
เป็นเหล่าล้อมพร้อมหน้าเวลานั้น บ้างนวดฟั้นปรนนิบัตินั่งพัดวี 
พอบ่ายเบี่ยงเสียงคลื่นดังครื้นครึก อึกกระทึกมาข้างหน้าคิรีศรี 
ครั้นดูลมก็ไม่พัดสงัดดี พระโยคีจับยามตามตำรา 
แล้วบอกศิษย์ซึ่งนั่งอยู่ทั้งหลาย วันนี้ชายมีศักดิ์จักมาหา 
ผีเสื้อน้ำทำฤทธิ์ติดตามมา เสียงชลาเลื่อนลั่นสนั่นดัง 
จำจะไปคอยดูอยู่ที่หาด ช่วยตวาดขู่ขับให้กลับหลัง 
ฉวยไม้เท้าก้าวย่างจากบัลลังก์ แขกฝรั่งพรั่งพร้อมล้อมลีลา 
ถึงหาดกว้างทางแลกระแสสมุทร เห็นมนุษย์ไรไรไหลนักหนา 
ผีเสื้อน้ำทำฤทธิ์ติดตามมา เวทนาแลดูอยู่ทุกคน ฯ 
    * พระอภัยมณีเห็นผีเสื้อ ความกลัวเหนือว่ายคว้างอยู่กลางหน 
ยักษ์กระโจมโถมจับแทบอับจน พอเห็นคนอยู่ที่หาดตวาดครืน 
เข้าถึงที่ผีเสื้อก็ถึงด้วย กระชั้นฉวยผิด**เกลือกเข้าตื้น 
พอโยคีมีคาถาลงมายืน ผีเสื้อตื่นตัวสั่นขยั้นยั้ง 
พระอภัยภูมินทร์กับสินสมุทร ช่วยกันฉุดนางเงือก**เข้าฝั่ง 
แล้วกราบกรานโยคีมีกำลัง แขกฝรั่งพรั่นพร้อมล้อมพูดจา ฯ 
    * พระโยคีมีจิตต์คิดสงสาร จึงว่าท่านหนีตายหมายมาหา 
เราลงมาคอยช่วยด้วยเมตตา แต่กิจจาไม่กระจ่างยังคลางแคลง ฯ 
    * พระอภัยได้สดับสุนทรถาม จึงยกความก่อนเก่าเล่าแถลง 
จะหนีนางกลางสมุทรก็สุดแรง รำพรรณแจ้งความจริงทุกสิ่งไป 
แล้ววอนว่าข้ากับโอรสราช จะรองบาทประดิพัทธ์จนตัดไษย 
ขอพระองค์ทรงธรรม์ช่วยกันไภย แต่พอได้หยุดหย่อนผ่อนสบาย ฯ 
    * พระโยคีมีญาณว่าหลานรัก จงสำนักอยู่ให้สมอารมณ์หมาย 
อันยักษีผีสางสมุทรพราย มาถูกทรายชายหาดก็ขาดใจ 
เราลงเลขเษกทำไว้สำเร็จ ดังเขื่อนเพ็ชรภูตปีศาจไม่อาจใกล้ 
มันอยู่แต่ห่างห่างช่างเป็นไร ทำไม่ได้นัดดาเจ้าอย่ากลัว ฯ 
    * ฝ่ายผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง เสียงโผงผึงเผ่นโผนตะโกน** 
เหตุไฉนไปนั่งกำบังตัว เชิญทูลหัวเยี่ยมหน้ามาหาน้อง 
นิจจาเอ๋ยเคยอยู่เป็นคู่ชื่น ทุกวันคืนค่ำเช้าไม่เศร้าหมอง 
จนมีลูกปลูกเลี้ยงเคียงประครอง มิให้ข้องเคืองขัดพระอัชฌา 
อยู่ดีดีหนีเมียมาเสียได้ เสียน้ำใจน้องรักเป็นนักหนา 
จึงอุส่าห์พยายามสู้ตามมา ขอเป็นข้าบาทบงสุ์ พระทรงธรรม์ 
พระเสด็จไปไหนจะไปด้วย เป็นเพื่อนม้วยภัศดาจนอาสัญ 
ประทานโทษโปรดเลี้ยงแต่เพียงนั้น อย่าบากบั่นความรักน้องนักเลย ฯ 
    * พระอภัยใจอ่อนถอนสอื้น อุส่าห์ฝืนพักตร์ว่านิจจาเอ๋ย 
แม่ผีเสื้อเมื่อไม่เห็นในใจเลย พี่ไม่เคยอยู่ในถ้ำให้รำคาญ 
คิดถึงน้องสองชนกที่ปกเกล้า จะสร้อยเศร้าโศกาน่าสงสาร 
ด้วยพลัดพรากจากมาเป็นช้านาน ไม่แจ้งการว่าข้างหลังเป็นอย่างไร 
จึงจำร้างห่างห้องให้น้องโกรธ จงงดโทษพี่ยาอัชฌไสย 
แม้นไปได้ก็จะพาแก้วตาไป นี่จนใจเสียด้วยนางต่างกระกูล 
พี่มนุษย์สุดสวาทเป็นชาติยักษ์ จงคิดหักความสวาทให้ขาดสูญ 
กลับไปอยู่คูหาอย่าอาดูร จงเพิ่มพูลภาวนารักษาธรรม์ 
อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตพิษฐาน หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์ 
จะเกิดไหนขอให้พบประสบกัน อย่าโศกศัลย์แคล้วคลาดเหมือนชาตินี้ 
พี่ขอบุตรสุดใจเอาไปด้วย เป็นเพื่อนม้วยเหมือนสุดมารศรี 
ขอลาแก้วแววตาไปธานี อย่าราคีขุ่นข้องให้หมองมัว ฯ

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Lee_HyukPair | 20 ก.ย. 52 13:42 น.

* ผีเสื้อน้ำซ้ำวอนด้วยอ่อนหวาน ไม่โปรดปรานอนุกูลเลยทูลหัว 
ถ้าทิ้งไว้ไหนน้องจะครองตัว ทั้งจาก**จากบุตรสุดอาไลย 
มิขออยู่สู้ตายวายชีวิต ไม่เห็นจิตต์น้องรักจะตักไษย 
เชิญพระองค์ลงมาชลาไลย เมียจะให้มนต์เวทวิเศษครัน 
แล้วร้องเรียกลูกยามาด้วยพ่อ แม่จะขออำลาเจ้าอาสัญ 
อย่าสงไสยใจจริงทุกสิ่งอัน ไม่รำพรรณพูดลวงเจ้าดวงใจ ฯ 
    * สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ ชำเลืองแลดูหน้าน้ำตาไหล 
จึงกราบกรานมารดาแล้วว่าไป จะเข้าใกล้ทูลหัวลูกกลัวนัก 
เมื่อวานนี้ตีข้าน้อยไปหรือ ระบมมือเหมือนกระดูกลูกจะหัก 
ซึ่งรักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก มิใช่จักลืมคุณกรุณา 
ถึงตัวไปใจลูกยังผูกคิด พอปลดปลิดเปลื้องธุระจะมาหา 
อย่ากริ้วโกรธโปรดปรานเถิดมารดา ไปไสยาอยู่ในถ้ำให้สำราญ ฯ 
    * ฝ่ายโยคีมียศพจนาถ ให้โอวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ 
จงตัดบ่วงห่วงใยอาไลยลาญ อย่าปองผลาญลูก**ของตัวเลย 
ทั้งนี้เพราะเคราะห์กรรมทำให้วุ่น จึงสิ้นบุญวาสนาสีกาเอ๋ย 
เห็นมิได้ไปอยู่เป็นคู่เชย ด้วยสองเคยปลูกเลี้ยงกันเพียงนั้น 
อย่าควรคิดติดตามด้วยความโกรธ จะเป็นโทษกับสีกาเมื่ออาสัญ 
จงยับยั้งฟังคำรูปรำพรรณ ไปสวรรค์นฤพานสำราญใจ ฯ 
    * นางผีเสื้อเหลือโกรธพิโรธร้อง มาตั่งซ่องศีลาจะมีอยู่ที่ไหน 
ช่างเฉโกโยคีหนีเขาใช้ ไม่อยู่ในศีลสัตย์มาตัดรอน 
เขาว่ากัน**เมียกับแม่ลูก ยื่นจมูกเข้ามาบ้างช่วยสั่งสอน 
แม้นคบคู่กูไว้มิให้นอน จะรานรอญรบเร้าเฝ้าตอแย 
แล้วชี้หน้าด่าอึงหึงนางเงือก ทำซบ**สอพลออี** 
เห็น**รักยักคอทำท้อแท้ พ่อกับแม่**เข้าไปอยู่ในท้อง 
ทำปั้นเจ๋อเย่อหยิ่งมาชิง** ระวังตัว**ให้ดีอีจองหอง 
พลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวกรามคำรามร้อง เสียงกึกก้องโกลาลูกตาโพลง ฯ 
    * พระโยคีชี้หน้าว่าอุเหม่ ยังโว้เว้วุ่นวายอีตายโหง 
เพราะหวง**มัวเมาเฝ้าตะโกรง ว่ากูโกง**ก็ตกนรกเอง 
อียักษาตาโตโมโหมาก รูปก็กากปากก็เปราะไม่เหมาะเหมง 
นมสองข้างอย่างกระโปรงดูโตงเตง ผังของเองเขาระอาไม่น่าชม 
จึงหนีมาอาไศรยกูให้อยู่ มิใช่กูรู้เห็นเท่าเส้นผม 
มาตรีชาว่ากูผิดในกิจกรม จะให้สมน้ำหน้าสาแก่ใจ 
แล้วเสกทรายปรายขว้างมากลางคลื่น ดังลูกปืนยิงยักษ์ให้ตักไษย 
ผีเสื้อกลัวตัวสั่นเพียงบรรไลย ก็หลบไปตามวลชลธาร

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | +::~MicKBerry~::+ (ไม่เป็นสมาชิก) | 21 ก.ย. 52 08:46 น.

ป้าดดดดๆ เข้ามาเห็นละก็ตะลึงเลย
ต้องแปลหมดนี่เลยหรอคะ เยอะไปรึป่าวเนี่ย
หาเว็บมาให้อ่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะเอารึปล่าวนะ แต่ก็ลองเข้าไปดูละกันนะคะ เผื่อว่าจะได้อะไรบ้าง

http://74.125.153.132/search?q=cach.........=clnk&gl=th

อนาจจริงฉาน

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | แอร์เย็นไปนะพี่ | 29 พ.ค. 55 18:35 น.

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | 08X47251SZ | 19 ม.ค. 58 21:28 น.

ช่วยแปลให้หน่อย  ขอบคุณค่ะ

��* พระหน่อน้อยถามองค์พระทรงเดช จะโปรดเกศลูกยาพาไปไหน
ข้าสงสารมารดาได้ว่าไว้ ถ้าแม้นไม่พบปะพระบิดา
ให้ลูกยาพาไปเมืองผลึก ด้วยรำลึกถึงพระแม่แลวงศา
แล้วจะมอบขอบขัณฑเสมา ให้ลูกยาอยู่สำราญผ่านบุรี
พระบิดาว่าจะไปกรุงไกรก่อน ลูกจงวอนพระมารดามารศรี
ไปพาราย่าปู่แม้นอยู่ดี แล้วลูกนี้จึงจะลามากับนาง ฯ
�����* ศรีสุวรรณกลั้นยิ้มพระหลานรัก ไม่รู้จักใจกษัตริย์ทูลขัดขวาง
กุมาราลาสองกษัตริย์พลาง มาหานางนอบนบอภิวันท์
แล้วเชยชมชนนีว่าดีแท้ เสียดายแต่ขาวขำไม่ล่ำสัน
แม่ผีเสื้อเนื้อตัวนั้นโตครัน ดูมั่นตั้นตึงตังกำลังแรง
แม่เดี๋ยวนี้มีแต่งามกับความคิด หรือมีฤทธิ์อยู่กระมังยังไม่แผลง
หรือพระแม่แก่หัดแต่จัดแจง แล้วเสแสร้งสรวลสันต์จำนรรจา ฯ

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | sz400066 | 25 มิ.ย. 60 15:12 น.

รบกวนช่วยแปลให้หน่อยจ้าา

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Android

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google