ใครอยู่ ม.4 ช่วยหน่อยสิ ข้อสอบภาษาไทย

ช่วยเฉลยหน่อยจ้า

๑.  พระอานนท์เถระได้กล่าวถึงที่มาของมงคลสูตรว่า  “เกิดขึ้นด้วยอำนาจคำถาม”  ใครเป็นผู้ตั้งคำถาม
ก.  เทวามนุษย์ทั่ว  พหุภพประเทศใน
ข.  องค์พระอานนท์ท่านเล่า  ว่าข้าพเจ้า  ได้ฟังมาแล้วดังนี้
ค.  เมื่อเทวดายืนดี  สมควร ณ ที่  ข้างหนึ่งดังกล่าวแล้วนั้น
ง.  เทพอีกมนุษย์หวัง  คติโสตถิจำนง  โปรดเทศนามง-  คละเอกอุดมดี
๒. “ได้เกิดซึ่งโกลา หละยิ่งมโหดม ก้องถึง ณ ชั้นพรหม ธ สถิตสะเทือนไป”  ธ มีความหมายตรงกับข้อใด
ก.  พระมหากษัตริย์ ข.  พระพุทธเจ้า
ค.  ท้าวสักกเทวราช ง.  พระพรหม
๓.  “เราควรจะกล่าวมง  คละอันประเสริฐที่  กอบด้วยคุณามี  วรอัตถะเฉิดเฉลา”  วรอัตถะ  มีความหมายตรงกับข้อใด
ก.  เนื้อความอันประเสริฐ ข.  คุณธรรมอันประเสริฐ
ค.  พระพุทธองค์ผู้ประเสริฐ ง.  พระคาถาอันประเสริฐ
๔. “ชนทั้งหลายบพึงนับ  ผิสดับสุมงคล ใดแล้วจะรอดพ้น พหุทุกขะยายี” ยายี มีความหมายตรงกับข้อใด
ก.  นางฟ้า ข.  นางอันเป็นที่รัก
ค.  ความทุกข์ ง.  ความเบียดเบียน
๕. ข้อใดไม่ได้มีความหมายเป็นพระพุทธเจ้า
ก.  องค์พระภัควันท์นั้นไซร้ ข.  องค์พระอานนท์ท่านเล่า
ค.  ถวายอภิวันท์  แด่องค์สมเด็จทศพล ง.  พระภาคชินสีห์  ผู้โลกนาถจอมธรรม์
๖.  กลวิธีในการถ่ายทอดสารเรื่องมงคลสูตรคำฉันท์คือข้อใด
ก.  เล่านิทานประกอบ ข.  เล่ามูลเหตุก่อนมีมงคลสูตร
ค.  แต่งด้วยคำประพันธ์ ๒ ประเภท ง.  ตั้งกระทู้ความเป็นภาษาบาลีแปลเป็นร้อยกรอง
๗. “ยังปาปะปวงให้  ทุษะเสื่อมวินาศมล” ปาปะ มีความหมายตรงกับข้อใด
ก.  บาป – บุญ ข.  คุณ – โทษ
ค.  นรก – สวรรค์ ง.  อกุศลบทกรรม
๘.  “เห็นเจ้า ณ สี่องค์  พระอรียสัจอัน”  สำนวนนี้มีความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุก
ก.  เข้าใจในอัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ข.  มีดวงตาเห็นธรรมคือพระอริยสัจสี่
ค.  เข้าใจในข้อปฏิบัติโมกขธรรม ง.  เข้าใจในองค์ ๔ คือ  จตุรพิธพร ๙.  ข้อใดจัดเป็นคุณธรรมด้านมโนธรรม
ก.  ความได้สดับมาก    และกำหนดสุวาที
ข.  อีกศิลปศาสตร์มี      จะประกอบมนุญการ
ค.  อีกหนึ่งวินัยอัน      นรเรียนและเชี่ยวชาญ
ง.  อีกคำเพราะบรรสาน  ฤดิแห่งประชาชน
๑๐.  ข้อใดจัดเป็นคุณธรรมด้านกายภาพ
ก.  เคารพ ณ ผู้ควร จะประณตและนบศีร์
ข.  อีกหนึ่งมิได้มี จะกระด้างและจองหอง
ค.  ยินดี ณ ของตน บ่มิโลภทะยานปอง
ง.  อีกรู้คุณาของ นรผู้ประคองตน
๑๑.  มงคลสูตรข้อใดที่เน้นเรื่อง “วจีกรรม”
ก.  หนึ่งคบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสบผล
ข.  ความได้สดับมาก และกำหนดสุวาที
ค.  อีกคำเพราะบรรสาน ฤดิแห่งประชาชน
ง.  ฟังธรรมะโดยกา-  ละเจริญคุณานันท์
๑๒.  “มาตาปิตุอุปฏฐนํ” แปลเป็นบทร้อยกรองได้ตรงกับข้อใด
ก.  บำรุงบิดามา- ตุระด้วยหทัยปรีย์
ข.  หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
ค.  การงานกระทำไป บ่มิยุ่งและสับสน
ง.  ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๑๓.  “อีกศิลปศาสตร์มี  จะประกอบมนุญการ”  เป็นลักษณะประพันธ์ประเภทใด
ก.  กาพย์ยานี ๑๑ ข.  กาพย์ฉบัง ๑๖
ค.  อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ง.  กลอนหก
๑๔.  “ครั้นเข้าใกล้แล้วจึงพลันถวายอภิวันท์แด่องค์สมเด็จทศพลแล้วยืนที่ในดำกลเสงี่ยมเจียมตนแสดงเคารพนบศีร์”  ข้อความนี้เป็นคำประพันธ์ที่มีชื่อเรียกว่าอะไร
ก.  กาพย์ยานี ๑๑ ข.  กาพย์ฉบัง ๑๖
ค.  อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ง.  กลอนหก
๑๕.  คำศัพท์ในคำตอบข้อใดเป็นคำสมาสทุกคำ
ก.  พหุภพ      อริยสัจ    นรชาติ    มโหดม   
ข.  พรหมพิสุทธิ์    สิริมงคล  สุวาที    อนุสาสน์     
ค.  มโหดม    ศาสดาจารย์    วรินทรีย์      มหานุภาพ   
ง.  มโนมาลย์  จตุรพิธพร      อัจฉริยภาพ    คุณานนท์   

๑๖.  คำศัพท์ในคำตอบข้อใดเป็นคำสนธิทุกคำ
ก.  พหุภพ      อริยสัจ    นรชาติ    มโหดม   
ข.  พรหมพิสุทธิ์    สิริมงคล  สุวาที    อนุสาสน์     
ค.  มโหดม    ศาสดาจารย์    วรินทรีย์      มหานุภาพ   
ง.  มโนมาลย์  จตุรพิธพร      อัจฉริยภาพ    คุณานนท์   
๑๗.  “ยินดี ณ ของตน  บ่มิโลภทะยานปอง”  ข้อความดังกล่าวตรงกับมงคลสูตรข้อใด
ก.  มีความสันโดษ ข.  มีความอดทน
ค.  มีความกตัญญู ง.  มีจิตไม่หวั่นไหวไม่โลภ
๑๘.  “โลกธรรมทั้ง ๘” มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. ความมีลาภ ไม่มีลาภ  มียศ ไม่มียศ  มีนินทา มีสรรเสริญ  มีสุข มีทุกข์
ข. องค์ประกอบของครอบครัว ๘ ประการ คือ มีปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว
ค. หมายถึงกิเลส ๘ ประการ  รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส โทษะ โมหะ ราคะ
ง. จิตที่ปราศจาก  ราคะ  โลภะ  โมหะ  โทษะ  ทิฐิ  ไม่ลุ่มหลง  จิตปลอดโปร่ง  มีจิตเกษม
๑๙.  ข้อใดจัดเป็นมงคลสูตรข้อสูงสุด
ก.  จิตใครผิได้ต้อง    วรโลกะธรรมศรี
ข.  แล้วย่อมบ่พึงมี        จะประหวั่นฤกังวล
ค.  ไร้โศกธุลีสูญ        และสบายบมัวมล
ง.  ข้อนี้แหละมงคล        อดิเรกอุดมดี
๒๐.  คุณค่าของมงคลสูตรคำฉันท์  ในข้อใดที่นำมาปรับใช้ในชีวิตได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ก. วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ข. การเลือกสรรคำที่มีความหมายงดงาม มาร้อยเรียงได้อย่างไพเราะ
ค. แนวปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลตั้งแต่มงคลที่ ๑ ถึงมงคลที่ ๓๘
ง. พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่เตือนสติพระภิกษุและพุทธศาสนิกชน